Saturday, 27 April 2024
THE STUDY TIMES

‘ญี่ปุ่น’ เปิดรับสมัครสอบชิงทุนรัฐบาลญี่ปุ่น ปี 2567 สาขาเอกภาษาญี่ปุ่น-อบรมวิชาชีพครู หมดเขต 1 ก.พ.นี้

เมื่อไม่นานมานี้ ‘Embassy of Japan in Thailand - สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย’ ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับการเปิดรับสมัคร ทุนรัฐบาลญี่ปุ่นประจำปี 2567 ระบุว่า…

กระทรวงศึกษาธิการฯ ประเทศญี่ปุ่น มอบทุนการศึกษาเต็มจำนวน (ค่าเล่าเรียน 100% ค่าครองชีพรายเดือน และตั๋วเครื่องบินไป-กลับ) ทั้งหมด 2 ประเภททุนดังนี้

>> ทุนญี่ปุ่นศึกษา Japanese Studies Students สำหรับนักศึกษาสาขาวิชาเอกภาษาญี่ปุ่น ชั้นปีที่ 2-3 ที่สนใจไปศึกษาภาษาญี่ปุ่นและแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมที่มหาวิทยาลัยประเทศญี่ปุ่น ระยะเวลา 1 ปี

ดูรายละเอียดการรับสมัครจากลิงก์ด้านล่างนี้
https://www.th.emb-japan.go.jp/itpr_th/jis_study.html 

>> ทุนฝึกอบรมวิชาชีพครู Teacher Training Students สำหรับครูผู้สอนในโรงเรียนประถมศึกษาหรือมัธยมศึกษา ที่มีประสบการณ์การสอนไม่ต่ำกว่า 5 ปี ที่สนใจไปฝึกอบรมด้านการสอนที่มหาวิทยาลัยประเทศญี่ปุ่น ระยะเวลา 1 ปี 6 เดือน

ดูรายละเอียดการรับสมัครจากลิงก์ด้านล่างนี้
https://www.bic.moe.go.th/index.php/2021-08-19-21-31-57/2954-2567-teacher-training-students 

โดยจะปิดรับสมัครในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2567 (รับใบสมัครทางไปรษณีย์เท่านั้น)
สำหรับผู้ที่สนใจอย่ารอช้า ฝ่ายทุนการศึกษารอใบสมัครจากทุกท่านอยู่นะคะ 

'นายกฯ' ยินดี 'ตุ๊กๆ ออนทัวร์' ผลงานทีมนักศึกษาอาชีวะไทย คว้าอันดับ 1 การแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติที่จีน

(8 ม.ค. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ชื่นชมความสำเร็จของทีมนักศึกษาอาชีวะไทย สามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม คว้ารางวัลชนะเลิศอันดับ 1 และรางวัลที่ 3 จากการแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ ครั้งที่ 16 ประจำปี 2567 (The 16th International Collegiate Snow Sculpture Contest (2024)) ณ เมืองฮาร์บิน สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 4 – 7 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา เป็นการนำความรู้และทักษะวิชาชีพมาฝึกประสบการณ์จริงผ่านการแข่งขัน สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ และแสดงศักยภาพของเยาวชนไทยสู่สายตานานาชาติ 

ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) จัดส่งทีมนักศึกษาอาชีวศึกษาไทย จำนวน 3 ทีม จาก 3 สถาบัน ได้แก่ วิทยาลัยอาชีวศึกษาเสาวภา, วิทยาลัยอาชีวศึกษาสุราษฎร์ธานี และวิทยาลัยอาชีวศึกษาสระบุรี เข้าร่วมการแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติประจำปี 2567 ซึ่งการแข่งขันนี้มีตัวแทนจาก 6 ประเทศ ได้แก่ จีน, รัสเซีย, อังกฤษ, อิตาลี, ออสเตรเลีย และไทย รวมทั้งหมด 58 ทีมเข้าร่วมแข่งขัน 

โดยผลการแข่งขันปรากฏว่า ทีมนักศึกษาอาชีวะไทย สามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ได้รับรางวัล ดังนี้

- รางวัลชนะเลิศอันดับที่ 1 จากวิทยาลัยอาชีวศึกษาเสาวภา ในผลงานชื่อ 'ตุ๊ก ๆ ออนทัวร์' โดยการนำรถตุ๊กๆ มาเป็นสื่อกลาง สะท้อนวัฒนธรรมและประเพณีของไทย ผ่านศิลปะไทยร่วมสมัย

