Thursday, 16 May 2024
THE STUDY TIMES

ทดสอบแค่ในห้องแล็บ เวชศาสตร์ฯ มหิดล แจงไม่เกี่ยวข้อง หลังอย.จ่อเอาผิดโฆษณาสเปรย์ยับยั้ง RSV

เมื่อวันที่ 17 พ.ย. นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์เบซูโต๊ะ เคลียร์ นาเซิล สเปรย์ (Besuto Qlears nasal spray) ได้รับการจดแจ้งเครื่องมือแพทย์ เลขที่ 65-1-3-2-0000818 มีวัตถุประสงค์การใช้งานและข้อบ่งใช้ คือ สำหรับพ่นจมูก ใช้เมื่อเริ่มมีอาการเป็นหวัดหรือมีอาการคล้ายหวัด เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับเยื่อบุโพรงจมูกเนื่องจากอากาศแห้ง ช่วยลดและบรรเทาอาการคัดจมูก ซึ่งภายหลังปรากฏตามสื่อต่างๆ ว่ามีการแถลงผลการทดสอบฤทธิ์ของสารสกัดจากธรรมชาติ ซึ่งอยู่ในสูตรส่วนประกอบ ควบคู่กับการแอบแฝงโฆษณาผลิตภัณฑ์ ทำให้เข้าใจว่าผลิตภัณฑ์สามารถยับยั้งหรือฆ่าเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ ไวรัสโคโรนา 2019 และไวรัสอาร์เอสวี ต้านการอักเสบ ฯลฯ ได้ ซึ่งเป็นการสร้างความเข้าใจคลาดเคลื่อนกับผู้บริโภค

"ผลการทดสอบฤทธิ์ดังกล่าว เป็นเพียงผลการทดสอบประสิทธิภาพของสารสกัดในห้องปฏิบัติการเบื้องต้นเท่านั้น ยังคงต้องทำการศึกษาวิจัยในมนุษย์เพิ่มเติมเพื่อยืนยันฤทธิ์ดังกล่าว แล้วจึงนำผลการศึกษา ยื่นขอขึ้นทะเบียนกับ อย.ในสรรพคุณใหม่ให้ถูกต้องตามกฎหมายต่อไป" นพ.สุรโชคกล่าว

นพ.สุรโชคกล่าวว่า ขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ร่วมกันลดปัญหาการโฆษณาแฝงผลิตภัณฑ์เพื่อประโยชน์ทางการค้า ผ่านการแถลงผลงานวิจัยหรือผลการทดสอบต่างๆ เพราะนอกจากจะสร้างความเข้าใจผิดให้ผู้บริโภคแล้ว ยังเสี่ยงต่อการฝ่าฝืนกฎหมาย โดยในขณะนี้ อย. ได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายในกรณีข้างต้นแล้ว ส่วนการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เพื่อช่วยป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด ต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการอนุมัติสรรพคุณจาก อย. ถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น และการโฆษณาต้องผ่านการอนุมัติจาก อย. เช่นกัน นอกจากนี้ ขอให้ประชาชนยังคงปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิดตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข เช่น การสวมหน้ากากอนามัยเมื่อเข้าไปในสถานที่ผู้คนแออัดหรือพื้นที่ปิด อากาศไม่ถ่ายเท การล้างมือ การเว้นระยะห่างต่อไป

วันเดียวกัน ที่ห้องประชุมเฉลิมพระเกียรติ คณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล จัดแถลงข่าวเพื่อสร้างความเข้าใจกรณีผลิตภัณฑ์สเปรย์ดังกล่าว โดย รศ.นพ.วีระพงษ์ ภูมิรัตนประพิณ คณบดีคณะเวชศาสตร์เขตร้อน ม.มหิดล แถลงว่า คณะเวชศาสตร์เขตร้อน ได้รับการร้องขอให้ทดสอบประสิทธิภาพในห้องปฏิบัติการ ซึ่งดำเนินการโดยห้องปฏิบัติการไวรัส ภาควิชาจุลชีววิทยาและอิมมิวโนโลยี คณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล ในการยับยั้งเชื้อไวรัสก่อโรคทางเดินหายใจ SARs-CoV-2 (COVID-19), Influenza A (H1N1), Human Coronavirus 229E, และ Enterovirus 71 (EV71) ต่อผลิตภัณฑ์สเปรย์พ่นจมูกดังกล่าว ตามวิธีมาตรฐานในห้องปฏิบัติการเท่านั้น แต่ยังมิได้มีการทดลองหรือทดสอบประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์นี้ในมนุษย์ และผลการทดสอบในห้องปฏิบัติการนี้ยังไม่ได้บอกถึงประสิทธิภาพการใช้ในมนุษย์ ซึ่งยังคงต้องมีขั้นตอนการทดสอบในอาสาสมัครตามขั้นตอนหลักวิชาการต่อไป

“ส่วนบทบาทของคณะเวชศาสตร์เขตร้อน เป็นการให้บริการทางวิชาการเพื่อทดสอบประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ในห้องปฏิบัติการเท่านั้น ซึ่งเป็นบริการทางวิชาการตามปกติที่คณะฯ ให้บริการอยู่ คณะเวชศาสตร์เขตร้อน ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ในการผลิต การขออนุญาตขึ้นทะเบียน การจัดจำหน่าย หรือกิจกรรมอื่นของผลิตภัณฑ์แต่อย่างใดทั้งสิ้น” รศ.นพ.วีระพงษ์ กล่าว

เยาวชนร้อยเอ็ด สุดปัง คว้าเหรียญทอง โครงงานคุณธรรมฯ ทำความดีถวายในหลวง ประจำปี 2564

วันนี้(17 พ.ย. 65) เวลา 08.00 น. ณ บริเวณหน้าเสาธงโรงเรียนร้อยเอ็ดวิทยาลัย ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด นายบุญภพ จันทมัตตุการ ผู้อำนวยการโรงเรียนร้อยเอ็ดวิทยาลัย มอบเกียรติบัตรให้กับนักเรียนที่ได้รับรางวัลเหรียญทองลำดับ1 โครงการคุณธรรมเฉลิมพระเกียรติ เยาวชนไทยทำความดีถวายในหลวง ประจำปี 2564 ได้แก่นายขจรเกียรติ โคตะยันต์ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่6 โรงเรียนร้อยเอ็ดวิทยาลัย ปัจจุบันศึกษาอยู่ชั้นปี1 มหาวิทยาลัยมหาสารคาม คณะศึกษาศาสตร์ เอกดนตรีศึกษา ขณะที่ศึกษาอยู่โรงเรียนร้อยเอ็ดวิทยาลัยเป็นเด็กที่เรียนดีกิจกรรมเด่นมาโดยตลอดเป็นที่รักของครูและเพื่อนนักเรียนด้วยกัน

.

