Friday, 19 April 2024
NEWS

ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)

(14 ธ.ค.66) ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) อดีตนายกสภาวิศวกร และอดีตนายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า...

"พ่อแม่ต้องอยู่เบื้องหลังลูกทุกคน สนับสนุนในสิ่งที่ลูกรัก ที่ลูกอยากทำ สร้างความมั่นใจ ไม่ต้องกลัว ทำดี ทำเลย...สุภาพอ่อนน้อม เป็นตัวอย่างที่ดีแก่ลูก...พูดคุย ยิ้ม หัวเราะ กอดกัน สร้างวินัย รับผิดชอบเรื่องการเรียน สอนให้รู้จักอารมณ์ตัวเอง รู้จักผิดถูก และ...เล่นมือถือต่อหน้าลูกให้น้อยลง"

‘ปตท.’ ติดอันดับ 1 ใน 5 DJSI ต่อเนื่อง 12 ปี สะท้อนการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพในทุกมิติ

เมื่อไม่นานมานี้ นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปตท. ได้รับคัดเลือกเป็นสมาชิก DJSI กลุ่มดัชนีโลก (World Index) รวมถึงดัชนีตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market Index) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 12 และติดอันดับ 1 ใน 5 องค์กรชั้นนำของอุตสาหกรรมในกลุ่ม Oil & Gas Upstream & Integrated (OGX) นับเป็นความภาคภูมิใจของ ปตท. และเป็นเครื่องหมายการันตีให้กับนักลงทุนทั่วโลกเชื่อมั่นถึงการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพในทุกมิติ 

จากผลการดำเนินธุรกิจตามกลยุทธ์ด้านความยั่งยืน ที่ ปตท. กำหนดไว้ใน ‘แผนแม่บทการบริหารจัดการความยั่งยืน’ ครอบคลุม 3 มิติ ESG (สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล) โดยในด้านสิ่งแวดล้อม เน้นการพัฒนาธุรกิจสู่สังคมคาร์บอนต่ำ เพิ่มสัดส่วนการลงทุนในพลังงานหมุนเวียนและยานยนต์ไฟฟ้า ก้าวสู่อุตสาหกรรมอาหารและยา พร้อมร่วมทุนกับภาครัฐและเอกชน ในการสนับสนุนและดำเนินการในธุรกิจโลจิสติกส์ มุ่งเน้นการเชื่อมโยงระบบเครือข่ายขนส่งทั้งในและต่างประเทศ ทำให้ในปี 2565 รายได้จากธุรกิจกลุ่มนี้ มากกว่าร้อยละ 10 ของรายได้ในปี 2564 รวมทั้งในปีนี้ ปตท. ได้เริ่มต้นโครงการปลูกป่าอีก 1 ล้านไร่ เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวและพลิกฟื้นผืนป่าให้อุดมสมบูรณ์ มุ่งสู่การบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ในปี 2593 

อีกทั้งด้านสังคม ปตท. ให้ความสำคัญกับ ‘การสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดีและคำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชน’ มีการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับอาชีวอนามัยและความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนเตรียมความพร้อมของบุคลากรเพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจในอนาคต พร้อมทั้งสร้างคุณค่าร่วมยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชมและสังคม สำหรับด้านการกำกับดูแล ปตท. ปฏิบัติตามหลักการกำกับกิจการที่ดีและมีจริยธรรม ปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง เร่งสร้างการเติบโตและผลักดันเศรษฐกิจ พร้อมเป็นกำลังสำคัญเพื่อร่วมจุดพลังทุกชีวิต และขับเคลื่อนอนาคตที่ดีให้กับประเทศ

นอกจากนี้ บริษัทในกลุ่ม ปตท. ได้แก่ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) 
บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) บริษัท พีทีที โกลบอลเคมิคอล จำกัด (มหาชน) บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ปตท. นํ้ามันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) ยังได้รับคัดเลือกให้เป็นสมาชิก DJSI อีกด้วย 

อนึ่ง DJSI เป็นดัชนีสากลที่ใช้ประเมินประสิทธิผลการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนของบริษัทชั้นนำระดับโลก เพื่อสร้างความมั่นใจแก่นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ

‘นูออโว พลัส’ ผนึก ‘โกชั่น’ เปิดโรงงาน ‘เอ็นวี โกชั่น’ ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า เสริมแกร่งตลาดรถ EV ไทย

เมื่อไม่นานมานี้ นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) และ Mr. Li Zhen ประธานกรรมการ บริษัท โกชั่น ไฮเทค จำกัด ร่วมเปิดโรงงานและเปิดตัวผลิตภัณฑ์แบตเตอรี่ของ บริษัท เอ็นวี โกชั่น จำกัด (NV Gotion) ณ สวนอุตสาหกรรมสยามอีสเทิร์นอินดัสเตรียลพาร์ค 2 อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง โดย เอ็นวี โกชั่น เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง บริษัท นูออโว พลัส จำกัด (Nuovo Plus) และ บริษัท โกชั่น ไฮเทค จำกัด (Gotion) ในสัดส่วนการลงทุน 51% และ 49% ตามลำดับ ด้วยทุนจดทะเบียนมากกว่า 600 ล้านบาท เพื่อดำเนินธุรกิจนำเข้า ประกอบ และจัดจำหน่ายโมดูลแบตเตอรี่และชุดแบตเตอรี่สำหรับระบบกักเก็บพลังงาน (Energy Storage) และยานยนต์ไฟฟ้า (EV) พร้อมส่งมอบแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนคุณภาพสูงสู่ตลาดภายในปี 2566 ด้วยกำลังการผลิตเริ่มต้น 2 กิกะวัตต์-ชั่วโมงต่อปี และพร้อมขยายกำลังการผลิตเป็น 8 กิกะวัตต์-ชั่วโมงต่อปีในอนาคต 

