Thursday, 28 March 2024
NEWS

'น้องไพน์' นักเทนนิสวัย 13 ปี ขึ้นแท่นมือ 1 เยาวชนเอเชีย เตรียมร่วมแข่งขันเทนนิสเยาวชน ออสเตรเลียน โอเพ่น 2024

(3 ม.ค.67) เพจ สมาคมกีฬาลอนเทนนิสแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ – LTAT ได้โพสต์ข้อความชื่นชม ‘น้องไพน์’ ธรรม์ พันธราธร นักเทนนิสเยาวชนไทย วัย 13 ปี หลังผงาดก้าวขึ้นแท่นมือ 1 เยาวชนเอเชีย โดยระบุว่า…

คนแรกของไทย ‘ธรรม์’ มือ 1 เอเชียรุ่นอายุไม่เกิน 14 ปี เอทีเอฟตีตั๋วให้ลุยศึกเยาวชน ‘ออสเตรเลียน โอเพ่น’

‘ไพน์’ ธรรม์ พันธราธร นักเทนนิสเยาวชนไทย วัย 13 ปี ผงาดก้าวขึ้นแท่นมือ 1 เยาวชนเอเชีย ในรุ่นอายุไม่เกิน 14 ปี หลังสหพันธ์เทนนิสแห่งเอเชีย (เอทีเอฟ) ได้ปรับอันดับเยาวชนเอเชียล่าสุด เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2567 จากคะแนนสะสมรวมที่ 5906.50 คะแนน ดีที่สุดในขณะนี้ โดยมี ทาวิช พาห์วา จากอินเดีย อยู่อันดับ 2 มี 4785.00 คะแนน และ ที่ 3 คิม ดอง แจ จากเกาหลีใต้ 4093.00 คะแนน 

ด้านนักเทนนิสหญิง รุ่นอายุไม่เกิน 14 ปี 3 อันดับแรกเป็นนักเทนนิสจากเกาหลีใต้ โดยมือ 1 เยาวชนเอเชีย คือ ฮง เยรี 5891.00 คะแนน, ที่ 2.ซิม ซีฮยอน 4539.50 คะแนน และที่ 3.โฮ จียุน 3887.50 คะแนน ขณะที่  ‘ไอซ์’ ปวีณอร นวลศรี นักเทนนิสเยาวชนไทย อยู่อันดับที่ 6 มี 2483.00 คะแนน

สำหรับ ‘ไพน์’ ธรรม์ พันธราธร ปัจจุบันมีอันดับเยาวชนโลก ไอทีเอฟ จูเนียร์ แรงกิ้ง อยู่ที่ 1211 ของโลก ส่วนผลงานในปี 2566 ที่ผ่านมา ได้เข้าร่วมเป็นตัวแทนนักเทนนิสเยาวชนทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 14 ปี ลงแข่งขัน เทนนิสเยาวชนชิงแชมป์โลก ประเภททีม รุ่นอายุไม่เกิน 14 ปี ‘2023 ไอทีเอฟ เวิลด์ เทนนิส จูเนียร์ ทีม คอมเพทติชั่นส์’ คัดเลือกตัวแทนโซนเอเชีย/โอเชียเนีย ที่เมืองกูชิง รัฐซาราวัก ประเทศมาเลเซีย และได้เข้าร่วมเป็นตัวแทนนักเทนนิสเยาวชนทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 14 ปี ลงแข่งขันเทนนิสเยาวชนชิงแชมป์เอเชีย ประเภทบุคคล รายการ ITF Asia 14 & Under Development Championships 2023 Finals ที่เมืองโอฑิศา ประเทศอินเดีย ผลงานได้รางวัล รองชนะเลิศอันดับ 1 ประเภทชายคู่ 

ส่วนผลงานการแข่งขันรายการสะสมคะแนนเยาวชนเอเชีย ธรรม์ สามารถคว้าแชมป์ เดี่ยว และ คู่ เทนนิสเยาวชน รุ่นอายุไม่เกิน 14 ปี เก็บคะแนนสะสมเอเชีย เกรด2 ‘แอลทีเอที เอเชี่ยน โฟร์ทีน แอนด์ อันเดอร์ 2023’ ครั้งที่ 3 ไทย จากนั้นอีก 1 สัปดาห์ ธรรม์ สามารถคว้าแชมป์ชายเดี่ยว และรองแชมป์ชายคู่ ในการแข่งขันเทนนิสเยาวชน รุ่นอายุไม่เกิน 14 ปี เก็บคะแนนสะสมเอเชีย เกรด2 "แอลทีเอที เอเชี่ยน โฟร์ทีน แอนด์ อันเดอร์ 2023" ครั้งที่ 4 ได้อีก

สำหรับ ธรรม์ ถือเป็นนักเทนนิสเยาวชนรุ่นอายุไม่เกิน 14 ปีคนแรกของไทย ที่สามารถก้าวขึ้นรั้งตำแหน่งมือ 1 เยาวชนเอเชียจากการจัดอันดับของสหพันธ์เทนนิสแห่งเอเชีย(เอทีเอฟ) 

จากการขึ้นอันดับ 1 เยาวชนเอเชียในครั้งนี้ ส่งผลให้ ธรรม์ ยังได้รับการคัดเลือกจากเอทีเอฟไปเข้าร่วมการแข่งขันเทนนิสเยาวชน ออสเตรเลียนโอเพ่ น 2024 รุ่นอายุไม่เกิน14 ปี ซึ่งแข่งที่เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลียเดือนมกราคมนี้อีกด้วย

‘เยาวชน SEED Thailand ภาคใต้’ ร่วมแรงร่วมใจแพ็กถุงยังชีพ พร้อมลงพื้นที่นำแจกจ่ายแก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วม ในชายแดนใต้

เนื่องจากสถานการณ์มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ทำมีสถานการณ์น้ำท่วมใน 5 จังหวัด ได้แก่ สตูล, สงขลา, ปัตตานี, ยะลา และนราธิวาส ทำให้มีอาคารบ้านเรือนพี่น้องชาวใต้ ได้รับความเสียหาย ส่งผลกระทบและเดือดร้อนหลายหลัง ประชาชนในบางพื้นที่ในประกาศก็ต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์น้ำท่วมอย่างรุนแรง โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดยะลาและนราธิวาส ที่ฝนตกหนักต่อเนื่องมาหลายวัน จนชาวบ้านในจังหวัดนราธิวาสถึงกับบอกว่า “น้ำท่วมครั้งนี้ ถือเป็นครั้งที่หนักที่สุดในรอบ 50 ปี”

น้ำท่วมหนักในครั้งนี้ ส่งผลให้ถนนสายหลักในพื้นที่จังหวัดนราธิวาสถูกตัดขาดหลายจุด ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นจนท่วมมิดหลังคาบ้านในหลายพื้นที่ ขณะที่ประชาชนหลายหมื่นคนได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมหนักครั้งนี้ ประชาชนบางส่วนไม่สามารถออกจากบ้านได้ และติดอยู่บนชั้น 2 หรือบนหลังคาบ้าน นอกจากนี้ โรงเรียนหลายแห่งต้องประกาศหยุดการเรียนการสอน