ด้วยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานกำหนดการจัดโครงการประกวดแข่งขัน โครงการคุณธรรมเฉลิมพระเกียรติ เยาวชนไทยทำความดีถวายในหลวง ปีที่16 ปีการศึกษา 2564(ระดับประเทศ) เพื่อสร้างความเข้าใจและเข้าถึงหลักการที่เป็นหัวใจสำคัญของโครงงานคุณธรรมเฉลิมพระเกียรติฯ โดยเน้นประเด็นปัญหาใกล้ตัว การให้ความสนใจและคิดริเริ่มที่จะแก้ปัญหาด้วยตนเองเน้นการเรียนรู้ผ่านการปฎิบัติจริงด้วยความเพียรพยายามอย่างต่อเนื่องในช่วงระยะเวลานานพอสมควร(ไม่น้อยกว่า2เดือน)ในลักษณะวิจัยปฎิบัติการนำไปสู่การแก้ปัญหาความเสื่อมทางศิลธรรมและส่งเสริมบ่มเพาะความดีอย่างเป็นรูปธรรม ภายใต้แนวคิด “ร่วมกัน ทำดี อย่างมีปัญญา”

.

นายขจรเกียรติ โคตะยันต์ นักเรียนรางวัลเหรียญทองลำดับที่1 โครงการคุณธรรมเฉลิมพระเกียรติ เยาวชนไทยทำความดีถวายในหลวง ประจำปี 2564 กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ได้รับรางวัลนี้ โครงการดังกล่าวเป็นโครงการที่ดีมีประโยชน์เน้นความคิดริเริ่มและการแก้ไขปัญหาด้วยตัวเองนำไปสู่การแก้ปัญหาความเสื่อมทางศิลธรรมและส่งเสริมบ่มเพาะความดีอย่างเป็นรูปธรรม ภายใต้แนวคิด “ร่วมกัน ทำดี อย่างมีปัญญา” สามารถนำไปขยายผลและปฎิบัติในการใช้ในชีวิตประจำวันได้จริงและเหมาะสม นายขจรเกียรติ กล่าวในที่สุด

.

ด้านนายสัมฤทธิ์ โคตะยันต์ ผู้ปกครองของนายขจรเกียรติกล่าวว่าลูกชายมีนิสัยร่าเริงมาตั้งแต่เป็นเด็กชอบการศึกษาเรียนรู้ด้วยตัวเอง เป็นคนกล้าคิด กล้าทำและกล้าแสดงออก บ่อยครั้งที่ผู้เป็นพ่อได้ติดตามไปร่วมกิจกรรมเพื่อสังคมของลูกชาย เช่นการเล่นดนตรีเปิดหมวกกับกลุ่มเพื่อนๆเพื่อนำเงินรายได้มอบให้กับองค์กรการกุศล เช่นโรงเรียนการศึกษาคนตาบอดร้อยเอ็ดเป็นต้น

.

โกสิทธิ์/ร้อยเอ็ด(ห)

087-864-4400

ชะลอมไทยสู่ APEC เปิดใจเจ้าของงาน ชวนนท์ นศ. ชั้นปีที่ 3 คณะสถาปัตยกรรมฯ จุฬาฯ

โลโก้สามสีของการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค (APEC Economic Leaders’ Meeting) ปี 2022 ปรากฏอยู่ทั่วกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นเมืองเจ้าภาพจัดการประชุมฯ ในสัปดาห์นี้ โดยโลโก้ดังกล่าวเกิดจากฝีมือการออกแบบของนักศึกษาไทย วัย 21 ปี
.
ชวนนท์ วงศ์ตระกูลจง นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บอกเล่ากระบวนการออกแบบโลโก้สำหรับการประชุมทางเศรษฐกิจระดับโลกกับสำนักข่าวซินหัวว่าความท้าทายอยู่ที่จะผสมผสานอัตลักษณ์ของเอเปคเข้ากับสัญลักษณ์ของไทยได้อย่างไร

.

ชวนนท์เผยว่าช้าง วัด หรือยักษ์ มักถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของไทย แต่เขามองว่ามันธรรมดาเกินไปและอยากคิดนอกกรอบ และไม่อยากใช้สัญลักษณ์ที่ใช้กันบ่อยๆ จึงนึกถึง “ชะลอม” ขึ้นมา
.
เรานึกถึงต้มยำกุ้งเมื่อพูดถึงอาหารไทย หรือรถตุ๊กตุ๊กเมื่อพูดถึงการขนส่ง แล้วสัญลักษณ์ของเศรษฐกิจในไทยที่อยู่คู่กับคนไทยมานานคืออะไร ชะลอมเป็นเครื่องไม้เครื่องมือที่ใช้งานกันมาแต่โบราณ มันจักสานขึ้นจากไม้ไผ่และเป็นงานฝีมือที่ยั่งยืน ซึ่งสะท้อนความสมดุลของวิสัยทัศน์การประชุมฯ ในปีนี้” ชวนนท์กล่าว

.

