Saturday, 4 May 2024
THE STUDY TIMES

‘แจ็ค หม่า’ ขอกลับไปเป็นครูอีกครั้ง ในฐานะศาสตราจารย์กิตติมศักดิ์ ให้กับ HKU

แม้จะเคยทำงานมาหลายอาชีพ ทั้งงานบริการ รับจ้างทั่วไป เป็นไกด์ท้องถิ่น กว่าจะก่อตั้งธุรกิจ E-Commerce ระดับหมื่นล้านได้สำเร็จ เป็นมหาเศรษฐีเบอร์ต้น ๆ ของโลก แต่มีอยู่อาชีพหนึ่งที่แจ็ค หม่า รักมาก และพูดถึงเสมอ นั่นก็คือการเป็น "ครู"

.

แต่หลังจากห่างหายจากบรรยากาศหน้าชั้น กระดานดำมานาน วันนี้ แจ็ค หม่า ตอบรับงานสอนเต็มตัวอีกครั้ง ในฐานะศาสตราจารย์กิตติมศักดิ์ ให้กับ University of Hong Kong (HKU) หนึ่งในสุดยอดมหาวิทยาลัยด้านบริหารธุรกิจติดอันดับโลก เรียบร้อยแล้ว

.

ก่อนหน้านี้ทาง HKU เคยมอบเกียรติบัตรสังคมศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตให้กับแจ็ค หม่า มาแล้ว เพื่อเป็นเกียรติกับเขาที่สร้างผลงานอันโดดเด่นในวงการธุรกิจ E-commerce ที่ช่วยขับเคลื่อนสังคม และเศรษฐกิจในระดับมหภาค แม้ว่าตัวแจ็ค หม่า จะไม่เคยเรียนสาขาเทคโนโลยี หรือ ไอที มาก่อนก็ตาม

.

และนอกจาก HKU แล้ว แจ็ค หม่า ยังได้รับปริญญาดุษฎีบัณทิตจากอีกหลายสถาบันทั่วโลก อาทิ Tel Aviv University ของอิสราเอล, National Taiwan Normal University หรือ De La Salle University ที่ฟิลิปปินส์ ฯลฯ

.

หากรวมทั้งคุณวุฒิ และ ประสบการณ์ที่ผ่านมา อาจจะไม่ใช่เรื่องยากเลยสำหรับ แจ็ค หม่า ที่จะหางานสอน หรือจัดอบรม เปิดเวทีสัมมนาด้านธุรกิจร่วมกับสถาบันการศึกษาที่ไหนสักแห่ง ขอเพียงแค่เขาเอ่ยปาก

.

แต่ด้วยนโยบายการกวาดล้างธุรกิจ Fintech ของรัฐบาลปักกิ่ง ที่กระทบกับแผนการนำ Ant Group เข้าตลาดหลักทรัพย์ ทำให้แจ็ค หม่า ต้องลดบทบาทในฐานะผู้บริหาร Alibaba ลงตั้งแต่ปี 2020 และ งดออกสื่อนานเกือบ 3 ปี และเพิ่งมีข่าวว่าได้เดินทางกลับสู่ประเทศจีนแล้วเมื่อช่วงปลายเดือนมีนาคมทีผ่านมา หลังจากที่เขาใช้เวลาเก็บตัวเงียบ ๆ ในต่างประเทศนานนับปี

.

และทันทีที่แจ็ค หม่า ปรากฏตัวออกสื่อ ทางมหาวิทยาลัยแห่งฮ่องกง ได้ส่งจดหมายเสนอตำแหน่งทางวิชาการ เชิญแจ็ค หม่า มาเป็นศาสตราจารย์กิตติมศักดิ์ ทันที ซึ่ง แจ็ค หม่า ได้ตอบตกลงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

.

โดยเบื้องต้นจะรับงานในตำแหน่ง 3 ปี เริ่มต้้งแต่ปีการศึกษาภาคฤดูใบไม้ผลิ 1 เมษายนปีนี้ จนถึงเดือนมีนาคม ปี 2026 ซึ่งเขาขอเน้นงานศึกษาวิจัยด้านการเงิน การเกษตร และ นวัตกรรมองค์กร แต่ยังไม่มีแผนว่าจะมีการจัดสัมมนา หรือกล่าวสุนทรพจน์ออกงานสาธารณะหรือไม่

.

โฆษกของสถาบัน HKU กล่าวต้อนรับการมาของศาสตราจารย์แจ็ค หม่า และเชื่อมั่นในประสบการณ์ ความรู้ลึก รู้จริง ในการพัฒนาธุรกิจด้านนวัตกรรม ที่โดดเด่น หาตัวจับยากของเขา อีกทั้ง บนหน้าเว็บไซท์ของ ภาควิชาบริหารธุรกิจของสถาบัน ได้ขึ้นรูปโปรไฟล์ของ แจ็ค หม่า ไว้แล้วในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการและกลยุทธ์

.

จากประวัติการทำงานของแจ็ค หม่า ก็เคยเป็นอาจารย์สอนวิชาภาษาอังกฤษ และ การค้าระหว่างประเทศมาก่อนที่ Hangzhou Dianzi University และยังเคยร่วมกับผู้ประกอบการแถวหน้าของจีน สร้างสถาบันสอนทำธุรกิจของตัวเองที่ชื่อว่า Zhejiang Hupan Entrepreneurship Research Center มาแล้ว โดยแจ็ค หม่า เคยตั้งใจผลักดันเพื่อวิทยฐานะของสถาบันแห่งนี้ให้ถึงระดับมหาวิทยาลัย แต่ยังทำไม่สำเร็จ ก็โดนคดี Ant Group เสียก่อน

.

จึงเห็นได้ว่า แจ็ค หม่า ยังมีจิตวิญญาณของความเป็นครูอยู่เต็มเปี่ยม และเป็นช่วงเวลาของการคืนสู่สามัญของเขาในวัย 58 ที่ตั้งใจอุทิศตนเพื่องานสังคม และสนใจทำงานพัฒนาด้านการเกษตรอีกด้วย

.

#THESTUDYTIMES

#TeenAgeNewsAgency

#สำนักข่าววัยเรียน

#GuidetoLearning

#NewsFeed

#KitNew

#คิดนิว

#ความคิดใหม่เริ่มได้ที่นี่

บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และมหาวิทยาลัยศิลปากร ขอเชิญชวนเยาวชน นักเรียน นิสิตนักศึกษา และประชาชนทั่วไป

บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และมหาวิทยาลัยศิลปากร

ขอเชิญชวนเยาวชน นักเรียน นิสิตนักศึกษา และประชาชนทั่วไป

ร่วมส่งผลงานประกวดศิลปกรรม ปตท. ครั้งที่ 38 ประจำปี 2566

.