- รางวัลที่ 3 จากวิทยาลัยอาชีวศึกษาสุราษฎร์ธานี ในผลงานชื่อ ‘มนุษย์ กับ ธรรมชาติ’ สะท้อนความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของมนุษย์ ซึ่งอาจสร้างผลกระทบต่อธรรมชาติ โดยต้องการสร้างความตระหนักถึงความสำคัญของธรรมชาติ และการสร้างสมดุล

- รางวัลที่ 3 จากวิทยาลัยอาชีวศึกษาสระบุรี ในผลงานชื่อ 'โลกแห่งสันติภาพ' (World of peace) เพื่อให้ทุกคนบนโลก ตระหนักถึงความสำคัญ และงดใช้ความรุนแรง สร้างสันติภาพให้เกิดขึ้น

“นายกรัฐมนตรีชื่นชม และแสดงความยินดีกับทีมนักศึกษาอาชีวะไทยซึ่งเป็นแบบอย่างที่ดี สร้างความภาคภูมิใจเเละชื่อเสียงให้กับประเทศไทยเป็นอย่างมาก พร้อมชื่นชมอาจารย์ที่ฝึกสอน และขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนที่สนับสนุนให้เยาวชนไทยได้ออกไปหาประสบการณ์จริงในระดับโลก โดยหวังว่าความสำเร็จในครั้งนี้ จะเป็นต้นแบบ จุดประกายให้เด็กและเยาวชนรุ่นต่อ ๆ ไป มีความพยายาม และกล้าที่จะทำตามความฝันของตัวเองเพื่ออนาคต” นายชัยกล่าว

‘Finstable’ ผนึกภาครัฐ จัดงาน ‘B2GC’ ที่ภูเก็ต 17-19 ม.ค.นี้ หารือแนวทางใช้ประโยชน์ ‘บล็อกเชน’ ยกระดับ ‘ไทย’ หลากมิติ

(5 ม.ค. 67) บริษัท ฟินสเตเบิ้ล จำกัด (Finstable) ผู้นำด้านเทคโนโลยีบล็อกเชนในประเทศไทย ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA), Thai Blockchain Services Infrastructure (TBSI), สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) และ สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) (DGA) ผนึกกำลังจัดการประชุม Blockchain to Government Conference (B2GC) โดยจังหวัดภูเก็ตจะเป็นเจ้าภาพ ในระหว่างวันที่ 17 - 19 มกราคม 2567 นี้

สำหรับการประชุมครั้งนี้ เป็นกิจกรรมที่นำรัฐบาลและผู้นำด้านบล็อกเชนระดับโลกมาพบกัน เพื่อเป็นการประชุมและหารือเกี่ยวกับแนวทางในโครงการกระเป๋าเงินดิจิทัล และโครงสร้างพื้นฐานของระบบบล็อกเชนแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นประตูที่จะนำไปสู่ประเทศที่มีการพัฒนาและรวมถึงการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลมากยิ่งขึ้น พร้อมทำให้เกิดประโยชน์ที่สามารถเข้าถึงได้อย่างแท้จริงแก่ประชาชนชาวไทย 

ในขณะเดียวกันที่ประเทศไทยกำลังก้าวไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจในรูปแบบใหม่ บล็อกเชนเป็นระบบปฏิบัติการอัจฉริยะที่สามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ทั้งในเรื่องของความเชื่อมั่น ความปลอดภัย และรวมไปถึงการกระจายอำนาจสู่หน่วยงานต่าง ๆ ของประเทศอีกด้วย

ทั้งนี้ เทคโนโลยีบล็อกเชน นับเป็นเทคโนโลยี ที่ได้รับการยอมรับในความแข็งแกร่งของระบบบันทึกข้อมูลที่โปร่งใสและยังสามารถกระจายอำนาจไปสู่ภายในระบบของประเทศไทย ที่สามารถเดินหน้าทำธุรกรรมทางเศรษฐกิจในรูปแบบใหม่ โดยได้รับรองความถูกต้องของข้อมูลและสร้างความเชื่อมั่นในโครงสร้างฐานเศรษฐกิจดิจิทัล รวมถึงกลยุทธ์เทคโนโลยีบล็อกเชนจะสามารถกระตุ้นการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจได้เป็นอย่างมาก พร้อมยกระดับเศรษฐกิจในด้านต่าง ๆ เช่น บริการสาธารณะของประเทศไทย จะสามารถแข่งขันในระดับนานาชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