โดยในวันนี้ (29 ธ.ค. 66) ‘เยาวชน SEED Thailand’ ได้ร่วมแพ็กถุงยังชีพ และนำไปแจกจ่ายให้ประชาชนในพื้นที่ต่าง ๆ ในโครงการ ‘ไทยรวมใจ’ โดยมูลนิธินักศึกษาสถาบันพระปกเกล้าเพื่อสังคม และเครือข่ายเยาวชน SEED Thailand ขอเชิญชวนให้ทุกคนร่วมส่งกำลังใจให้ผ่านวิกฤตครั้งนี้โดยเร็ว

📍ท่านที่มีความประสงค์จะร่วมบริจาคเงินสนับสนุน สามารถบริจาคได้ที่บัญชี มูลนิธินักศึกษาสถาบันพระปกเกล้าเพื่อสังคม ธนาคารไทยพาณิชย์ หมายเลขบัญชี 405-523655-3 และส่งหลักฐานการบริจาคได้ที่ Line : @946scqgt

‘นายกฯ’ มอบคำขวัญ ‘วันเด็กแห่งชาติ’ ประจำปี 67 เน้นย้ำ!! ประชาธิปไตย-มองโลกกว้าง-เคารพความแตกต่าง

(28 ธ.ค.66) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ทวีตข้อความผ่าน X มอบคำขวัญวันเด็กแห่งชาติ ปี 2567 ว่า “มองโลกกว้าง คิดสร้างสรรค์ เคารพความแตกต่าง ร่วมกันสร้างประชาธิปไตย”

เด็กไทยเก่ง มีศักยภาพ มีความคิดดี และทันสมัย หน้าที่ของรัฐบาลคือการสนับสนุนให้เด็กไทยเติบโตอย่างมีคุณภาพ มีศักดิ์ศรี มีความภูมิใจในตัวเอง

ผมอยากให้เด็กไทย Enjoy กับการใช้ชีวิตในวัยเด็ก แต่ขณะเดียวกันก็มีโลกทัศน์ที่กว้าง มีความเป็นไทยพร้อม ๆ กับมีความเป็นสากล เป็นพลเมืองของโลกที่สามารถเคารพความแตกต่างหลากหลายได้ เพื่อร่วมกันสร้างสังคมประชาธิปไตยที่เข้มแข็งต่อไป

ตัวผมเองในฐานะผู้นำประเทศจะพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้เด็กไทยทุกคน ได้เติบโตขึ้นมาในประเทศที่งดงาม มีความสุข และมีโอกาสสำหรับอนาคตของทุกคน

‘ศธ.’ ประกาศผลการคัดเลือกเด็กและเยาวชนดีเด่น ที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ ประจำปี 2567

(22 ธ.ค. 66) กระทรวงศึกษาธิการได้เปิดเผยว่า…ตามที่กระทรวงศึกษาธิการได้มอบหมายให้ส่วนราชการและหน่วยงานต่าง ๆ ดำเนินการ พิจารณาคัดเลือกเด็กและเยาวชนดีเด่น เด็กและเยาวชนที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ ประจำปี 2567 ตามโครงการจัดงานฉลองวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2567 นั้น 

บัดนี้ ส่วนราชการและหน่วยงานต่าง ๆ ได้พิจารณาคัดเลือกเด็กและเยาวชนดีเด่น เด็กและเยาวชนที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ ประจำปี 2567 เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว จึงประกาศ รายชื่อเด็กและเยาวชนดีเด่น เด็กและเยาวชนที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ ประจำปี 2567 ที่ได้รับ การคัดเลือกให้เข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรี เนื่องในงานฉลองวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2567 สามารถตรวจสอบรายชื่อได้ที่ https://www.moe.go.th/เด็กและเยาวชน2567/

และสำหรับเด็กและเยาวชนที่ได้รับการคัดเลือกตามประกาศฯ จะได้รับการเข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรี ในวันพุธที่ 10 มกราคม 2567 ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล เด็กและเยาวชนที่ได้รับการคัดเลือกตอบรับการเข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรี โดยเข้าร่วมทาง Openchat ผ่าน QR - Code Line ภายในวันที่ 29 ธันวาคม 2566

‘ดร.เอ้ สุชัชวีร์’ แชร์ 9 เคล็ด (ไม่) ลับ สอนให้ลูกรัก คณิตศาสตร์

ไม่นานมานี้ ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. พรรคประชาธิปัตย์ อดีตนายกสภาวิศวกร และอดีตนายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ได้เผยเคล็ดไม่ลับในการสอนคณิตศาสตร์ ให้เด็กๆ รุ่นใหม่ ได้ตระหนักถึงคุณค่าที่ควรโฟกัส และไม่มองว่าเป็นเรื่องยากจนไม่อยากจะเรียนรู้ ไว้ว่า...

คณิตศาสตร์ คือ รากฐานของทุกสาขา ทั้งวิทย์ สังคม ภาษา ล้วนมาจากหลักทางคณิตศาสตร์ทั้งสิ้น ชนชาติใดเก่งคณิตศาสตร์ ย่อมได้เปรียบ ย่อมเป็นผู้ชนะ มีความแข็งแกร่ง ทรงพลานุภาพ ทางทหาร เศรษฐกิจ สังคม และอารยธรรม

ดร.เอ้ ได้ยกตัวอย่าง การสอนอิชิบอย ลูกวัย 5 ขวบ ให้รักคณิตศาสตร์ และสามารถถอดสแควรูท คูณเลข ยกกำลัง เข้าใจทศนิยม ได้อย่างมหัศจรรย์ โดยไม่ต้องยัดเยียดหรือบังคับเลยแม้แต่น้อย

แถมลูกยังมีความสุขอย่างมาก ที่ได้คำนวนเลข และยังสร้างสายสัมพันธ์ระหว่างลูกกับพ่อแม่ได้อย่างแนบแน่น

โดย ดร.เอ้ ได้เผย 9 ข้อ จากประสบการณ์ส่วนตัว ที่คุณพ่อคุณแม่ สามารถลองนำไปปรับใช้ได้ตามความเหมาะสม ดังนี้...