ชวนนท์ใช้เวลาราว 3 เดือน ปรับแต่งลักษณะของชะลอมจนกลายเป็นโลโก้รูปแบบสุดท้าย โดยไผ่ที่จักสานเข้าด้วยกันก่อตัวเป็นช่องว่าง 21 ช่อง สื่อถึงสมาชิก 21 เขตเศรษฐกิจของเอเปค ส่วนปลายชะลอมที่ชี้ขึ้นฟ้าสื่อถึงการเติบโตของเอเปค ส่วนสีต่างๆ อาทิ สีน้ำเงินอันเป็นสัญลักษณ์การอำนวยความสะดวก สีชมพูแห่งการเชื่อมโยง และสีเขียวที่ยั่งยืน ยังสะท้อนหัวข้อการประชุมฯ ปีนี้ ได้แก่ เปิดกว้างสร้างสัมพันธ์ เชื่อมโยงกัน สู่สมดุล” (Open. Connect. Balance.)
.
แนวคิดหลากหลายและการออกแบบอันประณีตงดงามดังกล่าว ทำให้ชวนนท์ ซึ่งคลุกคลีกับการวาดภาพมาตั้งแต่ชั้นประถม เอาชนะผู้ร่วมประกวดเกือบ 600 รายได้ในที่สุด

.

อุไร เสงี่ยมศรี ช่างจักสาน วัย 65 ปี จากชุมชนพนัสนิคม แหล่งอนุรักษ์เทคนิคจักสานไม้ไผ่แบบโบราณ กล่าวว่าตั้งแต่โลโก้เอเปคเปิดตัว คนหนุ่มสาวก็หันมาสนใจชะลอมมากขึ้น บางคนได้มาเรียนรู้วิธีทำชะลอมด้วย
.
หลังจากหายไปจากชีวิตประจำวันคนไทยนานหลายสิบปี ปัจจุบันดูเหมือนชะลอมและงานจักสานไม้ไผ่อื่นๆ กำลังได้รับความนิยม และอาจมีโอกาสกลับมาเป็นส่วนหนึ่งในวิถีชีวิตผู้คนอีกครั้ง

.

แหล่งที่มา : สำนักข่าวซินหัว

แหล่งที่มา : https://mgronline.com/china/detail/9650000109614

มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) และ WORKPOINT จับมือกัน “เล่นใหญ่”

มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) และ WORKPOINT จับมือกัน “เล่นใหญ่” ในโครงการ เล่นใหญ่ Beyond Content Creator สร้างกระบวนการบ่มเพาะทักษะรอบด้าน ปั้นเด็กนิเทศสู่สุดยอดคอนเทนต์ครีเอเตอร์หน้าใหม่ ผลิตนักศึกษาแห่งอนาคตที่ตอบโจทย์ตลาดแรงงาน

.

ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญในพิธีลงนามความร่วมมือ ระหว่างคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ กับ บริษัท ไทย บรอดคาสติ้ง จำกัด (ในเครือเวิร์คพอยท์กรุ๊ป) เมื่อวันที่ 10 พ.ย. 2565 ณ สตูดิโอ 1 มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์

.

หนึ่งในโมเดลความร่วมมือระหว่างสถาบันการศึกษา และองค์กรวิชาชีพ ที่มองเป้าหมายเดียวกันถึงการสร้างสรรค์ “คนและผลงาน” ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคอย่างแท้จริง

.

ผศ.ดร.ทัณฑกานต์ ดวงรัตน์ รองอธิการบดีสายงานเครือข่ายสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (มธบ.) เปิดเผยว่า เด็กยุคใหม่มีความเป็นตัวตนสูงมาก ขณะที่การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีเกิดขึ้นตลอดเวลา นำมาสู่การปรับตัวในหลายด้าน

.

ซึ่งการพัฒนาความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยกับเวิร์คพอยท์ในครั้งนี้จะทำให้เด็กเรียนรู้การทำงานแบบมืออาชีพ โดยปัจจุบันนักศึกษาหลายคน อยากจะเป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์ และเป็นเจ้าของสื่อของตัวเอง

.

การจับมือระหว่างภาควิชาการและวิชาชีพ นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของนักศึกษาในการเรียนรู้ทักษะ และประสบการณ์ เพื่อมุ่งสู่เส้นทางสายนี้เมื่อจบการศึกษา

.

ด้าน ผศ.ศิวนารถ หงษ์ประยูร คณบดี คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (มธบ.) เปิดเผยว่า ด้วยเทรนด์ของคอ

 .

ทางคณะฯ มีการปรับหลักสูตรใหม่ นักศึกษาจะได้คิดสร้างสรรค์ดิจิทัล

คอนเทนต์มากขึ้น พร้อมกับนำความรู้ด้านบิ๊กดาต้ามาวิเคราะห์ มีการศึกษาและทำความเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคและพฤติกรรมคนดูมากขึ้น เพื่อให้การสร้างสรรค์งานตรงกลุ่มกับเป้าหมาย

.

“ความร่วมมือนี้จะเกิดประโยชน์กับนักศึกษาเป็นอย่างมาก ไม่ใช่เรียนอย่างเดียว แต่ทำงานกับมืออาชีพ เพื่อให้การทำคอนเทนต์สามารถตอบโจทย์ผู้ชมในทุกแพลตฟอร์ม ทั้งยังเป็นการเตรียมความพร้อมนักศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ให้มีครบทั้งความรู้ในห้องเรียนและทักษะในโลกการทำงาน” ผศ.ศิวนารถ กล่าว

.

ดร.วิชนี ศรีสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการสายงานการตลาด บริษัท ไทย บรอดคาสติ้ง จำกัด เปิดเผยว่า ความร่วมมือในโครงการนี้เป็นการเปิดโอกาสให้นักศึกษานำเสนอความคิดสร้างสรรค์ ในการผลิตรายการใหม่ พร้อมโอกาสแสดงผลงานในช่องบางพูนแคมปัส ซึ่งเป็นช่องยูทูบที่ได้รับความนิยมอย่างมากทางออนไลน์ อาทิ รับก่อน นาวยูซีมี่ ฯลฯ

.

“ยินดีเป็นอย่างมากที่จะได้ถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์อย่างเต็มความสามารถของเรา ตั้งแต่แนวคิด ทัศนคติ วิธีการ เทรนด์ใหม่ ๆ ในวงการสื่อปัจจุบัน พร้อมทั้งเป็นแรงบันดาลใจให้น้อง ๆ ที่ต้องการจะเดินในเส้นทางนี้ให้ได้รับความรู้ ทักษะ และประสบการณ์การทำงานอย่างถูกต้อง และรวดเร็วขึ้น เพื่อนำสิ่งที่ได้จากห้องเรียนสู่การปฏิบัติจนออกมาเป็นผลงานที่มีคุณภาพ สามารถต่อยอดและใช้งานจริงได้” ดร.วิชนี ศรีสวัสดิ์ กล่าว

.

