Friday, 26 April 2024
THE STUDY TIMES

'รัฐบาลญี่ปุ่น' ดีเดย์!! เพิ่มทุนการศึกษาให้นักเรียนต่างชาติ ดึงดูดบุตรธิดาแรงงานที่ตั้งใจจะอยู่ในญี่ปุ่นอย่างถาวร

เมื่อวันที่ (18​ มี.ค.67)​ รัฐบาลญี่ปุ่นวางแผนที่จะขยายทุน​การศึกษา​ของนักศึกษามหาวิทยาลัยต่างชาติตั้งแต่เดือนเมษายน เพื่อให้โอกาสทางการศึกษาแก่บุตรธิดาของแรงงานต่างชาติในประเทศ​ ที่ตั้งใจจะอยู่ในญี่ปุ่นอย่างถาวร​

กระทรวงศึกษาธิการกำหนดให้ร่วมผู้รับทุนเป้าหมายที่พำนักอยู่ในประเทศกับผู้ปกครอง โดยมีเงื่อนไขว่าต้องสำเร็จการศึกษาระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้น และมัธยมปลายในญี่ปุ่น และตั้งใจที่จะทำงานและพักอาศัยในญี่ปุ่น หลังจากสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยแล้ว

ทุนการศึกษาที่จัดสรรโดย Japan Student Services Organization ปัจจุบันมีให้เฉพาะพลเมืองญี่ปุ่นและชาวต่างชาติที่มีวีซ่าในฐานะผู้อยู่อาศัยถาวรพิเศษ ผู้อยู่อาศัยถาวร หรือผู้อยู่อาศัยระยะยาวที่ตั้งใจจะอยู่ในญี่ปุ่นอย่างถาวร

กระทรวงศึกษาธิการ วัฒนธรรม กีฬา วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีคาดว่านักเรียนประมาณ 500 ถึง 1,000 คนจะมีสิทธิได้รับทุนการศึกษาใหม่ ซึ่งมาในรูปแบบของเงินช่วยเหลือหรือเงินกู้

สมาชิกสภานิติบัญญัติจากพรรคเสรีประชาธิปไตย ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล เรียกร้องให้รัฐบาลขยายการสนับสนุนด้านวิชาการสำหรับเด็กต่างชาติ ในขณะที่ประเทศมองหาแรงงานต่างชาติท่ามกลางจำนวนประชากรที่ลดลง

กลุ่มภาคประชาสังคม รวมถึงเครือข่าย Solidarity Network with Migrants Japan ขององค์กรพัฒนาเอกชน ยังได้เรียกร้องให้มีการขยายทุน​ โดยเห็นว่าลูกๆ ของแรงงานต่างชาติมักจะประสบปัญหาทางการเงิน

โทรุ ทาคาฮาชิ สมาชิกแกนนำของกลุ่มกล่าวว่า เขายินดีกับแผนการของรัฐบาลที่จะขยายทุนการศึกษา แต่การกำหนดให้นักเรียนต้องสำเร็จการศึกษา 12 ปีในญี่ปุ่น มีแนวโน้มว่าจะเป็นเงื่อนไขที่เข้มงวดเกินไป เนื่องจากหมายความว่าเด็กๆ จะต้องอาศัยอยู่ในญี่ปุ่นก่อนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 จึงจะมีสิทธิ

“เราจะให้ความสนใจอย่างใกล้ชิดว่ารัฐบาลจะเคลื่อนไหวเพื่อผ่อนคลายกฎเกณฑ์ดังกล่าวหรือไม่” ทาคาฮาชิ กล่าว

ตามข้อมูลของกระทรวงแรงงาน​ จำนวนแรงงานต่างชาติในญี่ปุ่น ณ สิ้นเดือนตุลาคมปีที่แล้วพุ่งสูงถึง 2 ล้านคนเป็นครั้งแรก ทำลายสถิติแรงงานต่างชาติ 2,048,675 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.4 จากปีก่อนหน้า

สอดคล้องกับข้อมูลของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของญี่ปุ่นที่เปิดเผยการเพิ่มขึ้นของแรงงานต่างชาติ ผู้ที่เข้าประเทศญี่ปุ่นด้วย ‘วีซ่าติดตามครอบครัว’ มีจำนวน 244,890 คน ณ สิ้นเดือนมิถุนายน พ.ศ.2566 เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.5 จากปีก่อนหน้า 

‘น้องกัปตัน’ เด็กโคราชสุดเจ๋ง!! สอบเข้าเตรียมอุดมฯ อันดับ 1 ของประเทศ

(19 มี.ค.67) ที่ห้องราชสีห์ โรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย อ.เมือง จ.นครราชสีมา คณะผู้บริหารโรงเรียน และครู ได้ร่วมแสดงความยินดีกับ เด็กชายธนภัทร วุฒิวรจินดา หรือ น้องกัปตัน อายุ 15 ปี นักเรียนชั้น ม.3/2 โรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย ที่สามารถสอบเข้าเรียนโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษารุ่นที่ 87 โดยทำคะแนนได้สูงสุดเป็นอันดับที่ 1 ของประเทศ ในสายวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์ ซึ่งสร้างความภาคภูมิใจให้กับครู ผู้ปกครอง และชาวโคราชเป็นอย่างมาก

โดยมีนายสุพล เชื่อมพงษ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย พร้อมคณะผู้บริหารโรงเรียน และครูประจำชั้น ร่วมแสดงความยินดีกับน้องกัปตัน และแม่ของน้องกัปตัน คือนางจุฬาภรณ์ ภัคสิริธนศักดิ์ ซึ่งมาร่วมแสดงความยินดีกับลูกชายด้วย