1. เริ่มสอนจาก ‘การนับเลข’ นับนิ้ว นับคน นับของ นับต้นไม้ ธรรมชาติรอบตัว สอนนับเลขให้เร็วที่สุด ไม่ต้องรอให้ลูกพูดได้ทุกคำ นับบ่อยๆ นับทุกวัน เจออะไรให้นับ แม้จะง่าย แต่ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญที่สุด

2. เริ่ม ‘บวก’ และ ‘ลบ’ ใช้นิ้วมือ ง่ายที่สุด ตามด้วยใช้การ ‘ขีด’ หากมีกระดานดำเล็กๆ ราคาถูก คุ้มค่ามาก มีตั้งแต่ไม่ถึงร้อยบาท ไม่ต้องซื้อของแพง

3. สอนให้ลูก ‘มองเห็นภาพ’ คือ จุดเริ่มต้นของการคิดเลขในใจ เด็กทำได้ทุกคน ขอให้สม่ำเสมอ ทุกวันๆ การมองภาพ พ่อแม่จะวาดเอง หรือ มีสื่อการสอนมากมาย ช่วยพัฒนาทั้งความจำ และตรรกะ

4. อย่ารีบให้ลูกใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ให้เริ่มจากดินสอ-กระดาษ ชอล์ก-กระดานดำ ให้ลูกใช้นิ้ว ให้มือ ให้มากที่สุด ไม่ต้องกังวลเรื่องความสวยงาม 

5. Youtube มีประโยชน์ หากใช้ภายใต้การดูแลของพ่อแม่ ขอยอมรับว่าเนื้อหาสอนคณิตศาสตร์จาก Youtube ดีมาก สนุก ได้ทั้งความรู้ ได้ทั้งภาษา

6. พ่อแม่ต้องมีส่วนร่วม ตั้งแต่การนับเลข คำนวณ พร้อมกับลูกทุกวัน เพราะครูที่ดีที่สุดในโลก คือ ‘พ่อแม่’ ไม่เสียเวลาอะไรมาก ใช้เวลาคิดเลขด้วยกันไม่กี่นาที แต่มันเปลี่ยนอนาคตลูกได้เลย

7. หมั่นสร้างโจทย์ สร้าง ‘ความท้าทาย’ ให้กับลูก เสมือนเกม ที่ต้องเล่น ต้องผ่านไปให้ได้ เริ่มต้นจากง่าย ให้ลูกภูมิใจ จนถึงยาก ให้ต้องคิด ต้องมุ่งมั่น เพื่อแก้โจทย์ให้สำเร็จ

8. ‘คำชม’ และ ‘กำลังใจ’ คือ พลังวิเศษ สร้างอนาคตลูก เมื่อลูกทำโจทย์ง่ายๆ สำเร็จ ทั้งส่งเสริมให้ลูกกล้าฝัน และตั้งเป้าหมายชีวิตให้สูง เช่น อยากเป็นนักบินอวกาศ อยากไปดาวพฤหัส อยากเป็นโน่นนี่ แต่พ่อแม่ต้องอย่าขัดคอ ถึงแม้ว่าเราจะรู้ว่า มันยากมาก แต่ใครจะรู้ มันอาจเป็นจริงก็ได้ และอย่าลืมบอกลูกว่า ‘จะไปถึงเป้าหมายได้ อันดับแรก คือ การตั้งใจเรียนรู้’ จากนั้นลูกจะมุ่งมั่น เรียนรู้ด้วยตนเอง โดยไม่ต้องบังคับเลย

9. ให้ลูกคิดว่า ‘ความผิดพลาด’ เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ไม่มีใครทำถูกไปทุกเรื่อง เขาจะกล้าคำนวณ ทำโจทย์ยากขึ้นอย่างมหัศจรรย์ ไม่กลัวจะตอบผิด ถือเป็นการเรียนรู้ชีวิตไปด้วย

ดร.เอ้ ยังบอกอีกว่า จากประสบการณ์ส่วนตัว ในฐานะพ่อที่มีลูกเล็ก ไม่มีถูกผิดในทุกๆ การเรียนรู้ แต่ขอให้คุณพ่อคุณแม่ให้ ‘เวลาที่มีคุณภาพ’ บวกกับ ‘ความอบอุ่นจากการกอด’ ให้มากๆ ตรงนี้จะสร้างลูก สร้างบุคลากรที่มีความมหัศจรรย์ ให้แก่สังคมได้ในอนาคตแน่นอน

‘นายกรัฐมนตรี’ ร่วมเปิดงาน 45 ปี ปตท. ขอบคุณทุกภาคส่วน สนับสนุนพันธกิจสร้างความมั่นคงทางพลังงานเพื่อคนไทย

เมื่อไม่นานมานี้ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) จัดงานขอบคุณคนไทยแบบคาร์บอนนิวทรัล อีเวนต์ (Carbon Neutral Event) ปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากงานเท่ากับศูนย์ โดยใช้คาร์บอนเครดิตจากการปลูกป่ามาชดเชยในการฉลองสู่ปีที่ 45 นับตั้งแต่ก่อตั้ง การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย เป็นรัฐวิสาหกิจเมื่อปี พ.ศ. 2521 เดินหน้าสู่การจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เป็น บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ในปี พ.ศ. 2544 จากการสนับสนุนของคนไทยทุกคน ผนวกกับความทุ่มเทของผู้บริหารและพนักงานจากรุ่นสู่รุ่น พิสูจน์ได้ถึงการมุ่งสร้างความมั่นคงทางพลังงาน พร้อมฝ่าทุกวิกฤตและร่วมดูแลสังคมไทยตลอดมา

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงาน ‘PTT 45th Anniversary’ Ignite Life Potential งานเลี้ยงรับรองขอบคุณผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน เนื่องในวาระครบรอบ 45 ปี บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) โดยมี ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน และประธานกรรมการ ปตท. นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. พร้อมคณะผู้บริหารและพนักงาน ปตท. ร่วมต้อนรับแขกผู้มีเกียรติที่มีส่วนสนับสนุน ปตท. มาโดยตลอด ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ

นายเศรษฐา กล่าวว่า ปตท. เป็นบริษัทด้านพลังงานรายใหญ่ที่อยู่คู่สังคมไทยอย่างยาวนาน เป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนให้ประเทศก้าวพ้นวิกฤตการณ์ด้านพลังงานเสมอมา และมีส่วนร่วมผลักดันด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เกี่ยวข้อง เป็นการช่วยยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ควบคู่ไปกับการให้ความสำคัญผ่านโครงการดี ๆ เพื่อพัฒนาสังคมและพัฒนาคุณภาพชีวิตของพี่น้องชาวไทย วันนี้เป็นโอกาสอันดียิ่งที่ได้แสดงความยินดีกับ ปตท. ให้กิจการมีความก้าวหน้าและประสบความสำเร็จ เพื่อเป็นพลังของประเทศต่อไป

นายอรรถพล เปิดเผยว่า การก้าวสู่ปีที่ 45 ในปี พ.ศ. 2566 ของ ปตท. อาจเปรียบเทียบได้กับวัยกลางคนที่ผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านประสบการณ์ชีวิตมากพอที่จะเรียนรู้จากอดีตและมองถึงอนาคต มีความรับผิดชอบ และทำหน้าที่เป็นผู้สนับสนุนเคียงข้างกับคนทุกวัย ซึ่งกิจกรรมวาระพิเศษในวันนี้ จัดขึ้นเพื่อแสดงความขอบคุณผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเสมือนตัวแทนของประชาชนทุกภาคส่วน ที่สนับสนุนการเติบโตของ ปตท. มาตลอด ในฐานะบริษัทพลังงานของคนไทย ที่มีภารกิจในการสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศ พร้อมสร้างการเติบโตอย่างสมดุลและยั่งยืนแก่สังคม

