Friday, 10 May 2024
เด็กไทย

เด็กไทยสร้างชื่อ คว้า 23 รางวัลการแข่งขันเต้นระดับโลก รายการ ‘UDO WORLD STREET DANCE 2023’ ที่อังกฤษ

(29 ส.ค. 66) ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก น.ส.ศรัญญา ชาญเชี่ยว หรือ ครูตาล ผู้บริหาร IDS DANCE STUDIO จ.ชลบุรี ที่ได้นำทีมเยาวชน I DASS ALL OUT TEAM เข้าร่วมการแข่งขันการเต้น STREET DANCE ในรายการ ‘UDO WORLD STREET DANCE CHAMPIONSHIP 2023’ ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองแบล็คพลู ประเทศอังกฤษ ระหว่างวันที่ 23-27 ส.ค.ที่ผ่านมา ว่าเป็นอีกหนึ่งปีที่เยาวชนไทยสามารถสร้างผลงานได้ดีเยี่ยม 

โดยการแข่งขันดังกล่าวนับเป็นเวทีที่มีชื่อเสียงระดับโลก และยังสามารถดึงดูดนักเต้นทั่วโลกให้เข้าร่วมชิงชัยได้มากถึง 30 กว่าประเทศ  
.
ขณะที่การนำทีมเยาวชนเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ ‘IDS DANCE STUDIO ชลบุรี’ มีทีมที่สามารถคว้าถ้วยรางวัลได้มากถึง 23 ถ้วยรางวัล ประกอบด้วย

1. รายการแข่งขันประเภททีม /TEAM 
รุ่นอายุไม่เกิน 14 ปี 
ระดับ : INTERMEDIATE 
รางวัล : รองชนะเลิศอันดับ 2 
ทีม : I DASS ALL OUT TEAM 

2. รายการแข่งขันประเภทเดี่ยว / SOLO 
-รุ่นอายุไม่เกิน 8 ปี 
ระดับ BEGINNER 
รางวัลชนะเลิศ อันดับ 1 
ด.ญ.ณิรินทร์ ศิริ (กันตา)  

-รุ่นอายุไม่เกิน 10ปี 
ระดับ INTERMEDIATE  
รางวัลชนะเลิศ อันดับ 1 
ด.ช.ณัฐพนธ์ ศิริ (กตังค์) 

-รุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี 
ระดับ INTERMEDIATE  
รางวัลชนะเลิศ อันดับ 1

ด.ญ.ลภัสรดา ไชยรักษ์ (หยก) 
รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 3
ด.ญ.อายูมิ อิโตะ (ยูมิ)

-รุ่นอายุไม่เกิน 14 ปี 
ระดับ INTERMEDIATE  
รางวัลชนะเลิศ อันดับ 1 
ด.ญ.ชนิดาภา สังขจาย (ใบเตย)  

รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2 
ด.ญ.พศวีร์ อุบลนุช (ยาหยี) 

3. รายการประเภทคู่ / DUO  
- รุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี
ระดับ INTERMEDIATE 
รางวัลชนะเลิศ อันดับ 1 
ด.ญ.ลภัสรดา ไชยรักษ์ (หยก) 
ด.ช.ณัฐพนธ์ ศิริ (กตังค์)

- รุ่นอายุไม่เกิน 14 ปี 
ระดับ INTERMEDIATE 
รางวัลชนะเลิศ อันดับ 1  
ด.ญ.ชนิดาภา สังขจาย (ใบเตย)  
ด.ญ.พศวีร์ อุบลนุช (ยาหยี) 

- รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี 
ระดับ INTERMEDIATE  
รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1
ด.ญ.ชญาณี อรัญคีรีมาศ (อ๋อ)
ด.ญ.รามิล ศักดิ์ศรีดีเลิศ(เพลย์) 

4. รายการแข่งขันประเภททีม 4 คน/QUAD 
-รุ่นอายุไม่เกิน 14 ปี 
ระดับ INTERMEDIATE 
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1
ด.ญ.ลภัสรดา ไชยรักษ์ (หยก) 
ด.ญ.อายูมิ อิโตะ (ยูมิ) 
ด.ช.ณัฐพนธ์ ศิริ (กตังค์)  
ด.ช.ภพพี ชัยประสาธน์ (พี)

-รุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี 
ระดับ INTERMEDIATE 
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 3
ด.ญ.ชนิดาภา สังขจาย (ใบเตย)
ด.ญ.ชญาณี อรัญคีรีมาศ (อ๋อ)
ด.ญ.รามิล ศักดิ์ศรีดีเลิศ(เพลย์) 
ด.ญ.พศวีร์ อุบลนุช (ยาหยี)

5. รายการแข่งขันประเภททีม SUPERCREW THAILAND  
รางวัลชนะเลิศอันดับ 1
ด.ญ.ชญาณี อรัญคีรีมาศ (อ๋อ)

6. รายการแข่งขันประเภทแบทเทิล/BATTLE  
รุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี  
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 
ด.ญ.ลภัสรดา ไชยรักษ์ (หยก)

นักเรียน รร.วิทย์จุฬาภรณ์ ปทุมฯ คว้า 6 ทอง 2 เงิน 1 โล่รางวัล 5 เกียรติบัตร จากการแข่งขันสิ่งประดิษฐ์ในงาน ‘Indonesia Inventors Day 2023’

เมื่อวานนี้ (19 ก.ย. 66) ผู้ใช้งานเฟซบุ๊ก ‘Khunthong Klaythong’ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า…

ขอแสดงความยินดีกับทัพนวัตกรของเราวันนี้ พวกหนูทุกคนเก่งมากๆ ครับ
🥇🥇🥇🥇🥇🥇6 เหรียญทอง
🥈🥈2 เหรียญเงิน
🏆1 โล่รางวัล special award
🎖🎖🎖🎖🎖5 เกียรติบัตร special award

ในงาน The 10th International Young Inventor Awards (IYIA2023) ณ เมืองบาหลี ประเทศอินโดนีเชีย

🏆🎖🥇จากผลงาน
Title of invention : CTS Glove+ : Physical therapy innovation for treating and preventing Carpal Tunnel Syndrome in rubber plantation farmers
Name of inventor : Witchapol Thitiapirukkul, Sirisak Thohad, Peeraya Phaewking, Pattarapol Seetiangtum and Purich Phichayanurat 
Name of supervisor : 
Khunthong Klaythong

🥇🎖จากผลงาน
Title of Invention : 
RADPRO+ : The Development of Composite Material from UHT Recycled Milk Cartons with Carbon Black and Barium Sulfate as a Guideline to Improve Radiation Protection Sheets
Name of Inventors : Sakdinand Patipanyankitti, Pharitt Khantheethoa, Sirana Saesoo, Chayapond Tiyapunjanit and Punnawit Jullachaeng
Name of Supervisor : Khunthong Klaythong

🥇🎖จากผลงาน
Title of Invention : Pro-therapea : Increasing Protein for Ready-to-use Therapeutic Plant-Bases Food (RUTF) from Rhizopus oligosporus Fermented peanut with Wolffia globosa for Severely Malnourished Children
Name of Inventors : Ploykhwan Taraproncin, Anchalisa Doungpanumas, Palida Thongnirun and Siroth Vattanasontronsil
Supervisor
Chorruk Wongsawan, Palida Tanganurat

🥇🎖จากผลงาน
Tittle of Invention :
AUDISIGN : Application for encourage the development of sign language communication for children with hearing impairment
Name of Inventors : Jitisa Jukpatch, Yada Wajeenuraksakulchai, Apiphon Suwanchaisakul and Apichet Liawpirojh
Name of Supervisor : Khunthong Klaythong

🥇จากผลงาน
Title of Invention :
JOGURTO : Development of Greek yogurt products with low phosphorus content from RD43 rice milk and Hom Nil rice milk to be a healthy alternative food for patients with kidney disease
Name of Inventors: Preeyapath Anannvadeethana, Thanakrit Phithaksa, Morrakot Tiasuwan and Sahawass Tanapatworatan
Name of Supervisor: Chorruk Wongsawan

🥇จากผลงาน
Tittle of Invention : 
FLODRAIN :  Development of porous geopolymer materials with rubber powder be used as a flooring material for solving the problem of flooding the footpath
Name of Inventors: Nippitch Saengnopharat and Suphakan Bautista
Name of Supervisor : Miss Nawawan Bangpong