สำหรับ เด็กชายธนภัทร วุฒิวรจินดา หรือ น้องกัปตัน เป็นเด็กนักเรียนห้องเรียนพิเศษทางวิทยาศาสตร์ รุ่นที่ 16 โรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย โดยมีคุณครูกิติมา เจียรสุมัย เป็นหัวหน้าโครงการ ซึ่งน้องกัปตัน เป็นลูกชายคนที่ 2 ของครอบครัว มีไอคิว และอีคิวสูงตั้งแต่เรียนอยู่ระดับชั้นประถมศึกษา ที่โรงเรียนอนุบาลนครราชสีมา ก่อนที่จะสอบเข้าระดับชั้นมัธยมศึกษา ที่โรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย และสามารถทำผลการเรียนได้เกรด 4 ทุกรายวิชา ตั้งแต่ระดับชั้น ม.1-ม.3 โดยมีครูที่ปรึกษา ม.1 คือครูทิพย์วรรณ จิรกรวทธิ์, ม.2 ครูอัจรา โทแหล่ง และ ม.3 ครูบุณฑริกา ภัทรจารุ

ซึ่งความเก่งของน้องกัปตัน สร้างผลงานกวาดรางวัลระดับประเทศมาแล้วมากมาย อาทิ ผ่านการคัดเลือกเป็นผู้แทนระดับประเทศ เข้าร่วมแข่งขันวิทยาศาสตร์ ที่ประเทศอินโดนีเซีย ประจำปี 2566, ได้รับรางวัลเหรียญทอง วิชาคณิตศาสตร์ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น โครงการประเมินและพัฒนาสู่ความเป็นเลิศทางคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ (TEDET) ประจำปี 2566, ได้รับรางวัลชนะเลิศ การทดสอบความรู้และกระบวนการแก้ปัญหาทางเคมี CHEMISTRY ANF EVAUATION TEST ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น และได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 การแข่งขันแก้ปัญหาคณิตศาสตร์ TRI-MATHETICS COMPETITION ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น เป็นต้น ที่ล่าสุด น้องกัปตัน จะสอบเรียนต่อได้ที่โรงเรียนกำเนิดวิทย์ โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ และโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา สอบผ่านรอบแรกของโครงการ IJSO และสอบเข้าค่ายคณิตศาสตร์โอลิมปิกค่าย 2 ได้สำเร็จ

ทั้งนี้ เด็กชายธนภัทร วุฒิวรจินดา หรือ น้องกัปตัน เปิดเผยว่า ก่อนสอบได้มีการเตรียมอ่านหนังสือมาอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่ได้เข้มงวดนัก เป็นการจัดสรรเวลาในการอ่านหนังสืออย่างเหมาะสม และมีระเบียบวินัยสม่ำเสมอ เมื่อเครียดก็ออกไปเล่นฟุตบอลกับเพื่อนๆ เพื่อผ่อนคลายตามปกติ โดยมีแม่เป็นคนคอยให้กำลังใจอย่างใกล้ชิด เมื่อผลสอบออกมาได้อันดับที่ 1 ก็รู้สึกดีใจมาก เพราะไม่คาดคิดว่าจะได้อันดับที่ 1 เลย หลังจากนี้ไปก็จะเลือกโรงเรียนเพื่อเรียนต่อในระดับชั้น ม.4 ซึ่งตนเองก็มีโรงเรียนที่เลือกไว้ในใจแล้ว แต่ยังไม่ขอเปิดเผย ส่วนอาชีพในฝันนั้น ตอนนี้ยังมีอยู่หลายอาชีพ ซึ่งตนเองก็ขอค้นหาตัวเองในช่วงมัธยมปลายอีกที

ส่วนเคล็ดลับในการเรียนหนังสือให้เก่งๆ ตนเองเชื่อว่าไม่จำเป็นต้องเรียนให้หนักเกินไป พยายามจัดสรรเวลาเรียนกับเวลาพักผ่อนให้เหมาะสม แล้วขอให้มีระเบียบวินัยอย่างสม่ำเสมอ ก็เพียงพอที่จะทำให้เป็นคนเก่งได้แน่นอน

ด้านนางจุฬาภรณ์ ภัคสิริธนศักดิ์ แม่ของน้องกัปตัน กล่าวว่า น้องกัปตันเป็นคนที่มีนิสัยร่าเริง อยู่บ้านก็ไม่ได้กดดันอะไรเขา ตั้งแต่เรียนอยู่ชั้นประถมศึกษา ทางครอบครัวก็สนับสนุนให้เขาเลือกเรียนได้ตามอิสระ ชื่นชอบอะไรก็สนับสนุนเต็มที่ ตอนสอบเข้าระดับมัธยมศึกษา น้องก็เลือกเองที่จะมาเรียนในโรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย จนกระทั่งเลือกเรียนชั้น ม.4 ก็เลือกเองตลอด ซึ่งน้องเป็นคนขยันอ่านหนังสือ ถ้าใกล้จะสอบอะไรแล้ว จะมีความมุ่งมั่นอ่านหนังสืออย่างเต็มที่ ก่อนที่จะสอบเข้าเตรียมอุดมศึกษา ตนเองก็ไม่คาดคิดว่าจะได้อันดับที่ 1 ของประเทศ ตอนแรกคาดว่าติดหนึ่งในร้อยก็ดีใจแล้ว ส่วนพ่อของน้องยังมั่นใจว่าจะต้องติดอันดับต้นๆ แต่ไม่เคยคิดว่าจะได้อันดับในเลขตัวเดียว เมื่อทราบผลออกมาว่าได้อันดับ 1 ของประเทศ ก็ทำให้รู้สึกดีใจมาก และรีบเข้าไปสวมกอด เพื่อให้กำลังใจทันที ส่วนอนาคตของน้องกัปตัน ทางครอบครัวไม่เคยกำหนด แล้วแต่น้องจะเลือกเองเลย ครอบครัวพร้อมสนับสนุนทุกอาชีพที่ลูกอยากจะเป็น