“ตลอด 45 ปีของการเติบโตจนถึงวันนี้ ปตท. ขอให้ความเชื่อมั่นว่าจะไม่หยุดพัฒนา และยังคงมุ่งมั่นขยายธุรกิจพลังงานแห่งอนาคต และธุรกิจใหม่ที่ไกลกว่าพลังงาน พร้อมกับการแสวงหาโอกาสใหม่ ๆ เพื่อให้ ปตท. สามารถเติบโตในระยะยาวคู่กับประเทศไทยได้อย่างมั่นคง ตามวิสัยทัศน์ ‘Powering Life with Future Energy and Beyond ขับเคลื่อนทุกชีวิตด้วยพลังแห่งอนาคต’ พร้อมเป็นกำลังสำคัญ ยกระดับอุตสาหกรรมใหม่ และขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ตลอดจนยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีให้คนไทย เพื่อให้ ปตท. เป็นองค์กรแห่งความภาคภูมิใจของคนไทยตลอดไป” นายอรรถพล กล่าว

ภายในงานได้มีการจัดนิทรรศการผลงานของ ปตท. อาทิ การพัฒนาธุรกิจก๊าซธรรมชาติ การพัฒนาธุรกิจน้ำมันจนถึง PTT Life Station การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของไทย การพัฒนา EV Ecosystem โครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติฯ และการพัฒนาพื้นที่วังจันทร์วัลเลย์ นอกจากนี้ยังมีการถ่ายทอดความผูกพันระหว่าง ปตท. และคนไทย ในรูปแบบละครเวที และปิดท้ายด้วยบทเพลงพิเศษในวาระ 45 ปี ปตท. ‘เธอคือพลังของฉัน’ ขับร้องโดยศิลปินระดับประเทศอย่าง เบิร์ด-ธงไชย อิ้งค์-วรันธร ที่สื่อสารมาตลอดปี 2566 เพื่อแสดงความขอบคุณคนไทยในโอกาสนี้

อนึ่งการจัดงานในครั้งนี้ได้จัดขึ้นในรูปแบบการจัดงานแบบ Carbon Neutral Event หรืองานปลอดคาร์บอน ซึ่งได้รับการรับรองจากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) โดยใช้คาร์บอนเครดิต (Carbon Credit) จากกิจกรรมการปลูกป่าของ ปตท. มาชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากกิจกรรมในการจัดงาน ให้มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากงานเท่ากับศูนย์ จึงมั่นใจได้ว่าการจัดงานครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตามเป้าหมายในแนวทางการดำเนินงาน PTT NET ZERO EMISSIONS ภายในปี ค.ศ. 2050

‘เยอรมัน’ ขาดแคลน ‘ครู’ อย่างหนัก จนต้องลดคลาส ทำ นร.เกรดร่วง หลังคนหนุ่ม-สาวหันเมินอาชีพนี้ เหตุค่าตอบแทนต่ำ สวนทางภาระงาน

‘นักการศึกษาเยอรมัน’ จี้!! รัฐบาลแก้ปัญหาขาดแคลนครูอย่างหนักทั่วประเทศด่วน โดยชี้ข้อมูลจากผลสอบวิชาคณิตศาสตร์, วิทยาศาสตร์ และการอ่านของนักเรียนระดับเกรด 9 ในเยอรมันร่วงลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเป็นผลมาจากการขาดครูในโรงเรียน

‘รีเบคก้า’ ครูโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในฮัมบูร์ก ผู้มีประสบการณ์สอนในวิชาภาษาอังกฤษ และ ประวัติศาสตร์มานานกว่า 30 ปี เปิดเผยข้อมูลผ่านสื่อเยอรมันว่า โดยทั่วไปแล้ว วิชาภาษาเยอรมัน, อังกฤษ และ คณิตศาสตร์ ถือเป็นวิชาหลักที่ต้องเน้นเป็นอันดับแรก แต่เมื่อครูขาดแคลน ทำให้โรงเรียนจำเป็นต้องงดคลาสวิชาอื่นๆ เพื่อเทครูมาสอนวิชาหลักก่อน ซึ่งหลายครั้งที่ชั้นเรียนวิชาประวัติศาสตร์ของเธอต้องถูกยกเลิกไปเป็นเดือนก็มี

โดย ครูรีเบคก้า เล่าว่า ปัญหาการขาดแคลนครูมีมานานแล้ว แม้ว่าทางโรงเรียนพยายามประกาศรับสมัครครูมาตลอด แต่ก็ยังได้จำนวนครูมาไม่พอ และยังทำให้ครูที่ยังเหลืออยู่ต้องแบกรับภาระการสอนที่เพิ่มมากขึ้นจนป่วยจากการทำงานหนัก

ปัญหานี้ ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะที่โรงเรียนของครูรีเบคก้า แต่เป็นปัญหาของโรงเรียนทั่วเยอรมัน จนหลายโรงเรียนต้องลดทอนหลักสูตรให้สั้นลง บางโรงเรียนเปิดการสอนได้แค่ 4 วันต่อสัปดาห์ ที่ไม่ใช่เหตุผลเรื่อง Work life balance แต่เพราะไม่มีครูมาสอน

สื่อเยอรมันชี้ว่า โรงเรียนในเยอรมันอาจขาดแคลนครูหลายหมื่นตำแหน่ง และเนื่องจากการกำหนดรูปแบบหลักสูตร และสวัสดิการครู อยู่ในอำนาจของรัฐบาลท้องถิ่นในแต่ละ 16 แคว้น ที่มีความแตกต่างหลากหลาย ก็ยิ่งทำให้การจัดการหาผู้สอนมีความยากขึ้นไปอีก

ด้านรัฐมนตรีศึกษาธิการของรัฐบาลกลาง และหน่วยงานของแต่ละแคว้น พยายามหาแนวทางร่วมกันในการแก้ปัญหา ซึ่งได้ประเมินว่าทั่วประเทศน่าจะขาดแคลนครูอยู่ประมาณ 14,000 ตำแหน่ง

แต่ทว่า นักเศรษฐศาสตร์, นักวิชาการด้านการศึกษา และ กลุ่มสหภาพแรงงานครูออกมาค้านว่ารัฐบาลประเมินตัวเลขต่ำเกินไป ไม่สะท้อนปัญหาที่เกิดขึ้นจริงทั้งในปัจจุบัน และ อนาคต

หากประเมินจากตัวเลขนักเรียนในโรงเรียนของปีนี้ (2023) ที่มีอยู่ประมาณ 830,000 คน บางส่วนมาจากกลุ่มชาวต่างชาติที่ย้ายถิ่นฐานเข้ามาอยู่ในเยอรมันมากขึ้น จึงคาดการณ์ได้ว่าอัตราเด็กเกิดใหม่ในเยอรมันน่าจะเพิ่มสูงขึ้นในอีก 20 ปีข้างหน้า ในขณะที่เยอรมัน จำนวนครูกลับลดลงเรื่อยๆ ทุกปี หากรัฐบาลไม่เร่งแก้ปัญหาในวันนี้ คาดว่าในปี 2035 เยอรมันอาจขาดแคลนครูมากกว่า 56,000 ตำแหน่ง