การประชุม B2GC ครั้งนี้ จะจัดขึ้นที่ Blockchain Technology Center (BTC) จังหวัดภูเก็ต โดยเนื้อหาการประชุมจะเน้นบทบาทของบล็อกเชนในการยกระดับความสามารถภาครัฐและผลประโยชน์ต่อประชาชน โดยมีวิทยากรระดับโลกทั้งในและต่างประเทศมาเข้าร่วมงานด้วย รวมถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูง นักวิชาการ และแขกคนสำคัญระดับ VIP อาทิ คุณประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, คุณโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าการจังหวัดภูเก็ต, ศ.(พิเศษ)ธงทอง จันทรางศุ และ คุณวิชัย ทองแตง 

โดยงานประชุมครั้งนี้ได้รับเกียรติจากวิทยากรที่มีชื่อเสียง รวมถึงผู้ทรงคุณวุฒิด้านบล็อกเชนระดับโลก อาทิ Dr. Xiao Feng (CEO) Hashkey Group, Dr. Xinxi Wang (Co-Founder) Litecoin Foundation, Zack Gall (Co-founder & CCO) EOS Network, Alex Blagirev (Strategic Initiatives Officer) SingularityNET, และ Sebastian R. Cabrera (VP of Product, National ID) Polygon Labs

พร้อมกลุ่มผู้นำทางด้านบล็อกเชนไทย อาทิ คุณชัชวาลย์ เจียรวนนท์ ประธานบริษัท Velo Labs, คุณสำเร็จ วจนะเสถียร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเทคโนโลยีบริษัท Bitkub Blockchain Technology, คุณกัญญารัตน์ แสงสว่าง Head of Growth (Thailand) จาก The Sandbox, คุณสถาพน พัฒนะคูหา ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริหารบริษัท SmartContract Blockchain Studio และพ.ญ. นวพร นะลิตา ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานกรรมการบริหารบริษัท Crypto City Connext

สำหรับเนื้อหาการประชุม B2GC ทั้ง 3 วันนั้น ในวันที่ 1 จะกล่าวถึงการทำงานของบล็อกเชนและการประยุกต์ใช้ ตามด้วยการประชุมในวันที่ 2 ซึ่งมุ่งเน้นหัวข้อการประชุมที่ถูกเลือกโดยเจ้าหน้าที่รัฐบาลและคณะกรรมการจัดงาน และวันสุดท้ายจะมีการหารือครั้งสำคัญ รวมถึงการปราศรัยของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลฯ เกี่ยวกับการดำเนินงานของกระทรวง ภายใต้แผนงาน ‘The Growth Engine of Thailand’ โดยโฟกัส 3 ด้านสำคัญคือ การเพิ่มขีดความสามารถด้านดิจิทัลในการสร้างข้อได้เปรียบทางการแข่งขันของประเทศ, การสร้างความมั่นคงและปลอดภัยของเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล และการเพิ่มศักยภาพทุนมนุษย์ด้านดิจิทัลของประเทศรวมถึงการพัฒนาบล็อกเชนระดับโลกอีกด้วย

ผู้ที่สนใจร่วมงาน สามารถส่งคำถามหรือลงทะเบียนรอรับสิทธิ์เข้าร่วมงานได้บนเว็บไซต์ https://B2GC.finstable.co.th

‘CP’ ประกาศ ‘ทุนการศึกษา’ สำหรับปี 2567 ครอบคลุม ‘ปริญญาตรี-ม.ปลาย-ปวช.-ปวส.’

(4 ม.ค. 67) โครงการทุนการศึกษา เครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP) ประกาศทุนการศึกษา ปี 2567 มีทั้งระดับปริญญาตรี ม.ปลาย ปวช. และ ปวส.

ทั้งนี้ สามารถตรวจสอบสาขาวิชาที่ให้ทุนการศึกษาต่อได้ที่เว็บไซต์ >> https://www.applycpscholarship.com

'น้องไพน์' นักเทนนิสวัย 13 ปี ขึ้นแท่นมือ 1 เยาวชนเอเชีย เตรียมร่วมแข่งขันเทนนิสเยาวชน ออสเตรเลียน โอเพ่น 2024

(3 ม.ค.67) เพจ สมาคมกีฬาลอนเทนนิสแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ – LTAT ได้โพสต์ข้อความชื่นชม ‘น้องไพน์’ ธรรม์ พันธราธร นักเทนนิสเยาวชนไทย วัย 13 ปี หลังผงาดก้าวขึ้นแท่นมือ 1 เยาวชนเอเชีย โดยระบุว่า…

คนแรกของไทย ‘ธรรม์’ มือ 1 เอเชียรุ่นอายุไม่เกิน 14 ปี เอทีเอฟตีตั๋วให้ลุยศึกเยาวชน ‘ออสเตรเลียน โอเพ่น’