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) เปิดเผยว่า กลุ่ม ปตท. มีความมุ่งมั่นในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี 2593 ด้วยตระหนักถึงความสำคัญเร่งด่วนของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก จึงนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมแบตเตอรี่คุณภาพสูงมาสู่อุตสาหกรรมไทย เพื่อตอบโจทย์ทิศทางธุรกิจพลังงานใหม่ของโลก ภายใต้การดำเนินงานของนูออโว พลัส ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่าง บริษัท อรุณ พลัส จำกัด (ARUN PLUS) (ถือหุ้น 100% โดย ปตท.) และบริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) (GPSC) ที่เข้ามาช่วยเร่งพันธกิจการสร้าง EV Value Chain และธุรกิจพลังงานสะอาดของ กลุ่ม ปตท. โดยการเกิดขึ้นของโรงงานประกอบชุดแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนระดับ Giga Factory (กิกะแฟกทอรี) ในประเทศไทยแห่งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับประเทศไทยจากการเป็นผู้นำเข้า ก้าวสู่การเป็นผู้ผลิต และพัฒนาตัวเองสู่การเป็นผู้ส่งออกแบตเตอรี่ลิเธียมในอนาคต จากความร่วมมือกับพันธมิตรที่แข็งแกร่งอย่างโกชั่นนี้ 

กลุ่ม ปตท. มั่นใจว่าเอ็นวี โกชั่น จะเป็นอีกหนึ่งฟันเฟืองที่ช่วยให้อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยสามารถรักษาจุดยืนความเป็นผู้นำของฐานการผลิตยานยนต์ในภูมิภาค ตอบสนองแนวทางของคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ ที่ออกมาตรการผลักดันเป้าผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศให้ได้ 30% ในปี 2573 รวมถึงการการสนับสนุนเป้าหมายการใช้พลังงานสะอาดตามแผนพลังงานชาติในการเพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าใหม่ โดยมีสัดส่วน Renewable Energy ไม่น้อยกว่า 50% ได้อย่างแน่นอน

ความธรรมดาของลูก!! รางวัลที่สุดพิเศษของ ‘เช็ค สุทธิพงษ์’ เมื่อเธอผู้จบเกียรตินิยมอันดับ 1 รักในงานธรรมดาที่แสนสุข

ไม่นานมานี้ ‘เช็ค-สุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ’ พิธีกร และผู้ผลิตสื่อชื่อดัง แห่งทีวีบูรพา ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ‘Suthipong Thamawuit’ ระบุว่า...

ผมพบว่า ไม่จำเป็นต้องมีสิ่งพิเศษเหนือความคาดหมายอะไรมามอบให้ เพียงแค่สิ่งเล็กๆ น้อยๆ จากลูก ก็นำความสุขมาให้คนเป็นพ่อแม่ได้มากมาย

พี่เช็คเล่าว่า ลูกสาวคนเล็กที่ทำงานเป็นผู้ช่วยช่างทำผมในร้านซาลอน เอามือที่สากและลอกเป็นขุยของเธอมาให้ดู จับมือพ่อไปเทียบกันแล้วบอกว่า “ดูสิ ตอนนี้มือพ่อนุ่มกว่ามือหนูอีก”

พี่เช็ค ถามว่าเป็นเพราะสารเคมีหรือเปล่า เพราะงานของเธอเกี่ยวกับการย้อมสีผม เธอบอกว่าไม่ เพราะตอนใช้สารเคมีเธอใส่ถุงมือ

เธอไม่ได้กังวลกับมือที่สากและลอกเป็นขุยนั้น แต่เหมือนจะอวดว่านั่นคือ ร่องรอยของความเอาจริงเอาจังจากการทำงาน 

งานของเธอเป็นลูกจ้างเล็กๆ เด็กฝึกหัดอยู่ในร้านทำผมขนาดย่อม ที่เธอรู้สึกว่าเธอโชคดีที่ได้ทำงานในร้านนี้ 
เธอตื่นไปทำงานอย่างกระตือรือร้น มีวินัยและกลับจากทำงานด้วยความสุขทุกวัน 

แม้ว่าบางวันจะ ‘ยม’ จนแทบไร้วิญญาณ 

อย่างวันที่ผ่านมานี้ เนื่องจากลูกค้าที่มาอุดหนุนร้าน กับจำนวนพนักงานที่มีลากิจบ้าง ลาป่วยบ้าง สร้างความชุลมุนในการทำงานไม่น้อย และกว่าจะเสร็จก็ค่ำมืด เธอยืนทำงานทั้งวันจน ‘ยม’

แต่เมื่อกลับถึงบ้าน ทุกครั้งสิ่งที่เธอนำกลับมาให้พ่อเห็น ก็คือความภาคภูมิใจที่ทำภารกิจลุล่วงจนได้ ผมพบว่านี่เป็นโบนัสที่เธอได้รับจากการทำงานแทบทุกวัน และทุกคืนที่นั่งคุยกัน ผมก็จะพลอยมีความสุขกับเธอไปด้วย

เมื่อคืนเธอพูดกับผมในสิ่งที่ไม่เคยพูดมาก่อน เธอบอกว่า เธอเป็นพนักงานฝึกหัดที่ถูกตั้งคำถามว่า ทำไมถึงมาทำงานเป็นลูกจ้างร้านทำผม ผมถามว่าทำไม?

เธอบอกว่า “พ่อนึกออกไหม สังคมจะมีเกรดหรือภาพของเด็กลูกจ้างในร้านทำผมแบบหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่เด็กจบมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะเกี่ยวกับโซเชียลเอนเตอร์ไพรซ์ ด้วยเกรดเกียรตินิยมอันดับหนึ่งอย่างเธอ ซึ่งน่าจะไปทำงานสตาร์ตอัป หรือไม่ก็งานสื่อสารองค์กรในบริษัทชั้นนำ ที่น่าจะมีรายได้และอนาคตมากกว่าการดัดย้อมผมหลายเท่า”

แต่เธอไม่เคยมองว่าเธอเป็นคนเกรดไหน และงานทำผมเป็นงานของคนเกรดอะไร แค่เธอพบว่า งานทำผมคือ งานที่เธอทำแล้วมีความสุข

ผมไม่เคยสงสัยและคาดหวังอื่นใดในการเลือกของลูก ผมมีความสุขกับการที่ลูกไปทำงานอย่างมีความสุข และกลับจากทำงานด้วยความสุขและภาคภูมิใจทุกวัน 

ผมคิดว่า นี่คือคือปัจจุบันและการเริ่มต้นที่ดีที่สุด

การเริ่มต้นเดินทางที่ชัดเจนและรู้ความหมายนั้น จะนับว่าเป็นความสำเร็จขั้นหนึ่งก็น่าจะได้