ในขณะที่เยอรมันกำหนดให้ครูต้องจบวุฒิขั้นต่ำปริญญาตรีที่ตรงสาย แต่เพราะปัญหาการขาดแคลนครู ทำให้รัฐบาลเยอรมันอนุโลมให้ผู้ที่จบสาขาอื่นๆ ที่เข้าอบรมหลักสูตรด้านการสอนฉบับเร่งรัดสามารถบรรจุเป็นครูได้ แต่ก็เหมือนเป็นการแก้ปัญหาไม่ถูกที่คัน เนื่องจากผลสำรวจพบว่า หนุ่มสาวรุ่นใหม่ไม่ค่อยสนใจอาชีพครูกันแล้ว

เหตุผลเพราะว่า อาชีพครูในความคิดของหนุ่ม-สาวยุคนี้ถูกมองว่าเป็นงานหนัก ค่าตอบแทนน้อย รับผิดชอบสูง มีชั่วโมงการทำงานยาวนาน แม้รัฐบาลจะกำหนดให้ครูมีชั่วโมงการสอนเฉลี่ย 25 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ แต่ส่วนใหญ่มักพบว่าสอนเกินเกณฑ์มาตรฐานไปไกลมาก ถึง 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ มิหนำซ้ำ หน่วยงานด้านการศึกษาของรัฐเสนอแนะให้เพิ่มชั่วโมงการเรียนของนักเรียน ยืดอายุวัยเกษียณของครู เพิ่มจำนวนนักเรียนในชั้น และคาดหวังเทคนิคการสอนที่หลากหลาย

ด้วยอุปสรรคหลายปัจจัยจนปวดใจ เลยทำให้เยอรมันหาครูมาสอนได้ยาก และครูหลายคนเลือกที่จะรับงานสอนแบบ Part-time มากกว่าทำงานแบบประจำเต็มเวลา เพราะมีความยืดหยุ่นในชั่วโมงการสอนได้มากกว่า

ร่ายยาวมาถึงตรงนี้ เราจึงเข้าใจ และเห็นภาพของวิกฤติครูในเยอรมัน และปัญหาที่ครูสาวรีเบคก้ากำลังเผชิญอยู่ ว่าทำไมครูในเยอรมันถึงขาดแคลน และต้องทำงานหนัก ทำไมบางโรงเรียนในเยอรมันถึงไม่สามารถเปิดสอนได้เต็ม 5 วันต่อสัปดาห์ และต้องตัดวิชาเสริม เน้นสอนแต่วิชาหลัก จนส่งผลเสียต่อผลสัมฤทธิ์ด้านการเรียนโดยรวมของนักเรียนเยอรมันไปในที่สุด

ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)

(14 ธ.ค.66) ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) อดีตนายกสภาวิศวกร และอดีตนายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า...

"พ่อแม่ต้องอยู่เบื้องหลังลูกทุกคน สนับสนุนในสิ่งที่ลูกรัก ที่ลูกอยากทำ สร้างความมั่นใจ ไม่ต้องกลัว ทำดี ทำเลย...สุภาพอ่อนน้อม เป็นตัวอย่างที่ดีแก่ลูก...พูดคุย ยิ้ม หัวเราะ กอดกัน สร้างวินัย รับผิดชอบเรื่องการเรียน สอนให้รู้จักอารมณ์ตัวเอง รู้จักผิดถูก และ...เล่นมือถือต่อหน้าลูกให้น้อยลง"

‘ปตท.’ ติดอันดับ 1 ใน 5 DJSI ต่อเนื่อง 12 ปี สะท้อนการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพในทุกมิติ

เมื่อไม่นานมานี้ นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปตท. ได้รับคัดเลือกเป็นสมาชิก DJSI กลุ่มดัชนีโลก (World Index) รวมถึงดัชนีตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market Index) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 12 และติดอันดับ 1 ใน 5 องค์กรชั้นนำของอุตสาหกรรมในกลุ่ม Oil & Gas Upstream & Integrated (OGX) นับเป็นความภาคภูมิใจของ ปตท. และเป็นเครื่องหมายการันตีให้กับนักลงทุนทั่วโลกเชื่อมั่นถึงการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพในทุกมิติ 

จากผลการดำเนินธุรกิจตามกลยุทธ์ด้านความยั่งยืน ที่ ปตท. กำหนดไว้ใน ‘แผนแม่บทการบริหารจัดการความยั่งยืน’ ครอบคลุม 3 มิติ ESG (สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล) โดยในด้านสิ่งแวดล้อม เน้นการพัฒนาธุรกิจสู่สังคมคาร์บอนต่ำ เพิ่มสัดส่วนการลงทุนในพลังงานหมุนเวียนและยานยนต์ไฟฟ้า ก้าวสู่อุตสาหกรรมอาหารและยา พร้อมร่วมทุนกับภาครัฐและเอกชน ในการสนับสนุนและดำเนินการในธุรกิจโลจิสติกส์ มุ่งเน้นการเชื่อมโยงระบบเครือข่ายขนส่งทั้งในและต่างประเทศ ทำให้ในปี 2565 รายได้จากธุรกิจกลุ่มนี้ มากกว่าร้อยละ 10 ของรายได้ในปี 2564 รวมทั้งในปีนี้ ปตท. ได้เริ่มต้นโครงการปลูกป่าอีก 1 ล้านไร่ เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวและพลิกฟื้นผืนป่าให้อุดมสมบูรณ์ มุ่งสู่การบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ในปี 2593 

อีกทั้งด้านสังคม ปตท. ให้ความสำคัญกับ ‘การสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดีและคำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชน’ มีการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับอาชีวอนามัยและความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนเตรียมความพร้อมของบุคลากรเพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจในอนาคต พร้อมทั้งสร้างคุณค่าร่วมยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชมและสังคม สำหรับด้านการกำกับดูแล ปตท. ปฏิบัติตามหลักการกำกับกิจการที่ดีและมีจริยธรรม ปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง เร่งสร้างการเติบโตและผลักดันเศรษฐกิจ พร้อมเป็นกำลังสำคัญเพื่อร่วมจุดพลังทุกชีวิต และขับเคลื่อนอนาคตที่ดีให้กับประเทศ

นอกจากนี้ บริษัทในกลุ่ม ปตท. ได้แก่ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) 
บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) บริษัท พีทีที โกลบอลเคมิคอล จำกัด (มหาชน) บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ปตท. นํ้ามันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) ยังได้รับคัดเลือกให้เป็นสมาชิก DJSI อีกด้วย 

อนึ่ง DJSI เป็นดัชนีสากลที่ใช้ประเมินประสิทธิผลการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนของบริษัทชั้นนำระดับโลก เพื่อสร้างความมั่นใจแก่นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ

‘นูออโว พลัส’ ผนึก ‘โกชั่น’ เปิดโรงงาน ‘เอ็นวี โกชั่น’ ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า เสริมแกร่งตลาดรถ EV ไทย