หัวข้อ “จุดประกายความหวัง จุดพลังชีวิต”

ถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิด จากวิกฤตโควิด 19 ในช่วงชีวิต

ที่ผ่านมาพร้อมความหวังในการขับเคลื่อนไปสู่อนาคตซึ่งเปรียบเสมือนเป็นจดหมายเหตุของประเทศในรูปแบบของงานศิลปะ ผ่านผลงานศิลปะทุกประเภท ทั้งด้านจิตรกรรม ประติมากรรม และภาพพิมพ์

.

เริ่มส่งผลงานได้ตั้งแต่วันที่ 5 มิถุนายน 2566 เป็นต้นไป

*ผลงานจะต้องส่งถึงจุดรับผลงานไม่เกินวันที่ 21 มิถุนายน 2566 เท่านั้น

.

ดูรายละเอียดการสมัครเพิ่มเติมที่ https://www.pttplc.com/.../Highlights/Content-40709.aspx

ปตท. เชิญชวนโหลดแอป

ยิ่งเก็บ ยิ่งได้ !!

ปตท. เชิญชวนโหลดแอป

ทุกต้นที่คุณเก็บ จะถูกปลูกจริง เพื่อเพิ่มการดูดซับก๊าซเรือนกระจก

 

โลกได้ต้นไม้ คุณได้รางวัล ควันได้ดูดซับ!

มีแต่ได้แบบนี้โหลดเลย “คุณช่วยเก็บ เราช่วยปลูก”

 

เพียงแค่ 3 ขั้นตอนง่ายๆ

-โหลด

-สแกน

-เก็บ

 

ทุกต้นที่คุณเก็บ จะถูกปลูกจริง เพื่อเพิ่มการดูดซับก๊าซเรือนกระจก

ให้กับโลกบนพื้นที่ปลูกป่า 1 ล้านไร่ของ ปตท.

 

โหลดเลย : https://bit.ly/3JJpAW7

ได้ทั้ง App store และ Play store

ราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยสัปดาห์ที่ผ่านมาลดลงกว่า 2 เหรียญสหรัฐฯ

ราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยสัปดาห์ที่ผ่านมาลดลงกว่า 2 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล สู่ระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ ทั้งนี้ นับตั้งแต่ประเทศสมาชิกกลุ่ม OPEC และพันธมิตร (OPEC+) ประกาศอาสาลดปริมาณการผลิตน้ำมันดิบรวมกัน 1.66 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในเดือน พ.ค. – ธ.ค. 66

.

ทำให้ราคาน้ำมันดิบ ICE Brent เคลื่อนไหวในช่วงประมาณ 80 - 88 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย. 66 เป็นต้นมา อย่างไรก็ตาม วันที่ 19 เม.ย. 66 ราคาเริ่มปรับตัวลดลง เนื่องจากตลาดกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Federal Reserve: Fed) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่อเนื่อง และจะส่งผลให้เกิดภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว

.

สัปดาห์นี้ คาดการณ์ราคา ICE Brent จะเคลื่อนไหวในกรอบ 80 - 88 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล โดยได้รับแรงกดดันในช่วงสัปดาห์สุดท้ายก่อน Fed ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของสหรัฐฯ (Federal Open Market Committee: FOMC) วันที่ 2 – 3 พ.ค. 66

.

นอกจากนี้ ตลาดเริ่มคลายความตระหนกจากการตัดสินใจลดการผลิตของ OPEC+ รวมทั้งอุปทานจากรัสเซียและสหรัฐฯ ที่เข้ามาในตลาดอย่างต่อเนื่อง

.

ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงลบ

• นักวิเคราะห์ 90% คาดการณ์ Fed จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% มาอยู่ที่ 5.0-5.25% ในการประชุมนโยบายการเงิน (FOMC) วันที่ 2-3 พ.ค. 66 และนักวิเคราะห์ 59% คาดว่าหลังจากนั้นจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับใหม่ไปจนถึงสิ้นปี 66 และอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นจะทำให้อัตราว่างงานเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่ 3.5% ไปอยู่ที่ 4.3% ในช่วงปลายปี 66

• EIA รายงานปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ในเดือน มี.ค. 66 เพิ่มขึ้น 0.56 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากเดือนก่อนหน้า อยู่ที่ 4.63 ล้านบาร์เรลต่อวัน (+1.58 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากปีก่อนหน้า) ส่วนใหญ่ส่งออกไปยังจีน (0.64 ล้านบาร์เรลต่อวัน) เนเธอร์แลนด์ (0.52 ล้านบาร์เรลต่อวัน) และสหราชอาณาจักร (0.44 ล้านบาร์เรลต่อวัน)

• Bloomberg รายงานรัสเซียส่งออกน้ำมันดิบทางทะเล สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 14 เม.ย. 66 เพิ่มขึ้น 0.54 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากสัปดาห์ก่อนหน้า อยู่ที่ 3.32 ล้านบาร์เรลต่อวัน

ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงบวก

• สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (National Bureau of Statistics) รายงานโรงกลั่นนำน้ำมันดิบเข้ากลั่น (Throughput) ในเดือน มี.ค. 66 เพิ่มขึ้น 8.8% จากปีก่อนหน้า มาอยู่ที่ 63.9 ล้านตัน (14.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน) สูงสุดเป็นประวัติการณ์

• Ministry of Petroleum and Natural Gas ของอินเดียรายงานโรงกลั่นนำน้ำมันดิบเข้ากลั่น (Throughput) ในเดือน มี.ค. 66 เพิ่มขึ้น 3% จากปีก่อนหน้า มาอยู่ที่ 5.44 ล้านบาร์เรลต่อวัน

• Bank of America ปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ของจีนในปี 2566 อยู่ที่ +6.3% จากปีก่อนหน้า (คาดการณ์ครั้งก่อนอยู่ที่ +5.5% จากปีก่อนหน้า) จากการบริโภคและการลงทุนเพิ่มขึ้นซึ่งจะสนับสนุนความต้องการใช้น้ำมัน

.

“วัน ออริจิ้น” ผนึก “เอนโก้” พัฒนาโรงแรมโปรเจกต์ใหญ่ หลังนักลงทุน-ท่องเที่ยวฟื้น

“วัน ออริจิ้น” ต่อยอดแผนเติบโต Origin Infinity จับมือพันธมิตรทางธุรกิจกับ “เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์” หรือ เอนโก้ (EnCo) บริษัทในกลุ่ม ปตท. ลุยพัฒนาโปรเจกต์โรงแรม “ฮอลิเดย์ อินน์ เอ็กซ์เพรส ระยอง” รับกระแสนักลงทุนต่างประเทศ-นักท่องเที่ยวคัมแบ็ก พร้อมเสริมศักยภาพทำเล ผลักดันให้เป็น New CBD ของระยอง และจุดนัดพบอันทันสมัยแห่งใหม่ใน EEC คาดเปิดให้บริการในไตรมาส 2/2566 นี้

.

นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI เปิดเผยว่า จากแผนการเติบโตไม่สิ้นสุด หรือ แผน Origin Infinity ที่เครือออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ประกาศไว้เมื่อต้นปีที่ผ่านมา บริษัทยังคงเร่งเดินหน้าสร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนตามแผนงานดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง

.

โดยล่าสุด บริษัท วัน ออริจิ้น จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) ในเครือ บมจ. ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ได้บรรลุข้อตกลงความร่วมมือกับ บริษัท เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ จำกัด (EnCo) บริษัทพัฒนาและบริหารจัดการด้านอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรในกลุ่ม ปตท. ร่วมทุนกันใน บริษัท วันดิสทริคท์ ระยอง 2 จำกัด สัดส่วนฝั่งละ 50% เพื่อร่วมกันก่อสร้างและดำเนินโครงการโรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ เอ็กซ์เพรส ระยอง (Holiday Inn Express Rayong) เป็นโรงแรมสูง 8 ชั้น จำนวนห้องพัก 204 ห้อง บริเวณแยกเนินสำลี ในพื้นที่โครงการระดับเมกะโปรเจกต์ ออริจิ้น สมาร์ท ซิตี้ ระยอง (Origin Smart City Rayong)

.

นายปิติ จารุกำจร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วัน ออริจิ้น จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) ในเครือบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้เครือออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ได้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในพื้นที่ Origin Smart City Rayong เฟสแรกไปแล้ว ตอนนี้ วัน ออริจิ้น จึงมาสานต่อการเนรมิตเฟสถัดไป ให้ Smart City ขนาด 24 ไร่แห่งนี้อุดมสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ด้วยการนำเชนโรงแรมระดับโลกอย่าง Holiday Inn Express ในเครือ Intercontinental Hotels Group (IHG) มาให้บริการ

.

พร้อมทั้งจับมือกับ EnCo เครือ ปตท. ซึ่งเป็นเครือธุรกิจขนาดใหญ่ที่ปักหลักดำเนินธุรกิจในระยองมาอย่างยาวนาน มีความเข้าใจความต้องการในพื้นที่เป็นอย่างดี มาร่วมกันเนรมิตโรงแรมแห่งนี้ให้ตอบโจทย์ความต้องการของทั้งภาคธุรกิจและภาคการท่องเที่ยว และพลิกโฉมแยกเนินสำลีให้กลายเป็น New CBD ของระยอง ที่ผ่านมา จังหวัดระยองถือเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพสูงทั้งด้านการท่องเที่ยวและการลงทุนภาคอุตสาหกรรม และเป็นหนึ่งในจังหวัดสำคัญของเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนอย่างต่อเนื่อง การพัฒนาโรงแรมแห่งใหม่ในจังหวัดระยองที่เป็นโรงแรมที่มีชื่อเสียงในระดับสากล จึงถือเป็นการรองรับความต้องการของนักลงทุนที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งรองรับภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวจากสถานการณ์ COVID-19 และกลายเป็นจุดนัดพบสมัยใหม่แห่ง EEC คาดว่าน่าจะเปิดให้บริการได้ในช่วงไตรมาส 2/2566 นี้

.

นายชาญศักดิ์ ชื่นชม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่วิศวกรรมและโครงสร้างพื้นฐาน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และ ประธานกรรมการ บริษัท เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ จำกัด (EnCo) เปิดเผยว่า ปตท. มุ่งเน้นการปรับเปลี่ยนธุรกิจไปสู่การเติบโตในธุรกิจพลังงานอนาคต และธุรกิจใหม่ที่ไกลกว่าพลังงาน ตามวิสัยทัศน์ “Powering Life with Future Energy and Beyond” เพื่อให้สอดรับกับแนวโน้มความเปลี่ยนแปลง และกระแสของโลกในอนาคต การเตรียมความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานและการบริหารจัดการการขนส่ง หรือ Logistics ของประเทศเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายที่สำคัญ

.

โดย ปตท. ได้เล็งเห็นโอกาสในการใช้ความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและวิศวกรรมเพื่อบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ ต่อยอดสินทรัพย์ของ ปตท. ที่มีอยู่ อาทิ ที่ดิน อาคาร สิ่งปลูกสร้าง ให้เกิดประโยชน์สูงสุดทั้งต่อการดำเนินธุรกิจ สังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม โดยการร่วมทุนระหว่างบริษัท เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ จำกัด หรือ EnCo บริษัทในกลุ่ม ปตท. กับ วัน ออริจิ้น ในเครือ บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ในครั้งนี้ นับเป็นอีกก้าวหนึ่ง ในการต่อยอดศักยภาพทางธุรกิจ ด้านการบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรของ EnCo เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการและไลฟ์สไตล์ การใช้ชีวิตของลูกค้าเฉพาะกลุ่มได้อย่างครอบคลุม พร้อมทั้งรองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศในอนาคต

.

ด้าน นายศิรศักดิ์ จันเทรมะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ จำกัด (EnCo) กล่าวว่า บริษัท เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ จำกัด (EnCo) ดำเนินธุรกิจ 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ 1. กลุ่มธุรกิจบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ (Property Management) 2. กลุ่มธุรกิจบริหารจัดการพื้นที่ส่วนกลาง (Facility Management) และ 3. กลุ่มธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (Property Development) และ EnCo ยังประกอบธุรกิจโรงแรม ภายใต้แบรนด์ THE EnCony Residential Hotel ซึ่งตั้งโครงการวังจันทร์วัลเลย์ (EECi) อ.วังจันทร์ จ.ระยอง และด้วยความมุ่งมั่นของ EnCo ที่ต้องการจะดำเนินธุรกิจด้วยบริการที่เป็นเลิศ และได้มาตรฐานในระดับสากล ผนวกกับความรู้และประสบการณ์ ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของ บริษัท วัน ออริจิ้น จำกัด (มหาชน) EnCo มีความมั่นใจว่าการร่วมลงทุนในครั้งนี้ จะประสบผลสำเร็จ และจะสามารถส่งมอบบริการที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า

.