‘ไพน์’ ธรรม์ พันธราธร นักเทนนิสเยาวชนไทย วัย 13 ปี ผงาดก้าวขึ้นแท่นมือ 1 เยาวชนเอเชีย ในรุ่นอายุไม่เกิน 14 ปี หลังสหพันธ์เทนนิสแห่งเอเชีย (เอทีเอฟ) ได้ปรับอันดับเยาวชนเอเชียล่าสุด เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2567 จากคะแนนสะสมรวมที่ 5906.50 คะแนน ดีที่สุดในขณะนี้ โดยมี ทาวิช พาห์วา จากอินเดีย อยู่อันดับ 2 มี 4785.00 คะแนน และ ที่ 3 คิม ดอง แจ จากเกาหลีใต้ 4093.00 คะแนน 

ด้านนักเทนนิสหญิง รุ่นอายุไม่เกิน 14 ปี 3 อันดับแรกเป็นนักเทนนิสจากเกาหลีใต้ โดยมือ 1 เยาวชนเอเชีย คือ ฮง เยรี 5891.00 คะแนน, ที่ 2.ซิม ซีฮยอน 4539.50 คะแนน และที่ 3.โฮ จียุน 3887.50 คะแนน ขณะที่  ‘ไอซ์’ ปวีณอร นวลศรี นักเทนนิสเยาวชนไทย อยู่อันดับที่ 6 มี 2483.00 คะแนน

สำหรับ ‘ไพน์’ ธรรม์ พันธราธร ปัจจุบันมีอันดับเยาวชนโลก ไอทีเอฟ จูเนียร์ แรงกิ้ง อยู่ที่ 1211 ของโลก ส่วนผลงานในปี 2566 ที่ผ่านมา ได้เข้าร่วมเป็นตัวแทนนักเทนนิสเยาวชนทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 14 ปี ลงแข่งขัน เทนนิสเยาวชนชิงแชมป์โลก ประเภททีม รุ่นอายุไม่เกิน 14 ปี ‘2023 ไอทีเอฟ เวิลด์ เทนนิส จูเนียร์ ทีม คอมเพทติชั่นส์’ คัดเลือกตัวแทนโซนเอเชีย/โอเชียเนีย ที่เมืองกูชิง รัฐซาราวัก ประเทศมาเลเซีย และได้เข้าร่วมเป็นตัวแทนนักเทนนิสเยาวชนทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 14 ปี ลงแข่งขันเทนนิสเยาวชนชิงแชมป์เอเชีย ประเภทบุคคล รายการ ITF Asia 14 & Under Development Championships 2023 Finals ที่เมืองโอฑิศา ประเทศอินเดีย ผลงานได้รางวัล รองชนะเลิศอันดับ 1 ประเภทชายคู่ 

ส่วนผลงานการแข่งขันรายการสะสมคะแนนเยาวชนเอเชีย ธรรม์ สามารถคว้าแชมป์ เดี่ยว และ คู่ เทนนิสเยาวชน รุ่นอายุไม่เกิน 14 ปี เก็บคะแนนสะสมเอเชีย เกรด2 ‘แอลทีเอที เอเชี่ยน โฟร์ทีน แอนด์ อันเดอร์ 2023’ ครั้งที่ 3 ไทย จากนั้นอีก 1 สัปดาห์ ธรรม์ สามารถคว้าแชมป์ชายเดี่ยว และรองแชมป์ชายคู่ ในการแข่งขันเทนนิสเยาวชน รุ่นอายุไม่เกิน 14 ปี เก็บคะแนนสะสมเอเชีย เกรด2 "แอลทีเอที เอเชี่ยน โฟร์ทีน แอนด์ อันเดอร์ 2023" ครั้งที่ 4 ได้อีก

สำหรับ ธรรม์ ถือเป็นนักเทนนิสเยาวชนรุ่นอายุไม่เกิน 14 ปีคนแรกของไทย ที่สามารถก้าวขึ้นรั้งตำแหน่งมือ 1 เยาวชนเอเชียจากการจัดอันดับของสหพันธ์เทนนิสแห่งเอเชีย(เอทีเอฟ) 

จากการขึ้นอันดับ 1 เยาวชนเอเชียในครั้งนี้ ส่งผลให้ ธรรม์ ยังได้รับการคัดเลือกจากเอทีเอฟไปเข้าร่วมการแข่งขันเทนนิสเยาวชน ออสเตรเลียนโอเพ่ น 2024 รุ่นอายุไม่เกิน14 ปี ซึ่งแข่งที่เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลียเดือนมกราคมนี้อีกด้วย