เมื่อไม่นานมานี้ นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) และ Mr. Li Zhen ประธานกรรมการ บริษัท โกชั่น ไฮเทค จำกัด ร่วมเปิดโรงงานและเปิดตัวผลิตภัณฑ์แบตเตอรี่ของ บริษัท เอ็นวี โกชั่น จำกัด (NV Gotion) ณ สวนอุตสาหกรรมสยามอีสเทิร์นอินดัสเตรียลพาร์ค 2 อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง โดย เอ็นวี โกชั่น เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง บริษัท นูออโว พลัส จำกัด (Nuovo Plus) และ บริษัท โกชั่น ไฮเทค จำกัด (Gotion) ในสัดส่วนการลงทุน 51% และ 49% ตามลำดับ ด้วยทุนจดทะเบียนมากกว่า 600 ล้านบาท เพื่อดำเนินธุรกิจนำเข้า ประกอบ และจัดจำหน่ายโมดูลแบตเตอรี่และชุดแบตเตอรี่สำหรับระบบกักเก็บพลังงาน (Energy Storage) และยานยนต์ไฟฟ้า (EV) พร้อมส่งมอบแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนคุณภาพสูงสู่ตลาดภายในปี 2566 ด้วยกำลังการผลิตเริ่มต้น 2 กิกะวัตต์-ชั่วโมงต่อปี และพร้อมขยายกำลังการผลิตเป็น 8 กิกะวัตต์-ชั่วโมงต่อปีในอนาคต 

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) เปิดเผยว่า กลุ่ม ปตท. มีความมุ่งมั่นในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี 2593 ด้วยตระหนักถึงความสำคัญเร่งด่วนของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก จึงนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมแบตเตอรี่คุณภาพสูงมาสู่อุตสาหกรรมไทย เพื่อตอบโจทย์ทิศทางธุรกิจพลังงานใหม่ของโลก ภายใต้การดำเนินงานของนูออโว พลัส ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่าง บริษัท อรุณ พลัส จำกัด (ARUN PLUS) (ถือหุ้น 100% โดย ปตท.) และบริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) (GPSC) ที่เข้ามาช่วยเร่งพันธกิจการสร้าง EV Value Chain และธุรกิจพลังงานสะอาดของ กลุ่ม ปตท. โดยการเกิดขึ้นของโรงงานประกอบชุดแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนระดับ Giga Factory (กิกะแฟกทอรี) ในประเทศไทยแห่งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับประเทศไทยจากการเป็นผู้นำเข้า ก้าวสู่การเป็นผู้ผลิต และพัฒนาตัวเองสู่การเป็นผู้ส่งออกแบตเตอรี่ลิเธียมในอนาคต จากความร่วมมือกับพันธมิตรที่แข็งแกร่งอย่างโกชั่นนี้ 

กลุ่ม ปตท. มั่นใจว่าเอ็นวี โกชั่น จะเป็นอีกหนึ่งฟันเฟืองที่ช่วยให้อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยสามารถรักษาจุดยืนความเป็นผู้นำของฐานการผลิตยานยนต์ในภูมิภาค ตอบสนองแนวทางของคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ ที่ออกมาตรการผลักดันเป้าผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศให้ได้ 30% ในปี 2573 รวมถึงการการสนับสนุนเป้าหมายการใช้พลังงานสะอาดตามแผนพลังงานชาติในการเพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าใหม่ โดยมีสัดส่วน Renewable Energy ไม่น้อยกว่า 50% ได้อย่างแน่นอน

ความธรรมดาของลูก!! รางวัลที่สุดพิเศษของ ‘เช็ค สุทธิพงษ์’ เมื่อเธอผู้จบเกียรตินิยมอันดับ 1 รักในงานธรรมดาที่แสนสุข

ไม่นานมานี้ ‘เช็ค-สุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ’ พิธีกร และผู้ผลิตสื่อชื่อดัง แห่งทีวีบูรพา ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ‘Suthipong Thamawuit’ ระบุว่า...

ผมพบว่า ไม่จำเป็นต้องมีสิ่งพิเศษเหนือความคาดหมายอะไรมามอบให้ เพียงแค่สิ่งเล็กๆ น้อยๆ จากลูก ก็นำความสุขมาให้คนเป็นพ่อแม่ได้มากมาย

พี่เช็คเล่าว่า ลูกสาวคนเล็กที่ทำงานเป็นผู้ช่วยช่างทำผมในร้านซาลอน เอามือที่สากและลอกเป็นขุยของเธอมาให้ดู จับมือพ่อไปเทียบกันแล้วบอกว่า “ดูสิ ตอนนี้มือพ่อนุ่มกว่ามือหนูอีก”

พี่เช็ค ถามว่าเป็นเพราะสารเคมีหรือเปล่า เพราะงานของเธอเกี่ยวกับการย้อมสีผม เธอบอกว่าไม่ เพราะตอนใช้สารเคมีเธอใส่ถุงมือ

เธอไม่ได้กังวลกับมือที่สากและลอกเป็นขุยนั้น แต่เหมือนจะอวดว่านั่นคือ ร่องรอยของความเอาจริงเอาจังจากการทำงาน 

งานของเธอเป็นลูกจ้างเล็กๆ เด็กฝึกหัดอยู่ในร้านทำผมขนาดย่อม ที่เธอรู้สึกว่าเธอโชคดีที่ได้ทำงานในร้านนี้ 
เธอตื่นไปทำงานอย่างกระตือรือร้น มีวินัยและกลับจากทำงานด้วยความสุขทุกวัน 

แม้ว่าบางวันจะ ‘ยม’ จนแทบไร้วิญญาณ 

อย่างวันที่ผ่านมานี้ เนื่องจากลูกค้าที่มาอุดหนุนร้าน กับจำนวนพนักงานที่มีลากิจบ้าง ลาป่วยบ้าง สร้างความชุลมุนในการทำงานไม่น้อย และกว่าจะเสร็จก็ค่ำมืด เธอยืนทำงานทั้งวันจน ‘ยม’

แต่เมื่อกลับถึงบ้าน ทุกครั้งสิ่งที่เธอนำกลับมาให้พ่อเห็น ก็คือความภาคภูมิใจที่ทำภารกิจลุล่วงจนได้ ผมพบว่านี่เป็นโบนัสที่เธอได้รับจากการทำงานแทบทุกวัน และทุกคืนที่นั่งคุยกัน ผมก็จะพลอยมีความสุขกับเธอไปด้วย

เมื่อคืนเธอพูดกับผมในสิ่งที่ไม่เคยพูดมาก่อน เธอบอกว่า เธอเป็นพนักงานฝึกหัดที่ถูกตั้งคำถามว่า ทำไมถึงมาทำงานเป็นลูกจ้างร้านทำผม ผมถามว่าทำไม?