เพราะในวัยเดียวกัน ผมเคยผ่านมาแล้ว ด้วยความเคว้งคว้าง จับต้นชนปลายไม่ถูก ไม่รู้จะพาชีวิตไปทางไหนดี 
อย่าว่าแต่ทางที่ไปใช่หรือไม่เลย แม้แต่เขาเลือกทางชีวิตกันแบบไหน อย่างไรผมก็ยังไม่รู้ 

เพราะฉะนั้น เห็นความธรรมดาของลูกแค่นี้ ก็เป็นรางวัลที่พิเศษสุดของพ่อแล้ว

ก่อนขอตัวขึ้นไปนอน เธอบอกว่า พ่อก็เป็นช่างตัดผมได้นะ ถ้าได้เรียน ผมบอกว่าก็น่าจะได้นะ แต่น่าจะเลี้ยงลูกไม่ได้ เพราะไม่น่าจะมีใครมาตัดกับพ่อ 

เธอหัวเราะแล้วบอกทีเล่นทีจริงว่า แต่มือนี้เลี้ยงพ่อได้นะ เพราะนี่คือมือของคนที่จะรวย 

ผมนึกในใจ ถ้ามือสากด้านบ่งบอกความรวย ที่ผ่านมา พ่อน่าจะระดับมหาเศรษฐี แต่ไม่ทันได้พูด เธอก็บอกว่า ไปอาบน้ำนอนล่ะ พรุ่งนี้ต้องรีบไปแต่เช้า

ผมถามว่าทำไมต้องไปแต่เช้า ก็วันนี้ยมมาทั้งวัน เธอบอกว่าไปพับฟอยล์ (วัสดุที่ใช้ในการทำสีผม) เดี๋ยวจะไม่มีใช้ ผมถามว่าปกติเป็นหน้าที่ของลูกหรือ เธอบอกว่าไม่ใช่ เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องช่วยกัน

ถามต่อว่าถ้าลูกไม่พับ ใครพับ เธอตอบว่าบางครั้งเจ้าของร้านก็ต้องพับเอง เธอคิดว่านั่นไม่ใช่สิ่งที่น่าจะถูกต้อง

ผมบอกว่าถ้าที่ทำงานไหน มีพนักงานที่คิดแบบลูกสักครึ่งหนึ่ง จะเป็นกิจการที่ดีและเจ้าของกิจการก็โชคดีมาก

เธอขึ้นไปแล้ว ผมคิดว่าไม่ใช่แค่เจ้าของร้านหรอกที่โชคดี ตัวเองก็โชคดีมาก ที่ได้รางวัลเสมอจากการสนทนากับลูก

‘on-ion’ จับมือ ‘เกทเวย์ แอท บางซื่อ’ เปิดสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ที่ 66 พร้อมจัดโปรโมชั่นสุดคุ้มส่งท้ายปี 2566 เอาใจผู้เข้าใช้บริการ

เมื่อไม่นานมานี้ ดร.บุรณิน รัตนสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจใหม่และโครงสร้างพื้นฐาน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) พร้อมด้วย นางณัฐสุดา สกุลไพสิฐ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์และสนับสนุนองค์กร บริษัท อรุณ พลัส จำกัด (ARUN PLUS) นางสาวเอกกฤตา แก้วพูลศรี General Manager ศูนย์การค้า เกทเวย์ แอท บางซื่อ และนายนนทวรรษ เรืองจันทร์ Retail Sales and Tenant Services Team Lead ศูนย์การค้า เกทเวย์ แอท บางซื่อ ร่วมเปิดสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า on-ion (ออน-ไอออน) เกทเวย์ แอท บางซื่อ ด้วยเครื่องอัดประจุไฟฟ้าชนิดกระแสสลับ (AC Charger) และเครื่องอัดประจุไฟฟ้าชนิดกระแสตรง (DC Charger) ขนาดกำลังไฟสูงสุด 40 กิโลวัตต์ รวมทั้งหมด 8 ช่องจอด 

ด้วยประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานผ่าน on-ion Mobile Application อำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าสามารถเข้าใช้บริการง่ายยิ่งขึ้น มาพร้อมโปรโมชั่นสุดคุ้มส่งท้ายปีให้แก่ลูกค้าที่ใช้บริการภายในศูนย์การค้าครบ 500 บาทต่อวัน รับส่วนลดเครดิตชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าฟรี มูลค่าสูงสุด 50 บาท ตั้งแต่ วันนี้ - 31 มกราคม 2567 หรือจนกว่าจะครบจำนวนสิทธิ์ 

นอกจากนี้ ยังมอบสิทธิพิเศษส่วนลดค่าบริการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า DC Charger พิเศษเพียง 8.5 บาทต่อหน่วย (จากปกติค่าบริการ 9.5 บาทต่อหน่วย) มาที่นี่ทุกอย่างครบจบไว ได้ทั้งชอปปิ้ง และยังได้ชาร์จไฟรถอีกด้วย โดยกลุ่ม ปตท. ตั้งเป้าขยายสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าภายใต้แบรนด์ on-ion ให้ทั่วประเทศภายในปี 2567 พร้อมสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาดและขับเคลื่อนสังคมยานยนต์ไฟฟ้าไทยให้ก้าวไปอย่างมั่นคงและยั่งยืน

‘CEO ปตท.’ คว้ารางวัลวิศวกรผลงานโดดเด่น จากสมาคมไฟฟ้าและพลังงานไอทริปเปิลอี

เมื่อไม่นานมานี้ นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) รับรางวัล Outstanding Engineer Award จาก ดร.ประเสริฐ  สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน ในฐานะวิศวกรที่มีผลงานโดดเด่นและน่ายกย่องในวิชาชีพวิศวกรรม รวมถึงการทำประโยชน์ต่อสังคม และส่งเสริมการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับด้านไฟฟ้าและพลังงาน ในงาน IEEE PES Dinner Talk 2023 ซึ่งจัดขึ้นโดยสมาคมไฟฟ้าและพลังงานไอทริปเปิลอี (ประเทศไทย) หรือ IEEE Power & Energy Society (Thailand) 

นอกจากนี้ นายอรรถพล ยังได้ปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ การตอบสนองความต้องการด้านพลังงานในโลกที่ไม่หยุดนิ่ง เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้านนโยบายและทิศทางการพัฒนาพลังงานแก่ผู้เข้าร่วมงานอีกด้วย