🥈🎖จากผลงาน
Tittle of Invention :
Oral film “Porphyfilm” (The studying of the quality of mangosteen peel and clove oil to prevent Porphyromonas gingivalis bacteria which is the cause of swollen gums and the development of gum coated film used to cure the primary phase of swollen gums)
Name of Inventors :
Panicha Rakrapee, Nattapat Kabklang, Trin Bussmuangpak and Sattabongkod Onwan
Name of Supervisor :
Pornpan Chomwong

🥈จากผลงาน
Tittle of Invention :
Fleapronil (Innovation of Polymer Microcapsule Encapsulating Fipronil for Flea and Tick Drop in Pets)
Name of Inventors :
Tunyaret Songprasit, Napatsawan Pawa, Natcha Skulnee and Zabit Madali
Name of Supervisor :
Daranee Chaiyaveij and Amorn Chaiyasat

ขอแสดงความยินดีกับทุกๆ ผลงานนะครับ ขอบคุณคุณครูที่ปรึกษาทุกท่าน ขอบคุณฝ่ายบริหารของโรงเรียน ขอบคุณผู้ปกครองทุกท่าน ที่สำคัญขอบคุณเด็กๆ ทุกคนที่มาเดินทางมาด้วยกัน พวกหนูเก่งมากๆ ทุกคนเลย

สำหรับงาน Indonesia Inventors Day 2023 (IID 2023) เป็นงานประกวดและนำเสนอผลงานของนักประดิษฐ์จากประเทศต่าง ๆ ถือเป็นเวทีสำคัญแห่งหนึ่งในสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ซึ่งจัดขึ้นโดย Indonesian Invention and Innovation Promotion Association (INNOPA) หน่วยงานด้านการส่งเสริมสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมแห่งอินโดนีเซีย โดยมี วช. เป็นหน่วยงานของไทยในการคัดกรองและนำเสนอชื่อผลงานประดิษฐ์คิดค้นและนวัตกรรม (Exclusive Agency) เพื่อเข้าร่วมประกวดในเวที IID ซึ่ง IID เป็นเวทีที่ได้รับการตอบรับจากนักประดิษฐ์ นักวิจัย และนักวิชาการจากนานาประเทศ โดยการจัดงานในปีนี้มีการจัดแสดงผลงานสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมกว่า 400 ผลงาน จากประเทศต่าง ๆ มากกว่า 40 ประเทศ

โดยจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16 - 19 กันยายน 2566 ณ Aston Denpasar & Convention Hall เมืองเดนปาซาร์ บาหลี สาธารณรัฐอินโดนีเซีย

‘เพจดัง’ ฉะ!! ‘นโยบายปลอด 0 ร มส’ กัดกินการศึกษาไทย มองผิวเผินดีเลิศ แท้จริงทำเด็กขาดวินัย-ไร้ความรับผิดชอบ

(5 ต.ค. 66) เพจวันนั้นเมื่อฉันสอน ซึ่งเป็นเพจของครูหนุ่มในพื้นที่ต่างจังหวัดที่มีผู้ติดตามกว่า 1.6 แสนคน ได้เขียนบทความเรื่อง ‘นโยบายปลอด 0 ร มส กำลังผลิตเด็กที่ขาดความรับผิดชอบ’ ระบุว่า ดาบสองคมของนโยบายที่แสนดี พูดความจริงได้มั้ยกับการศึกษาไทย ถ้าพูดไม่ได้ทุกอย่างมันก็ดีเลิศประเสริฐศรีมณีเด้ง แต่ถ้าพูดได้คุณจะได้รับฟังความจริงอีกด้าน

นโยบายปลอด 0 ร มส แนวคิดอันแสนดีของระบบการศึกษาที่จะนำพาประเทศเราไปสู่ฝั่งฝัน เพราะเด็กทุกคนตั้งใจเรียนครูเอาใจใส่ช่วยเหลือเด็กให้จบการศึกษาได้ทุกคน

แต่ความจริงแล้วกลับไม่เป็นอย่างนั้นเพราะเด็กเกิดความรู้สึกว่า ‘เรียนยังไงก็ผ่าน’ ‘ไม่ส่งงานก็ผ่าน’ ‘ทำยังไงก็ผ่านวันสุดท้ายค่อยไปแก้’

