Friday, 19 April 2024
NEWSFEED

‘นร.ม.6’ คิดสั้น หลังเครียด ถูกหลอกซื้อ ‘ไอโฟน 13’ แบบผ่อนดาวน์ ด้าน ‘แม่เด็ก’ ใจสลาย เผย สิ้นเดือนนี้กำลังจะซื้อไอโฟนให้ลูกอยู่แล้ว

(17 ต.ค. 66) เกิดเหตุนักเรียนสาวชั้น ม.6 ตัดสินใจ ผูกคอตายในครั้งนี้ เนื่องจากเกิดอาการเครียด เพราะถูกแก๊งคอลเซนเตอร์หลอกลวง ให้โอนเงินค่าซื้อโทรศัพท์ไอโฟน เป็นเงินเกือบ 2 หมื่นบาท แต่สุดท้ายไม่ได้โทรศัพท์ จึงตัดสินฆ่าตัวตาย โดยเหตุการณ์เศร้าสลดดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรเกาะทวด ได้รับแจ้งเหตุเมื่อวันที่ 15 ต.ค. 66 ที่ผ่านมาว่า มีนักเรียนหญิงผูกคอตาย ภายในบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ตำบลเกาะทวด อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ และแพทย์เวร

ที่เกิดเหตุ พบร่างของ นางสาวอาทิยา ช่วยคง หรือ ‘น้องพลอย’ อายุ 19 ปี นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.นครศรีธรรมราช ใช้เชือกไนลอนส์ สำหรับเรียนวิชาลูกเสือเนตรนารี ผูกคอตายกับขื่อห้องนอนในบ้านพัก จากการสอบสวนในเบื้องต้น ทราบว่า สาเหตุที่ น.ส.อาทิยา หรือ ‘น้องพลอย’ ตัดสินใจปลิดชีพตัวเองในครั้งนี้ เนื่องจากเกิดจากความเครียด เพราะถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงให้ผ่อนโทรศัพท์มือถือ ‘ไอโฟน13’ ทางระบบออนไลน์

โดยตำรวจ สภ.เกาะทวด ได้ทำการสอบปากคำพยาน 3 ปาก ที่เป็นเพื่อนสนิท และน้าสาวของผู้ตาย ซึ่งพักอาศัยอยู่บ้านเดียวกัน พบว่า น.ส.อาทิยา หรือ ‘น้องพลอย’ ผู้ตายได้ติดต่อผ่อนซื้อโทรศัพท์ยี่ไอโฟน 13 ทางเฟซบุ๊กกับร้าน ‘hannah shop mobile’ ซึ่งตั้งอยู่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย โดยถูกทางร้านดังกล่าวหลอกให้ นส.อาทิยา โอนเงินดาวน์ค่าผ่อนโทรศัพท์ไอโฟนให้  โดยให้โอนเข้าบัญชีชื่อ น.ส.ดอกแก้ว แก้วเจิม ธนาคาร CIMB บัญชี 7013721050 ซึ่งเป็นบัญชีม้า จำนวน 4 ครั้ง รวมเป็นเงิน 18,500 บาท  ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ฯ พบหลักฐานเป็นแชตข้อความหลายข้อความ และสลิปการโอนเงินดาวน์ไปให้กับร้านขายโทรศัพท์ดังกล่าว ในโทรศัพท์มือถือของ น.ส.อาทิยา หลายข้อความด้วยกัน

ปรากฏว่า หลังจากที่ น.ส.อาทิยา หรือ ‘น้องพลอย’ โอนเงินดาวน์เพื่อผ่อนซื้อโทรศัพท์ไปให้แล้ว กลับไม่ได้สินค้า ทำให้ น.ส.อาทิยา พยายามทวงถามสินค้าอยู่หลายครั้ง โดยมีหลักฐานเป็นแชตข้อความในโทรศัพท์มือถือของ น.ส.อาทิยา หลายข้อความด้วยกัน ซึ่งเป็นการโต้ตอบกับทางร้าน แต่เมื่อเห็นนานผิดปกติ น.ส.อาทิยา จึงแชททวงถาม และขอเงินดาวน์คืน แต่กลับถูกทางร้านดังกล่าวแชตข้อความกลับมา พร้อมกับให้โอนเงินค่าประกันเพิ่มอีก 2,000 บาท

กระทั่ง น.ส.อาทิยา หลงเชื่อ จึงได้โอนไปให้อีก 2,000 บาท แต่ทางร้านกลับเงียบหายไป และไม่โอนเงินคืนกลับมา ทำให้ น.ส.อาทิยา รู้ตัวว่าถูกหลอก จึงพยายามแชททวงเงินคืนหลายครั้ง แต่ก็ไม่เป็นผล ทำให้ น.ส.อาทิยา เกิดความเครียดอย่างหนัก เพราะเงินส่วนหนึ่งที่โอนไป เป็นเงินที่หยิบยืมจากเพื่อนสนิท 2 คน และที่สำคัญกลัวถูกแม่ตำหนิ