นอกจากพิธีลงนามความร่วมมือแล้ว ยังมีเสวนาในหัวข้อ “คิด-อย่าง-Work ให้ตรง Point” ที่ได้วิทยากรจากทั้ง มธบ.และเวิร์คพอยท์ตัวจริงเสียงจริงของวงการ มาร่วมถ่ายทอดประสบการณ์ตรงให้คนที่สนใจทำงานสายคอนเทนต์ครีเอเตอร์ได้ฟังกัน

 

โดยวิทยากร อาจารย์สุดถนอม รอดสว่าง หัวหน้าหลักสูตรการสร้างสรรค์ดิจิทัลคอนเทนต์และสื่อ คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ คุณสหพร ยี่ตันสี Group Head ฝ่ายผลิต จากเวิร์คพอยท์ และคุณกนกกร เล็บครุฑ โปรดิวเซอร์ จากเวิร์คพอยท์ สรุปความน่าสนใจได้ดังนี้

.

หลักการ “คิด” แยกเป็นสองส่วนที่จะบอกว่าคอนเทนต์นั้นประสบความสำเร็จและทำได้จริง โดยส่วนแรก “ค” การคิดที่ครบ “ลูกค้าชอบ-ตัวเราชอบ-คนดูชอบ” ส่วนที่สอง “ด” มาจาก ได้ ที่เกิดจากการคิด และนำความคิดนั้นไปใช้งานได้จริง

.

การคิดต้องสอดคล้องกับบริบทการใช้ชีวิตของคนปัจจุบัน ทุกวันนี้สื่อเคลื่อนไหวตลอด เช่น คน รถไฟฟ้า ก็เป็นสื่อได้ ดังนั้นคอนเทนต์ที่คิด ต้องเคลื่อนไหว เร็ว และให้ทางเลือก

.

เข้าใจพฤติกรรมของผู้บริโภค และกลุ่มคนดู

.

คอนเทนต์นั้นต้องแตกต่าง และให้คุณค่ากับคนดู

.

คอนเทนต์ที่คิดต้องมาจากความรู้ การศึกษา มองให้ขาด และเข้าถึงกลุ่มคนที่ต้องการจะสื่อสาร

.

การคิดคอนเทนต์ เปรียบเหมือนกับการลับมีด การฝึกคิดบ่อย ๆ จะทำให้ได้ความคิดที่คม มีเอกลักษณ์ ด้วยข้อมูลที่ลึก และแตกต่าง

.

เรียนรู้การเล่าเรื่องข้ามสื่อ (แพลตฟอร์ม) จะตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายได้ดี

.

สำหรับโครงการ “เล่นใหญ่ Beyond Content Creators” นักศึกษาจะได้เรียนรู้การทำงานกับลูกค้าจริง ตลาดจริง และโจทย์จริง เป็นทั้งการอบรม (Workshop) ศึกษาดูงาน และ การผลิตคอนเทนต์ สร้างสรรค์ผลงานจริง

.

โดยเริ่มการสอนและจัดอบรมระหว่างวันที่ 16 มกราคม - 14 พฤษภาคม 2566 โดยเมื่อจบโครงการผลงานที่ผลิตจะถูกนำไปเผยแพร่ทางช่องยูทูบบางพูนแคมปัส

.

ที่มา : คมชัดลึก

 

 

 