สิ่งเหล่านี้ได้ก่อให้เกิดเด็กที่ไม่มีความรับผิดชอบออกมากมายสู่สังคม คนตั้งใจเรียนก็ท้อใจเพราะคนที่ไม่ตั้งใจก็ผ่านเหมือนกันจนไม่รู้ว่าจะทำดีไปทำไมเพราะไม่เรียนก็ผ่านเหมือนกัน ครูเองก็ถูกบีบให้ตัดสินด้วยผลการเรียนปลอม ๆ ออกมา

ผมเคยคุยกับ ผอ.ของผมท่านหนึ่งเรื่องการรายงานผลอ่านเขียนว่าจะให้รายงานตามความจริงไหม ? ทำไมต้องถามอย่างงั้นล่ะเพราะสถานศึกษาบางแห่งเมกคะแนนสอบจนเป็นเรื่องปกติ ผลการสอบเลิศหรูแต่เด็กก็อ่านไม่ออกก็มี มีการโกงข้อสอบเอาเฉลยมาให้บอก และที่มันเป็นแบบนี้ส่วนหนึ่งเพราะนโยบายที่บีบลงมาต้องได้ 90 เต็มร้อย จึงจะมีหน้าตาอยู่ได้

ระบบที่ครูพูดความจริงไม่ได้ ระบบที่ครูตัดสินตามความจริงไม่ได้กำลังกัดกินการศึกษาไทย ในชั้นเรียนระดับมัธยมเราจะเจอทั้งเด็กที่อ่านไม่ออกท่องสูตรคูณไม่ได้เป็นเรื่องปกติ ‘เพราะอ่านไม่ออกก็ได้เลื่อนชั้นอยู่ดี’

ถึงเวลาแล้วหรือยังที่เราต้องตั้งคำถามว่า สิ่งที่เป็นอยู่มันดีแล้วจริง ๆ ใช่ไหมกับการทำให้เด็กเกิดความคิดว่า ‘เรียนอย่างไรก็ได้ ทำยังไงก็ผ่าน’

ถ้ามันดีจริงก็คงไว้ แต่ถ้ามันไม่ได้ดีอย่างที่คิดก็ควรเกิดการเปลี่ยนแปลงปัญหาการศึกษาเป็นปัญหาของทุกคนเพราะถ้าเด็กคนหนึ่งได้รับการศึกษาที่ไม่มีคุณภาพวันหนึ่งเขาอาจจะเป็นภัยของสังคม ลูกคุณเรียนเก่งแล้วเรียนดีแล้ว คุณให้การอบรมสั่งสอนที่ดี แต่วันหนึ่งเขาอาจจะถูกทำร้ายจากเด็กคนอื่นที่ขาดการศึกษาที่ดีของสังคมก็ได้

จงอย่ารอให้เรื่องเหล่านี้เกิดขึ้น

‘ศุภชัย’ บิ๊กใหญ่ ‘ซีพี’ ชงพลิกโฉมการศึกษาไทย รับมือโลกยุค 5.0 หนุนเด็กทุกคนต้องมีคอมพิวเตอร์ เสริมทักษะดิจิทัล-ภาษาอังกฤษ

เมื่อวันที่ 27 พ.ย. 66 รายงานข่าวเผยว่า นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ได้แสดงวิสัยทัศน์เรื่อง ‘The Future of Education พลิกโฉมการศึกษาไทยเท่าทันอนาคต’ ภายในงาน ‘THE STANDARD ECONOMIC FORUM 2023 FUTURE READY THAILAND’ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ

ทั้งนี้ นายศุภชัย ได้ฉายภาพรวมความท้าทายของโลกและเมกะเทรนด์ปี 2023 - 2030 โดยระบุว่า เด็กรุ่นใหม่ในยุคนี้ต้องเผชิญกับความท้าทายของโลกในหลายด้าน ดังนั้น เราต้องปรับตัวให้ทัน และต้องให้ความสำคัญกับการผลักดันนโยบายด้านเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลมากขึ้น เพราะเราหยุดความก้าวหน้าของโลกไม่ได้ แม้ว่าในตอนนี้โลกอยู่ในยุค 4.0 ซึ่งเป็นยุคของการเข้าถึงข้อมูลเป็นดั่งน้ำมันในอากาศ