ด้านนายสุพล เชื่อมพงษ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย กล่าวว่า สำหรับโรงเรียนราชสีมาวิทยาลัยนั้น ถือว่าเป็นโรงเรียนมัธยมชายล้วนขนาดใหญ่พิเศษ ประจำจังหวัดนครราชสีมา โดยปีการศึกษา 2567 นี้ มีนักเรียนอยู่ทั้งหมดกว่า 4,100 คน ซึ่งทุกปีจะมีนักเรียนที่ทำผลงานสอบเข้าศึกษาต่อมหาวิทยาลัยชื่อดังทั่วประเทศเป็นจำนวนมาก เช่นเดียวกับการสอบเข้าเรียนต่อในระดับ ม.4 ก็มีผลคะแนนสอบเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ โดยเฉพาะปีนี้ เด็กชายธนภัทร วุฒิวรจินดา หรือน้องกัปตัน นักเรียนชั้น ม.3/2 โรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย ที่สามารถสอบเข้าเรียนโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษารุ่นที่ 87 โดยทำคะแนนได้สูงสุดเป็นอันดับที่ 1 ของประเทศ ในสายวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์ เป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับโรงเรียน ซึ่งสร้างความภาคภูมิใจให้กับครู ผู้ปกครอง และชาวโคราชเป็นอย่างมาก ตนเองในฐานะเป็นผู้บริหารโรงเรียน ก็พร้อมที่จะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่

‘รร.วังจันทร์วิทยา’ ชูหลักสูตร ‘เกษตรนวัต’ ส่งเสริมการเรียนรู้-ทักษะในศตวรรษที่ 21

ในปัจจุบันโลกกำลังเข้าสู่ในศตวรรษที่ 21 ระบบการศึกษาไทยต้องมีการปรับตัว ห้องเรียนที่ดีต้องไม่มุ่งเน้นแต่ในเรื่องความเก่ง เกรดเฉลี่ย หรือคะแนนรายวิชาเท่านั้น แต่ตัวผู้เรียนต้องมีความสุขพร้อมที่จะเรียนรู้ โดยต้องได้รับทักษะการทำงานในโลกยุคใหม่ ที่สามารถนำไปพัฒนาตัวเองให้ก้าวทันเทคโนโลยีซึ่งเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เหมือนกับที่ รร.วังจันทร์วิทยา อ.แกลง จ.ระยอง ซึ่งตั้งอยู่ในเขตอุตสาหกรรม EEC ได้สอนให้นักเรียนมีความรู้เกี่ยวกับอาชีพ ที่จะเป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจในอนาคต และได้จัดทำหลักสูตรเกษตรนวัต ซึ่งทางรายการ 1 ในพระราชดำริ สถานีโทรทัศน์ช่อง 9 Mcot HD และมูลนิธิอานันทมหิดล ได้เดินทางมาเยี่ยมชม และเห็นว่ามีความน่าสนใจอย่างมาก

นายศักดา สรรเสริญ ผู้อำนวยการโรงเรียนวังจันทร์วิทยา จ.ระยอง ได้กล่าวว่า “วิสัยทัศน์การเรียนการสอนของทางโรงเรียนคือ เป็นเลิศทางวิชาการ สืบสานความเป็นไทย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม น้อมนำเศรษฐกิจพอเพียง โดยในด้านวิชาการนั้น ทางโรงเรียนไม่ได้เน้นเพียงความเป็นเลิศทางวิชาการ ที่ถือเป็นภาระและหน้าที่หลัก ซึ่งได้สนับสนุนอย่างเต็มความสามารถอยู่แล้ว แต่ยังส่งเสริมให้นักเรียนได้เรียนรู้ตามความถนัดและสนใจ มีการเรียนการสอนที่หลากหลาย รวมถึงจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อส่งเสริมศักยภาพของผู้เรียน ด้านสืบสานความเป็นไทย ได้มีกิจกรรมผ่านการเข้าแถวเคารพธงชาติ เพื่อสร้างความรักในชาติศาสนาพระมหากษัตริย์ รวมถึงให้ความร่วมมือกับชุมชน อาทิ ประเพณีวิ่งควาย ลอยกระทง สงกรานต์ ฯลฯ ด้านใส่ใจสิ่งแวดล้อม ได้แบ่งหน้าที่ให้นักเรียนทำความสะอาด เก็บขยะและใบไม้ต่าง ๆ มีโครงการ Zero West เพื่อจัดการขยะภายในโรงเรียน และส่งเสริมการเรียนรู้ในเรื่องทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สุดท้ายคือน้อมนำเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งได้บูรณาการกับทุกกลุ่มสาระวิชาในทุกระดับชั้น ผ่านศูนย์การเรียนรู้ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 25 ฐาน เพื่อส่งเสริมในการดำรงชีวิตและใช้เป็นวิชาชีวิตที่บ้าน