จนกระทั่งเวลา 15.10 น. ของวันที่ 15 ต.ค. 66 น.ส.อาทิยา ได้แชตสุดท้ายกับเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ซึ่งได้ระบุว่า ตนเองถูกร้านขายโทรศัพท์มือถือหลอก และถูกโกงเงินไปแล้ว ประกอบกับกลัวแม่จะตำหนิ จากนั้น น.ส.อาทิยา ก็เงียบหายไป ก่อนที่เพื่อนสนิทเห็นท่าไม่ดี จึงรีบโทรศัพท์แจ้งญาติเข้าไปดูในห้องนอน แต่ประตูถูกล็อกจากด้านในอย่างหนาแน่น จนทางญาติต้องพังประตูเข้าไป และพบ น.ส.อาทิยา หรือน้องพลอย ผูกคอเสียชีวิตไปแล้ว ท่ามกลางความเสียใจของพ่อแม่ และบรรดาญาติๆ และเพื่อนๆ ที่เกิดเหตุการณ์เศร้าในครั้งนี้ 

หลังเกิดเหตุ พ.ต.ท.สวัสดิ์ นิยมเดช สว.สภ.เกาะทวด อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ไม่ได้นิ่งนอนใจได้ทำการสืบสวนสอบสวน ทำการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของผู้ตาย และเรียกพยานเพื่อนสนิทของผู้ตาย และญาติสนิทมาสอบปากคำเบื้องต้น พบว่า แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ได้หลอกให้เหยื่อ โอนเงินค่าดาวน์โทรศัพท์ไอโฟน 13 แต่ถูกโกงทำให้ น.ส.อาทิยา เกิดความเครียด และกลัวแม่ตำหนิเลยตัดสินใจผูกคอตายดังกล่าว นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังได้มีการสอบสวนขยายผล พร้อมกับแจ้งอายัดบัญชีม้าดังกล่าวอีกด้วย

พร้อมทั้ง ตรวจสอบร้านขายโทรศัพท์ดังกล่าว ที่ระบุว่าอยู่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย เบื้องต้นพบว่า ร้านขายโทรศัพท์ดังกล่าว ไม่มีอยู่จริง เป็นการสร้างโปรไฟล์ขึ้นมา เพื่อหลอกลวงลูกค้า ซึ่งตำรวจ สภ.เกาะทวด ได้ประสานตำรวจไซเบอร์ เพื่อดำเนินการตรวจสอบทะเบียนราษฎร์ และประวัติอาชญากรรมของ น.ส.ดอกแก้ว เจ้าของบัญชีม้า พร้อมทั้งประสานตำรวจไซเบอร์ ให้ช่วยเหลือในการทำคดี เพื่อติดตามจับกุมแก๊งคนร้ายออนไลน์แก๊งนี้ต่อไปแล้ว

ล่าสุดเช้าวันนี้ (17 ต.ค. 66) ทีมข่าวได้เดินทางไปยัง ต.เกาะทวด อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นบ้านที่เกิดเหตุ และใช้เป็นสถานที่จัดงานศพของ น.ส.อาทิยาหรือน้องพลอย บรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความโศกเศร้า มีญาติและเพื่อนบ้าน มาช่วยจัดงานศพกันอย่างเนืองแน่น

ทั้งนี้ จากการสอบถาม นางบุญเยือน อ่อนแก้ว หรือ ‘แม่แป๋ว’ อายุ 47 ปี มารดาของ น.ส.อาทิยา หรือ ‘น้องพลอย’ เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า ไม่คาดคิดว่าครอบครัวของตนเองจะมาเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับลูก ที่ผ่านเคยดูแต่ข่าวว่า มีเด็กนักเรียนฆ่าตัวตาย เพราะความเครียดที่ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกโอนเงิน แต่ไม่คาดคิดว่า เหตุการณ์แบบนี้จะมาเกิดขึ้นซ้ำกับลูกสาวของตนเอง จึงอยากเตือนใจให้พ่อแม่ผู้ปกครองทุกคน ได้เฝ้าดูแลลูกๆ ในเรื่องนี้ให้ดี

สำหรับมูลเหตุเริ่มจาก น้องพลอย ลูกสาว เคยบ่นว่า อยากได้โทรศัพท์ไอโฟน 13 เพื่อนำไปใช้เรียนในชั้นมหาวิทยาลัยต่อในปีหน้า แต่มีปัญหาคือโทรศัพท์มีราคาแพงมาก ซึ่งตนก็ปลอบใจลูกสาว ว่าเดี๋ยวรอให้ถึงสิ้นเดือน แม่จะซื้อไอโฟน 13 ให้ แต่นึกไม่ถึงเลยว่า ลูกสาวได้แอบไปสั่งซื้อ และผ่อนโทรศัพท์ไอโฟน 13 ทางออนไลน์เสียก่อน โดยพบหลักฐานข้อความแชตจำนวนมากที่ติดต่อกับทางร้านขายโทรศัพท์ปลายทาง และยังมีการหยิบยืมเงินจากเพื่อนสนิท เพื่อนำมาเป็นค่าเงินดาวน์ ในการซื้อโทรศัพท์ จนเมื่อลูกสาวรู้ว่าตัวเองถูกโกง จึงทำให้เกิดอาการเครียด และก่อเหตุผูกคอตายดังกล่าว

“หากลูกสาวแม่ มาบอกแม่ก่อน ว่าไปแอบผ่อนโทรศัพท์แล้วถูกโกง ก็จะไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อย่างแน่นอน และแม่ขอยืนยันว่า จะไม่ตำหนิลูกสาวอย่างแน่นอน เพราะรักลูกสาวคนนี้มาก และสิ้นเดือนนี้แม่ก็จะซื้อโทรศัพท์ไอโฟน 13 ให้ลูกสาว ซึ่งเพื่อนสนิทของลูกได้บอกกับแม่ว่า ลูกสาวเคยมาพูดเป็นลางสังหรณ์ให้เพื่อนสนิทฟังว่า หากถูกโกงซื้อไอโฟน 13 แล้ว จะฆ่าตัวตาย แม่จะเสียใจหรือไม่ เพื่อนสนิทได้พูดห้ามและปลอบใจ พร้อมกับแนะนำให้ไปแจ้งความกับตำรวจ” บุญเยือน กล่าว