เวลานี้กำลังจะก้าวเข้าสู่ยุค 5.0 ซึ่งเป็นยุคของการผสมผสานเทคโนโลยี AI และกรอบความคิดของคน รวมถึงหลักความยั่งยืนให้เป็นหนึ่งเดียวกัน และเป็นยุคที่ให้ความสำคัญในการเพิ่มทักษะด้านดิจิทัลขั้นสูงให้กับคนในประเทศ

แต่ทั้งนี้ เมื่อมาดูผลสำรวจความสามารถทางทักษะดิจิทัล พบว่า เด็กไทยยังขาดทักษะดิจิทัลและภาษาอังกฤษที่ยังตามหลังประเทศเพื่อนบ้าน และหากดูการจัดอันดับการแข่งขันในเวทีโลก GDP ไทยอยู่อันดับที่ 26 แต่ GDP/CAPITA อยู่อันดับที่ 84  ซึ่งเป็นโจทย์ใหญ่ของไทยในการลงทุนด้านทรัพยากรมนุษย์ รวมไปถึงการลงทุนด้านเทคโนโลยี ดังนั้น จึงจำเป็นต้องมีการปฏิรูปการศึกษาทำให้เด็กเข้าถึงระบบการศึกษาที่มีคุณภาพ เพราะประสิทธิภาพของทรัพยากรมนุษย์ คือหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ

นายศุภชัย ได้เสนอแนะสิ่งที่จะพลิกโฉมการศึกษาไทยให้เท่าทันความท้าทายต่าง ๆ ในอนาคตว่า ระบบการศึกษาไทยควรต้องปรับการเรียนรู้จาก 2.0 เป็น 5.0 เข็มทิศสำคัญคือการให้ความรัก ให้ความมั่นใจกับเด็ก เน้นให้เด็กเป็นศูนย์กลาง โดยบทบาทของครูจะต้องปรับเปลี่ยนจากผู้สอนไปเป็น ‘โค้ช’ หรือผู้นำกระบวนการเรียนรู้ (Facilitator) ต้องสอนให้เด็กเป็น ‘นักค้นคว้า’ มีกรอบความคิดใหม่ และเกิดการปรับตัวให้อยู่รอดในโลกที่ท้าทายตอนนี้ เพราะฉะนั้น การเรียนรู้จึงต้องปรับให้เด็กเกิดการตั้งคำถาม ค้นหาคำตอบ ลงมือทำร่วมกัน อภิปรายด้วยเหตุผล เพื่อให้เกิดการปรับปรุงและพัฒนา โดยทุกโรงเรียนต้องปรับเป็น ‘Learning Center’

พร้อมกันนี้ได้เสนอโมเดล ‘Sustainable Intelligence Transformation’ (SI Transformation Model) ผ่าน 5 ฐานสำคัญในการเปลี่ยนระบบการศึกษาและการพัฒนาทรัพยากรบุคคล ประกอบด้วย

1.) Transparency โรงเรียนต้องมีตัวชี้วัด School Grading พร้อมตัวชี้วัดใหม่ที่มีนักเรียนเป็นศูนย์กลาง และต้องมีสมุดพกดิจิทัล วิเคราะห์และพัฒนาศักยภาพรายบุคคล

2.) Market Mechanism สร้างกลไกตลาดและวัฒนธรรมแห่งการเรียนรู้ พร้อมทั้งสร้างความร่วมมือกับทุกภาคส่วน รวมไปถึงการส่งเสริมสื่อคุณธรรม

3.) Leadership &Talents ไม่จำกัดวิทยฐานะผู้อำนวยการ สร้างผู้นำและบุคลากรที่มีทักษะ 5.0

4. Empowerment เน้นการเรียนผ่านการลงมือทำในแบบ Action Based Learning บนสามขาความยั่งยืนคือเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม และควรต้องมี Computer Science เป็นวิชาหลักครอบคลุมดิจิทัลเทคกับเอไอ

5.) Technology เสนอให้นักเรียนทุกคนมีคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต พร้อมส่งเสริมการสร้างสตาร์ทอัพ และดันให้ประเทศไทยเป็นฮับด้านนวัตกรรม