นี่คือ 6 เรื่องจริงของนักเรียนเกาหลีใต้ ที่คนส่วนใหญ่ไม่ทราบ

นี่คือ 6 เรื่องจริงของนักเรียนเกาหลีใต้ ที่คนส่วนใหญ่ไม่ทราบ
.
1️.เรียนเฉลี่ย 15 ชั่วโมงต่อวัน
คนเกาหลีให้ความสำคัญกับระบบการศึกษามาก นักเรียนชั้นมัธยมปลายโดยทั่วไปจะเริ่มเรียนตั้งแต่ประมาณ 8 - 9 โมงเช้าจนถึง 3 - 4 ทุ่มครึ่ง 
.
โดยส่วนใหญ่มักจะไปเรียนที่สถาบันติวเตอร์ต่อหลังจากการเรียนการสอนที่โรงเรียนจบลงแล้ว 
.
ทำให้มื้อเย็นของนักเรียนเกาหลีต้องนั่งกินกันในชั้นเรียน หากถามว่าพวกเขาเรียนเสริมอะไรกันบ้าง 
.
คำตอบคือส่วนใหญ่จะเป็นวิชาคำนวณกับทักษะภาษาอังกฤษ เพราะสิ่งเหล่านี้จำเป็นอย่างมากสำหรับวงการธุรกิจเกาหลี 
.
นอกจากนั้นยังต้องท่องหนังสือ ฝึกทำข้อสอบในทุก ๆ วัน เพื่อต่อสู้กับคู่แข่งมากมายในสนามสอบยามที่พวกเขาต้องสอบเข้าในมหาวิทยาลัยดีๆ ได้นั่นเอง
.
ประเทศเกาหลีใต้มีการแข่งขันในเรื่องของการศึกษาและการทำงานสูงมาก 
.
พ่อแม่หลายคนก็พยายามผลักดันให้ลูกของตนเข้าเรียนพิเศษเพื่อจะได้มีอนาคตดีๆ ทำให้กว่าจะได้กลับบ้านก็ดึกดื่นแล้วก็ต้องตื่นเช้ามาโรงเรียนอีก 
.
ทางรัฐบาลเล็งเห็นปัญหานี้จึงมีเคอร์ฟิวให้เด็กนักเรียนสามารถใช้เวลาในสถาบันการศึกษาได้ไม่เกินสี่ทุ่ม และหลายโรงเรียนก็ผ่อนปรนให้เลิกเรียนเร็วขึ้นด้วย
.
2️.เรียนวันจันทร์ - เสาร์
หากวันธรรมดาสำหรับการไปโรงเรียนของบ้านเราคือวันจันทร์ - ศุกร์ วันธรรมดาของการไปโรงเรียนที่เกาหลีก็คือวันจันทร์ – เสาร์
.
แต่ยังโชคดีที่ตอนนี้ตารางเรียนของโรงเรียนในเกาหลีใต้ได้มีการปรับเปลี่ยนเพื่อให้เด็กนักเรียนมีเวลาพักบ้างแล้ว 
บางโรงเรียนก็ปรับให้มาเรียนในวันเสาร์แค่สองครั้งต่อเดือนแทน
.
3️.ต้องให้ความเคารพครูและตรงต่อเวลา
เรื่องนี้ถือเป็นที่สำคัญมากในเกาหลี เราอาจจะเห็นกันว่าในต่างประเทศ นักเรียนสามารถพูดเล่นกับอาจารย์ได้ 
.
แต่ที่เกาหลีใต้ไม่ใช่แบบนั้น พวกเขาให้ความสำคัญกับเรื่องของความต่างระหว่างวัยและวุฒิภาวะมาก 
นอกจากนั้นอาชีพครูอาจารย์ยังถือเป็นอาชีพที่ทรงคุณค่าและเป็นที่นับหน้าถือตาในสังคม ดังนั้นจึงต้องแต่งตัวดีและสุภาพอยู่เสมอ
.
อีกเรื่องที่ขาดไม่ได้คือความตรงต่อเวลา อาจารย์เกาหลีมักจะทำอะไรตรงเวลาเสมอ 
หาช่วงที่อาจารย์จะเข้าสอนสายยากมาก เพราะอย่างนั้นทุกคนในคลาสจึงต้องเผื่อเวลามาก่อนอาจารย์อย่างน้อย 10 นาที 
.
4️.การลงโทษทางร่างกาย
ในขณะที่ในสหรัฐอเมริกาหรืออีกหลายๆ ประเทศฝั่งตะวันตกมีบทลงโทษสำหรับครูที่ทำโทษเด็กทางร่างกาย 
แต่เกาหลีใต้ไม่ใช่แบบนั้น อันที่จริงสำหรับบ้านเราหรือหลาย ๆ ประเทศในฝั่งเอเชียเองก็ยังมองว่ามันเป็นเรื่องปกติ 
ผู้ปกครองเกาหลีเองก็ไม่ค่อยมีปัญหาอะไรกับเรื่องการลงโทษทางร่างกายเหมือนบ้านเรา บางครั้งก็ตีด้วยไม้ 
บางครั้งก็ให้ยืนยกมือไว้เหนือหัว แบบที่อาจเห็นได้จากซีรีส์เกาหลีวัยเรียนทั่ว ๆ ไป
.
5.Internet Explorer เป็นที่นิยมมากกว่า Google Chrome
ที่เกาหลีไม่นิยมใช้ Google Chrome หรือ Mozilla Firefox แต่จะชอบใช้ Internet Explorer มากกว่า 
เวลาอาจารย์จะใช้อินเทอร์เน็ตหาข้อมูลให้นักเรียนดูประกอบในคลาสก็มักจะเปิด Internet Explorer ขึ้นมาใช้งานเสมอ 
นอกจากนั้นยังไม่ใช้ Google แต่จะใช้เสิร์ชเอนจินจากเว็บสีเขียวที่ชื่อ Naver 
.
6. "สอบ” หรือ “ออกรบ”
เมื่อถึงฤดูกาลสอบ เราจะเห็นภาพบรรดาผู้ปกครองของเด็กนักเรียนเกาหลีใต้ออกมาส่งลูกเข้าสนามสอบ 
บางทีก็เป็นรุ่นพี่รุ่นน้องมายืนให้กำลังใจ ทำป้ายเชียร์กันใหญ่โต แถมยังมีสำนักข่าวต่างๆ มาทำข่าวกันอย่างคึกคัก 
ถือเป็นภาพที่แปลกตามากสำหรับชาวต่างชาติ 
.
(อาจจะยกเว้นที่อินเดีย เพราะที่อินเดียก็มีการเชียร์ลูกๆ เข้าสอบคล้ายกันกับที่เกาหลี) 
นอกจากจะมีกองเชียร์แล้วยังมีคนออกมายืนแจกขนม ชา กาแฟ ให้กับคนที่เข้าสอบ 
เพื่อเป็นการเติมพลังให้เด็กๆ ในวันที่เครียดแสนเครียด มีแท็กซี่บริการรับส่งนักเรียนที่จะไปสอบฟรี 
.
หรือหากที่ใดกำลังดำเนินการก่อสร้างอยู่ก็มีคำสั่งให้ระงับไปก่อนเพราะเสียงดังกล่าวจะทำลายสมาธิ 
ถือได้ว่าเกาหลีใต้เป็นประเทศที่ให้ความสำคัญกับการสอบมากๆ 
.
ที่มา : เด็กดีดอทคอม
 

โอกาสไปเรียนฟรี ที่ต่างประเทศ มาแล้ว ! ก.พ. เปิดสอบชิงทุน ต่อโท - เอก

เมื่อวันที่ 16 พ.ย. 65 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลขอเชิญชวนนิสิต นักศึกษา รวมถึงผู้ที่มีคุณสมบัติสมัครสอบแข่งขันเพื่อรับทุนรัฐบาล สำหรับบุคคลทั่วไประดับปริญญา ประจำปี 2566 ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน หรือ สำนักงาน ก.พ. ได้เปิดรับสมัครระหว่างวันที่ 10 พ.ย. - 28 ธ.ค. 65  ผ่านช่องทาง http://scholar.ocsc.go.th

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ทุนการศึกษาสำหรับบุคคลทั่วไประดับปริญญา ประจำปี 2566 มีทั้งสิ้น 137 ทุน ประกอบ ด้วยทุนตามความต้องการของส่วนราชการ (บรรจุก่อนไปศึกษา) 43 ทุน, ทุนด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  86 ทุน  ทุนศึกษา ณ University of Chinese Academy of Sciences หรือ ทุน UCAS 5 ทุน และ ทุนสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(กลต.) 3 ทุน