เพื่อมุ่งไปสู่ความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจร่วมกันอย่างยั่งยืนต่อไปสำหรับบริษัท วัน ออริจิ้น จำกัด เป็นผู้ดำเนินธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) ในเครือบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ปัจจุบันดำเนินธุรกิจหลากหลายกลุ่ม อาทิ กลุ่มธุรกิจโรงแรม พัฒนาโครงการโรงแรมและเซอร์วิสอะพาร์ตเมนต์ พร้อมทั้งจับมือกับแบรนด์โรงแรมชั้นนำระดับโลกเข้ามาบริหาร มีโรงแรมที่เริ่มเปิดดำเนินการแล้ว อาทิ โรงแรมสเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก ทองหล่อ โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ แอนด์ สวีทส์ ศรีราชา-แหลมฉบัง โรงแรมสเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท และมีโรงแรมที่อยู่ระหว่างการพัฒนาอีกหลายแห่ง ทั้งในกรุงเทพ และหัวเมืองต่าง ๆ ในประเทศไทย นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มธุรกิจอาคารสำนักงาน กลุ่มธุรกิจศูนย์การค้า กลุ่มอาคารมิกซ์ยูส ไปจนถึงกลุ่มธุรกิจอาหาร

.

#THESTUDYTIMES #TeenAgeNewsAgency #สำนักข่าววัยเรียน

#GuidetoLearning #NewsFeed #KitNew #คิดนิว #ความคิดใหม่เริ่มได้ที่นี่

ปตท. ร่วมพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) โครงการรณรงค์ความปลอดภัยรถ NGV

วันที่ 10 เมษายน 2566 เวลา 09.30 น. ณ ห้องประชุม อาคาร 10 ชั้น 3 กรมการขนส่งทางบก นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก และ นายวุฒิกร สติฐิต ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นต้นและก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วยผู้บริหารจากกรมขนส่งทางบกและ ปตท. ร่วมพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) โครงการรณรงค์ความปลอดภัยรถ NGV

.

นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า กรมการขนส่งทางบกมุ่งมั่นในการรณรงค์และเสริมสร้างทัศนคติการตระหนักถึงความปลอดภัย รวมถึงยกระดับมาตรฐานในการตรวจสอบการใช้งานรถที่ใช้ก๊าซธรรมชาติอัดเป็นเชื้อเพลิง (NGV) เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุ ตามนโยบายของ รัฐบาล กระทรวงคมนาคม โดยกรมการขนส่งทางบกได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ในโครงการรณรงค์ความปลอดภัยรถ NGV กับ ปตท. เพื่อบูรณาการร่วมกันในการเชื่อมโยงข้อมูลการตรวจและทดสอบรถที่ใช้ก๊าซธรรมชาติอัดเป็นเชื้อเพลิง (NGV) ตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์และกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก และข้อมูลที่อยู่ในความควบคุมดูแลของกรมการขนส่งทางบก โดยการเชื่อมโยงข้อมูลเพื่อใช้ในการตรวจสอบรถ NGV ที่เข้ามารับบริการเติมก๊าซ NGV ในสถานีบริการ NGV ของ ปตท. ทั่วประเทศ เพื่อยกระดับมาตรฐานการตรวจสอบความปลอดภัยของผู้ใช้รถก๊าซ NGV

.

นายวุฒิกร สติฐิต ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นต้นและก๊าซธรรมชาติ ปตท. กล่าวว่า ความร่วมมือในครั้งนี้ นับเป็นโอกาสอันดีที่ ปตท. จะได้นำเอาองค์ความรู้ ศักยภาพ และประสบการณ์ด้านก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (NGV) มาร่วมสนับสนุนในโครงการรณรงค์ความปลอดภัยรถ NGV เพื่อเสริมสร้างทัศนคติการตระหนักถึงความปลอดภัยในการใช้งานรถ NGV และลดการเกิดอุบัติเหตุให้แก่ผู้ใช้รถ NGV และประชาชนทั่วประเทศ โดย ปตท. นำข้อมูลการตรวจและทดสอบรถที่ใช้ก๊าซธรรมชาติอัดเป็นเชื้อเพลิง (NGV) และข้อมูลที่เกี่ยวข้องที่อยู่ในความควบคุมดูแลของกรมการขนส่งทางบกนำมาตรวจสอบรถ NGV ที่เข้าเติมก๊าซธรรมชาติอัดในสถานีบริการ NGV ของ ปตท. ทั่วประเทศให้เกิดความปลอดภัยในการเติมก๊าซฯ รวมถึงนำส่งข้อมูลรถ NGV ที่มีสภาพไม่ปลอดภัยให้กับกรมการบนส่งทางบกเพื่อใช้ประโยชน์จากข้อมูลต่อ พร้อมทั้งการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของรถ NGV ที่ร่วมกับกรมการขนส่งทางบก เช่น การออกตรวจรถ NGV ร่วมกัน นำมาพิจารณาให้รางวัลผู้ตรวจสภาพรถ NGV ที่ปฏิบัติงานดีเยี่ยมประจำปีต่อไป

.

“โครงการรณรงค์ความปลอดภัยรถ NGV” เป็นความร่วมมือระหว่างกรมการขนส่งทางบกกับ ปตท. เพื่อเสริมสร้างทัศนคติของผู้ขับขี่ให้ตระหนักถึงความปลอดภัยในการใช้งานรถ NGV ลดการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน และเป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างหน่วยงานรัฐ

.

ทั้งนี้ ภายหลังจากการลงนามฯ กรมการขนส่งทางบก และ ปตท. ได้จัดกิจกรรม “Safety Campaign” เป็นโครงการให้บริการตรวจเช็กอุปกรณ์และส่วนควบรถ NGV โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายตลอดปี 2566 รวมถึงการออกรณรงค์ความปลอดภัยทั่วประเทศตามแผนงาน ซึ่งประกอบด้วยกิจกรรมที่ออกตรวจตามสถานีบริการ NGV ร่วมกันระหว่าง ปตท. และ ขบ. และ แต่ละไตรมาสจะมีการออก PR ประชาสัมพันธ์ตาม Theme เช่น ไตรมาส 1 ออก PR ใน Theme “ไม่มี ไม่เติม Sticker นั้นสำคัญ” ในสถานีบริการ NGV จำนวน 244 แห่งทั่วประเทศ

.