และเนื่องจากโรงเรียนได้ตั้งอยู่ใน จ.ระยอง ซึ่งเป็นพื้นที่ EEC จึงได้สอนให้นักเรียนมีความรู้เกี่ยวกับอาชีพอุตสาหกรรมเป้าหมาย ที่จะเป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจในอนาคต อาทิ เรื่องพื้นฐานการผลิตหุ่นยนต์, Coding อย่างง่าย, อุตสาหกรรมเกี่ยวกับอาหาร เช่น การแปรรูป ผลิตมะม่วงเพียวเร่, ส่งเสริมอาชีพโดยใช้วิชาชีพทางศิลปะ อาทิ การเพ้นท์กระจก เพื่อนำไปวางขายให้นักท่องเที่ยว เป็นการสร้างรายได้ เป็นต้น นอกจากนี้ยังจัดให้มีการเรียนทวิศึกษาในหลักสูตร ‘เกษตรนวัต’ ในระดับมัธยมปลาย ภายใต้ความร่วมมือกับสถาบันเทคโนโลยีจิตรลดา สอนเรื่องการเกษตรผสมผสานแบบใหม่ โดยจะเรียนวิชาสามัญที่ รร.วังจันทร์วิทยา 2 วัน และที่ศูนย์เรียนรู้เกษตรนวัต สถาบันเทคโนโลยีจิตรลดา อีก 3 วัน เมื่อจบแล้วจะได้วุฒิการศึกษา 2 ใบคือ ม.6 กับ ปวช. สามารถนำไปศึกษาต่อในสถาบันฯ อื่น ๆ ได้”

ด้าน ดร.รัตนา แซ่เล้า ผู้รับพระราชทานทุนอานันทมหิดล แผนกธรรมศาสตร์ ประจำปี 2549 ได้กล่าวว่า “การเดินทางมาเยี่ยมชมครั้งนี้ เกิดขึ้นจากการแนะนำของนายธงชัย มั่นคง ผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม อบจ.ระยอง ที่น่าสนใจคือโรงเรียนนี้มีการรักษาสมดุลระหว่างการเรียนรู้ภาคปกติ กับอาชีพในอนาคตของนักเรียน โดยมีตัวขับเคลื่อนที่สำคัญคือการตั้งอยู่ในเขตอุตสาหกรรม EEC, หลักสูตรเกษตรนวัต และวิสัยทัศน์ของทางโรงเรียน สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ได้แทรกอยู่ในกิจกรรมที่ทำให้นักเรียนมีความคิดสร้างสรรค์ กล้าคิดกล้าทำ ทดลองสิ่งใหม่ ๆ และอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข โดยในวันนั้นทาง รร.ยังได้จัดงาน Open House เปิดโอกาสให้นักเรียนโดยรอบได้เข้ามาเรียนรู้ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ ทำให้เห็นสิ่งต่าง ๆ อาทิ การพัฒนาด้านเทคโนโลยี การใช้ภาษา ฯลฯ ซึ่งมีความน่าสนใจมาก สุดท้ายจะขอฝากสิ่งสำคัญของการเรียนรู้ในปัจจุบัน คือการตั้งโจทย์ที่ถูกต้อง และการให้แรงบันดาลใจในการตั้งคำถามจากสิ่งที่นักเรียนได้ทำหรือเรียนรู้ เพราะสิ่งนี้จะทำให้เด็กมีแรงกระตุ้นและกระตือรือร้น ที่จะผลักดันให้ตัวเองได้เรียนรู้อย่างรอบด้าน ซึ่งเป็นหน้าที่ของคุณครูและบุคลากรทางการศึกษา ที่จะต้องผลักดันให้นักเรียนตั้งคำถามกับสิ่งที่เขาเรียนรู้ ว่าได้รู้จริง ตั้งคำถามจริง และทำจริง เป็นอย่างไร รวมถึงสามารถทำกิจกรรมต่อยอด เพื่อสร้างการเรียนรู้อย่างถ่องแท้ต่อไปในอนาคต”

โดยผู้สนใจสามารถชมคลิปการสัมภาษณ์เพิ่มเติม ได้ในรายการ 1 ในพระราชดำริ ตอนความฝันอันสูงสุด ซึ่งทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 Mcot HD ได้ร่วมกับมูลนิธิอานันทมหิดล ได้จัดทำขึ้น โดยคลิกไปที่ https://www.youtube.com/watch?v=ukGZlR_rGf8 ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป 

‘Pre-degree’ ม.รามคำแหง โอกาสเด็กม.ปลาย เลือกเรียนคณะตรงใจ-สะสมหน่วยกิต ‘ปริญญาตรี’ ล่วงหน้า

ในทุก ๆ ปี น้องๆ นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จะต้องเข้าขั้นตอนสอบเข้ามหาวิทยาลัยในฝัน ซึ่งมีทั้งรอบสอบตรง โควตา และระบบ TCAS แน่นอนว่าน้อง ๆ จะต้องใช้ความพยายาม ทุ่มเทเวลา และความมุมานะ ในการอ่านหนังสือเพื่อไปสอบแข่งขัน

แต่อีกทางเลือกหนึ่งสำหรับน้อง ๆ ที่ศึกษาอยู่ในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ที่มุ่งหวังอยากจบ ปริญญาตรี หรือเรียนปริญญาตรีควบคุมกันไป ก็คือ การเรียนระบบ Pre-degree ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง

ซึ่งระบบ Pre-degree เป็นการเรียนเพื่อสะสมหน่วยกิตในระดับปริญญาตรีของมหาวิทยาลัยรามคำแหงล่วงหน้า สำหรับผู้ที่เรียนจบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (ม.3) หรือเทียบเท่าขึ้นไป สมัครเข้าเป็นนักศึกษาระบบ ระบบ Pre-degree ได้ โดยเลือกลงทะเบียนเรียนสะสมหน่วยกิตของคณะที่สนใจ และเมื่อได้รับวุฒิสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย หรือเทียบเท่า จึงทำการสมัครเป็นนักศึกษาใหม่ระดับชั้นปริญญาตรี โดยใช้สิทธิเทียบโอนหน่วยกิตจากรหัส Pre-degree และเรียนต่อวิชาที่เหลือจนจบหลักสูตรปริญญาตรี

สำหรับเอกสารในการสมัครเรียนระบบ Pre-degree มีดังนี้
-สำเนาวุฒิ ม.3 หรือเทียบเท่าขึ้นไป
-สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
-รูปถ่ายสี ขนาด 1.5 หรือ 2 นิ้ว จำนวน 1 รูป

โดยการสมัครเรียนในระบบ Pre-degree จะมีค่าใช้จ่ายเป็นค่าสมัครแรกเข้า+ค่าลงเทียนเรียนเทอมแรกประมาณ 2,700 - 3,100 บาท และค่าลงทะเบียนเรียนเทอมต่อไปไม่เกิด 1,500 บาท

การเรียนในระบบ Pre-degree ของมหาวิทยาลัยรามคำแหง มีสื่อการเรียนการสอนหลากหลายรูปแบบ เช่น การเรียนการสอนในชั้นเรียน สำหรับบุคคลที่สะดวกเข้าห้องเรียน, ถ่ายทอดสดการเรียนการสอนจากห้องเรียน หรือที่เรียกว่า Cyber Classroom ที่เว็บไซต์ cyberclassroom.ru.ac.th, วิดีโอคำบรรยายย้อนหลัง หรือ Course On Demand ที่เว็บไซต์ https://m-leaning.ru.ac.th/ และแอปพลิเคชัน RU Course On Demand วิดีโอคำบรรยายย้อนหลัง

การเรียนในระบบ Pre-degree มีให้เลือกทั้งแบบส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ซึ่งหากน้อง ๆ สนใจเรียนในส่วนกลาง ทางมหาวิทยาลัยรามคำแหงจะเปิดรับสมัครนักศึกษาใหม่ ปีละ 2 ครั้ง คือภาค 1 และภาค 2 ของแต่ละปีการศึกษา ส่วนเรียนในส่วนภูมิภาค จะเปิดรับสมัครนักศึกษาใหม่ปีละ 1 ครั้ง คือภาค 1 ของแต่ละปีการศึกษา

สำหรับระบบ Pre-degree ส่วนกลาง เปิดสอนมากถึง 9 คณะ ได้แก่ คณะนิติศาสตร์, คณะบริหารธุรกิจ, คณะศึกษาศาสตร์, คณะสื่อสารมวลชน, คณะเศรษฐศาสตร์, คณะมนุษยศาสตร์, คณะพัฒนาทรัพยากรมนุษย์, คณะวิทยาศาสตร์ และคณะบริหารธุรกิจ

ส่วน ระบบ Pre-degree ส่วนกลาง เปิดสอน 4 คณะ 4 สาขา ได้แก่ คณะนิติศาสตร์ สาขานิติศาสตร์, คณะบริหารธุรกิจ สาขาการจัดการทั่วไป, คณะรัฐศาสตร์ กลุ่มวิชาเอกบริหารรัฐกิจ และคณะสื่อสารมวลชน สาขานิเทศศาสตร์และสื่อดิจิทัล

หากน้อง ๆ สนใจสามารถดูรายละเอียดได้ที่ https://www.facebook.com/ramkhamhaeng.ru หรือเว็บไซต์ https://www.ru.ac.th/th/

เรียนก่อน จบก่อน ด้วยระบบ Pre-degree  ให้โอกาสทางการศึกษา เลือกเรียนได้ในสาขาที่ตรงใจ

‘จีน’ เผชิญวิกฤติ มหาวิทยาลัยหลายแห่ง ‘หอพักไม่เพียงพอ’ หลังเด็กแห่เรียน ป.โท จนต้องไปเช่าอพาร์ตเมนต์ข้างนอกให้อยู่

เมื่อวานนี้ (14 มี.ค.67) ​อัตราการจ้างงานที่น้อยลงในจีนทำให้นักศึกษา​จบใหม่หลายคนเลือกที่จะศึกษา​ต่อปริญญา​โทมากกว่าออกมาหางานหลังจบจากรั้วมหาวิทยาลัย โดยผลการสำรวจของเว็บไซต์การศึกษาจีนออนไลน์ในปี 2024 เผยว่าเมื่อปี 2021 มีจำนวนนักศึกษาที่สมัครเรียนต่อ​ปริญญาโทราว 649,000 คน เพิ่มขึ้นจากจำนวน 197,000 คนในปี​ 2012 และในปี 2022 กระทรวง​การศึกษา​จีนเผยว่ามีนักศึกษาที่สมัครเรียนต่อ​ปริญญาโท​เกือบ 700,000 คน