นางบุญเยือน กล่าวอีกว่า อยากฝากเจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งดำเนินการจับกุม และปราบปรามแก๊งคอลเซนเตอร์อย่างจริงจัง โดยเฉพาะหน่วยงานที่ดูแลในเรื่องระบบออนไลน์ ที่จะต้องทำงานให้มากกว่านี้ สาเหตุที่ลูกสาวตัดสินใจฆ่าตัวตายในครั้งนี้ ตนนึกไม่ถึงเลย ว่าลูกจะคิดสั้นฆ่าตัวตาย หากตนรู้เรื่องก่อนหน้านี้ จะไม่ตำหนิลูกสาวเลย เพราะเข้าใจในตัวลูกสาวดีว่า ลูกสาวต้องการโทรศัพท์ไอโฟน 13 ไปใช้เรียนหนังสือในมหาลัยต่อไป ตนและญาติเศร้า และเสียใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อยากให้ตำรวจเร่งติดตามตัวคนร้ายแก๊งนี้มาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว และไม่อยากให้เป็นเยี่ยงอย่างไปทำกับคนอื่นอีกต่อไป

‘สำนักงาน ก.พ.’ เปิดสอบชิงทุนระดับมัธยมฯ ตอนปลาย ศึกษาต่อป.ตรี-ป.โท ในต่างแดน รับสมัครตั้งแต่ 25 ต.ค. 66

(16 ต.ค. 66) เพจเฟซบุ๊ก ‘Royal Thai Consulate-General in Chengdu สถานกงสุลใหญ่ ณ นครเฉิงตู’ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า…

ประกาศรับสมัครสอบแข่งขันเพื่อรับทุนกระทรวงการต่างประเทศ ประจำปี 2567 (ทุนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย) เพื่อไปศึกษาปริญญาตรี - ปริญญาโท ในต่างประเทศ จำนวน 5 ทุน โดยเปิดรับสมัคร ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 25 ต.ค. 2566

ผู้สนใจสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.ocsc.go.th/scholarship/highschool 

รายละเอียด 1

รายละเอียด 2

รายละเอียด 3

รายละเอียด 4

รายละเอียด 5

รายละเอียด 6

ีรายละเอียด 7

รายละเอียด 8

 

๑๓ ตุลาคม วันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระมหากษัตริย์ผู้ทรงงานหนักที่สุดในโลก เพื่อประโยชน์สุขของพสกนิกรชาวไทย

ตลอดระยะเวลา ๗๐ ปี ที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงครองราชย์ พระองค์ทรงปกครองบ้านเมืองด้วยหลักทศพิธราชธรรม เพื่อให้บ้านเมืองและประชาชนอยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข ดังพระปฐมบรมราชโองการในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เมื่อวันที่ ๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๓ ว่า “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม” นับจากวันนั้น พระองค์ทรงประกอบพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนมาโดยตลอด

ทรงเป็นกษัตริย์ผู้ทรงห่วงใยในทุกข์สุข ของอาณาประชาราษฎร์ มิต่างจากทุกข์สุขของพระองค์เอง กษัตริย์ผู้ทรงอุทิศพระวรกาย ในการประกอบพระราชกรณียกิจด้านต่าง ๆ มากมาย นำพาซึ่งความร่มเย็นเป็นสุขมาสู่ ปวงชนชาวไทยทั้งประเทศ สะท้อนออกมาเป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริกว่า ๔,๐๐๐ โครงการ ซึ่งล้วนแต่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนและ การพัฒนาประเทศทั้งสิ้น อาทิ โครงการพัฒนาแหล่งน้ำ พัฒนาด้านการเกษตร พัฒนาด้านสิ่งแวดล้อม พัฒนาด้านการส่งเสริมอาชีพ พัฒนาด้านสาธารณสุข พัฒนา ด้านคมนาคมและการสื่อสาร พัฒนาด้านสวัสดิการสังคมและการศึกษา โครงการพัฒนา แบบบูรณาการและอื่น ๆ ซึ่งทุกโครงการที่พระองค์ได้พระราชทาน ยังประโยชน์สุข มากมายแก่ประชาชนชาวไทยให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและพัฒนาประเทศไปสู่ความยั่งยืน

เพจ THE STUDY TIMES ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ที่มีต่อพสกนิกรชาวไทย ด้วยการน้อมนำพระราชดำรัสของพระองค์ท่าน มาเป็นแนวปฏิบัติในการดำรงตน ตามวิถีแห่งความพอเพียง พออยู่ พอกิน และคงไว้ ซึ่งความดี ความซื่อสัตย์สุจริต และปฏิบัติงานในฐานะขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่จะเป็นองค์กรรับใช้ประชาชนอย่างแท้จริง พร้อมก้าวเดินตามรอยเบื้องพระยุคลบาท แห่งศาสตร์พระราชาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไป

‘กองทุนดีอี’ ชูระบบสืบค้นข้อมูลอาคารชุด ‘CondoMaps’ หลังสนับสนุนงบ ‘กรมที่ดิน’ พัฒนาสู่ดิจิทัลแพลตฟอร์ม

ภายหลังจาก สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) โดยกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ กองทุนดีอี ได้สนับสนุนงบประมาณให้ กรมที่ดิน ให้ดำเนินโครงการพัฒนาแพลตฟอร์มให้บริการการใช้ประโยชน์ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างของประเทศไทย ในปีงบประมาณ พ.ศ.2565

จากผลการดำเนินงานล่าสุด ทางกรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย ได้พัฒนาระบบสืบค้นอาคารชุด ห้องชุด (CondoMaps) สำเร็จพร้อมเปิดให้บริการประชาชนเรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้ กรมที่ดิน ในฐานะผู้พัฒนาระบบ CondoMaps ได้ทำพิธีเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา โดยได้รับเกียรติจาก นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธีเปิด โดยมีนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ร่วมในพิธีเปิดด้วย 

สำหรับระบบสืบค้นอาคารชุด ห้องชุด (CondoMaps) พัฒนาขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกให้ภาคประชาชน ภาคเอกชน และผู้ประกอบการที่ถือครองห้องชุด เจ้าของกรรมสิทธิ์ห้องชุด สามารถสืบค้นข้อมูลอาคารชุด ห้องชุด ได้โดยใช้เลขทะเบียนอาคารชุด ห้องชุด ที่ระบุในหนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ห้องชุด ระบบจะแสดงตำแหน่งที่ตั้งอาคารชุด ห้องชุด ในรูปแบบภูมิสารสนเทศ 3 มิติ ผู้ใช้งานสามารถมองเห็นทัศนียภาพเสมือนจริง โดยแสดงผลร่วมกับข้อมูลรูปแปลงที่ดินของกรมที่ดิน ภาพถ่ายดาวเทียม แผนที่ภูมิประเทศ (Open Street Map) และภาพถ่ายทางอากาศเชิงเลข (DMC) ให้บริการผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต

โครงการนี้ เป็นอีกหนึ่งนวัตกรรม ที่ช่วยสร้างฐานข้อมูลอาคารห้องชุดให้เป็นระบบ เชื่อมโยงข้อมูลเอกสารสิทธิห้องชุดทั่วประเทศ นอกจากจะสร้างความสะดวกสบายให้ประชาชนแล้ว ยังจะเป็นการสร้างศักยภาพของภาครัฐ ตอบโจทย์ทางด้านการลงทุนให้แก่นักลงทุนทั้งชาวไทย และ ชาวต่างชาติอีกด้วย

ทั้งนี้ จากข้อมูลในปัจจุบัน กรมที่ดินมีฐานข้อมูลห้องชุดแบบ 3 มิติ สำหรับให้บริการบนระบบ CondoMaps จำนวน 180,000 ยูนิต ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งในปีนี้กรมที่ดินอยู่ระหว่างดำเนินการนำเข้าฐานข้อมูลอาคารชุด ห้องชุด เพื่อให้มีฐานข้อมูลภูมิสารสนเทศ 3 มิติ เพิ่มมากขึ้นอีกจำนวน 480,000 ยูนิต หากดำเนินการแล้วเสร็จจะมีฐานข้อมูลห้องชุดรวมจำนวนทั้งสิ้น 660,000 ยูนิต

นายชยาวุธ จันทร อธิบดีกรมที่ดิน กล่าวย้ำว่า การดำเนินโครงการพัฒนาแพลตฟอร์มให้บริการการใช้ประโยชน์ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างของประเทศไทยผ่านระบบ CondoMaps นั้น เป็นการให้บริการกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ในรูปแบบ Data as a Service (Daas) เป็นการเพิ่มศักยภาพและยกระดับขีดความสามารถในการให้บริการ รวมทั้งเป็นข้อมูลพื้นฐานใช้ประกอบการวางแผนงาน นโยบาย หรือวางแผนต่อยอดทางด้านธุรกิจ สนับสนุนการพัฒนาประเทศ สอดคล้องกับหลักการภาครัฐของประชาชน เพื่อประชาชน และประโยชน์ส่วนรวมอย่างครบวงจร

ปตท. สนับสนุนการบริหารจัดการ ‘ปัญหาน้ำท่วม’ พื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นใน ส่งมอบอุปกรณ์ และบริการสำหรับระบบซ่อมบำรุงเชิงพยากรณ์

เมื่อเร็วๆ นี้ นายประสงค์ อินทรหนองไผ่ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหารกลยุทธ์กลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เป็นผู้แทน ปตท. ส่งมอบอุปกรณ์และบริการสำหรับระบบซ่อมบำรุงเชิงพยากรณ์ และการเฝ้าติดตามสภาพเครื่องจักรจาก บริษัท พี ดิคเตอร์ จำกัด (P-DICTOR) เป็นเวลา 1 ปี นับตั้งแต่การติดตั้งแล้วเสร็จ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ให้แก่ นายปวินท์สรรค์ กัลยาณพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานระบบควบคุมน้ำ สำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นการนำความเชี่ยวชาญในนวัตกรรมด้าน Predictive Maintenance and Machine Monitoring ของกลุ่ม ปตท. มาสนับสนุนการวิเคราะห์ข้อมูลการสั่นสะเทือนและทำนายการหยุดทำงานล่วงหน้าของเครื่องสูบน้ำ ณ สถานีสูบน้ำกรุงเกษม เขตบางรัก ที่เป็นจุดสำคัญในการสูบน้ำกรณีเกิดน้ำท่วมพื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นใน เพื่อช่วยให้สำนักการระบายน้ำฯ สามารถป้องกันและแก้ไขอุปกรณ์ให้มีความพร้อมใช้งาน ลดค่าใช้จ่ายการซ่อมบำรุง ตลอดจนช่วยให้บริหารจัดการปัญหาน้ำท่วมพื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นใน ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