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า คุณสมบัติของผู้สมัคร กรณีทุนระดับปริญญาโท หรือ โท-เอก  ต้องเป็นผู้ที่กำลังศึกษาอยู่ปีสุดท้ายระดับปริญญาตรี หรือจบปริญญาตรี มี GPAX ไม่ต่ำกว่า 2.75 หรือ 3.00 ตามที่กำหนดในใบประกาศรับสมัคร ยกเว้นทุนธนาคารแห่งประเทศไทยที่กำหนด GPAX ไม่ต่ำกว่า 3.00 และอายุไม่เกิน 35 ปี นับถึงวันปิดรับสมัคร  ส่วนทุนระดับปริญญาเอก  คุณสมบัติต้องเป็นผู้ได้รับปริญญาโท มี GPAX ไม่ต่ำกว่า 3.50 และอายุไม่เกิน 40 ปี นับถึงวันปิดรับสมัคร ยกเว้นทุน กลต. ต้องอายุไม่เกิน 35 ปี

“สำนักงาน ก.พ. เป็นองค์กรกลางด้านการบริหารและพัฒนาทรัพยากรบุคคลของรัฐบาล ภารกิจส่วนหนึ่งจะดูแลการคัดเลือกบุคคลเพื่อไปศึกษาทั้งในและต่างประเทศในระดับปริญญาตรี โท และเอก ในสาขาที่เป็นที่ต้องการของหน่วยงานต่างๆ โดยนักเรียน นิสิต นักศึกษาและประชาชนทั่วไปที่สนใจสามารถติดตามข่าวสารการเปิดรับสมัครสอบแข่งขันได้ที่เว็บไซต์สำนักงาน ก.พ. https://www.ocsc.go.th/” น.ส.ไตรศุลี กล่าว

 น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ทางด้านสำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) ก็อยู่ระหว่างประกาศเชิญชวนผู้ผู้สนใจสมัครเข้ารับการคัดเลือกรับทุนการศึกษา ภายใต้กรอบความร่วมมือด้านอวกาศแห่งเอเชียแปซิฟิก ( Asia-Pacific Space Cooperation Organization : APSCO) ประจำปี พ.ศ. 2566 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาทรัพยากรบุคคลที่มีความรู้ด้านเทคโนโลยีอวกาศหนึ่งในอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศไทย

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า สำหรับทุนภายใต้โครงการดังกล่าวนี้มี จำนวน 3 ทุน ทั้งหมดศึกษาที่สาธารณรัฐประชาชนจีน ประกอบด้วย 1.ทุนระดับปริญญาเอก ด้านวิศวกรรมอวกาศ ของสถานบันเทคโนโลยีฮาร์บิน โดยจะปิดรับสมัครภายในวันที่ 9 ธ.ค. 65 2.ทุนระดับปริญญาโทและปริญญาเอก ด้านการบริหารจัดการ และวิศวกรรมการบินและอวกาศยาน ของมหาวิทยาลัยเจ้อเจียง โดยจะปิดรับสมัครวันที่ 31 ธ.ค. 65 และ 3.ทุนระดับปริญญาโทและปริญญาเอก ด้านการสำรวจและทำแผนที่ ของมหาวิทยาลัยอู่ฮั่น จะเปิดรับสมัครระหว่างวันที่ 1 ธ.ค. 65- 15 ก.พ. 66 

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า หากผู้สนใจสามารดูข้อมูลที่ https://www.onde.go.th/view/1/main/TH-TH และเข้าไปที่เมนู ทุนการศึกษา หรือศึกษารายละเอียดสาขาวิชาที่เปิดรับสมัคร คุณสมบัติของผู้สมัคร เงื่อนไข และวิธีการสมัครตามโครงการนี้ได้โดยตรงที่ https://bit.ly/3fxCn2y ส่วนช่องทางการสมัครนั้นให้จัดส่งเอกสารที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วนไปยัง กองกิจการอวกาศแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เลขที่ 120 หมู่ที่ 3 ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาฯ อาคารรัฐประศาสนภักดี ชั้น 9 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ 10210 ภายในเวลาก่อนครบกำหนดปิดรับสมัครที่ระบุไว้สำหรับแต่ละหลักสูตร ไม่น้อยกว่า 5 วันทำการ โดยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร 02-141-6882 หรือ อีเมล onde_apsco@onde.go.th

 

แพทย์ไทย เก่งระดับโลก 'นพ.ชูชัย ศุภวงศ์' คนไทยคนแรก คว้ารางวัล จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด

วันนี้ The Study Times  ขอพาลูกเพจทุกคน ไปทำความรู้จัก กับอีกหนึ่งคนไทย ระดับโลก นั้นคือ 'นพ.ชูชัย ศุภวงศ์' ซึ่งถือได้ว่าเป็นคนไทยคนแรก ที่สามารถคว้ารางวัล ‘ผู้นำด้านสาธารณสุข’ จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด มาได้  ซึ่งได้สร้างชื่อเสียงให้กับวงการแพทย์ไทย ไปไกลระดับโลก จากผลงานโดดเด่นในการเป็นผู้นำการควบคุมการสูบบุหรี่ ด้านสิทธิมนุษยชน คุ้มครองสิ่งแวดล้อม ปฏิรูประบบสุขภาพปฐมภูมิ ระบบสุขภาพชุมชน

.

โดยมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เมืองบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา ได้มอบรางวัล ให้กับนพ.ชูชัย ศุภวงศ์ ประธานกรรมการมูลนิธิแพทย์ชนบท ซึ่งได้รับรางวัลผู้นำด้านสาธารณสุข (Leadership Award in Public Health Practice) จาก โรงเรียนสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (Harvard T.H. Chan School of Public Health ) เมื่อช่วงเดือนกันยายน ที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นคนไทยคนแรก และ คนเอเชียคนที่ 3 ที่ได้รับรางวัลนี้

.

สำหรับรางวัลผู้นำด้านสาธารณสุข เป็นการยกย่องผู้สำเร็จการศึกษา ที่เป็นแบบอย่างที่โดดเด่นของการเป็นผู้นำที่มีประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานด้านสาธารณสุขในภาครัฐ หรือเอกชน

.

