Thursday, 16 May 2024
มหาวิทยาลัยรามคำแหง

‘Pre-degree’ ม.รามคำแหง โอกาสเด็กม.ปลาย เลือกเรียนคณะตรงใจ-สะสมหน่วยกิต ‘ปริญญาตรี’ ล่วงหน้า

ในทุก ๆ ปี น้องๆ นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จะต้องเข้าขั้นตอนสอบเข้ามหาวิทยาลัยในฝัน ซึ่งมีทั้งรอบสอบตรง โควตา และระบบ TCAS แน่นอนว่าน้อง ๆ จะต้องใช้ความพยายาม ทุ่มเทเวลา และความมุมานะ ในการอ่านหนังสือเพื่อไปสอบแข่งขัน

แต่อีกทางเลือกหนึ่งสำหรับน้อง ๆ ที่ศึกษาอยู่ในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ที่มุ่งหวังอยากจบ ปริญญาตรี หรือเรียนปริญญาตรีควบคุมกันไป ก็คือ การเรียนระบบ Pre-degree ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง

ซึ่งระบบ Pre-degree เป็นการเรียนเพื่อสะสมหน่วยกิตในระดับปริญญาตรีของมหาวิทยาลัยรามคำแหงล่วงหน้า สำหรับผู้ที่เรียนจบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (ม.3) หรือเทียบเท่าขึ้นไป สมัครเข้าเป็นนักศึกษาระบบ ระบบ Pre-degree ได้ โดยเลือกลงทะเบียนเรียนสะสมหน่วยกิตของคณะที่สนใจ และเมื่อได้รับวุฒิสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย หรือเทียบเท่า จึงทำการสมัครเป็นนักศึกษาใหม่ระดับชั้นปริญญาตรี โดยใช้สิทธิเทียบโอนหน่วยกิตจากรหัส Pre-degree และเรียนต่อวิชาที่เหลือจนจบหลักสูตรปริญญาตรี

สำหรับเอกสารในการสมัครเรียนระบบ Pre-degree มีดังนี้
-สำเนาวุฒิ ม.3 หรือเทียบเท่าขึ้นไป
-สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
-รูปถ่ายสี ขนาด 1.5 หรือ 2 นิ้ว จำนวน 1 รูป

โดยการสมัครเรียนในระบบ Pre-degree จะมีค่าใช้จ่ายเป็นค่าสมัครแรกเข้า+ค่าลงเทียนเรียนเทอมแรกประมาณ 2,700 - 3,100 บาท และค่าลงทะเบียนเรียนเทอมต่อไปไม่เกิด 1,500 บาท

การเรียนในระบบ Pre-degree ของมหาวิทยาลัยรามคำแหง มีสื่อการเรียนการสอนหลากหลายรูปแบบ เช่น การเรียนการสอนในชั้นเรียน สำหรับบุคคลที่สะดวกเข้าห้องเรียน, ถ่ายทอดสดการเรียนการสอนจากห้องเรียน หรือที่เรียกว่า Cyber Classroom ที่เว็บไซต์ cyberclassroom.ru.ac.th, วิดีโอคำบรรยายย้อนหลัง หรือ Course On Demand ที่เว็บไซต์ https://m-leaning.ru.ac.th/ และแอปพลิเคชัน RU Course On Demand วิดีโอคำบรรยายย้อนหลัง

การเรียนในระบบ Pre-degree มีให้เลือกทั้งแบบส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ซึ่งหากน้อง ๆ สนใจเรียนในส่วนกลาง ทางมหาวิทยาลัยรามคำแหงจะเปิดรับสมัครนักศึกษาใหม่ ปีละ 2 ครั้ง คือภาค 1 และภาค 2 ของแต่ละปีการศึกษา ส่วนเรียนในส่วนภูมิภาค จะเปิดรับสมัครนักศึกษาใหม่ปีละ 1 ครั้ง คือภาค 1 ของแต่ละปีการศึกษา

สำหรับระบบ Pre-degree ส่วนกลาง เปิดสอนมากถึง 9 คณะ ได้แก่ คณะนิติศาสตร์, คณะบริหารธุรกิจ, คณะศึกษาศาสตร์, คณะสื่อสารมวลชน, คณะเศรษฐศาสตร์, คณะมนุษยศาสตร์, คณะพัฒนาทรัพยากรมนุษย์, คณะวิทยาศาสตร์ และคณะบริหารธุรกิจ