‘ปตท.’ ผนึกกำลังวิสาหกิจชุมชน จ.แพร่ เดินหน้าปลูกป่าล้านที่ 2 ตั้งเป้า 8,000 ไร่ ในปี 66

เมื่อไม่นานมานี้ นายวรพงษ์ นาคฉัตรีย์ ผู้อำนวยการสถาบันปลูกป่าและระบบนิเวศ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการพัฒนาพื้นที่ปลูก และบำรุงรักษา ปี 2566 ในพื้นที่แปลงปลูกป่า อำเภอสอง จังหวัดแพร่ จำนวน 8,000 ไร่ ระหว่าง ปตท. กับ วิสาหกิจชุมชนคนก้นต้อรักษ์ป่าแม่สอง ตำบลเตาปูน จำนวน 5,000 ไร่ และ วิสาหกิจชุมชนอนุรักษ์ส่งเสริมการปลูกป่า ตำบลห้วยหม้าย จำนวน 3,000 ไร่

โดยมี นายวิชัน ใจเขม็ง ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนคนก้นต้อรักษ์ป่าแม่สอง ต.เตาปูน อ.สอง จ.แพร่ นายชัยณรงค์ สุปินะ ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนอนุรักษ์ส่งเสริมการปลูกป่า ต.ห้วยหม้าย อ.สอง จ.แพร่ และนางเยาวลักษณ์ ชูโชติ ผู้จัดการฝ่ายปลูกป่าและบำรุงรักษาระบบนิเวศอย่างยั่งยืน ปตท. ร่วมลงนาม โดยมีนายศุภชัย บุญทิพย์ นายอำเภอสอง และนายสงคราม ขาวสะอาด ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 สาขาแพร่ กรมป่าไม้ และนายณัฐพล ทองไหล นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเตาปูน ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีดังกล่าว 

ทั้งนี้ วิสาหกิจชุมชนทั้ง 2 กลุ่ม จะดำเนินการปลูก ในปี พ.ศ. 2566 และจะร่วมกันบำรุงรักษาป่าอย่างต่อเนื่อง ในปี 2567 - 2575 รวมระยะเวลา 10 ปี

‘จีน’ มุ่งสร้างเสริมสุขภาพจิตที่ดีใน ‘กลุ่มเด็ก-วัยรุ่น’ ปกป้องเด็กจากภาวะวิตกกังวล - โรคซึมเศร้า

(12 ต.ค.66) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีน เปิดเผยว่าหน่วยงานภาครัฐและภาคสังคมของจีนดำเนินความพยายามร่วมกันเพื่อส่งเสริมสุขภาพจิตในหมู่เด็กและวัยรุ่นตลอดช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

อนึ่ง จีนเฉลิมฉลองวันสุขภาพจิตโลก (World Mental Health Day) ครั้งที่ 32 ซึ่งตรงกับเมื่อวันอังคาร (10 ต.ค.) ภายใต้หัวข้อ ‘การส่งเสริมสุขภาพจิตของเด็กและวัยรุ่น’

หลี่ต้าชวน เจ้าหน้าที่จากคณะกรรมการฯ กล่าวระหว่างงานแถลงข่าวที่จัดขึ้นเมื่อวันจันทร์ (9 ต.ค.) ระบุว่ากุญแจสำคัญในการทำงานที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพจิตของวัยรุ่น คือการให้ความสำคัญกับการป้องกันเป็นอันดับแรก และดำเนินการป้องกันและควบคุมในสังคมวงกว้าง อีกทั้งเน้นย้ำความสำคัญในการจัดให้งานดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งในบริการสังคม บริการสาธารณสุข และระบบประกันสังคม

ข้อมูลการสำรวจสุขภาพจิตที่ครอบคลุมวัยรุ่นมากกว่า 30,000 คน ซึ่งจัดทำโดยสถาบันจิตวิทยา สังกัดสถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์ของจีน ในปี 2022 พบว่าร้อยละ 14.8 ของผู้ตอบแบบสำรวจมีความเสี่ยงต่อภาวะซึมเศร้าในระดับต่าง ๆ โดยจำเป็นต้องมีการเข้าช่วยเหลือและการปรับเปลี่ยนที่มีประสิทธิภาพและทันเวลา

เจิ้งอี้ หัวหน้าผู้เชี่ยวชาญด้านจิตเวชเด็กจากโรงพยาบาลปักกิ่ง อันติ้ง สังกัดมหาวิทยาลัยการแพทย์นครหลวง ระบุว่าเด็กและวัยรุ่นอยู่ในช่วงที่มีการพัฒนาด้านสุขภาพจิตอย่างรวดเร็ว ภาวะทางจิตของพวกเขามีแนวโน้มได้รับผลกระทบจากปัจจัยทางชีวภาพ สภาพจิตใจ สังคม และสิ่งแวดล้อม