เมื่อมีนักศึกษา​ที่ต้องการเรียนต่อปริญญาโท​มากเกินไป ก็ส่งผลให้หอพักในมหาวิทยาลัย​หลายแห่งมีจำนวนห้องพักไม่เพียงพอ อีกทั้งมหาวิทยาลัยยังต้องแบ่งห้องพักส่วนหนึ่งไว้ให้นักศึกษาปริญญาตรีตามกฎระเบียบ​ของมหาวิทยาลัยจีนที่ส่วนมากบังคับให้นักศึกษาปริญญาตรีต้องพักในหอใน

อย่างไรก็ตาม มหาวิทยาลัยจีนก็ไม่ได้นิ่งนอนใจและพยายามหาทางแก้ไขปัญหาหอพักขาดแคลน เช่น มหาวิทยาลัย​ครุศาสตร์​เซี่ยงไฮ้​ (Shanghai Normal University)​ กำหนดให้นักศึกษา​ที่ไม่ได้อาศัยอยู่ในเมืองเซี่ยงไฮ้​สามารถเข้าพักในหอพักของมหาวิทยาลั​ย หากมีเตียงว่างถึงจะให้นักศึกษาที่เป็นคนท้องถิ่น โดยใช้ระยะทางการเดินทางจากบ้านมาเรียนเป็นเกณฑ์​ในการคัดเลือก

ด้านมหาวิทยาลัยฟู่ตั้น (Fudan University) ในเซี่ยงไฮ้เช่าอพาร์ตเมนต์นอกมหาวิทยาลัย​ในระยะยาว​ เพื่อทำเป็นหอพักให้นักศึกษาปริญญาโท​ชาวจีนและนักศึกษา​ชาวต่างชาติ​ บางแห่งที่เจอสถานการณ์​เร่งด่วน​ก็แก้ไขปัญหา​ด้วยการเช่าหอพักที่ยังว่างของวิทยาลัยอาชีวศึกษาที่อยู่​ใกล้เคียง หรือให้นักศึกษา​ปริญญาตรีไปหาหอพักเองโดยมีเงินช่วย​เหลือจากมหาวิทยาลัย​ หรือนำพื้นที่บางส่วนของห้องน้ำในแต่ละชั้นมาปรับปรุง​เป็นห้องพักให้นักศึกษา​

แม้มหาวิทยาลัยหลายแห่ง​จะพยายามช่วยเหลือ แต่นักศึกษา​ที่ต้องอาศัยอยู่นอกมหาวิทยาลัยก็ยังประสบปัญหาหลายอย่าง โดยเฉพาะ​เรื่องการเดินทางและค่าใช้จ่าย นักศึกษา​คนหนึ่งของมหาวิทยาลั​ยฟู่ตั้น กล่าวว่า ถึงแม้มหาวิทยาลัย​จะมีบริการรถโดยสาร​รับ-ส่งนักศึกษา​ แต่ตารางเดินรถกับตารางเข้าเรียนของตนไม่สอดคล้อง​กัน นักศึกษา​หลายคนที่เลือกเดินทางไปเรียนเองต้องใช้เวลาเกือบ 1 ชั่วโมง ​กว่าจะถึงมหาวิทยาลัย​ 

ส่วนเรื่องค่าใช้จ่าย หากนักศึกษาคนไหนจับฉลากห้องพักไม่ได้ ก็จะต้องไปอยู่หอพักนอกมหาวิทยาลัย​ โดยทางมหาวิทยาลัย​เสนอเงินช่วยเหลือให้นักศึกษา​เดือนละ 800 หยวน (ราว 4,000 บาท)​ เป็นระยะเวลา 10 เดือน ซึ่งเงินจำนวนนี้ก็ยังไม่พอกับค่าเช่าหอพักที่อยู่​รอบมหาวิทยาลัย​ ซึ่งส่วนใหญ่​อยู่ที่ประมาณ​ 3,000 หยวน (ราว 14,900 บาท)

หน่วยงานภาครัฐของจีนเองก็พยายามช่วยแก้ปัญหา​นี้เช่นกัน เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาหน่วยงานรัฐบาลออกนโยบาย​ให้มหาวิทยาลัยสร้างหอพักใหม่หรือปรับปรุง​หอพักเดิม โดยมีตอนหนึ่ง​ระบุว่าให้มหาวิทยาลัย​ซื้อหรือ​เช่าอาคารของภาคเอกชน เช่น อพาร์ตเมนต์​หรือ​อาคาร​ที่มีทั้งห้องพักและศูนย์​การค้าที่อยู่​รอบมหาวิทยาลัย​ 

หลินฝาน เจ้าของธุรกิจ​ให้เช่าอพาร์ตเมนต์​รู้สึกพึงพอใจ​กับนโยบายนี้มาก เพราะมหาวิทยาลัยเสนอราคาเช่าที่ค่อนข้างดีราว 700-1000 หยวนต่อห้อง (ราว 3,500-5,000 บาท)​ ขึ้นอยู่​กับทำเลที่ตั้งของที่พัก

ส่องความนิยม 'สอบเตรียมทหาร' ยังร้อนแรง หลายหมื่นเด็กไทยแห่สอบไม่แพ้ 'เตรียมอุดม'

เมื่อ 9 มี.ค. 67 ที่ผ่านมา คงได้เห็นข่าวนักเรียนแห่สอบเข้า ‘เตรียมอุดมศึกษา’ ซึ่งในปี 67 นี้มีผู้เข้าสอบ 11,607 คน บางคนเดินทางมาจากต่างจังหวัด บางคนต้องออกเดินทางตั้งแต่เช้ามืดเพื่อเข้าร่วมสอบ ทำให้สนามสอบ อิมแพ็ค เมืองทองธานี เต็มไปด้วยนักเรียน และผู้ปกครองที่มาให้กำลังใจบุตรหลาน

แต่นอกจากการสอบเข้าเตรียมอุดมที่แข่งขันกันอย่างดุเดือด รู้หรือไม่ว่ายังมีอีกการสอบสำคัญ อย่างการสอบเข้า ‘เตรียมทหาร’ ที่ดุเดือดไม่แพ้กัน โดยมีจำนวนผู้เข้าสมัครสอบในแต่ละหลักสูตรมากมาย ดังนี้...