‘เยาวชน SEED Thailand ภาคใต้’ ร่วมแรงร่วมใจแพ็กถุงยังชีพ พร้อมลงพื้นที่นำแจกจ่ายแก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วม ในชายแดนใต้

เนื่องจากสถานการณ์มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ทำมีสถานการณ์น้ำท่วมใน 5 จังหวัด ได้แก่ สตูล, สงขลา, ปัตตานี, ยะลา และนราธิวาส ทำให้มีอาคารบ้านเรือนพี่น้องชาวใต้ ได้รับความเสียหาย ส่งผลกระทบและเดือดร้อนหลายหลัง ประชาชนในบางพื้นที่ในประกาศก็ต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์น้ำท่วมอย่างรุนแรง โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดยะลาและนราธิวาส ที่ฝนตกหนักต่อเนื่องมาหลายวัน จนชาวบ้านในจังหวัดนราธิวาสถึงกับบอกว่า “น้ำท่วมครั้งนี้ ถือเป็นครั้งที่หนักที่สุดในรอบ 50 ปี”

น้ำท่วมหนักในครั้งนี้ ส่งผลให้ถนนสายหลักในพื้นที่จังหวัดนราธิวาสถูกตัดขาดหลายจุด ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นจนท่วมมิดหลังคาบ้านในหลายพื้นที่ ขณะที่ประชาชนหลายหมื่นคนได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมหนักครั้งนี้ ประชาชนบางส่วนไม่สามารถออกจากบ้านได้ และติดอยู่บนชั้น 2 หรือบนหลังคาบ้าน นอกจากนี้ โรงเรียนหลายแห่งต้องประกาศหยุดการเรียนการสอน

โดยในวันนี้ (29 ธ.ค. 66) ‘เยาวชน SEED Thailand’ ได้ร่วมแพ็กถุงยังชีพ และนำไปแจกจ่ายให้ประชาชนในพื้นที่ต่าง ๆ ในโครงการ ‘ไทยรวมใจ’ โดยมูลนิธินักศึกษาสถาบันพระปกเกล้าเพื่อสังคม และเครือข่ายเยาวชน SEED Thailand ขอเชิญชวนให้ทุกคนร่วมส่งกำลังใจให้ผ่านวิกฤตครั้งนี้โดยเร็ว

📍ท่านที่มีความประสงค์จะร่วมบริจาคเงินสนับสนุน สามารถบริจาคได้ที่บัญชี มูลนิธินักศึกษาสถาบันพระปกเกล้าเพื่อสังคม ธนาคารไทยพาณิชย์ หมายเลขบัญชี 405-523655-3 และส่งหลักฐานการบริจาคได้ที่ Line : @946scqgt

‘นายกฯ’ มอบคำขวัญ ‘วันเด็กแห่งชาติ’ ประจำปี 67 เน้นย้ำ!! ประชาธิปไตย-มองโลกกว้าง-เคารพความแตกต่าง

(28 ธ.ค.66) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ทวีตข้อความผ่าน X มอบคำขวัญวันเด็กแห่งชาติ ปี 2567 ว่า “มองโลกกว้าง คิดสร้างสรรค์ เคารพความแตกต่าง ร่วมกันสร้างประชาธิปไตย”

เด็กไทยเก่ง มีศักยภาพ มีความคิดดี และทันสมัย หน้าที่ของรัฐบาลคือการสนับสนุนให้เด็กไทยเติบโตอย่างมีคุณภาพ มีศักดิ์ศรี มีความภูมิใจในตัวเอง

ผมอยากให้เด็กไทย Enjoy กับการใช้ชีวิตในวัยเด็ก แต่ขณะเดียวกันก็มีโลกทัศน์ที่กว้าง มีความเป็นไทยพร้อม ๆ กับมีความเป็นสากล เป็นพลเมืองของโลกที่สามารถเคารพความแตกต่างหลากหลายได้ เพื่อร่วมกันสร้างสังคมประชาธิปไตยที่เข้มแข็งต่อไป

ตัวผมเองในฐานะผู้นำประเทศจะพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้เด็กไทยทุกคน ได้เติบโตขึ้นมาในประเทศที่งดงาม มีความสุข และมีโอกาสสำหรับอนาคตของทุกคน

‘ศธ.’ ประกาศผลการคัดเลือกเด็กและเยาวชนดีเด่น ที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ ประจำปี 2567

(22 ธ.ค. 66) กระทรวงศึกษาธิการได้เปิดเผยว่า…ตามที่กระทรวงศึกษาธิการได้มอบหมายให้ส่วนราชการและหน่วยงานต่าง ๆ ดำเนินการ พิจารณาคัดเลือกเด็กและเยาวชนดีเด่น เด็กและเยาวชนที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ ประจำปี 2567 ตามโครงการจัดงานฉลองวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2567 นั้น 