เย่ไห่เซิน นักจิตวิทยาคลินิกประจำโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในมณฑลหูหนานทางตอนกลางของจีน ระบุว่ากลุ่มคนรุ่นใหม่มีแนวโน้มมีอาการทางสุขภาพจิตเพิ่มมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยความผิดปกติทางจิต อาทิ ความวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้า พบได้เด่นชัดในเด็กและวัยรุ่น

คณะกรรมการฯ ดำเนินมาตรการหลายรายการเพื่อแก้ไขปัญหานี้ ซึ่งรวมถึงการออกแนวปฏิบัติส่งเสริมบริการด้านสุขภาพจิต โดยเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา คณะกรรมการฯ ร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ อีก 16 หน่วยงาน อาทิ กระทรวงศึกษาธิการ ออกแผนปฏิบัติการระยะเวลา 3 ปี เพื่อปรับปรุงงานที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพจิตของนักเรียน

แผนดังกล่าวกำหนดความรับผิดชอบของรัฐบาลระดับต่างๆ ในการสร้างเสริมสุขภาพจิตของเด็กและวัยรุ่น อีกทั้งเน้นย้ำการประสานงานระหว่างหน่วยงานและความพยายามร่วมกันระหว่างสถาบันทางการแพทย์ โรงเรียน และครอบครัว

ขณะเดียวกัน รัฐบาลกลางได้จัดสรรกองทุนพิเศษเพื่อสนับสนุนการป้องกันและการรักษาความผิดปกติทางจิตที่พบบ่อย พร้อมทั้งสนับสนุนโครงการนำร่องที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพจิต

หลี่กล่าวว่าการทดลองต่าง ๆ ถูกจัดขึ้นทั่วประเทศเพื่อเดินหน้าบริการด้านจิตวิทยาสาธารณะภายใต้การสนับสนุนของคณะกรรมการฯ โดยปัจจุบันหมู่บ้านและชุมชนร้อยละ 96 โรงเรียนประถมและมัธยมร้อยละ 95 ตลอดจนวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยทั้งหมดในพื้นที่นำร่องเหล่านี้ สามารถเข้าถึงบริการด้านจิตวิทยาสาธารณะได้แล้ว

อนึ่ง จีนยังทุ่มเทความพยายามอย่างต่อเนื่องในการเพิ่มการจัดสรรทรัพยากร การสนับสนุนทางการเงิน และการพัฒนาบุคลากรทั่วประเทศ เพื่อสร้างหลักประกันที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นสำหรับการส่งเสริมสุขภาพจิตของเด็กและวัยรุ่น

‘กองทุนดีอี’ หนุนทุกภาคส่วนร่วมต่อยอดเทคโนโลยี 5G เดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมด้วยดิจิทัลครบทุกมิติ

สดช. จัดเวทีสัมมนาเพื่อประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ (ร่าง) มาตรการส่งเสริมการลงทุนและการใช้ประโยชน์เทคโนโลยี 5G หวังนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้อย่างเต็มศักยภาพในทุกมิติ

เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2566 นายภุชพงค์ โนดไธสง เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นประธานเปิดงานสัมมนาเพื่อประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ (ร่าง) มาตรการส่งเสริมการลงทุนและการใช้ประโยชน์เทคโนโลยี 5G โดยมีนายธีรวุฒิ ธงภักดิ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พร้อมด้วยนางสาววรรณศิริ พัวศิริ ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนานโยบายดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) ตลอดจนผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน จำนวนกว่า 200 คน เข้าร่วม ณ โรงแรม PULLMAN BANGKOK KING POWER กรุงเทพฯ

นายภุชพงค์ โนดไธสง เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กล่าวว่า สดช. ได้ดำเนินโครงการจัดทำมาตรการส่งเสริมการลงทุนและการใช้ประโยชน์เทคโนโลยี 5G ซึ่งได้ทำการศึกษายุทธศาสตร์ชาติ นโยบายและแผนระดับชาติ แผนงาน มาตรการ โครงการ และแนวปฏิบัติที่ดีของต่างประเทศ รวมถึงข้อมูลด้านกฎหมาย กฎ ระเบียบ และรูปแบบแนวทางในการจัดทำมาตรการฯ โดยผลการดำเนินงานในปัจจุบัน สดช. ได้จัดทำ (ร่าง) มาตรการฯ และเอกสารคู่มือที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วยมาตรการ 3 กลุ่ม ได้แก่ มาตรการสนับสนุนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (Smart City) มาตรการสิทธิประโยชน์ทางภาษีอากร และมาตรการการเข้าถึงแหล่งเงินทุนสนับสนุน เพื่อกระตุ้นการขับเคลื่อนและผลักดันภาคส่วนที่เกี่ยวข้องสู่การปฏิบัติจริงที่จะก่อให้เกิดการลงทุนและการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี 5G อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงสร้างระบบนิเวศด้านการลงทุนให้พร้อมต่อการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี 5G ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทยต่อไป