ส่วน ระบบ Pre-degree ส่วนกลาง เปิดสอน 4 คณะ 4 สาขา ได้แก่ คณะนิติศาสตร์ สาขานิติศาสตร์, คณะบริหารธุรกิจ สาขาการจัดการทั่วไป, คณะรัฐศาสตร์ กลุ่มวิชาเอกบริหารรัฐกิจ และคณะสื่อสารมวลชน สาขานิเทศศาสตร์และสื่อดิจิทัล

หากน้อง ๆ สนใจสามารถดูรายละเอียดได้ที่ https://www.facebook.com/ramkhamhaeng.ru หรือเว็บไซต์ https://www.ru.ac.th/th/

เรียนก่อน จบก่อน ด้วยระบบ Pre-degree  ให้โอกาสทางการศึกษา เลือกเรียนได้ในสาขาที่ตรงใจ

‘รปภ. ม.รามฯ’ จบป.ตรี ภาควิชาปรัชญา สาขาภาษาจีน เผย!! “ไม่มีเคล็ดลับอะไรเลย นอกจากต้องมีวินัย”

(20 มี.ค. 67) นับเป็นเรื่องราวดี ๆ ที่เมื่อได้เห็นก็ต้องชื่นชมและร่วมยินดีด้วยทันที เรื่องราวของ นายอนุชา จุดาบุตร หรือที่ชาวคณะมนุษยฯ ม.รามคำแหงเรียกกันว่า ‘พี่อนุชา’ ถือเป็นตัวอย่างของความมุมานะ มั่นเพียร และมีวินัยจนประสบความสำเร็จในสิ่งที่ตั้งใจไว้

โดยเพจ ‘RU Chinese studies’ ได้แชร์เรื่องราวของ ‘พี่อนุชา’ ไว้ว่า… 

“พี่อนุชา หรือนายอนุชา จุดาบุตร เป็น รปภ.ประจำอยู่อาคาร 2 คณะมนุษยศาสตร์มาหลายปีค่ะ แอดมินเห็นมาตั้งแต่แอดยังวิ่งเข้าวิ่งออกเป็นนักศึกษาเอกจีนของรามคำแหงอยู่เลย…

“ปีนี้ พี่อนุชา กลายเป็นหนึ่งในบัณฑิตที่สำเร็จการศึกษาปริญญาตรีจากภาควิชาปรัชญา คณะมนุษยศาสตร์นะคะ สาขาวิชาภาษาจีน ขอแสดงความยินดีกับพี่อนุชามา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ”

นอกจากนี้ยังระบุต่ออีกว่า “พี่อนุชาเริ่มเรียนมาตั้งแต่เทอม 2/60 และจบในเทอม 1/64 ที่เรียนจนจบได้ตามระยะเวลานี้ พี่อนุชาบอกว่า “ไม่มีเคล็ดลับอะไรเลยครับ นอกจาก ‘ต้องมีวินัย’ ครับผม” 

“ดังนั้น จึงกลายเป็นอีกหนึ่งแบบอย่างที่ควรเอาอย่างนะคะ เอาอย่างในเรื่องความมุมานะ วิริยะ พยายามและตั้งใจอย่างต่อเนื่อง 

“ถึงแม้พี่อนุชาจะรูปร่างสูงใหญ่จนน้อง ๆ นักศึกษาเห็นแล้วออกจะกลัว ๆ เกร็ง ๆ อย่างนี้ แต่ตัวจริงใจดีนะคะ ถึงช่วงสอบทีไร วิชาภาษาจีนที่ต้องมีการสอบพูด และมักจะสอบกันที่บนตึกของคณะมนุษยศาสตร์ แต่พออาจารย์บอกพี่อนุชาไว้ว่าวันนั้นวันนี้จะมีนักศึกษามาสอบปฏิบัตินะ พี่อนุชาก็รับทราบและคอยดูแลนักศึกษาให้อย่างดี

#รปภตัวใหญ่หัวใจอ่อนโยนจ้า 👏👏👏


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STUDY TIMES
Take Me Top