‘ปตท.’ รับรางวัลสาขาความเป็นเลิศด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน จากเวที ‘Thailand Corporate Excellence Awards 2023’

เมื่อไม่นานมานี้ นายจิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา องคมนตรี เป็นประธานในพิธีมอบรางวัล Thailand Corporate Excellence Awards 2023 ซึ่งจัดขึ้นโดยสมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย ร่วมกับสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้แก่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) โดยมี นายเทอดเกียรติ พร้อมมูล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่กลยุทธ์องค์กรและความยั่งยืน เป็นผู้แทน ปตท. เข้ารับรางวัลในสาขาความเป็นเลิศด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Excellence) รางวัลดังกล่าวได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานแก่องค์กรที่มีความเป็นเลิศทางด้านการบริหารจัดการในสาขาต่าง ๆ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ ปตท. ในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน พร้อมมุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของคนไทย ตลอดจนดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อมให้เติบโตอย่างมั่นคงต่อไป

กลุ่ม ปตท. จุดพลัง ‘สุดยอดนักขาย’ และ ‘สุดยอดไอเดียการตลาด’ มอบรางวัล ‘Young Influencer Challenge Thailand 2023’

เมื่อไม่นานมานี้ ณ อาคาร ปตท. สำนักงานใหญ่ นางกนกพร รอดรุ่งเรือง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหารชื่อเสียงองค์กรและกิจการเพื่อสังคม บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) เป็นประธานใน พิธีประกาศผลและมอบรางวัลโครงการ ‘Young Influencer Challenge Thailand 2023 : ชวน U สร้างรอยยิ้ม’ ภายใต้ความร่วมมือของ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) บริษัท เทลสกอร์ จำกัด และ บริษัท ประชารัฐรักสามัคคีระยอง (วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัด เพื่อนำความรู้จากสถาบันการศึกษามาใช้วางแผนการตลาดให้กับสินค้าชุมชน และแข่งขันจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชนในโครงการชุมชนยิ้มได้ ซึ่งมีเยาวชน 30 ทีม จาก 10 มหาวิทยาลัยเข้าร่วมโครงการฯ โดย ปตท. และผู้สนับสนุน ร่วมมอบเงินรางวัลรวมมูลค่า 65,000 บาท เพื่อเป็นกำลังใจในการสร้างสรรค์ผลงานของนิสิต นักศึกษา

นางกนกพร รอดรุ่งเรือง กล่าวว่า โครงการ ‘Young Influencer Challenge Thailand 2023 : ชวน U สร้างรอยยิ้ม’ เป็นกิจกรรมที่เปิดพื้นที่ให้เยาวชนได้แสดงพลังและปลุกไอเดียความคิดสร้างสรรค์ พร้อมนำองค์ความรู้มาประยุกต์ใช้พัฒนาแผนการตลาดจำหน่ายสินค้าชุมชนในโครงการ ‘ชุมชนยิ้มได้ โดย กลุ่ม ปตท.’ ผ่านช่องทางออนไลน์ สร้างประสบการณ์จริง ซึ่งตลอดการแข่งขันในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เยาวชนทั้ง 30 ทีม กว่า 137 คน จาก 10 มหาวิทยาลัย ได้แสดงศักยภาพในการสื่อสารการตลาดทางออนไลน์ให้กับสินค้ากับชุมชน โดยศึกษาอัตลักษณ์สินค้าชุมชนร่วมกับชุมชนเจ้าของสินค้านั้น ๆ อย่างจริงจัง จนมาสู่การวางแผนการตลาด ทำให้สามารถสร้างรายได้ในการจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทาง www.ชุมชนยิ้มได้.com รวมเป็นเงิน 547,048 บาท ในระยะเวลาเพียง 1 เดือน ส่งเสริมให้สินค้าชุมชนในโครงการฯ เป็นที่รู้จักแพร่หลายเพิ่มมากขึ้น 

อีกทั้ง เยาวชนยังได้มอบความรู้ทางการตลาด และสร้างความมั่นใจให้กับชุมชนในการจำหน่ายสินค้าทางออนไลน์ ขณะเดียวกัน โครงการฯ นี้ยังเป็นการจุดประกายความตระหนักในบทบาทของเยาวชนไทยในการเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาเศรษฐกิจของชุมชนยั่งยืนได้ พร้อมเป็นกำลังที่สร้างอนาคตของชาติต่อไปด้วย

สำหรับรางวัลในการแข่งขันโครงการ Young Influencer Challenge Thailand 2023 ประกอบด้วย รางวัลสุดยอดนักขาย (Best Seller Award) จำนวน 5 รางวัล โดย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) มอบรางวัลทีมที่ยอดจำหน่ายสูงสุด มูลค่า 25,000 บาท และมอบ รางวัลสุดยอดไอเดียการตลาด (Best Idea Award) จำนวน 1 รางวัล มูลค่า 5,000 บาท ซึ่งมีการประชันไอเดียจาก 4 ทีมที่มีแผนการตลาดโดดเด่น โดยไม่เกี่ยวกับยอดขาย เพื่อตัดสินรางวัลภายในพิธีฯ โดยมีรายชื่อทีมผู้ชนะ ดังนี้

รางวัล Best Seller Award :  
• รางวัลชนะเลิศ : มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สินค้า ‘Mango Cornflake Cookie’ จ.สระบุรี 
• รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 : มหาวิทยาลัยศิลปากร สินค้า ‘หมี่กรอบน้ำมะดันผสมธัญพืช’ จ.นครนายก
• รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2 : มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สินค้า ‘กล้วยเส้น’ จ.เลย
• รางวัลชมเชย (2 รางวัล) : มหาวิทยาลัยกรุงเทพ สินค้า ‘กระเป๋าสานกระจูดหูยาว’ จ.ระยอง
มหาวิทยาลัยกรุงเทพ สินค้า ‘น้ำผึ้งแท้จากดอกลำไย’ จ.เชียงใหม่  