เธอบอกว่า “พ่อนึกออกไหม สังคมจะมีเกรดหรือภาพของเด็กลูกจ้างในร้านทำผมแบบหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่เด็กจบมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะเกี่ยวกับโซเชียลเอนเตอร์ไพรซ์ ด้วยเกรดเกียรตินิยมอันดับหนึ่งอย่างเธอ ซึ่งน่าจะไปทำงานสตาร์ตอัป หรือไม่ก็งานสื่อสารองค์กรในบริษัทชั้นนำ ที่น่าจะมีรายได้และอนาคตมากกว่าการดัดย้อมผมหลายเท่า”

แต่เธอไม่เคยมองว่าเธอเป็นคนเกรดไหน และงานทำผมเป็นงานของคนเกรดอะไร แค่เธอพบว่า งานทำผมคือ งานที่เธอทำแล้วมีความสุข

ผมไม่เคยสงสัยและคาดหวังอื่นใดในการเลือกของลูก ผมมีความสุขกับการที่ลูกไปทำงานอย่างมีความสุข และกลับจากทำงานด้วยความสุขและภาคภูมิใจทุกวัน 

ผมคิดว่า นี่คือคือปัจจุบันและการเริ่มต้นที่ดีที่สุด

การเริ่มต้นเดินทางที่ชัดเจนและรู้ความหมายนั้น จะนับว่าเป็นความสำเร็จขั้นหนึ่งก็น่าจะได้

เพราะในวัยเดียวกัน ผมเคยผ่านมาแล้ว ด้วยความเคว้งคว้าง จับต้นชนปลายไม่ถูก ไม่รู้จะพาชีวิตไปทางไหนดี 
อย่าว่าแต่ทางที่ไปใช่หรือไม่เลย แม้แต่เขาเลือกทางชีวิตกันแบบไหน อย่างไรผมก็ยังไม่รู้ 

เพราะฉะนั้น เห็นความธรรมดาของลูกแค่นี้ ก็เป็นรางวัลที่พิเศษสุดของพ่อแล้ว

ก่อนขอตัวขึ้นไปนอน เธอบอกว่า พ่อก็เป็นช่างตัดผมได้นะ ถ้าได้เรียน ผมบอกว่าก็น่าจะได้นะ แต่น่าจะเลี้ยงลูกไม่ได้ เพราะไม่น่าจะมีใครมาตัดกับพ่อ 

เธอหัวเราะแล้วบอกทีเล่นทีจริงว่า แต่มือนี้เลี้ยงพ่อได้นะ เพราะนี่คือมือของคนที่จะรวย 

ผมนึกในใจ ถ้ามือสากด้านบ่งบอกความรวย ที่ผ่านมา พ่อน่าจะระดับมหาเศรษฐี แต่ไม่ทันได้พูด เธอก็บอกว่า ไปอาบน้ำนอนล่ะ พรุ่งนี้ต้องรีบไปแต่เช้า

ผมถามว่าทำไมต้องไปแต่เช้า ก็วันนี้ยมมาทั้งวัน เธอบอกว่าไปพับฟอยล์ (วัสดุที่ใช้ในการทำสีผม) เดี๋ยวจะไม่มีใช้ ผมถามว่าปกติเป็นหน้าที่ของลูกหรือ เธอบอกว่าไม่ใช่ เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องช่วยกัน

ถามต่อว่าถ้าลูกไม่พับ ใครพับ เธอตอบว่าบางครั้งเจ้าของร้านก็ต้องพับเอง เธอคิดว่านั่นไม่ใช่สิ่งที่น่าจะถูกต้อง

ผมบอกว่าถ้าที่ทำงานไหน มีพนักงานที่คิดแบบลูกสักครึ่งหนึ่ง จะเป็นกิจการที่ดีและเจ้าของกิจการก็โชคดีมาก

เธอขึ้นไปแล้ว ผมคิดว่าไม่ใช่แค่เจ้าของร้านหรอกที่โชคดี ตัวเองก็โชคดีมาก ที่ได้รางวัลเสมอจากการสนทนากับลูก

‘on-ion’ จับมือ ‘เกทเวย์ แอท บางซื่อ’ เปิดสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ที่ 66 พร้อมจัดโปรโมชั่นสุดคุ้มส่งท้ายปี 2566 เอาใจผู้เข้าใช้บริการ

เมื่อไม่นานมานี้ ดร.บุรณิน รัตนสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจใหม่และโครงสร้างพื้นฐาน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) พร้อมด้วย นางณัฐสุดา สกุลไพสิฐ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์และสนับสนุนองค์กร บริษัท อรุณ พลัส จำกัด (ARUN PLUS) นางสาวเอกกฤตา แก้วพูลศรี General Manager ศูนย์การค้า เกทเวย์ แอท บางซื่อ และนายนนทวรรษ เรืองจันทร์ Retail Sales and Tenant Services Team Lead ศูนย์การค้า เกทเวย์ แอท บางซื่อ ร่วมเปิดสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า on-ion (ออน-ไอออน) เกทเวย์ แอท บางซื่อ ด้วยเครื่องอัดประจุไฟฟ้าชนิดกระแสสลับ (AC Charger) และเครื่องอัดประจุไฟฟ้าชนิดกระแสตรง (DC Charger) ขนาดกำลังไฟสูงสุด 40 กิโลวัตต์ รวมทั้งหมด 8 ช่องจอด 

ด้วยประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานผ่าน on-ion Mobile Application อำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าสามารถเข้าใช้บริการง่ายยิ่งขึ้น มาพร้อมโปรโมชั่นสุดคุ้มส่งท้ายปีให้แก่ลูกค้าที่ใช้บริการภายในศูนย์การค้าครบ 500 บาทต่อวัน รับส่วนลดเครดิตชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าฟรี มูลค่าสูงสุด 50 บาท ตั้งแต่ วันนี้ - 31 มกราคม 2567 หรือจนกว่าจะครบจำนวนสิทธิ์ 

นอกจากนี้ ยังมอบสิทธิพิเศษส่วนลดค่าบริการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า DC Charger พิเศษเพียง 8.5 บาทต่อหน่วย (จากปกติค่าบริการ 9.5 บาทต่อหน่วย) มาที่นี่ทุกอย่างครบจบไว ได้ทั้งชอปปิ้ง และยังได้ชาร์จไฟรถอีกด้วย โดยกลุ่ม ปตท. ตั้งเป้าขยายสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าภายใต้แบรนด์ on-ion ให้ทั่วประเทศภายในปี 2567 พร้อมสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาดและขับเคลื่อนสังคมยานยนต์ไฟฟ้าไทยให้ก้าวไปอย่างมั่นคงและยั่งยืน

‘CEO ปตท.’ คว้ารางวัลวิศวกรผลงานโดดเด่น จากสมาคมไฟฟ้าและพลังงานไอทริปเปิลอี

เมื่อไม่นานมานี้ นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) รับรางวัล Outstanding Engineer Award จาก ดร.ประเสริฐ  สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน ในฐานะวิศวกรที่มีผลงานโดดเด่นและน่ายกย่องในวิชาชีพวิศวกรรม รวมถึงการทำประโยชน์ต่อสังคม และส่งเสริมการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับด้านไฟฟ้าและพลังงาน ในงาน IEEE PES Dinner Talk 2023 ซึ่งจัดขึ้นโดยสมาคมไฟฟ้าและพลังงานไอทริปเปิลอี (ประเทศไทย) หรือ IEEE Power & Energy Society (Thailand) 