“ทั้งนี้ สดช. ยังมีภารกิจสำคัญในการกำหนดทิศทางและวางยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมไทยด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล รวมทั้งเป็นแกนกลางในการส่งเสริม ประสาน และบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพื่อก่อให้เกิดการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้อย่างเต็มศักยภาพในทุกระดับและทุกมิติของภาคเศรษฐกิจและสังคมไทย โดยที่ผ่านมา สดช. ได้ดำเนินการจัดทำแผนปฏิบัติการว่าด้วยการส่งเสริมการใช้ประโยชน์เทคโนโลยี 5G ของประเทศไทย ระยะที่ 1 ที่ได้สิ้นสุดไปในปีที่ผ่านมา และปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินการจัดทำแผนปฏิบัติการดังกล่าว ระยะที่ 2 (พ.ศ. 2566 - 2570) ซึ่งประกอบด้วย 4 ยุทธศาสตร์ ได้แก่ ยุทธศาสตร์ที่ 1 ส่งเสริมการพัฒนาโครงข่าย 5G ประสิทธิภาพสูง ยุทธศาสตร์ที่ 2 ขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลผ่านเทคโนโลยี 5G ยุทธศาสตร์ที่ 3 สร้างสังคมคุณภาพด้วยเทคโนโลยี 5G และยุทธศาสตร์ที่ 4 พัฒนาระบบนิเวศให้พร้อมต่อการใช้ประโยชน์เทคโนโลยี 5G สำหรับการจัดทำมาตรการส่งเสริมการลงทุนและการใช้ประโยชน์เทคโนโลยี 5G เป็นการดำเนินการที่สอดคล้องและสนับสนุนยุทธศาสตร์ทั้ง 4 ยุทธศาสตร์ของแผนปฏิบัติการว่าด้วยการส่งเสริมการใช้ประโยชน์เทคโนโลยี 5G ของประเทศไทย รวมถึงสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ที่ 1 พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลประสิทธิภาพสูงให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ภายใต้นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พ.ศ. 2561-2580 ฉบับทบทวน โดยมีตัวชี้วัดในภาพรวม 3 ตัวชี้วัด ได้แก่ มูลค่าเพิ่มของเศรษฐกิจดิจิทัลมีสัดส่วนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (Digital Contribution to GDP) ปี พ.ศ. 2570 ไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 ขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศใน World Digital Competitiveness Ranking ปี พ.ศ. 2570 อยู่ใน 30 อันดับแรกของโลก หรืออยู่ใน 3 อันดับแรกของอาเซียน และสถานภาพการเข้าใจดิจิทัล (Digital Literacy: DL) ของประชาชนคนไทยมากกว่า 80 คะแนน ในปี พ.ศ. 2570” นายภุชพงค์ฯ กล่าวเพิ่มเติม

ด้านนางสาวสิริกาญจน์ สุขผล ผู้อํานวยการกลุ่มบริหารกองทุน ได้กล่าวถึงบทบาทของกองทุนฯ บนเวทีเสวนา "การส่งเสริมการลงทุนและการใช้ประโยชน์เทคโนโลยี5G" ว่า กองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมหรือกองทุนดี มีหน้าที่ส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาด้านดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ซึ่งอยู่ภายใต้นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยการพัฒนาดิจิทัล โดยการจัดสรรเงินทุนสนับสนุนในแต่ละปีนั้น จะขึ้นอยู่กับงบประมาณที่กองทุนดีอีได้รับมากจาก กสทช. 

ทั้งนี้ ทางกองทุนดีอี จะจัดสรรเงินทุนสนับสนุนอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง โดยแบ่งเป็น 2 ด้าน ส่วนแรก เป็นการสนับสนุนด้านการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ส่วนที่สอง เป็นการสนับสนุนด้านการวิจัย โดยโครงการที่จะนำเสนอเข้ามานั้น ทางกองทุนฯ อยากให้คำนึงถึงโครงการที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อประโยชน์ในเชิงสาธารณะ 

“การนำเสนอโครงการที่ต้องทุนสนับสนุน เพื่อการจะพัฒนาขึ้นนั้น จะต้องส่งผลประโยชน์ต่อมุมกว้าง มีการให้บริการประชาชนในหลากหลายรูปแบบ ยกตัวอย่างกลุ่มคนที่ด้อยโอกาสหรืออยู่ในพื้นที่ห่างไกล อาจจะเป็นผู้ที่ได้รับประโยชน์มากขึ้น ซึ่งเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของกองทุนฯ ขณะเดียวกันในส่วนของการวิจัยนั้น จะเน้นไปที่โครงการที่ทำการวิจัยด้วยเทคโนโลยีรูปแบบใหม่ ๆ เช่นการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี 5G โดยทางกองทุนฯ เปิดกว้างให้กับทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานภาครัฐภาคเอกชน หรือกลุ่มบุคคลทั่วไป สามารถจะเสนอขอรับทุนได้ โดยเฉพาะการใช้เทคโนโลยี 5G ไปต่อยอดประยุกต์ใช้กับบริการด้านสาธารณสุข ด้านการศึกษาการ การพัฒนากำลังคนดิจิทัล และพัฒนาเมืองปลอดภัยน่าอยู่ หรือ สมาร์ทซิตี้ ซึ่งหน่วยงานที่มีโครงการอยู่ในมือ ต้องการจะพัฒนาขึ้น แต่ยังขาดเงินทุนสนับสนุน ก็สามารถนำเสนอโครงการเข้ามาได้ที่กองทุนฯ ซึ่งจะเปิดรับในช่วงต้นปี ประมาณเดือนมกราคม - กุมภาพันธ์ ของแต่ละปี” นางสาวสิริกาญจน์ กล่าว

‘โรงเรียนเทศบาลเมืองสุโขทัย’ ส่งเสริมทักษะนอกห้องเรียน สอนนักเรียนเพาะเห็ดนางฟ้า นำมาทำอาหาร-ส่งขายสร้างรายได้

