ชี้ช่องทางหาโอกาส ไปต่างประเทศสำหรับนักเรียนนักศึกษา

ไม่ว่าจะนักเรียน นักศึกษา คนที่เรียนจบแล้ว หรือคนวัยทำงาน ก็คงอยากมีโอกาสไปสัมผัสประสบการณ์ที่ต่างประเทศสักครั้งในชีวิต เพราะข้อดีของการใช้ชีวิตที่ต่างประเทศนั้นมีมากมายนับไม่ถ้วน อาทิ มีโอกาสได้ฝึกและใช้ภาษาอยู่เสมอ, มีโอกาสท่องเที่ยวในที่ใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา, เปิดโลกกว้างในการเรียนรู้ความแตกต่างของวัฒนธรรมอื่นๆ และสัมผัสกับเจ้าของภาษากับวัฒนธรรมนั้นๆ อย่างแท้จริง, ได้เพื่อนต่างชาติใหม่ๆ , ปรับทัศนคติและเรียนรู้โลกให้กว้างขึ้น รวมทั้งเพิ่มโอกาสในการเรียนและทำงานให้กับตนเอง เป็นต้น จึงไม่น่าแปลกใจที่ใครๆ ก็อยากมีโอกาสไปอยู่ต่างประเทศสักครั้งในชีวิต วันนี้ผู้เขียนเลยรวมรวบ 2 โอกาสดีๆ มาฝากผู้ที่อยากไปสัมผัสชีวิตที่ต่างประเทศมาบอกต่อกัน โดยจะแบ่งตามวัย ดังนี้

 

1. นักเรียนมัธยม

โปรแกรมที่เป็นที่นิยมและฮอตฮิตกันสุดๆ สำหรับเด็กนักเรียนมัธยมทั้งหลายนั้นก็เห็นจะเป็นโครงการนักเรียนแลกเปลี่ยน ซึ่งส่วนใหญ่จะรับน้อง ๆ อายุ 15 – 18 ปี ส่วนเกรดเฉลี่ยก็จะมีรับตั้งแต่ 2.00 ขึ้นไป ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของแต่ละโครงการ พร้อมกับมีประเทศให้เลือกไปแลกเปลี่ยนมากมาย อาทิ อเมริกา, แคนาดา, ฝรั่งเศส, ญี่ปุ่น, ฮังการี หรืออาร์เจนติน่า เป็นต้น และเหตุผลที่โครงการนักเรียนแลกเปลี่ยนมีกระแสตอบรับจากน้องๆ เป็นอย่างมากนั้นก็เพราะว่าน้องๆ มีโอกาสแลกเปลี่ยนภาษาและวัฒนธรรมกับเจ้าของภาษา ได้ลองเรียนในโรงเรียนเมืองนอกเพื่อสัมผัสระบบการศึกษา ได้เพื่อนต่างชาติ แถมยังจ่ายน้อยอีกนั่นเอง ทั้งนี้ในปัจจุบันก็มีโครงการจากหลากหลายเอเจนต์มาให้น้องๆ เลือกแลกเปลี่ยนไปประเทศต่างๆ ตามใจชอบ เช่น AFS, YFU, EF, MPLC, BWK และ Edudee เป็นต้น หากน้อง ๆ สนใจโครงการไหนเป็นพิเศษก็ศึกษารายละเอียดให้ดีและเตรียมผลการเรียนไว้รอได้เลย

 

2. นักศึกษา

สำหรับน้องๆ นักศึกษานั้นดูจะมีหลายช่องทางสำหรับไปเปิดประสบการณ์ที่ต่างประเทศมากยิ่งขึ้น และข้อกำหนดหรือกฎเกณฑ์ก็แตกต่างกันไปตามเอเจนต์ต่างๆ น้องๆ จึงจำเป็นต้องสอบถามข้อมูล ศึกษารายละเอียด และเตรียมตัวให้ดี อาทิเช่น

 