- หลักสูตร 'นายเรือ' มีผู้สมัคร 5,736 รับจริง 100 คน สอบวันที่ 23 มี.ค.67 เวลา 09.00-12.00 น.
- หลักสูตร 'นายเรืออากาศ' มีผู้สมัคร 7,917 รับจริง 137 คน สอบวันที่ 24 มี.ค.67 เวลา 09.00-12.00 น
- หลักสูตร 'จปร.' มีผู้สมัคร 14,603 คน รับจริง 239 คน สอบวันที่ 30 มี.ค.67 เวลา 13.00-17.00 น.
- หลักสูตร 'นายร้อยตำรวจ' มีผู้สมัคร 10,266 คน รับจริง 315 คน สอบวันที่ 31 มี.ค.67 เวลา 13.00-17.00 น.

สำหรับสถานที่สอบ ได้แก่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ศูนย์รังสิต) โดยน้องๆ ทุกคนต้องสวมใส่ชุดนักเรียน-รองเท้านักเรียน (ชุดวอร์ม-รองเท้าผ้าใบ กรณีสอบนายร้อยตำรวจ)

*** ทั้งนี้ในแต่ละหลักสูตรยังมีการแบ่งย่อยโควตาผู้สมัคร สามารถคลิกชมรายละเอียดได้ตามลิงก์นี้ >> https://www.facebook.com/share/p/Nr3fbj2F7VapA4Fy/?mibextid=oFDknk 

‘จีน’ สั่ง รร.ประถม-มัธยม จัดช่วงพัก 30 นาที/วัน เพื่อให้นักเรียนได้ ‘ขยับร่างกาย - พักผ่อนสายตา’

เมื่อวานนี้ (12 มี.ค. 67) สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า กระทรวงศึกษาธิการของจีนและหน่วยงานอื่นอีก 3 หน่วยงาน ออกหนังสือเวียนว่าด้วยการป้องกันและควบคุมภาวะสายตาสั้น ซึ่งเรียกร้องให้โรงเรียนประถมและมัธยมของจีนรับรองว่านักเรียนได้ออกทำกิจกรรมการเคลื่อนไหวร่างกายนอกห้องเรียนอย่างเหมาะสมระหว่างชั้นเรียน

หนังสือเวียนดังกล่าวประกาศเปิดตัวโครงการรณรงค์ทั่วประเทศระยะ 1 เดือนเพื่อป้องกันและควบคุมภาวะสายตาสั้นในเดือนมีนาคม โดยระบุว่าโรงเรียนควรจัดให้มีช่วงพักสำหรับทำกิจกรรมกีฬาเป็นเวลา 30 นาทีทุกวัน เพื่อให้นักเรียนได้ผ่อนคลายความเมื่อยล้าทางสายตาได้ดียิ่งขึ้น

ทั้งนี้ หนังสือเวียนยังเรียกร้องให้หน่วยงานกำกับดูแลตลาดทั่วจีน ตรวจสอบและจัดการกิจกรรมทางการตลาดและการประชาสัมพันธ์ที่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดของผลิตภัณฑ์ป้องกันและควบคุมภาวะสายตาสั้นสำหรับเด็กและวัยรุ่นอย่างเคร่งครัดตามกฎหมาย

ชื่นชม!! ‘นศ.เทคนิคท่าหลวงฯ’ คิดค้นนวัตกรรม ‘เครื่องอุ่นน้ำยาล้างไต’ ช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตให้ผู้ป่วย แถมลดค่าใช้จ่ายนำเข้าจากต่างประเทศ

เมื่อวานนี้ (11 มี.ค.67) ‘น้องแก้ว’ หรือ นางสาวแก้วทิพย์ศิริ พรมหงษ์ นักศึกษาชั้น ปวช.3 สาขาไฟฟ้ากำลัง วิทยาลัยเทคนิคท่าหลวงซิเมนต์ไทยอนุสรณ์ จังหวัดสระบุรี เล่าถึงเเรงบันดาลใจที่ประดิษฐ์เครื่องอุ่นน้ำยาล้างไต แบบการล้างไตทางช่องท้องว่า เพื่อนสนิทของตน มีคุณตาที่ป่วยเป็นโรคไตและมีอาการหนาวสั่นเกร็งเวลาล้างไต

พอถามแพทย์ที่รักษาคุณตาว่าเกิดจากสาเหตุอะไร แพทย์อธิบายว่าเกิดจากน้ำยาล้างไตมีอุณหภูมิที่ต่ำกว่าร่างกาย ทำให้คุณตามีอาการดังกล่าว ซึ่งการล้างไต มีข้อสำคัญคือห้องที่ทำการล้างไต จะต้องเป็นห้องปลอดเชื้อปิดมิดชิด ซึ่งส่วนมากจะมีการเปิดเครื่องปรับอากาศเพื่อช่วยทำให้ห้องอุณหภูมิเย็น