#THESTUDYTIMES

#TeenAgeNewsAgency

#สำนักข่าววัยเรียน

#GuidetoLearning

#NewsFeed #KitNew

#คิดนิว

#ความคิดใหม่เริ่มได้ที่นี่

เผยภาพพิธีมอบประกาศนียบัตรของนักเรียน โรงเรียนมาบตาพุดพันพิทยาคาร

เมื่อวันที่ 4 เม.ย. เพจ "โรงเรียนมาบตาพุดพันพิทยาคาร" เผยภาพพิธีมอบประกาศนียบัตรของนักเรียนโรงเรียนมาบตาพุดพันพิทยาคาร อำเภอเมือง จังหวัดระยอง ที่จบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และ ปีที่ 6 โดยผู้อำนวยการและลูกศิษย์โพสท่าสุดปังที่ไม่เหมือนใครจนดังเป็นไวรัลในโลกออนไลน์

.

โดยทางเพจระบุข้อความว่า "แสดงความยินดีกับนักเรียนระดับชั้นม.3 และม.6 ที่จบการศึกษาในปีนี้ทุกคนด้วยนะครับ และนี่เป็นภาพความน่ารักของ ท่าน ผอ. วิชัย ยิ่งประเสริฐ กับเด็ก ๆ สามารถดาวน์โหลดภาพได้ที่เว็บโรงเรียนครับ"

.

อย่างไรก็ตาม โพสต์ดังกล่าวมียอดแชร์กว่า 1,700 ครั้ง มีชาวเน็ตคอมเมนต์ชื่นชมแนวคิดของผู้อำนวยการที่โพสท่าสุดน่ารักกับเด็กนักเรียนอย่างเป็นกันเอง เช่น น่ารักเป็นกันเองดี รูปออกมาก็สวยไปอีกนานแสนนานค่ะ, ผอ.น่ารักกับนักเรียนเป็นกันเองดีจังเลยค่ะ, ไม่เครียดเป็นกันเองประทับใจที่สุด, เป็นการรับใบประกาศที่มีความสุขทั้งผู้ให้และผู้รับ ผอ.น่ารัก นักเรียนก็น่ารักทุกคนค่ะ เป็นต้น

.

#THESTUDYTIMES #TeenAgeNewsAgency #สำนักข่าววัยเรียน

#GuidetoLearning #NewsFeed #KitNew #คิดนิว #ความคิดใหม่เริ่มได้ที่นี่

เผยไทม์ไลน์ปลดล็อคกัญชา

เริ่มจากร่างประมวลกฎหมายยาเสพติดที่เข้าสู่รัฐสภา เป็นการประชุมร่วมกันระหว่าง ส.ส. และ ส.ว. ได้เสนอมาตอนนั้นในร่างมาตรา 29 มันไม่มีคำว่า "กัญชา" อยู่ตั้งแต่ร่างมาแล้ว ทั้ง ๆ ที่กัญชาประเภท 5 เป็นยาเสพติดที่ถูกให้ความสำคัญมาตลอด ใน พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ

.

ต่อมารัฐสภาได้ทำการพิจารณาร่างประมวลกฎหมาย ยาเสพติด ซึ่งเสนอโดยรัฐบาล

ในมาตรา 29 ประเภท 5 มันไม่มีคำว่า ”กัญชา” อยู่ ซึ่งมีคำว่าพืชฝิ่น กับเห็ดขี้ควาย 2 อย่างเท่านั้น ซึ่งเมื่อก่อนตาม พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษปี 2522 ประเภท 5 มันมีคำว่ากัญชา ยาฝิ่น กระท่อม แล้วก็ถอดกระท่อมออกเหลือ 2 อย่าง

.

นายศุภชัย ใจสมุทร เฝ้าเกาะติด มาตรา 29 มาตลอด มีคนเสนอว่า ควรจะต้องมีคำว่ากัญชาด้วยไหม ในการประชุม นายศุภชัย ใจสมุทร เข้าร่วมประชุมด้วย บอกว่า ไม่ มันไม่มาตั้งแต่แรก นายศุภชัยเป็นรองประธาน ในเวลานั้น บอกว่าไม่ต้องมีคำว่ากัญชา นี่คือที่มาทั้งหมด

.

พฤศจิกายน 2564

.

- รัฐสภาทำการพิจารณาแล้วเสร็จ จึงมีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา และ มีผลบังคับใช้หลังจากนั้นอีก 30 วัน

.

8 ธันวาคม 2564

.

- จุดเริ่มต้นของการปลดล็อกกัญชา

- ประมวลกฎหมายยาเสพติด มีผลใช้บังคับ โดยการลงมติเห็นชอบ พร้อมทั้ง ส.ส. สว. ทั้งฝ่ายค้าน ทั้งฝ่ายรัฐบาล

.

ดังนั้นกัญชาไม่ได้เป็นยาเสพติดนับตั้งแต่วันที่ 8/12/2564 จนถึงปัจจุบัน

.

มกราคม 2565

.

- คณะกรรมการ ป.ป.ส.ได้มีการจัดประชุม คือตามกฎหมายมาตรา 29 กำหนดว่า ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขโดยคำแนะนำของคณะกรรมการควบคุมยาเสพติด และโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ซึ่งมีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี รับผิดชอบเรื่องนี้ ให้ประกาศระบุประเภทของยาเสพติดแต่ละประเภท

.

- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้เสนอต่อที่ประชุม คณะกรรมการ ป.ป.ส. ว่าสิ่งที่เป็นยาเสพติด คือ 1 คือ พืชฝิ่น 2 คือเห็ดขี้ควาย 3 คือสารสกัดจากกัญชา มีปริมาณสารเตตราไฮโดรแคนาบินอล (tetrahydrocannabinol – THC) เกิน 0.2 % ที่ยังเป็นยาเสพติด

.

- พรรคภูมิใจไทย ขอให้มีการประกาศบังคับใช้ โดยมีการนับไปอีก 120 วัน ก็คือวันที่ 8 มิถุนายน 2565

.

- นายศุภชัย เสนอ จะต้องมีกฎหมายพ.ร.บ. กัญชา กัญชง มาอีกฉบับหนึ่ง

.

- ที่ประชุมมอบให้พรรคภูมิใจไทย ซึ่งมีฉบับร่างอยู่แล้ว นำฉบับร่างพ.ร.บของพรรคภูมิใจไทย ที่เกี่ยวกับการทำเรื่องกัญชาเสรีทางการแพทย์นั้นมายื่น เพื่อให้ทันภายใน 120 วัน โดย อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้ไปยื่นต่อ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาเองโดยตรง

.

- นายชวน หลีกภัย ประธานสภา พิจารณาบรรจุเข้ามาเป็นร่างพระราชบัญญัติต่อไปได้ และนายกรัฐมนตรีได้อนุมัติรับรองให้ทันทีทันใด

.

9 มิถุนายน 2565

.