“ความสำเร็จที่เกิดขึ้นจากการแข่งขันในโครงการนี้ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของเยาวชนคนรุ่นใหม่ ที่สามารถส่งเสริมการขายสินค้าชุมชนด้วยไอเดียการตลาดที่สอดรับเทรนด์การขายสินค้าออนไลน์ ในช่องทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ซึ่งช่องทางและแผนการตลาดที่พัฒนาผ่านโครงการฯ ครั้งนี้ สามารถส่งต่อแก่ชุมชน เพื่อส่งเสริมการขายและเป็นช่องทางการสื่อสารกับลูกค้าในอนาคตได้ นับเป็นความภาคภูมิใจขององค์กรที่ได้สนับสนุนพื้นที่ให้เยาวชนได้แสดงฝีมือ และพร้อมที่จะผลักดันและส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรเพื่อเป็นพลัง ในการร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศต่อไป” นางกนกพร กล่าว

๗ ธันวาคม วันคล้ายวันประสูติ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา

วันนี้ถือเป็นวันสำคัญของปวงชนชาวไทยอีกวันหนึ่ง โดยเป็นวันคล้ายวันประสูติของ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ซึ่งปีนี้ทรงเจริญพระชันษา 45 ปี

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงเป็นพระราชธิดาพระองค์ใหญ่ ในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ประสูติแต่พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจในหลากหลายด้าน ทางด้านกฎหมาย ทรงส่งเสริมหลักการยุติธรรมในสังคม โดยเฉพาะสตรีและผู้ต้องขังหญิง อีกทั้งส่งเสริมกระบวนการยุติธรรมในระดับนานาชาติ โดยทรงได้รับการแต่งตั้งเป็นทูตสันถวไมตรีด้านการส่งเสริมหลักนิติธรรมและระบบงานยุติธรรมทางอาญา สำหรับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ของสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ

อีกหนึ่งพระราชกรณียกิจอันเป็นพระมหากรุณาธิคุณต่อประชาชนชาวไทย โดยทรงเป็นองค์ประธานมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2538 ด้วยวัตถุประสงค์ในการบรรเทาความเดือดร้อน ตลอดจนช่วยเหลือประชาชนคนไทย ทั้งในยามประสบภัยพิบัติ และส่งเสริมให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน

เนื่องด้วยเป็นวันคล้ายวันประสูติ ขอพระองค์ทรงมีพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง เป็นมิ่งขวัญของประชาชนคนไทยสืบไป ทรงพระเจริญ

5 ธันวาคม วันคล้ายวันพระราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ

5 ธันวาคม ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และภายหลังการเสด็จสวรรคตของในหลวงรัชกาลที่ 9 เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2559 สำนักนายกรัฐมนตรีได้ออกประกาศ เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 เรื่อง กำหนดวันสำคัญของชาติไทย มีใจความสำคัญให้วันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปี เป็นวันสำคัญของชาติไทย ดังนี้ 

1. เป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร 

2. เป็นวันชาติ 

3. เป็นวันพ่อแห่งชาติ

โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 เป็นต้นไป 

‘5 ธันวาคม เป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร’ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเพียงใด ประชาชนคนไทยยังคงน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันประเสริฐ และเทิดทูนพระองค์ด้วยความรัก ความศรัทธา โดยตลอดระยะเวลา 70 ปีที่ผ่านมา พระองค์ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจมากมาย เพื่อให้ประชาชนคนไทยทุกคนมีคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น 

‘5 ธันวาคม เป็นวันชาติไทย’ แม้โดยทั่วไปมักจะหมายถึง วันเฉลิมฉลองที่ประเทศนั้น ๆ ได้รับอิสรภาพ เป็นเอกราช หรือเป็นวันสถาปนาประเทศ รัฐ ราชวงศ์ วันพระราชสมภพของกษัตริย์ วันเกิดประมุขของรัฐ หรืออาจจะเป็นวันที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์อื่น ๆ แต่มักจะถือเป็นวันหยุดประจำของชาติ ซึ่ง ‘วันชาติ’ ของแต่ละประเทศจะเป็นวันใดขึ้นอยู่กับการกำหนดของประเทศนั้น ๆ โดยความเป็นมาของวันชาติไทยนั้น แต่เดิมกำหนดให้เป็นวันที่ 24 มิถุนายน โดยวันที่ 24 มิถุนายน เป็นวันชาติไทยได้ 21 ปี ต่อมาในวันที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2503 รัฐบาลในขณะนั้นมีความเห็นว่า เพื่อให้เป็นไปตามขนบประเพณีของประเทศ และเป็นการสมัครสมานสามัคคีรวมจิตใจของบุคคลในชาติ จึงให้ถือวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เป็น ‘วันชาติ’ มาจนถึงปัจจุบัน

‘5 ธันวาคม เป็นวันพ่อแห่งชาติ’ วันพ่อแห่งชาติ มีขึ้นครั้งแรก เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2523 เนื่องจากพ่อเป็นบุคคลผู้มีพระคุณและมีบทบาทสำคัญต่อครอบครัวและสังคม เพื่อให้ลูกได้แสดงความกตัญญูกตเวทีต่อพ่อ และเพื่อให้ผู้เป็นพ่อสำนึกในหน้าที่และความรับผิดชอบของตน ดังนั้นจึงถือเอาวันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปี เป็น ‘วันพ่อแห่งชาติ’

เปิด 10 อันดับ ประเทศและภูมิภาคที่มีคนเรียน 'ภาษาญี่ปุ่น' มากที่สุด

‘ไทย’ ติด TOP 5 ประเทศที่มีคนเรียน ‘ภาษาญี่ปุ่น’ มากที่สุด!! 🇹🇭🇯🇵

‘อิสลา’ อัจฉริยะตัวจิ๋ว เข้าร่วม ’เมนซา‘ ตั้งแต่ 2 ขวบครึ่ง หลังวัดระดับไอคิวได้ 99 ทุบสถิติสมาชิกอายุน้อยสุดในโลก

(30 พ.ย. 66) ยูพีไอ รายงานเรื่องราวชีวิตชวนทึ่งของ ด.ญ.อิสลา แม็คแนบบ์ เด็กหญิงชาวอเมริกัน เจ้าของตำแหน่งเด็กที่อายุน้อยที่สุดในโลกที่ได้เป็นสมาชิกของ สถาบันอัจฉริยะแห่งอังกฤษ (เมนซา) ขณะมีอายุ 2 ขวบกับอีก 195 วัน

กินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ดส์ ระบุว่า อิสลาจากเมืองเครสวูด รัฐเคนทักกี กลายเป็นสมาชิกเมนซาที่มีอายุน้อยที่สุดในโลก หลังวัดระดับเชาว์ปัญญาแบบไอคิวเปอร์เซ็นไทล์ได้ถึง 99 เมื่อเทียบกับเด็กในกลุ่มอายุเท่ากันด้วยการทดสอบความสามารถทางสติปัญญาแบบสแตนฟอร์ด บิเนต์