Work and Travel เป็นโครงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมในประเทศต่างๆ เช่น อเมริกา สิงคโปร์ และ ฝรั่งเศส เป็นต้น ซึ่งเปิดโอกาสให้น้องๆ นักศึกษาได้ไปฝึกภาษาในสถานการณ์จริง เรียนรู้ความเป็นอยู่ และฝึกวิชาชีพตามฤดูกาลในช่วงปิดภาคเรียนใหญ่ 3 – 4 เดือน โดยส่วนใหญ่จะเป็นช่วงเดือนพฤษภาคม – สิงหาคม ซึ่งน้อง ๆ จะได้ฝึกความอดทน เป็นผู้ใหญ่ รวมถึงเอาตัวรอดไปในตัว ทั้งนี้งานที่น้องๆ จะได้ทดลองทำนั้นก็มีหลากหลาย เช่น งานร้านอาหาร, งานโรงแรม, งานรีสอร์ต, งานสวนสนุก และงานขายของที่ระลึก โดยเอเจ้นต์สำหรับ Work and Travel นี้ก็มีหลายเอเจนต์ด้วยกัน อาทิ ieo, Warantex, American Learning, PST Center, Click Work and Travel ฯลฯ

 

Work and Study เป็นโครงการทำงานและเรียนไปด้วยในต่างประเทศ ซึ่งมีประเทศให้เลือกตามชอบใจหลายประเทศเช่นกัน อาทิ แคนาดา สิงคโปร์ และออสเตรเลีย โดยคอร์สเรียนก็มีให้เลือกเยอะ โดยระยะเวลานั้นก็จะมีตั้งแต่ 6 เดือน – 2 ปี เช่น ทำอาหาร, บริหารธุรกิจ และการจัดการด้านบริการ เป็นต้น ทั้งนี้งานก็มีให้เลือกหลากหลาย เช่น พนักงานเสิร์ฟ, พนักงานล้างจาน, พนักงานสปา, พนักงานต้อนรับ ฯลฯ โดยสามารถติดต่อผ่านเอเจ้นต์ อาทิ ieo, TSAB (Thai Study Abroad Consultant), Advice for you ฯลฯ

 

Work and Holiday ในปัจจุบันโครงการ Work and Holiday ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ พร้อมกับเยาวชนไทยอย่างดีเยี่ยม ซึ่งโครงการนี้มีเพียงปีละครั้งเท่านั้น โดยผู้ที่สมัครเข้าร่วมโครงการต้องมีอายุ 18 – 30 ปี พร้อมคะแนนการทดสอบทางภาษาอังกฤษอย่าง IELTS ไม่ต่ำกว่า 4.5 หรือคะแนน TOEFL ที่ใกล้เคียงกัน ซึ่งน้องๆ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ thaiwahclub.com, blog.eduzones.com และ HydeFly.com เป็นต้น

 

ทุนการศึกษาหรือทุนแลกเปลี่ยน นับว่าเป็นอีกหนึ่งช่องทางเพื่อน้องๆ นักศึกษาที่หลากหลายไม่น้อยเลยทีเดียว เป็นต้นว่า ทุนครึ่งจำนวน, ทุนเต็มจำนวน, ทุนให้เปล่า, ทุนรัฐบาล และทุนอื่น ๆ อีกเพียบ อาทิเช่น ทุน ก.พ. จากรัฐบาลไทย, ทุน EF, ทุน Full Bright จากอเมริกา, ทุน Chevening จากอังกฤษ, ทุน Endeavour Awards จากออสเตรเลีย และทุน DAAD จากเยอรมัน เป็นต้น ซึ่งน้องๆ ก็ต้องศึกษารายละเอียดและกฎของทุนต่างๆ ให้ดี Aupair เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมโครงการได้ไปใช้ชีวิตกับครอบครัวอุปถัมภ์ ฝึกภาษาอังกฤษ และเรียนรู้วัฒนธรรม โดยการเป็นพี่เลี้ยงเด็ก ซึ่งบางโครงการมีทั้งทุนการศึกษารวมถึงค่าตอบแทนให้ด้วย นับว่าเป็นอีกหนึ่งโครงการที่ไม่เลวเลยทีเดียว เช่น Aupair กับ Kool-World, American Learning, Cultural Care, A&D Academic Worldwide และ YES เป็นต้น