- วันที่ 9 มิถุนายน 2565 ได้ตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมา 25 คน และทำการพิจารณากันจนแล้วเสร็จ ผ่านไป 19 วันมีการประชุมรัฐสภาอีกครั้ง ปรากฏว่า มีการเสนอเข้าที่ประชุมแล้ว การเปิดเสรีกัญชานั้นได้ถูกตีตก จากพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อไทย พลังประชารัฐ ก้าวไกล และพรรคประชาชาติ ไม่ยอมให้กฎหมายผ่านมติการประชุม

.

- พ.ร.บ.กัญชา กัญชง เข้าสู่วาระที่ 2 มี ส.ส.จากพรรค ประชาธิปัตย์ เพื่อไทย ก้าวไกล ประชาชาติ ยืนยันจะเอากัญชากลับไปเป็นยาเสพติด จน ณ วันนี้สภาปิด พ.ร.บ.กัญชา ก็ค้างในสภา พรรคภูมิใจไทย เดินหน้าต่อ เพื่อจะทำกัญชาทางการแพทย์ตั้งแต่หาเสียง และเศรษฐกิจ จะไม่เอานันทนาการ พรรคภูมิใจไทย จะเอากัญชาทางการแพทย์เท่านั้น แต่โดนบิดเบือนจากพรรคการเมืองตรงข้ามพรรคภูมิใจไทย

.

10 มิถุนายน 2565

.

- อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดประชุมวิชาการ “มหกรรมกัญชา 360 องศา ปลดล็อคกัญชา ประชาชนได้อะไร” พร้อมแจกต้นกล้ากัญชา 1 พันต้น ณ จังหวัดบุรีรัมย์

.

16 มิถุนายน 2565

.

- กระทรวงสาธารณสุขออกประกาศ สธ. มีผลบังคับใช้วันที่ 17 มิ.ย 2565 เรื่อง สมุนไพรควบคุม (กัญชา) โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 4, 44, 45(3), 45(4) แห่ง พ.ร.บ.คุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ. 2542 กำหนดให้กัญชา หรือสารสกัดกัญชา เป็นสมุนไพรควบคุม

.

18 มิถุนายน 2565

.

- อนุทิน ชาญวีรกูล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย แจง ประกาศ สธ. กัญชาเป็นสมุนไพรควบคุม มีผลตามกฎหมายแล้ว

.

การขับเคลื่อนนโยบายกัญชาเสรีทางการแพทย์ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กว่า ๑ ปี ในช่วงแรกเน้นให้ประชาชนเข้าถึงยากัญชาทางการแพทย์ ที่ได้มาตรฐานจากสถานพยาบาลใกล้บ้านกว่า ๓๐๐ แห่งทั่วประเทศ

.

การผลักดันนโยบายกัญชาดำเนินไปอย่างต่อเนื่องโดยพรรคภูมิใจไทย จนกระทั่ง วันที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๖๒ ได้มีการเสนอร่างกฎหมาย ๒ ฉบับ คือ ร่างพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ แก้ไขเพิ่มเติม และร่างพระราชบัญญัติสถาบันพืชยาเสพติดแห่งประเทศไทย หรือที่รู้จักกันในชื่อ "กฎหมายปลูกกัญชาบ้านละ ๖ ต้น" เพื่อปลดล็อคกัญชาให้สามารถใช้ทางการแพทย์ได้อย่างแพร่หลาย และประชาชนสามารถปลูกได้ตาม นโยบาย ที่พรรคฯ หาเสียงไว้ในช่วงเลือกตั้ง

.

นโยบายปลดล็อกกัญชานี้ ออกมาเพื่อดึงดูดประชาชนให้สนใจ สนับสนุน และเลือกพรรคภูมิใจไทยเป็นรัฐบาล และให้นายอนุทิน ชาญวีรกูลหัวหน้าพรรค เป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อที่จะได้ทำให้กฎหมายฉบับนี้ผ่านมติ นายอนุทินยังกล่าวอีกว่า กัญชามีประโยชน์ ทั้งทางด้านการแพทย์ สุขภาพของประชาชน ช่วยในการรักษาโรคมากมาย และ ยังเป็นผลดีในทางด้านเศรษฐกิจอีกด้วย การคืนกัญชาให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์นี้ช่วยสร้างรายได้เสริม และ เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ พรรคภูมิใจไทยยังย้ำว่าถ้าไม่เลือกพรรคภูมิใจไทย คนที่ปลูกหรือใช้กัญชาจะกลับไปติดคุก

.

แต่ดูเหมือนว่าเกมที่พรรคภูมิใจไทยได้คิดไว้เหมือนจะพลิก เนื่องจาก พรรคประชาธิปัตย์ เพื่อไทย พลังประชารัฐ ก้าวไกล และพรรคประชาชาติไม่ได้ลงมติเห็นชอบกับ พ.ร.บ กัญชาดังกล่าว พ.ร.บ จึง ถูกตีตกไป น่าจะเป็นด้วยเหตุผลทางการเมือง ที่กลัวพรรคภูมิใจไทยได้คะแนนนิยมจากประชาชนมากเกินไป นี่จึงเป็นอีกทางที่พรรคการเมืองอื่นๆอาทิ เพื่อไทย พลังประชารัฐ ฯลฯ ใช้เพื่อสกัด พรรคภูมิใจไทย โดยไม่ยอมรับ พ.ร.บ กัญชง กัญชา และลงมติไม่เห็นชอบ

.

ซึ่งดูขัดแย้งกับช่วงแรกที่พรรคภูมิใจไทย ได้ยื่นเสนอร่างต่อรัฐสภา ส.ส. สว. ทั้งฝ่ายค้าน ทั้งฝ่ายรัฐบาล และ นายกรัฐมนตรี ต่างมีความเห็นไปในทิศทางเดียวกัน คือ ยอมรับ พ.ร.บ กัญชง กัญชา และ การเปิดเสรีกัญชาให้ใช้ได้อย่างถูกกฎหมาย โดยที่ไม่ถูกระบุอยู่ใน ประเภทของยาเสพติด แต่เมื่อการแสวงหาผลประโยชน์ และ การเลือกตั้ง ได้เกิดขึ้น ทุกอย่างจึงพลิกผัน เพื่อผลประโยชน์ของตนทั้งสิ้น

.

#THESTUDYTIMES

#TeenAgeNewsAgency

#สำนักข่าววัยเรียน

#GuidetoLearning

#NewsFeed

#KitNew

#คิดนิว

#ความคิดใหม่เริ่มได้ที่นี่

Soft Skills 5 ทักษะห้ามพลาดที่สำคัญสำหรับลูก

ถึงแม้คุณพ่อคุณแม่จะไม่สามารถสอนทักษะทางเทคนิคให้

ลูกได้ แต่ยังคงมีบทบาทสำคัญอยู่เสมอ ในการคอยฝึกและ

สร้าง Soft Skills ที่ดีให้กับลูก ๆ นะคะ

.