สำหรับบุคคลที่จะเข้าร่วมเมนซาได้ต้องมีคะแนนทดสอบไอคิวเปอร์เซ็นไทล์ที่ 98 หรือสูงกว่าขึ้นไปเท่านั้น ด้าน นายเจสัน และ นางอแมนดา แม็คแนบบ์ พ่อแม่ของหนูน้อยอัจฉริยะ กล่าวว่าอิสลาเริ่มฉายแววตั้งแต่วันที่พาออกจากโรงพยาบาลเพราะสังเกตเห็นว่าอิสลามีสมาธิสูง

เมื่ออายุได้ 7 เดือน อิสลาเลือกรูปภาพสิ่งของจากหนังสือภาพเมื่อพ่อแม่บอกให้หยิบสิ่งนั้นๆ ได้อย่างถูกต้อง อิสลาเริ่มเรียนเดี่ยวกับพยัญชนะ ตัวอักษร สี และตัวเลขเมื่ออายุได้ขวบครึ่ง ไม่นานจากนั้นก็สามารถอ่านหนังสือได้

นายเจสันให้สัมภาษณ์กับ นิวยอร์กโพสต์ ว่าวันเกิดครบรอบ 2 ขวบของอิสลา ตนเขียนคำว่า “แดง” บนกระดานไวท์บอร์ด ก่อนจะทึ่งกับความสามารถของลูกสาวเพราะอ่านออกและเมื่อลองเขียนคำอื่นๆ เช่น “เหลือง” “แมว” และ “หมา” ลูกสาวก็อ่านได้อย่างง่ายดาย พออายุได้ 2 ขวบครึ่ง นางอแมนดาพาลูกสาวไปทดสอบไอคิวที่เมนซาและกลายเป็นสมาชิกที่อายุน้อยที่สุดในโลก

ด้าน นายเอ็ดเวิร์ด อาเมนด์ นักจิตวิทยาเด็กในรัฐเคนทักกีและผู้เชี่ยวชาญด้านเด็กที่มีพรสวรรค์ กล่าวว่า การทดสอบไอคิวจะพิจารณาด้านความจำและการใช้เหตุผลของเด็กในวัยนั้นๆ รวมทั้งคำศัพท์ต่างๆ เช่น ถามให้เด็กตอบว่าสิ่งนี้คืออะไร มีความเหมือนหรือต่างกับสิ่งอื่นอย่างไร

นอกจากนี้ยังทดสอบอวัจนภาษาหรือไม่ใช้ภาษา แต่เน้นการแก้ไขปัญหา บอกรูปแบบและเมทริกซ์ต่างๆ โดยคำถามจะเริ่มจากง่ายแล้วค่อยๆ เพิ่มความยากขึ้น พ่อแม่ของอิสลายังประหลาดใจที่ลูกสาวเข้าใจภาษามือและรู้ในสิ่งที่พ่อกับแม่ซึ่งไม่ว่าลูกสาวไปเรียนมาจากไหน

ขณะนี้อิสลาอายุ 4 ขวบแล้วและกำลังเรียนรู้โปรแกรมการศึกษาแบบส่วนตัวที่เมนซา ซึ่งพ่อแม่หวังว่าจะพบแหล่งข้อมูลและคำแนะนำจากพ่อแม่เด็กอัจฉริยะคนอื่นๆ เพื่อส่งเสริมความสามารถพิเศษของลูกสาว นายเจสันกล่าวว่าดีใจมากที่อิสลาได้ลงบันทึกในกินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ดส์ ลูกสาวประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีในช่วง 3 ปีแรกและแทบจะอดทนรอเห็นอนาคตของลูกไม่ไหวแล้ว

‘14 เด็กไทย’ ร่วมแข่งคณิตศาสตร์ ‘2023 WMTC’ ที่เกาหลีใต้ คว้าเหรียญรางวัลประเภทบุคคล ‘3 ทอง 6 เงิน 5 ทองแดง’

(29 พ.ย. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะนักเรียน 14 คน ที่เดินทางไปแข่งขันในรายการแข่งขันคณิตศาสตร์นานาชาติ 2023 WMTC-World  Mathematics Team Championship ณ ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 24-28 พฤศจิกายน 66 ได้เดินทางกลับมาถึงยังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเรียบร้อยแล้ว พร้อมผู้ฝึกสอนและผู้ปกครอง ท่ามกลางความยินดีจากผู้โดยสารที่มาใช้บริการภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิโดยรอบ

นายภูมิเทพ คลังอุไร ประธานโครงการ Thai Talent Training และ Coach ของทีมประเทศไทย ให้สัมภาษณ์ว่า ตัวแทนเด็กไทยสร้างผลงานได้อย่างดีเยี่ยมเป็นที่น่ายินดียิ่ง โดยสามารถคว้ารางวัลแชมเปี้ยนจากการแข่งขันประเภทบุคคล ของรุ่น Junior และยังสามารถคว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ประเภททีม จากผู้เข้าร่วมแข่งขันมากกว่า 20 ประเทศ ที่มาจากทุกทวีปทั่วโลก

อาทิ สาธารณรัฐประชาชนจีน, สหรัฐอเมริกา, เกาหลีใต้, มาเลเซีย, ญี่ปุ่น, ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์, เวียดนาม, ฮ่องกง, ออสเตรเลีย, อินโดนีเซีย, อิหร่าน, คาซัคสถาน, อียิปต์, พม่า,ได้หวัน, บัลกาเรีย, อุซเบกิสถาน, กัมพูชา และ ไทย 2023

WMTC เป็นรายการแข่งขันคณิตศาสตร์นานาชาติ ที่เกิดจากความร่วมมือระหว่างสมาคมจีนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ สาธารณรัฐประชาชนจีน กับสมาคมเพื่อเฟ้นหาทีมสุดยอดระดับโลก สหรัฐอเมริกา

ทั้งนี้ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างเยาวชนจากภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลก พร้อมปลูกฝังจิตวิญญาณการทำงานเป็นทีม รวมทั้งส่งเสริมความร่วมมือระหว่างนักคณิตศาสตร์จากทั่วโลก เพื่อช่วยกันพัฒนาการเรียนการสอนวิชาคณิตศาสตร์ ให้มีความก้าวหน้ายิ่ง ๆ ขึ้นไป