โดยคณะกรรมการพิจารณาเห็นว่า นพ.ชูชัย ศุภวงศ์ มีผลงานโดดเด่นด้านสิทธิมนุษยชน การคุ้มครองสิ่งแวดล้อม และระบบสุขภาพแห่งชาติ โดยศาสตราจารย์นายแพทย์ Bernard T. Lee เปิดเผยว่า ในฐานะประธานร่วมของคณะกรรมการ ปีนี้เป็นปีที่มีการแข่งขันอย่างสูงยิ่ง อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จในอาชีพที่โดดเด่นของ นพ.ชูชัย ศุภวงศ์ สร้างความประทับใจให้กับคณะกรรมการผู้พิจารณา ในหลาย ๆ ด้าน”

.

ทั้งนี้วิดีทัศน์ นำเสนอในวันพิธีรับมอบรางวัล สาระสำคัญของผลงาน นพ.ชูชัย ศุภวงศ์ ที่นำไปสู่การได้รับ รางวัลผู้นำด้านสาธารณสุข (Leadership Award in Public Health Practice) Leadership Award in Public Health Practice : ยกย่องผู้สำเร็จการศึกษาจาก โรงเรียนสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (Harvard T.H. Chan School of Public Health ) ที่เป็นแบบอย่างที่โดดเด่นของการเป็นผู้นำที่มีประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานด้านสาธารณสุขในภาครัฐหรือเอกชน สิทธิมนุษยชน. การคุ้มครองสิ่งแวดล้อม. ระบบสุขภาพแห่งชาติ

.

ที่มา: https://www.thaipost.net/education-news/230462/

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากสถาบันวิทยสิริเมธี และโรงเรียนกำเนิดวิทย์ ประจำปีการศึกษา 2564

วันนี้ (15 พฤศจิกายน 2565) - สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปยังวังจันทร์วัลเลย์ จังหวัดระยอง พระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากสถาบันวิทยสิริเมธี ประจำปี 2564 จำนวน 30 คน โดยแบ่งเป็นระดับปริญญาเอก จำนวน 26 ราย และระดับปริญญาโท จำนวน 4 ราย และพระราชทานทุนการศึกษา “ศรีเมธี” ให้กับนิสิตที่มีผลการเรียนดีเยี่ยมจากสถาบันฯ จำนวน 4 ราย รวมทั้งพระราชทานประกาศนียบัตรแก่ผู้แทนนักเรียนโรงเรียนกำเนิดวิทย์ ที่สำเร็จการศึกษา รุ่นที่ 5 จำนวน 2 ราย โดยมี นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ดร.ไพรินทร์ ชูโชติถาวร นายกสภาสถาบันวิทยสิริเมธี ดร.จำรัส ลิ้มตระกูล อธิการบดีสถาบันวิทยสิริเมธี ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.ทศพร ศิริสัมพันธ์ ประธานกรรมการ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) และ นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. พร้อมกับคณะผู้บริหารและพนักงาน กลุ่ม ปตท. เฝ้าฯ รับเสด็จ ณ ตำบลป่ายุบใน อำเภอวังจันทร์ จังหวัดระยอง

.

ในการนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงทอดพระเนตรผลงานทางวิชาการและงานวิจัยของสถาบันวิทยสิริเมธี ที่สอดคล้องกับความต้องการของธุรกิจในปัจจุบัน แบ่งเป็น 3 ด้าน ได้แก่ งานวิจัยทางด้านระบบปัญญาและหุ่นยนต์ (Al and Robotic) งานวิจัยทางด้านเทคโนโลยีกักเก็บพลังงาน การพัฒนาแบตเตอรี่และวัสดุคุณภาพภาพสูง (Energy Materials & Environment) และงานวิจัยพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีชีวภาพ (Biotechnology) เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ และการเพิ่มมูลค่าขยะอินทรีย์ อนึ่ง สถาบันวิทยสิริเมธี ได้รับการสนับสนุนและความร่วมมือจากทั้งภาครัฐและภาคเอกชน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บริษัทในกลุ่ม ปตท. เพื่อร่วมกันสร้างนักวิจัย พัฒนางานวิจัยที่มีศักยภาพไปสู่การใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ และสร้างคุณค่าให้แก่สังคม อันเป็นหนึ่งในเป้าหมายที่สำคัญของสถาบันฯ

.

ต่อมาทรงเป็นประธานในการลงนามความร่วมมือ (MOU) ระหว่าง บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) สถาบันวิทยสิริเมธี และสถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) เพื่อส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมจากการดำเนินโครงการสร้างเครื่องกำเนิดแสงซินโครตรอนระดับพลังงาน 3 GeV และห้องปฏิบัติการ ในพื้นที่เขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor of Innovation: EECi) พื้นที่ประมาณ 88 ไร่

.

เครื่องกำเนิดแสงซินโครตรอน ถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานทางด้านวิทยาศาสตร์ที่สำคัญและได้รับการยอมรับจากนานาประเทศ ให้เป็นเครื่องมือที่มีพลานุภาพ เป็นต้นกำเนิดของเทคโนโลยีด้านต่าง ๆ ที่สามารถสร้างคุณประโยชน์มากมายมหาศาลต่องานวิจัยทางด้านการแพทย์ การเกษตร อุตสาหกรรม และด้านอื่น ๆ โดยเครื่องกำเนิดแสงที่จะจัดสร้างนี้ มีค่าระดับพลังงาน 3 GeV และใช้เทคโนโลยี Double Triple Bend Achromat (DTBA) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ทำให้แสงซินโครตรอนมีความสว่างจ้ามากกว่าเดิม 1 ล้านเท่า และรองรับระบบลำเลียงแสงได้สูงถึง 22 ระบบ จึงสามารถนำไปประยุกต์ใช้ประโยชน์ด้านงานวิจัยได้หลากหลาย

.