“Soft Skills” คือ ทักษะพื้นฐานทางสังคม ทางอารมณ์

และทางความสัมพันธ์ ยังคงเป็นส่วนสำคัญในการทำงาน

ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและในอนาคต หากถูกฝึกฝนตั้งแต่

ยังเด็กก็จะสามารถใช้ทักษะนี้ได้ดีกว่าคนอื่น ๆ

.

ในศตวรรษ 21 นี้ จะมี Soft Skills ใด ที่คุณพ่อคุณแม่ควรให้

ความสำคัญกับลูกตั้งแต่ตอนนี้ มาดูกันค่ะ

.

1.ทักษะการสื่อสารและเข้าสังคม

การสื่อและการเข้าสังคมถือเป็นหนึ่งในทักษะสำคัญที่ปฏิเสธไม่ได้

นอกเหนือจากการฝึกให้ลูกพูด แสดงออก หรือโต้ตอบแล้ว อีกหนึ่งสิ่ง

ที่สำคัญในการสื่อสารคือ การให้ความเคารพคู่สนทนา การมีมารยาท

การรู้จักตีความนัยแฝงต่าง ๆ ในบทสนทนา เพื่อให้ลูก ๆ ได้ฝึกการเป็นทั้ง

ผู้ฟังและผู้พูดที่ดีอีกด้วยค่ะ

.

2.ทักษะการทำงานเป็นทีมและการทำงานร่วมกับผู้อื่น

เด็กๆ หลายคนถนัดที่จะทำบางสิ่งคนเดียวและในหลาย ๆ ครั้ง

เด็กบางคนสามารถทำทุกสิ่งคนเดียวได้อย่างดีเยี่ยม แต่ในอนาคตต

ของการทำงานจริง เขาต้องทำร่วมกับคนอื่นอย่างแน่นอนค่ะ

และเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการทำงานร่วมกับผู้อื่นในอนาคต

ควรฝึกทักษะนี้ให้เด็กๆ ได้ลองตั้งแต่ตอนนี้ เพื่อลดปัญหา

การทำงานเป็นทีมของลูก ๆ ในอนาคตค่ะ

.

3.ทักษะการแก้ไขปัญหาและคิดวิเคราะห์

ในอนาคตเด็ก ๆ ต้องประสบพบเจอกับปัญหาและอุปสรรคมากมาย

ไม่ใช่แค่ในการทำงาน แต่ยังรวมถึงในชีวิตประจำวันอีกด้วยค่ะ

การแก้ไขปัญหาอย่างเป็นลำดับขั้นตอน จึงเป็นส่วนสำคัญอย่างมาก

สำหรับเด็กค่ะ นอกเหนือจากการฝึกผ่านเกม หรือการถามตอบแล้ว

คุณพ่อคุณแม่ยังสามารถฝึกได้ง่าย ๆ ด้วยการปล่อยให้เขาแก้ไขปัญหา

ที่เกิดขึ้นในแต่ละวันโดยธรรมชาติด้วยตัวของพวกเขาเอง ไม่พยายาม

ช่วยหรือแก้ไขทุกอย่างให้กับเขา

.

4.ทักษะการตัดสินใจ

เด็ก ๆ หลายคนเติบโตมาด้วยความลังเลในใจอยู่เสมอ ไม่สามารถ

ตัดสินหลายสิ่งหลายอย่างด้วยตัวเองได้ค่ะ สิ่งที่สำคัญอีกอย่างของ

การฝึกทักษะนี้แล้ว ความสัมพันธ์หรือการปฏิบัติของพ่อแม่ต่อลูกเอง

สามารถทำให้ลูก ๆ มีอิสระในการบ้างไหม? เราให้โอกาสเขาได้

ตัดสินใจอะไรด้วยตัวเองบ้างหรือเปล่า? รายละเอียดเล็ก ๆ น้อยเหล่านี้

ล้วนมีผลในการสร้างทักษะและความกล้าในการตัดสินใจของเขา

ตลอดจนความรู้สึกเคารพและเชื่อมั่นในตัวเองของลูกๆด้วยค่ะ

.

5.ทักษะความคิดสร้างสรรค์

การมีทักษะความคิดสร้างสรรค์สามรถช่วยกระตุ้นทักษะหรือความ

สามารถของเด็กในการแก้ไขปัญหา ในการหาทางออกใหม่ ๆ ให้กับ

ปัญหาที่เด็ก ๆ ไม่เคยเจอมาก่อน หรืออาจไม่มีทางแก้ที่น่าพึงพอใจ

ในการฝึกทักษะนี้ให้เด็ก ๆ หัวใจสำคัญคือ การปล่อยให้เขาได้

คิดนอกกรอบ คิดจากศูนย์ หรือคิดในแบบที่เขาอาจไม่เคยคิดมาก่อน

หรือไม่จำเป็นต้องคิดตามใคร ๆ ขอแค่คุณพ่อคุณแม่เปิดโอกาสให้ลูก ๆ

ได้ลองเป็นตัวเองหรือก้าวออกนอกกรอบบ้าง จะสามารถเป็นก้าวที่

สำคัญในการสร้างเสริมทักษะความคิดสร้างสรรค์ของพวกเขา

และเป็นก้าวเล็ก ๆ สู่ก้าวใหญ่ในสิ่งที่เด็ก ๆ ปรารถนาที่จะทำหรือ

ยึดเป็นอาชีพในอนาคตได้อีกด้วยค่ะ

.

ความสำเร็จยอมไม่อาจพึ่งพาเพียงแค่ Hard Skills ของพวกเขา

แต่ยังต้องพึ่งพา Soft Skills ต่าง ๆ เพื่อทำงานร่วมกับคนอื่น เพื่อ

เป็นผู้นำ เพื่อคิดวิเคราะห์ สร้างสรรค์ จัดการบริหารภาระงานของ

ตัวเอง ตลอดจนต่อยอดในสิ่งต่าง ๆ

.

ที่มา : Know-are

.

#THESTUDYTIMES

#TeenAgeNewsAgency

#สำนักข่าววัยเรียน

#GuidetoLearning

#NewsFeed

#KitNew

#คิดนิว

#ความคิดใหม่เริ่มได้ที่นี่

"กรุงไทย" ผนึก "ปตท."

เมื่อวานนี้ (4 เมษายน 2566) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (ธนาคารกรุงไทย) ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงกับ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) และ บริษัท PTT International Trading Pte Ltd ประเทศสิงคโปร์ (PTTT ถือหุ้น 100% โดย ปตท.) ในการเข้าทำสัญญาอนุพันธ์ป้องกันความเสี่ยงเชื่อมโยงคาร์บอนเครดิต หรือ Carbon Credit Linked Derivatives

.