นอกจากนี้ นายอรรถพล ยังได้ปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ การตอบสนองความต้องการด้านพลังงานในโลกที่ไม่หยุดนิ่ง เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้านนโยบายและทิศทางการพัฒนาพลังงานแก่ผู้เข้าร่วมงานอีกด้วย

‘ปตท.’ รับรางวัลสาขาความเป็นเลิศด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน จากเวที ‘Thailand Corporate Excellence Awards 2023’

เมื่อไม่นานมานี้ นายจิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา องคมนตรี เป็นประธานในพิธีมอบรางวัล Thailand Corporate Excellence Awards 2023 ซึ่งจัดขึ้นโดยสมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย ร่วมกับสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้แก่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) โดยมี นายเทอดเกียรติ พร้อมมูล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่กลยุทธ์องค์กรและความยั่งยืน เป็นผู้แทน ปตท. เข้ารับรางวัลในสาขาความเป็นเลิศด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Excellence) รางวัลดังกล่าวได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานแก่องค์กรที่มีความเป็นเลิศทางด้านการบริหารจัดการในสาขาต่าง ๆ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ ปตท. ในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน พร้อมมุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของคนไทย ตลอดจนดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อมให้เติบโตอย่างมั่นคงต่อไป

กลุ่ม ปตท. จุดพลัง ‘สุดยอดนักขาย’ และ ‘สุดยอดไอเดียการตลาด’ มอบรางวัล ‘Young Influencer Challenge Thailand 2023’

เมื่อไม่นานมานี้ ณ อาคาร ปตท. สำนักงานใหญ่ นางกนกพร รอดรุ่งเรือง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหารชื่อเสียงองค์กรและกิจการเพื่อสังคม บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) เป็นประธานใน พิธีประกาศผลและมอบรางวัลโครงการ ‘Young Influencer Challenge Thailand 2023 : ชวน U สร้างรอยยิ้ม’ ภายใต้ความร่วมมือของ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) บริษัท เทลสกอร์ จำกัด และ บริษัท ประชารัฐรักสามัคคีระยอง (วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัด เพื่อนำความรู้จากสถาบันการศึกษามาใช้วางแผนการตลาดให้กับสินค้าชุมชน และแข่งขันจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชนในโครงการชุมชนยิ้มได้ ซึ่งมีเยาวชน 30 ทีม จาก 10 มหาวิทยาลัยเข้าร่วมโครงการฯ โดย ปตท. และผู้สนับสนุน ร่วมมอบเงินรางวัลรวมมูลค่า 65,000 บาท เพื่อเป็นกำลังใจในการสร้างสรรค์ผลงานของนิสิต นักศึกษา

นางกนกพร รอดรุ่งเรือง กล่าวว่า โครงการ ‘Young Influencer Challenge Thailand 2023 : ชวน U สร้างรอยยิ้ม’ เป็นกิจกรรมที่เปิดพื้นที่ให้เยาวชนได้แสดงพลังและปลุกไอเดียความคิดสร้างสรรค์ พร้อมนำองค์ความรู้มาประยุกต์ใช้พัฒนาแผนการตลาดจำหน่ายสินค้าชุมชนในโครงการ ‘ชุมชนยิ้มได้ โดย กลุ่ม ปตท.’ ผ่านช่องทางออนไลน์ สร้างประสบการณ์จริง ซึ่งตลอดการแข่งขันในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เยาวชนทั้ง 30 ทีม กว่า 137 คน จาก 10 มหาวิทยาลัย ได้แสดงศักยภาพในการสื่อสารการตลาดทางออนไลน์ให้กับสินค้ากับชุมชน โดยศึกษาอัตลักษณ์สินค้าชุมชนร่วมกับชุมชนเจ้าของสินค้านั้น ๆ อย่างจริงจัง จนมาสู่การวางแผนการตลาด ทำให้สามารถสร้างรายได้ในการจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทาง www.ชุมชนยิ้มได้.com รวมเป็นเงิน 547,048 บาท ในระยะเวลาเพียง 1 เดือน ส่งเสริมให้สินค้าชุมชนในโครงการฯ เป็นที่รู้จักแพร่หลายเพิ่มมากขึ้น 

อีกทั้ง เยาวชนยังได้มอบความรู้ทางการตลาด และสร้างความมั่นใจให้กับชุมชนในการจำหน่ายสินค้าทางออนไลน์ ขณะเดียวกัน โครงการฯ นี้ยังเป็นการจุดประกายความตระหนักในบทบาทของเยาวชนไทยในการเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาเศรษฐกิจของชุมชนยั่งยืนได้ พร้อมเป็นกำลังที่สร้างอนาคตของชาติต่อไปด้วย

สำหรับรางวัลในการแข่งขันโครงการ Young Influencer Challenge Thailand 2023 ประกอบด้วย รางวัลสุดยอดนักขาย (Best Seller Award) จำนวน 5 รางวัล โดย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) มอบรางวัลทีมที่ยอดจำหน่ายสูงสุด มูลค่า 25,000 บาท และมอบ รางวัลสุดยอดไอเดียการตลาด (Best Idea Award) จำนวน 1 รางวัล มูลค่า 5,000 บาท ซึ่งมีการประชันไอเดียจาก 4 ทีมที่มีแผนการตลาดโดดเด่น โดยไม่เกี่ยวกับยอดขาย เพื่อตัดสินรางวัลภายในพิธีฯ โดยมีรายชื่อทีมผู้ชนะ ดังนี้

รางวัล Best Seller Award :  
• รางวัลชนะเลิศ : มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สินค้า ‘Mango Cornflake Cookie’ จ.สระบุรี 
• รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 : มหาวิทยาลัยศิลปากร สินค้า ‘หมี่กรอบน้ำมะดันผสมธัญพืช’ จ.นครนายก
• รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2 : มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สินค้า ‘กล้วยเส้น’ จ.เลย
• รางวัลชมเชย (2 รางวัล) : มหาวิทยาลัยกรุงเทพ สินค้า ‘กระเป๋าสานกระจูดหูยาว’ จ.ระยอง
มหาวิทยาลัยกรุงเทพ สินค้า ‘น้ำผึ้งแท้จากดอกลำไย’ จ.เชียงใหม่  

“ความสำเร็จที่เกิดขึ้นจากการแข่งขันในโครงการนี้ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของเยาวชนคนรุ่นใหม่ ที่สามารถส่งเสริมการขายสินค้าชุมชนด้วยไอเดียการตลาดที่สอดรับเทรนด์การขายสินค้าออนไลน์ ในช่องทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ซึ่งช่องทางและแผนการตลาดที่พัฒนาผ่านโครงการฯ ครั้งนี้ สามารถส่งต่อแก่ชุมชน เพื่อส่งเสริมการขายและเป็นช่องทางการสื่อสารกับลูกค้าในอนาคตได้ นับเป็นความภาคภูมิใจขององค์กรที่ได้สนับสนุนพื้นที่ให้เยาวชนได้แสดงฝีมือ และพร้อมที่จะผลักดันและส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรเพื่อเป็นพลัง ในการร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศต่อไป” นางกนกพร กล่าว


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STUDY TIMES
Take Me Top