บัดนี้ ส่วนราชการและหน่วยงานต่าง ๆ ได้พิจารณาคัดเลือกเด็กและเยาวชนดีเด่น เด็กและเยาวชนที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ ประจำปี 2567 เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว จึงประกาศ รายชื่อเด็กและเยาวชนดีเด่น เด็กและเยาวชนที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ ประจำปี 2567 ที่ได้รับ การคัดเลือกให้เข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรี เนื่องในงานฉลองวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2567 สามารถตรวจสอบรายชื่อได้ที่ https://www.moe.go.th/เด็กและเยาวชน2567/

และสำหรับเด็กและเยาวชนที่ได้รับการคัดเลือกตามประกาศฯ จะได้รับการเข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรี ในวันพุธที่ 10 มกราคม 2567 ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล เด็กและเยาวชนที่ได้รับการคัดเลือกตอบรับการเข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรี โดยเข้าร่วมทาง Openchat ผ่าน QR - Code Line ภายในวันที่ 29 ธันวาคม 2566

‘ดร.เอ้ สุชัชวีร์’ แชร์ 9 เคล็ด (ไม่) ลับ สอนให้ลูกรัก คณิตศาสตร์

ไม่นานมานี้ ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. พรรคประชาธิปัตย์ อดีตนายกสภาวิศวกร และอดีตนายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ได้เผยเคล็ดไม่ลับในการสอนคณิตศาสตร์ ให้เด็กๆ รุ่นใหม่ ได้ตระหนักถึงคุณค่าที่ควรโฟกัส และไม่มองว่าเป็นเรื่องยากจนไม่อยากจะเรียนรู้ ไว้ว่า...

คณิตศาสตร์ คือ รากฐานของทุกสาขา ทั้งวิทย์ สังคม ภาษา ล้วนมาจากหลักทางคณิตศาสตร์ทั้งสิ้น ชนชาติใดเก่งคณิตศาสตร์ ย่อมได้เปรียบ ย่อมเป็นผู้ชนะ มีความแข็งแกร่ง ทรงพลานุภาพ ทางทหาร เศรษฐกิจ สังคม และอารยธรรม

ดร.เอ้ ได้ยกตัวอย่าง การสอนอิชิบอย ลูกวัย 5 ขวบ ให้รักคณิตศาสตร์ และสามารถถอดสแควรูท คูณเลข ยกกำลัง เข้าใจทศนิยม ได้อย่างมหัศจรรย์ โดยไม่ต้องยัดเยียดหรือบังคับเลยแม้แต่น้อย

แถมลูกยังมีความสุขอย่างมาก ที่ได้คำนวนเลข และยังสร้างสายสัมพันธ์ระหว่างลูกกับพ่อแม่ได้อย่างแนบแน่น

โดย ดร.เอ้ ได้เผย 9 ข้อ จากประสบการณ์ส่วนตัว ที่คุณพ่อคุณแม่ สามารถลองนำไปปรับใช้ได้ตามความเหมาะสม ดังนี้...

1. เริ่มสอนจาก ‘การนับเลข’ นับนิ้ว นับคน นับของ นับต้นไม้ ธรรมชาติรอบตัว สอนนับเลขให้เร็วที่สุด ไม่ต้องรอให้ลูกพูดได้ทุกคำ นับบ่อยๆ นับทุกวัน เจออะไรให้นับ แม้จะง่าย แต่ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญที่สุด

2. เริ่ม ‘บวก’ และ ‘ลบ’ ใช้นิ้วมือ ง่ายที่สุด ตามด้วยใช้การ ‘ขีด’ หากมีกระดานดำเล็กๆ ราคาถูก คุ้มค่ามาก มีตั้งแต่ไม่ถึงร้อยบาท ไม่ต้องซื้อของแพง

3. สอนให้ลูก ‘มองเห็นภาพ’ คือ จุดเริ่มต้นของการคิดเลขในใจ เด็กทำได้ทุกคน ขอให้สม่ำเสมอ ทุกวันๆ การมองภาพ พ่อแม่จะวาดเอง หรือ มีสื่อการสอนมากมาย ช่วยพัฒนาทั้งความจำ และตรรกะ

4. อย่ารีบให้ลูกใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ให้เริ่มจากดินสอ-กระดาษ ชอล์ก-กระดานดำ ให้ลูกใช้นิ้ว ให้มือ ให้มากที่สุด ไม่ต้องกังวลเรื่องความสวยงาม 