ซึ่งนับเป็นนวัตกรรมใหม่ของตลาดทุนไทย ที่ธนาคารได้ออกแบบและพัฒนาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการด้านการบริหารความเสี่ยงทางการเงินของ ปตท. รวมถึงเป็นการส่งเสริมเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของทั้งสองบริษัท นอกจากนี้ยังช่วยพัฒนาตลาดการซื้อขายคาร์บอนเครดิตระหว่างองค์กรในประเทศ โดย PTTT ประเทศสิงคโปร์ จะทำหน้าที่เป็นผู้จัดหาคาร์บอนเครดิตที่มีมาตรฐานให้เพื่อใช้สำหรับลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในกิจกรรมต่าง ๆ ในอนาคต นอกจากนี้ ข้อตกลงยังครอบคลุมถึงการบรรลุเป้าหมายด้าน ESG ของ ปตท.

.

นายรวินทร์ บุญญานุสาสน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารกรุงไทย ในฐานะธนาคารพาณิชย์ชั้นนำของประเทศ มุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่มในทุกมิติ โดยให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) และเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) ของ United Nations Development Programme (UNDP)

.

โดยเฉพาะด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นทิศทางที่ผู้บริโภค และธุรกิจทั่วโลกให้ความสำคัญ โดยล่าสุดธนาคารลงนามบันทึกข้อตกลงกับ ปตท. และ บริษัท PTTT ประเทศสิงคโปร์ ในการเข้าทำสัญญาอนุพันธ์เพื่อป้องกันความเสี่ยงทางการเงิน (Derivatives) ที่เชื่อมโยงกับคาร์บอนเครดิต (Carbon Credit Linked Derivatives) เป็นครั้งแรกในประเทศไทย

.

นอกจากนี้ข้อตกลงยังครอบคลุมถึงการบรรลุเป้าหมายด้าน ESG ถือเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นพัฒนาและการเป็นผู้นำตลาด ESG Financial Solution ของธนาคาร ตอบโจทย์เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) ในด้านการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ส่งเสริมการบริโภคและการผลิตอย่างมีความรับผิดชอบ และสร้างความร่วมมือเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน รวมถึงมุ่งเน้นการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ก้าวสู่การเป็นองค์กรที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions)

.

“ธนาคารยังคงเดินหน้าพัฒนานวัตกรรมด้านตลาดทุน และนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการทางการเงินให้กับลูกค้าอย่างครบวงจร และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ตอบโจทย์โลกธุรกิจยุคใหม่ที่มีความผันผวน และเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เสริมศักยภาพธุรกิจ และเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนต่อไป”

.

นางสาวพรรณนลิน มหาวงศ์ธิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในสถานการณ์เศรษฐกิจโลกปัจจุบันที่มีความผันผวนอันเนื่องมาจากปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ เงินเฟ้อและนโยบายการบริหารจัดการดอกเบี้ยของแต่ละประเทศ ปตท. มีนโยบายการบริหารความเสี่ยงจากความผันผวนทางการเงินด้วยวิธี Natural Hedge รวมทั้ง มีการใช้เครื่องมือการบริหารความเสี่ยงเมื่อมีจังหวะและสถานการณ์ที่เหมาะสม

.

โดยธุรกรรมนี้จะเป็นครั้งแรกที่มีการเชื่อมโยงคาร์บอนเครดิต ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมของตลาดทุนเพื่อส่งเสริมการบริหารจัดการทางการเงินให้กับองค์กรตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนของโลกยุคปัจจุบัน รวมถึงสนับสนุนให้ทั้ง 3 องค์กรมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนประเทศไทยให้บรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions)

.

“การลงนามบันทึกข้อตกลง Carbon Credit Linked Derivatives ระหว่างธนาคารกรุงไทย ปตท. และ PTTT ในครั้งนี้ จะมีส่วนสนับสนุนกลยุทธ์ “ปรับ เปลี่ยน ปลูก” ของ ปตท. ที่ตั้งเป้าความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี 2040 และ การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี 2050 ซึ่งเร็วกว่าเป้าหมายของประเทศ ด้วยการทำงานเชิงรุก ปรับกระบวนการผลิต ค้นคว้าพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ พร้อมทั้งเปลี่ยนสู่ธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พลังงานสะอาด ธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อส่งเสริมและสร้าง EV Ecosystem ในประเทศ รวมทั้งธุรกิจใหม่ที่ไกลกว่าพลังงาน ตลอดจนเพิ่มปริมาณการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการปลูกป่าเพิ่ม 2 ล้านไร่ โดยแบ่งเป็น ปตท. 1 ล้านไร่ และความร่วมมือของบริษัทในกลุ่ม ปตท. อีก 1 ล้านไร่ ภายในปี 2030 อีกด้วย”

.

นายพงษ์พันธุ์ อมรวิวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า PTT International Trading Pte Ltd (PTTT) ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ ปตท. เป็นผู้นำในการพัฒนาและมีความพร้อมในการดำเนินธุรกิจการค้าคาร์บอนเครดิต ทั้งในรูปแบบ Over The Counter และตลาด Exchange ทำให้สามารถเข้าถึงและขยายขอบเขตการค้าคาร์บอนเครดิตได้อย่างกว้างขวาง เพื่อให้ได้มาซึ่งคาร์บอนเครดิตที่มีมาตรฐาน และได้รับการยอมรับในระดับสากล

.

สำหรับการซื้อขายคาร์บอนเครดิตที่เชื่อมโยงในธุรกรรมครั้งนี้ จะเป็นต้นแบบในการพัฒนาตลาดสัญญาซื้อขายคาร์บอนเครดิตที่เชื่อมโยงกับอนุพันธ์เพื่อป้องกันความเสี่ยงทางการเงินหรือผลิตภัณฑ์ทางการค้าอื่น ๆ ต่อไป ทั้งนี้ กลุ่ม ปตท. มุ่งมั่นและพร้อมเป็นกำลังสำคัญร่วมกับองค์กรต่าง ๆ ในการขับเคลื่อนประเทศสู่สังคมคาร์บอนต่ำ ผ่านการดำเนินงานในทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม เพื่อบรรลุเป้าหมาย การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในระดับประเทศต่อไป

.

#THESTUDYTIMES

#TeenAgeNewsAgency

#สำนักข่าววัยเรียน

#GuidetoLearning

#NewsFeed

#KitNew

#คิดนิว

#ความคิดใหม่เริ่มได้ที่นี่


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STUDY TIMES
Take Me Top