เมื่อวันที่ 10 ต.ค. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่โรงเรียนเทศบาลเมืองสุโขทัย อำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย ครูและนักเรียนได้ร่วมกันเพาะเห็ดนางฟ้า เพื่อเสริมทักษะการเรียนรู้และนำเห็ดมาปรุงเมนูอาหารกลางวัน พร้อมจำหน่ายขายส่งให้กับแม่ค้าในตลาดสดเพื่อเป็นการสร้างรายได้

นางสุรารีวรรณ มั่นยวน รองผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาลเมืองสุโขทัย เปิดเผยว่า โรงเรียนเทศบาลเมืองสุโขทัยได้รับการสนับสนุนจากเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี ดำเนินโครงการสร้างแหล่งเรียนรู้ภายในโรงเรียน โดยเพาะเห็ดนางฟ้าเพื่อเป็นการฝึกอาชีพและเสริมทักษะการเรียนรู้ให้กับนักเรียน รวมทั้งนำเห็ดมาปรุงเมนูอาหารกลางวัน เช่น แกงหมูฟักทองใส่เห็ดนางฟ้า ต้มข่าไก่ หรือจะใส่ต้มยำ ผัดน้ำมันหอย ชุบแป้งทอดกรอบก็อร่อย

นอกจากนี้ ยังแบ่งจำหน่ายขายส่งให้กับแม่ค้าในตลาดสด ราคากิโลกรัมละ 70 บาท บางทีครูในโรงเรียนก็พากันเหมาซื้อหมด เพราะกินอร่อย แถมออกดอกสวยงาม โดยรายได้ส่วนหนึ่งจะนำไปซื้อก้อนเชื้อเห็ด เตรียมขยายโรงเรือนเพิ่มขึ้นด้วย

ทั้งนี้ เห็ดนางฟ้าจะเพาะประมาณ 25-30 วัน ก็สามารถเก็บผลผลิตได้แล้ว โดยก้อนเห็ด 1 ก้อน ให้ผลผลิต 12-15 รุ่น ครั้งละ 3-4 ขีด และจะหมดอายุ เมื่อมีอายุ 3-4 เดือน

‘สสวท.’ เปิดรับสมัครนักเรียนทุน ‘พสวท.’ ชั้น ม.6 ปีการศึกษา 66 ส่งเสริมผู้มีศักยภาพ ‘วิทย์-คณิต-เทคโนฯ’ สู่ความเป็นเลิศแห่งอนาคต

📢📢 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) กระทรวงศึกษาธิการ เป็นหน่วยงานของรัฐฯ ซึ่งมีพันธกิจหลักในการพัฒนา และส่งเสริมผู้มีความสามารถพิเศษทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และเทคโนโลยี

เปิดรับสมัครนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2566
✅ ที่กำลังศึกษาด้วยทุนพัฒนาและส่งเสริมผู้มีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (พสวท.)
✅ นักเรียนในโครงการห้องเรียน พสวท. (สู่ความเป็นเลิศ)
✅ และนักเรียนที่มีศักยภาพสูงในด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ในสถานศึกษาทั่วประเทศ

📨เพื่อคัดเลือกเข้าเป็นนักเรียนทุนพัฒนาและส่งเสริมผู้มีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (พสวท.) ระดับอุดมศึกษาในประเทศ ประจำปีการศึกษา 2567 เข้าศึกษาระดับปริญญาตรี ในคณะวิทยาศาสตร์ หรือ ‘สำนักวิชาวิทยาศาสตร์’ ณ มหาวิทยาลัยศูนย์ พสวท. ทั้ง 10 แห่ง จำนวนไม่เกิน 60 ทุน

📍 สามารถสมัครเพื่อรับทุน พสวท. ระดับอุดมศึกษาในประเทศ ประจำปีการศึกษา 2567 ผ่านระบบ TCAS67‼️ และเข้ารับการคัดเลือกตามประกาศ และวันเดือนปี ที่มหาวิทยาลัยที่เป็นศูนย์ พสวท. ทั้ง 10 แห่งกำหนด

สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ ดังนี้
👉คณะวิทยาศาสตร์  จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย http://www.admissions.chula.ac.th
👉คณะวิทยาศาสตร์  มหาวิทยาลัยมหิดล https://tcas.mahidol.ac.th
👉คณะวิทยาศาสตร์  มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ https://admission.ku.ac.th
👉คณะวิทยาศาสตร์  มหาวิทยาลัยศิลปากร https://admission.su.ac.th/
👉คณะวิทยาศาสตร์  มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ https://admission.reg.cmu.ac.th/apply.php
👉คณะวิทยาศาสตร์  มหาวิทยาลัยนเรศวร https://www.admission.nu.ac.th
👉คณะวิทยาศาสตร์  มหาวิทยาลัยขอนแก่น https://admissions.kku.ac.th
👉สำนักวิชาวิทยาศาสตร์  มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี http://sutgateway.sut.ac.th/admissions
👉คณะวิทยาศาสตร์  มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ https://www.sci.psu.ac.th/news/category/admission
👉สำนักวิชาวิทยาศาสตร์  มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ https://entry.wu.ac.th
👉สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี http://dpst.ipst.ac.th/

หรือโทรศัพท์ 02-3924021 ต่อ 3255, 3257


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STUDY TIMES
Take Me Top