5. Youtube มีประโยชน์ หากใช้ภายใต้การดูแลของพ่อแม่ ขอยอมรับว่าเนื้อหาสอนคณิตศาสตร์จาก Youtube ดีมาก สนุก ได้ทั้งความรู้ ได้ทั้งภาษา

6. พ่อแม่ต้องมีส่วนร่วม ตั้งแต่การนับเลข คำนวณ พร้อมกับลูกทุกวัน เพราะครูที่ดีที่สุดในโลก คือ ‘พ่อแม่’ ไม่เสียเวลาอะไรมาก ใช้เวลาคิดเลขด้วยกันไม่กี่นาที แต่มันเปลี่ยนอนาคตลูกได้เลย

7. หมั่นสร้างโจทย์ สร้าง ‘ความท้าทาย’ ให้กับลูก เสมือนเกม ที่ต้องเล่น ต้องผ่านไปให้ได้ เริ่มต้นจากง่าย ให้ลูกภูมิใจ จนถึงยาก ให้ต้องคิด ต้องมุ่งมั่น เพื่อแก้โจทย์ให้สำเร็จ

8. ‘คำชม’ และ ‘กำลังใจ’ คือ พลังวิเศษ สร้างอนาคตลูก เมื่อลูกทำโจทย์ง่ายๆ สำเร็จ ทั้งส่งเสริมให้ลูกกล้าฝัน และตั้งเป้าหมายชีวิตให้สูง เช่น อยากเป็นนักบินอวกาศ อยากไปดาวพฤหัส อยากเป็นโน่นนี่ แต่พ่อแม่ต้องอย่าขัดคอ ถึงแม้ว่าเราจะรู้ว่า มันยากมาก แต่ใครจะรู้ มันอาจเป็นจริงก็ได้ และอย่าลืมบอกลูกว่า ‘จะไปถึงเป้าหมายได้ อันดับแรก คือ การตั้งใจเรียนรู้’ จากนั้นลูกจะมุ่งมั่น เรียนรู้ด้วยตนเอง โดยไม่ต้องบังคับเลย

9. ให้ลูกคิดว่า ‘ความผิดพลาด’ เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ไม่มีใครทำถูกไปทุกเรื่อง เขาจะกล้าคำนวณ ทำโจทย์ยากขึ้นอย่างมหัศจรรย์ ไม่กลัวจะตอบผิด ถือเป็นการเรียนรู้ชีวิตไปด้วย

ดร.เอ้ ยังบอกอีกว่า จากประสบการณ์ส่วนตัว ในฐานะพ่อที่มีลูกเล็ก ไม่มีถูกผิดในทุกๆ การเรียนรู้ แต่ขอให้คุณพ่อคุณแม่ให้ ‘เวลาที่มีคุณภาพ’ บวกกับ ‘ความอบอุ่นจากการกอด’ ให้มากๆ ตรงนี้จะสร้างลูก สร้างบุคลากรที่มีความมหัศจรรย์ ให้แก่สังคมได้ในอนาคตแน่นอน

‘นายกรัฐมนตรี’ ร่วมเปิดงาน 45 ปี ปตท. ขอบคุณทุกภาคส่วน สนับสนุนพันธกิจสร้างความมั่นคงทางพลังงานเพื่อคนไทย

เมื่อไม่นานมานี้ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) จัดงานขอบคุณคนไทยแบบคาร์บอนนิวทรัล อีเวนต์ (Carbon Neutral Event) ปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากงานเท่ากับศูนย์ โดยใช้คาร์บอนเครดิตจากการปลูกป่ามาชดเชยในการฉลองสู่ปีที่ 45 นับตั้งแต่ก่อตั้ง การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย เป็นรัฐวิสาหกิจเมื่อปี พ.ศ. 2521 เดินหน้าสู่การจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เป็น บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ในปี พ.ศ. 2544 จากการสนับสนุนของคนไทยทุกคน ผนวกกับความทุ่มเทของผู้บริหารและพนักงานจากรุ่นสู่รุ่น พิสูจน์ได้ถึงการมุ่งสร้างความมั่นคงทางพลังงาน พร้อมฝ่าทุกวิกฤตและร่วมดูแลสังคมไทยตลอดมา

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงาน ‘PTT 45th Anniversary’ Ignite Life Potential งานเลี้ยงรับรองขอบคุณผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน เนื่องในวาระครบรอบ 45 ปี บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) โดยมี ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน และประธานกรรมการ ปตท. นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. พร้อมคณะผู้บริหารและพนักงาน ปตท. ร่วมต้อนรับแขกผู้มีเกียรติที่มีส่วนสนับสนุน ปตท. มาโดยตลอด ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ

นายเศรษฐา กล่าวว่า ปตท. เป็นบริษัทด้านพลังงานรายใหญ่ที่อยู่คู่สังคมไทยอย่างยาวนาน เป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนให้ประเทศก้าวพ้นวิกฤตการณ์ด้านพลังงานเสมอมา และมีส่วนร่วมผลักดันด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เกี่ยวข้อง เป็นการช่วยยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ควบคู่ไปกับการให้ความสำคัญผ่านโครงการดี ๆ เพื่อพัฒนาสังคมและพัฒนาคุณภาพชีวิตของพี่น้องชาวไทย วันนี้เป็นโอกาสอันดียิ่งที่ได้แสดงความยินดีกับ ปตท. ให้กิจการมีความก้าวหน้าและประสบความสำเร็จ เพื่อเป็นพลังของประเทศต่อไป

นายอรรถพล เปิดเผยว่า การก้าวสู่ปีที่ 45 ในปี พ.ศ. 2566 ของ ปตท. อาจเปรียบเทียบได้กับวัยกลางคนที่ผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านประสบการณ์ชีวิตมากพอที่จะเรียนรู้จากอดีตและมองถึงอนาคต มีความรับผิดชอบ และทำหน้าที่เป็นผู้สนับสนุนเคียงข้างกับคนทุกวัย ซึ่งกิจกรรมวาระพิเศษในวันนี้ จัดขึ้นเพื่อแสดงความขอบคุณผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเสมือนตัวแทนของประชาชนทุกภาคส่วน ที่สนับสนุนการเติบโตของ ปตท. มาตลอด ในฐานะบริษัทพลังงานของคนไทย ที่มีภารกิจในการสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศ พร้อมสร้างการเติบโตอย่างสมดุลและยั่งยืนแก่สังคม

“ตลอด 45 ปีของการเติบโตจนถึงวันนี้ ปตท. ขอให้ความเชื่อมั่นว่าจะไม่หยุดพัฒนา และยังคงมุ่งมั่นขยายธุรกิจพลังงานแห่งอนาคต และธุรกิจใหม่ที่ไกลกว่าพลังงาน พร้อมกับการแสวงหาโอกาสใหม่ ๆ เพื่อให้ ปตท. สามารถเติบโตในระยะยาวคู่กับประเทศไทยได้อย่างมั่นคง ตามวิสัยทัศน์ ‘Powering Life with Future Energy and Beyond ขับเคลื่อนทุกชีวิตด้วยพลังแห่งอนาคต’ พร้อมเป็นกำลังสำคัญ ยกระดับอุตสาหกรรมใหม่ และขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ตลอดจนยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีให้คนไทย เพื่อให้ ปตท. เป็นองค์กรแห่งความภาคภูมิใจของคนไทยตลอดไป” นายอรรถพล กล่าว

ภายในงานได้มีการจัดนิทรรศการผลงานของ ปตท. อาทิ การพัฒนาธุรกิจก๊าซธรรมชาติ การพัฒนาธุรกิจน้ำมันจนถึง PTT Life Station การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของไทย การพัฒนา EV Ecosystem โครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติฯ และการพัฒนาพื้นที่วังจันทร์วัลเลย์ นอกจากนี้ยังมีการถ่ายทอดความผูกพันระหว่าง ปตท. และคนไทย ในรูปแบบละครเวที และปิดท้ายด้วยบทเพลงพิเศษในวาระ 45 ปี ปตท. ‘เธอคือพลังของฉัน’ ขับร้องโดยศิลปินระดับประเทศอย่าง เบิร์ด-ธงไชย อิ้งค์-วรันธร ที่สื่อสารมาตลอดปี 2566 เพื่อแสดงความขอบคุณคนไทยในโอกาสนี้

อนึ่งการจัดงานในครั้งนี้ได้จัดขึ้นในรูปแบบการจัดงานแบบ Carbon Neutral Event หรืองานปลอดคาร์บอน ซึ่งได้รับการรับรองจากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) โดยใช้คาร์บอนเครดิต (Carbon Credit) จากกิจกรรมการปลูกป่าของ ปตท. มาชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากกิจกรรมในการจัดงาน ให้มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากงานเท่ากับศูนย์ จึงมั่นใจได้ว่าการจัดงานครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตามเป้าหมายในแนวทางการดำเนินงาน PTT NET ZERO EMISSIONS ภายในปี ค.ศ. 2050


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STUDY TIMES
Take Me Top