“เด็กทุกคนต้องมีคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต เพราะนั่นคือห้องสมุดที่ใหญ่ที่สุด และต้องมีการส่งเสริมศักยภาพของคนรุ่นใหม่ เพื่อการพัฒนาประเทศให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก ทั้งนี้ การศึกษาเป็นเรื่องของทุกคน เป็นเรื่องใหญ่ หากเราต้องการเปลี่ยนแปลงอนาคต เราต้องเปลี่ยนเจเนอเรชั่นถัดไป เพราะพวกเขาคือผู้ที่จะรับมือกับความท้าทายใหม่ ๆ และต้องสร้างทักษะดิจิทัลให้พวกเขามีศักยภาพในการปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลงโลกได้อย่างเท่าทัน” ซีอีโอเครือซีพี กล่าว
 

‘14 เด็กไทย’ ร่วมแข่งคณิตศาสตร์ ‘2023 WMTC’ ที่เกาหลีใต้ คว้าเหรียญรางวัลประเภทบุคคล ‘3 ทอง 6 เงิน 5 ทองแดง’

(29 พ.ย. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะนักเรียน 14 คน ที่เดินทางไปแข่งขันในรายการแข่งขันคณิตศาสตร์นานาชาติ 2023 WMTC-World  Mathematics Team Championship ณ ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 24-28 พฤศจิกายน 66 ได้เดินทางกลับมาถึงยังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเรียบร้อยแล้ว พร้อมผู้ฝึกสอนและผู้ปกครอง ท่ามกลางความยินดีจากผู้โดยสารที่มาใช้บริการภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิโดยรอบ

นายภูมิเทพ คลังอุไร ประธานโครงการ Thai Talent Training และ Coach ของทีมประเทศไทย ให้สัมภาษณ์ว่า ตัวแทนเด็กไทยสร้างผลงานได้อย่างดีเยี่ยมเป็นที่น่ายินดียิ่ง โดยสามารถคว้ารางวัลแชมเปี้ยนจากการแข่งขันประเภทบุคคล ของรุ่น Junior และยังสามารถคว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ประเภททีม จากผู้เข้าร่วมแข่งขันมากกว่า 20 ประเทศ ที่มาจากทุกทวีปทั่วโลก

อาทิ สาธารณรัฐประชาชนจีน, สหรัฐอเมริกา, เกาหลีใต้, มาเลเซีย, ญี่ปุ่น, ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์, เวียดนาม, ฮ่องกง, ออสเตรเลีย, อินโดนีเซีย, อิหร่าน, คาซัคสถาน, อียิปต์, พม่า,ได้หวัน, บัลกาเรีย, อุซเบกิสถาน, กัมพูชา และ ไทย 2023

WMTC เป็นรายการแข่งขันคณิตศาสตร์นานาชาติ ที่เกิดจากความร่วมมือระหว่างสมาคมจีนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ สาธารณรัฐประชาชนจีน กับสมาคมเพื่อเฟ้นหาทีมสุดยอดระดับโลก สหรัฐอเมริกา

ทั้งนี้ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างเยาวชนจากภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลก พร้อมปลูกฝังจิตวิญญาณการทำงานเป็นทีม รวมทั้งส่งเสริมความร่วมมือระหว่างนักคณิตศาสตร์จากทั่วโลก เพื่อช่วยกันพัฒนาการเรียนการสอนวิชาคณิตศาสตร์ ให้มีความก้าวหน้ายิ่ง ๆ ขึ้นไป

โดยมี Prof. Quan K. Lam from University of California (USA) เป็นประธานคณะกรรมการ WMTC
2023 WMTC เป็นการแข่งขันคณิตศาสตร์นานาชาติประเภททีม แต่ละทีมประกอบด้วยสมาชิก 6 คน ซึ่งมีการแข่งขันใน 3 รูปแบบ ได้แก่ Individual Round, Relay Round และ Team Round แบ่งการจัดการแข่งขันออกเป็น 3 รุ่น ได้แก่ Junior Level (ประถมศึกษาตอนปลาย), Intermediate Level (มัธยมศึกษาตอนต้น) และ Advanced Level (มัธยมศึกษาตอนปลาย)

สำหรับผลงานของตัวแทนประเทศไทย จากการแข่งขัน 2023 WMTC ซึ่งประเทศไทยได้ส่งตัวแทนเข้าร่วมทั้ง 3 รุ่นนั้น มีดังนี้

1. Junior Level
• ได้รับรางวัลแชมเปี้ยน ประเภทบุคคล จากผลงานของ เด็กหญิงเพชรพริมา เศรษฐปิยานนท์ โรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย ได้รับเงินรางวัล 300 ดอลลาร์สหรัฐฯ

• ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ประเภททีม จากผลงานของ

-เด็กหญิงเพชรพริมา เศรษฐปิยานนท์ โรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย
-เด็กชายดรณ์ นิสภาธร บ้านเรียนนิสภาธร
-เด็กชายวิชสิทธิ์ วิรัชศิลป์ โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย
-เด็กชายอัฑฒ์ฐวิชณ์ ทองบัวศิริไล โรงเรียนอนุบาลสุธีธร
-เด็กชายศุภกร สิริธนกุล โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย
-เด็กชายณทัช วรเศรษฐการกิจ Singapore International School Thonburi

• ได้รับรางวัลเหรียญทอง ประเภทบุคคล จากผลงานของ

-เด็กหญิงเพชรพริมา เศรษฐปิยานนท์ โรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย
-เด็กชายดรณ์ นิสภาธร บ้านเรียนนิสภาธร
-เด็กชายวิชสิทธิ์ วิรัชศิลป์ โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย

• ได้รับรางวัลเหรียญเงิน ประเภทบุคคล จากผลงานของ

-เด็กชายอัฑฒ์ฐวิชณ์ ทองบัวศิริไล โรงเรียนอนุบาลสุธีธร
-เด็กชายศุภกร สิริธนกุล โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย

• รางวัลเหรียญทองแดง ประเภทบุคคล จากผลงานของ

-เด็กชายณทัช วรเศรษฐการกิจ Singapore International School Thonburi

2. Intermediate Level
• ได้รับรางวัลเหรียญเงินประเภทบุคคล จากผลงานของ

-เด็กชายกรณ์ สิริธนกุล โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย
-เด็กชายปุณณวิช อรุณศิริวัฒนา โรงเรียนแสงทองวิทยา

• ได้รับรางวัลเหรียญทองแดงประเภทบุคคล จากผลงานของ

-นายนรภัทร กมลรัตนกุล St. Stephen’s International school
-เด็กชายสุภาษิต ธรรมเภตรารักษ์ โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย

3.Advanced Level• ได้รับรางวัลเหรียญเงินประเภทบุคคล จากผลงานของ

-นายสร้างสรรค์ ประสิทธิ์นฤทธิ์ Newton Sixth Form
-นายศุภเกียรติ มนัสศิริวิทยา Newton Sixth Form

• ได้รับรางวัลเหรียญทองแดงประเภทบุคคล จากผลงานของ

-นายณัฐพัชร์ ฉันทโรจน์ศิริ โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์
-นายภูวเดช ประยุรธเนศ โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์

‘ศธ.’ ประกาศผลการคัดเลือกเด็กและเยาวชนดีเด่น ที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ ประจำปี 2567

(22 ธ.ค. 66) กระทรวงศึกษาธิการได้เปิดเผยว่า…ตามที่กระทรวงศึกษาธิการได้มอบหมายให้ส่วนราชการและหน่วยงานต่าง ๆ ดำเนินการ พิจารณาคัดเลือกเด็กและเยาวชนดีเด่น เด็กและเยาวชนที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ ประจำปี 2567 ตามโครงการจัดงานฉลองวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2567 นั้น 

บัดนี้ ส่วนราชการและหน่วยงานต่าง ๆ ได้พิจารณาคัดเลือกเด็กและเยาวชนดีเด่น เด็กและเยาวชนที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ ประจำปี 2567 เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว จึงประกาศ รายชื่อเด็กและเยาวชนดีเด่น เด็กและเยาวชนที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ ประจำปี 2567 ที่ได้รับ การคัดเลือกให้เข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรี เนื่องในงานฉลองวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2567 สามารถตรวจสอบรายชื่อได้ที่ https://www.moe.go.th/เด็กและเยาวชน2567/

และสำหรับเด็กและเยาวชนที่ได้รับการคัดเลือกตามประกาศฯ จะได้รับการเข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรี ในวันพุธที่ 10 มกราคม 2567 ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล เด็กและเยาวชนที่ได้รับการคัดเลือกตอบรับการเข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรี โดยเข้าร่วมทาง Openchat ผ่าน QR - Code Line ภายในวันที่ 29 ธันวาคม 2566


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STUDY TIMES
Take Me Top