ส่งผลให้น้ำยาล้างไตก็มีอุณหภูมิเย็นลงไปด้วย เมื่อนำเข้าไปในร่างกายของผู้ป่วยเพื่อทำหน้าที่ล้างของเสียที่สะสม น้ำยาจะมีอุณหภูมิต่ำกว่าอุณหภูมิร่างกายของผู้ป่วย มีผลกระทบให้ผู้ป่วยที่ได้รับน้ำยาเข้าไปแล้ว จะมีอาการหนาวสั่น จึงจำเป็นจะต้องมีการอุ่นน้ำยาล้างไตเพื่อให้มีอุณหภูมิที่เหมาะสมกับร่างกายของผู้ป่วยก่อนนำน้ำยาล้างไตเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งการอุ่นน้ำยาล้างไต ไม่สามารถใช้วิธีการที่เสี่ยงต่อการปนเปื้อน เช่น การนำไปต้มในน้ำเดือด การนำไปนึ่ง

ตนและเพื่อนๆ จึงได้คิดค้น เครื่องอุ่นน้ำยาล้างไตทางช่องท้องแบบใช้ไฟฟ้า โดยวิธีการใช้งานเครื่องฯ เริ่มจากนำน้ำยาล้างไตมาวางด้านในของเครื่องฯ ซึ่งมีลักษณะคล้ายๆ ถุงประคบร้อนที่ห่อผ้า กดปุ่มสวิตช์เพื่อเริ่มการทำงาน ปุ่มของเครื่องอุ่นถุงน้ำยาล้างไตจะเป็นสีแดง และจะทำการอุ่นน้ำยาฯ ให้มีอุณหภูมิที่ระบบตั้งไว้คือ  5 ถึง 37 องศาเซลเซียส และถ้าน้ำยาฯ พร้อมใช้งาน เครื่องอุ่นน้ำยาล้างไตจะเป็นสีเขียว และระบบจะตัดการทำงานทุกครั้ง

จากนั้นจึงนำน้ำยาฯ ไปใช้งานได้ โดยเครื่องอุ่นน้ำยาล้างไตทางช่องท้องไฟฟ้า จะช่วยทำให้คนไข้รู้สึกสบายตัวและอยากล้างไตมากขึ้นเมื่ออุณหภูมิของน้ำยาเท่ากับร่างกาย จึงทำให้คนไข้ไม่มีอาการหนาวสั่นเกร็งหรือปวดหน้าท้อง เพิ่มคุณภาพชีวิตให้กับผู้ป่วย และที่สำคัญช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซื้อเครื่องดังกล่าวที่มีราคาแพงจากต่างประเทศ

นวัตกรรมชิ้นนี้ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 3 ระดับภาค ภาคกลาง และรางวัลชมเชย ระดับชาติ ในการประกวดสิ่งประดิษฐ์ของคนรุ่นใหม่ ประจำปีการศึกษา 2566

ทั้งนี้ เครื่องอุ่นน้ำยาล้างไตทางช่องท้องไฟฟ้า ราคา 1,800 บาท สนใจติดต่อได้ที่ ไอดีไลน์ Krissada1 หรือ เบอร์ติดต่อ 0874896052 หรือ Facebook :ช่างไฟฟ้ากำลัง วท.ท่าหลวงฯ

✨สรุปภาพรวมยอดสมัคร ‘เตรียมทหาร’ 67 ที่ไม่น้อยหน้า ‘เตรียมอุดม’

เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา คงได้เห็นข่าวนักเรียนแห่สอบเข้า ‘เตรียมอุดมศึกษา’ ร่วมหมื่นคน บางคนเดินทางมาจากต่างจังหวัด บางคนต้องออกเดินทางตั้งแต่เช้ามืดเพื่อเข้าร่วมสอบ ทำให้สนามสอบ อิมแพ็ค เมืองทองธานี เต็มไปด้วยนักเรียน และผู้ปกครองที่มาให้กำลังใจบุตรหลาย

แต่นอกจากการสอบเข้าเตรียมอุดมที่แข่งขันกันอย่างดุเดือด รู้หรือไม่ว่าการสอบเข้า ‘เตรียมทหาร’ ก็ดุเดือดไม่แพ้กัน วันนี้ THE STUDY TIMES ได้รวบรวมข้อมูลการสอบเข้าเตรียมทหารมาให้แล้ว จะดุเดือดแค่ไหน มาดูกัน…

 

🔎เช็กลิสต์!! จำนวนเด็กเก่งจากโรงเรียนต่างๆ ที่สอบติด 'กำเนิดวิทย์' ประจำปี 2567

‘โรงเรียนกำเนิดวิทย์’ ประกาศรายชื่อนักเรียนที่ได้รับการคัดเลือกเข้าศึกษาต่อระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 (ม.4) ปีการศึกษา 2567 จำนวน 72 คน โดยเป็นนักเรียนจากโรงเรียนต่าง ๆ ทั่วประเทศ เช่น แสงทองวิทยา สวนกุหลาบวิทยาลัย ระยองวิทยาคม 

วันนี้ THE STUDY TIMES ได้รวบรวมรายชื่อโรงเรียนของน้อง ๆ ทั้ง 72 คนมาแล้ว มาดูกันว่า น้อง ๆ จากโรงเรียนใดบ้าง ที่ผ่านคัดเลือกเข้าเรียนที่โรงเรียนกำเนิดวิทย์ได้บ้าง ถ้าพร้อมแล้วมาดูกัน…


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STUDY TIMES
Take Me Top