โดยมี Prof. Quan K. Lam from University of California (USA) เป็นประธานคณะกรรมการ WMTC
2023 WMTC เป็นการแข่งขันคณิตศาสตร์นานาชาติประเภททีม แต่ละทีมประกอบด้วยสมาชิก 6 คน ซึ่งมีการแข่งขันใน 3 รูปแบบ ได้แก่ Individual Round, Relay Round และ Team Round แบ่งการจัดการแข่งขันออกเป็น 3 รุ่น ได้แก่ Junior Level (ประถมศึกษาตอนปลาย), Intermediate Level (มัธยมศึกษาตอนต้น) และ Advanced Level (มัธยมศึกษาตอนปลาย)

สำหรับผลงานของตัวแทนประเทศไทย จากการแข่งขัน 2023 WMTC ซึ่งประเทศไทยได้ส่งตัวแทนเข้าร่วมทั้ง 3 รุ่นนั้น มีดังนี้

1. Junior Level
• ได้รับรางวัลแชมเปี้ยน ประเภทบุคคล จากผลงานของ เด็กหญิงเพชรพริมา เศรษฐปิยานนท์ โรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย ได้รับเงินรางวัล 300 ดอลลาร์สหรัฐฯ

• ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ประเภททีม จากผลงานของ

-เด็กหญิงเพชรพริมา เศรษฐปิยานนท์ โรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย
-เด็กชายดรณ์ นิสภาธร บ้านเรียนนิสภาธร
-เด็กชายวิชสิทธิ์ วิรัชศิลป์ โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย
-เด็กชายอัฑฒ์ฐวิชณ์ ทองบัวศิริไล โรงเรียนอนุบาลสุธีธร
-เด็กชายศุภกร สิริธนกุล โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย
-เด็กชายณทัช วรเศรษฐการกิจ Singapore International School Thonburi

• ได้รับรางวัลเหรียญทอง ประเภทบุคคล จากผลงานของ

-เด็กหญิงเพชรพริมา เศรษฐปิยานนท์ โรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย
-เด็กชายดรณ์ นิสภาธร บ้านเรียนนิสภาธร
-เด็กชายวิชสิทธิ์ วิรัชศิลป์ โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย

• ได้รับรางวัลเหรียญเงิน ประเภทบุคคล จากผลงานของ

-เด็กชายอัฑฒ์ฐวิชณ์ ทองบัวศิริไล โรงเรียนอนุบาลสุธีธร
-เด็กชายศุภกร สิริธนกุล โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย

• รางวัลเหรียญทองแดง ประเภทบุคคล จากผลงานของ

-เด็กชายณทัช วรเศรษฐการกิจ Singapore International School Thonburi

2. Intermediate Level
• ได้รับรางวัลเหรียญเงินประเภทบุคคล จากผลงานของ

-เด็กชายกรณ์ สิริธนกุล โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย
-เด็กชายปุณณวิช อรุณศิริวัฒนา โรงเรียนแสงทองวิทยา

• ได้รับรางวัลเหรียญทองแดงประเภทบุคคล จากผลงานของ

-นายนรภัทร กมลรัตนกุล St. Stephen’s International school
-เด็กชายสุภาษิต ธรรมเภตรารักษ์ โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย

3.Advanced Level• ได้รับรางวัลเหรียญเงินประเภทบุคคล จากผลงานของ

-นายสร้างสรรค์ ประสิทธิ์นฤทธิ์ Newton Sixth Form
-นายศุภเกียรติ มนัสศิริวิทยา Newton Sixth Form

• ได้รับรางวัลเหรียญทองแดงประเภทบุคคล จากผลงานของ

-นายณัฐพัชร์ ฉันทโรจน์ศิริ โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์
-นายภูวเดช ประยุรธเนศ โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์

‘ศุภชัย’ บิ๊กใหญ่ ‘ซีพี’ ชงพลิกโฉมการศึกษาไทย รับมือโลกยุค 5.0 หนุนเด็กทุกคนต้องมีคอมพิวเตอร์ เสริมทักษะดิจิทัล-ภาษาอังกฤษ

เมื่อวันที่ 27 พ.ย. 66 รายงานข่าวเผยว่า นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ได้แสดงวิสัยทัศน์เรื่อง ‘The Future of Education พลิกโฉมการศึกษาไทยเท่าทันอนาคต’ ภายในงาน ‘THE STANDARD ECONOMIC FORUM 2023 FUTURE READY THAILAND’ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ

ทั้งนี้ นายศุภชัย ได้ฉายภาพรวมความท้าทายของโลกและเมกะเทรนด์ปี 2023 - 2030 โดยระบุว่า เด็กรุ่นใหม่ในยุคนี้ต้องเผชิญกับความท้าทายของโลกในหลายด้าน ดังนั้น เราต้องปรับตัวให้ทัน และต้องให้ความสำคัญกับการผลักดันนโยบายด้านเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลมากขึ้น เพราะเราหยุดความก้าวหน้าของโลกไม่ได้ แม้ว่าในตอนนี้โลกอยู่ในยุค 4.0 ซึ่งเป็นยุคของการเข้าถึงข้อมูลเป็นดั่งน้ำมันในอากาศ

เวลานี้กำลังจะก้าวเข้าสู่ยุค 5.0 ซึ่งเป็นยุคของการผสมผสานเทคโนโลยี AI และกรอบความคิดของคน รวมถึงหลักความยั่งยืนให้เป็นหนึ่งเดียวกัน และเป็นยุคที่ให้ความสำคัญในการเพิ่มทักษะด้านดิจิทัลขั้นสูงให้กับคนในประเทศ

แต่ทั้งนี้ เมื่อมาดูผลสำรวจความสามารถทางทักษะดิจิทัล พบว่า เด็กไทยยังขาดทักษะดิจิทัลและภาษาอังกฤษที่ยังตามหลังประเทศเพื่อนบ้าน และหากดูการจัดอันดับการแข่งขันในเวทีโลก GDP ไทยอยู่อันดับที่ 26 แต่ GDP/CAPITA อยู่อันดับที่ 84  ซึ่งเป็นโจทย์ใหญ่ของไทยในการลงทุนด้านทรัพยากรมนุษย์ รวมไปถึงการลงทุนด้านเทคโนโลยี ดังนั้น จึงจำเป็นต้องมีการปฏิรูปการศึกษาทำให้เด็กเข้าถึงระบบการศึกษาที่มีคุณภาพ เพราะประสิทธิภาพของทรัพยากรมนุษย์ คือหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ

นายศุภชัย ได้เสนอแนะสิ่งที่จะพลิกโฉมการศึกษาไทยให้เท่าทันความท้าทายต่าง ๆ ในอนาคตว่า ระบบการศึกษาไทยควรต้องปรับการเรียนรู้จาก 2.0 เป็น 5.0 เข็มทิศสำคัญคือการให้ความรัก ให้ความมั่นใจกับเด็ก เน้นให้เด็กเป็นศูนย์กลาง โดยบทบาทของครูจะต้องปรับเปลี่ยนจากผู้สอนไปเป็น ‘โค้ช’ หรือผู้นำกระบวนการเรียนรู้ (Facilitator) ต้องสอนให้เด็กเป็น ‘นักค้นคว้า’ มีกรอบความคิดใหม่ และเกิดการปรับตัวให้อยู่รอดในโลกที่ท้าทายตอนนี้ เพราะฉะนั้น การเรียนรู้จึงต้องปรับให้เด็กเกิดการตั้งคำถาม ค้นหาคำตอบ ลงมือทำร่วมกัน อภิปรายด้วยเหตุผล เพื่อให้เกิดการปรับปรุงและพัฒนา โดยทุกโรงเรียนต้องปรับเป็น ‘Learning Center’

พร้อมกันนี้ได้เสนอโมเดล ‘Sustainable Intelligence Transformation’ (SI Transformation Model) ผ่าน 5 ฐานสำคัญในการเปลี่ยนระบบการศึกษาและการพัฒนาทรัพยากรบุคคล ประกอบด้วย

1.) Transparency โรงเรียนต้องมีตัวชี้วัด School Grading พร้อมตัวชี้วัดใหม่ที่มีนักเรียนเป็นศูนย์กลาง และต้องมีสมุดพกดิจิทัล วิเคราะห์และพัฒนาศักยภาพรายบุคคล

2.) Market Mechanism สร้างกลไกตลาดและวัฒนธรรมแห่งการเรียนรู้ พร้อมทั้งสร้างความร่วมมือกับทุกภาคส่วน รวมไปถึงการส่งเสริมสื่อคุณธรรม

3.) Leadership &Talents ไม่จำกัดวิทยฐานะผู้อำนวยการ สร้างผู้นำและบุคลากรที่มีทักษะ 5.0

4. Empowerment เน้นการเรียนผ่านการลงมือทำในแบบ Action Based Learning บนสามขาความยั่งยืนคือเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม และควรต้องมี Computer Science เป็นวิชาหลักครอบคลุมดิจิทัลเทคกับเอไอ

5.) Technology เสนอให้นักเรียนทุกคนมีคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต พร้อมส่งเสริมการสร้างสตาร์ทอัพ และดันให้ประเทศไทยเป็นฮับด้านนวัตกรรม

“เด็กทุกคนต้องมีคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต เพราะนั่นคือห้องสมุดที่ใหญ่ที่สุด และต้องมีการส่งเสริมศักยภาพของคนรุ่นใหม่ เพื่อการพัฒนาประเทศให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก ทั้งนี้ การศึกษาเป็นเรื่องของทุกคน เป็นเรื่องใหญ่ หากเราต้องการเปลี่ยนแปลงอนาคต เราต้องเปลี่ยนเจเนอเรชั่นถัดไป เพราะพวกเขาคือผู้ที่จะรับมือกับความท้าทายใหม่ ๆ และต้องสร้างทักษะดิจิทัลให้พวกเขามีศักยภาพในการปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลงโลกได้อย่างเท่าทัน” ซีอีโอเครือซีพี กล่าว
 

'ดร.เอ้' เปิดใจ!! ในฐานะนักเรียนทุนรัฐบาลจากภาษีประชาชน ต้องตอบแทน ‘ปชช.-สังคม-แผ่นดินแม่’ อย่างสุดความสามารถ

(27 พ.ย. 66) ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) อดีตนายกสภาวิศวกร และอดีตนายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า...

"เรา นักเรียนทุนรัฐบาล จากภาษีประชาชน ต้องตอบแทนคุณแผ่นดิน"

ผมในฐานะ ‘นายกสมาคมนักเรียนทุนรัฐบาลไทย’ จัดการประชุมประจำปี และมอบรางวัลนักเรียนทุนดีเด่น และนักเรียนทุนดาวรุ่ง ประจำปี 2566 เพื่อเป็นกำลังใจแก่ คนทำความดีเพื่อสังคมไทย

ผมขอแสดงความยินดีกับ ผู้ได้รับรางวัลที่ยิ่งใหญ่นี้ และครอบครัว รวมทั้งหน่วยงานของท่านด้วยครับ

ทุกความสำเร็จ ย่อมมี ‘คนปิดทองหลังพระ’ ซึ่งก็คือ พี่น้องคณะกรรมการสมาคมนักเรียนทุนฯ ที่เป็นคนที่เสียสละที่สุด ทำงานเพื่อส่วนรวม มิหวังผลตอบแทน และไม่เคยได้อะไรตอบแทน น่าศรัทธายิ่ง

เรารู้ว่า บุญคุณของสังคมไทย ที่ส่งเราไปเรียนต่างประเทศ นั้นยิ่งใหญ่มากนัก เราจึงมีหน้าที่ต้องตอบแทนประชาชน สังคม และแผ่นดินแม่ อย่างสุดความสามารถ

รู้ครับว่า ไม่ง่าย เพราะคนเก่ง คนดี อาจไปไม่ไกลถึงดวงดาว เพราะสังคมไทยมีปัจจัยแฝงมากมายเหลือเกิน

แต่กำลังใจ ที่มอบให้กัน และการยกย่องคนเก่งคนดี อย่างน้อยจะเป็นพลังซึ่งกันและกัน ผลักดันสังคมไทยให้พัฒนาขึ้นได้แน่นอน

สู้ๆ นะครับ

ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์
นายกสมาคมนักเรียนทุนรัฐบาลไทย (2562-2566)
#นักเรียนทุน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STUDY TIMES
Take Me Top