จากนั้น สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปเป็นประธานในพิธีเปิดอาคารปฏิบัติการวิศวกรรม (Fabrication Center) ซึ่งเป็นห้องทดลองสำหรับนักเรียนในการสืบค้นข้อมูลและพัฒนาต้นแบบสิ่งประดิษฐ์ตามแนวคิดของตนเอง พร้อมทรงติดตามความก้าวหน้าและความยั่นยืนของโรงเรียนกำเนิดวิทย์ โดยมี

.

รองศาสตราจารย์ ดร.บุญโชติ เผ่าสวัสดิ์ยรรยง ผู้อำนวยการโรงเรียนกำเนิดวิทย์ กราบบังคมทูลรายงาน ต่อมาเสด็จพระราชดำเนินไปยัง “ศูนย์เรียนรู้เกษตรนวัต สถาบันเทคโนโลยีจิตรลดา” ซึ่งเป็นแหล่งการเรียนรู้สำคัญในการพัฒนาภาพลักษณ์ของเกษตรกรไทยยุคใหม่ ให้เป็นอาชีพที่น่าภาคภูมิใจและยั่งยืน โดย นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. และ นายเทอดเกียรติ พร้อมมูล ประธานกรรมการ บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด ทูลเกล้าฯ ถวายหนังสือและแพลตฟอร์ม “สวนสมรม” ที่นำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ประโยชน์ในการพัฒนาระบบการเกษตร

.

ต่อมาทรงเสด็จพระราชดำเนินเยือนลานใจบ้าน สถาบันวิทยสิริเมธี โดยมีนายมนตรี ลาวัลย์ชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (ปตท.สผ.) พร้อมด้วยคณะผู้บริหารและพนักงาน เฝ้าฯ รับเสด็จ และนำเสนอนิทรรศการโครงการด้านนวัตกรรมและสิ่งแวดล้อม ผลงานของ ปตท.สผ. ร่วมกับพันธมิตร ที่จะช่วยสนับสนุนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกผ่านแนวคิด EP Net Zero 2050 ของ ปตท.สผ. นอกจากนี้ยังจัดแสดงเกี่ยวกับเทคโนโลยี Smart Forest Solution ซึ่งเป็นผลงานของ บริษัท เอไอ แอนด์ โรโบติกส์ เวนเจอร์ส หรือ เออาร์วี ซึ่งเป็นบริษัทด้านปัญญาประดิษฐ์และหุ่นยนต์ในเครือ ปตท.สผ. โดยเป็นเทคโนโลยีเพื่อการวางแผนบริหารจัดการพื้นที่สีเขียวให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โครงการด้านการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและระบบนิเวศทางทะเลอย่างยั่งยืนของ ปตท.สผ. ภายใต้แนวคิด “ทะเลเพื่อชีวิต” (Ocean for Life) เพื่อเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพให้กับระบบนิเวศใต้ทะเล

.

จากนั้น ทอดพระเนตรการแสดงโดรนแปรอักษรประกอบ แสง สี เสียง ซึ่งกลุ่ม ปตท. โดย ปตท.สผ. และบริษัท เออาร์วี จัดแสดงขึ้นด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ โดยใช้โดรนจำนวนกว่า 700 ลำ ทำการแสดงรวม 9 ภาพ ในรูปแบบ 3 มิติ ผสานม่านน้ำมัลติมีเดีย ในชื่อชุด “ความยั่งยืนจากท้องทะเลสู่ท้องฟ้า เหล่าประชาร่วมเทิดพระเกียรติ” โดยนำเสนอความมุ่งมั่นของ ปตท.สผ. ในการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล เชื่อมโยงสู่การใช้เทคโนโลยีโดรนและปัญญาประดิษฐ์เพื่อดูแลความสมบูรณ์ของทรัพยากรชายฝั่ง รวมถึงเพื่อพัฒนาภาคการเกษตรของไทย และพระราชกรณียกิจในสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

มหาวิทยาลัยขอนแก่น

15 พ.ย.2565 - ที่อาคารสิริคุณากร มหาวิทยาลัยขอนแก่น หรือ มข. รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น พร้อมด้วย ดร. ธีรวุธ ตันนุกิจ ผู้แทนอธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ ร่วมเปิดตัวแบตเตอรี่ชนิดโซเดียมไอออนจากแร่เกลือหินในประเทศไทย 
.
ภายใต้โครงการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตแบตเตอรี่ชนิดโซเดียมไอออนจากแหล่งแร่เกลือหินเพื่อรองรับการพัฒนาอุตสาหกรรมศักยภาพ ซึ่ง มข.ร่วมกับกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ กระทรวงอุตสาหกรรม ได้ทำการวิจัยและทำการผลิตจนนำมาสู่การใช้งานได้จริง โดยมีนักวิชาการและผู้ที่สนใจในกลุ่มธุรกิจพลังงานทดแทน ร่วมเป้นสักขีพยานและชมผลงานวิจัยดังกล่าวกันอย่างคับคั่ง
.
รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า การพัฒนาแบตเตอรี่ชนิดโซเดียมไอออนจากแหล่งแร่เกลือหิน ซึ่งเป็นแบตเตอรี่ชนิดโซเดียมมไอออนต้นแบบซึ่งผลิตได้เป็นที่แรกในประเทศไทย และที่แรกในระดับภูมิภาคอาเซียน โดยทำการที่โรงงานแบตเตอรี่และพลังงานยุคใหม่มหาวิทยาลัยขอนแก่น 
.
ทั้งนี้โครงการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตแบตเตอรี่ชนิดโซเดียมไอออนจากแหล่งแร่เกลือหินเพื่อรองรับการพัฒนาอุตสาหกรรมศักยภาพ ถือเป็นกลไกลสำคัญที่จะช่วยส่งเสริมด้านการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตวัตถุดิบให้สามารถผลิตวัตถุดิบคุณภาพสูง รองรับอุตสาหกรรมแบตเตอรี่แห่งอนาคต โดย มีสถานประกอบการในโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมการผลิตแบตเตอรี่ แห่งอนาคนแบบครบวงจรเข้าร่วมงานด้วย ไม่ว่าจะเป็นสถานประกอบการในระดับต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ ประกอบด้วยโครงการเหมืองแร่โพแทช บริษัท ไทยคาลิ จำกัด และ บริษัท อาเซียนโปแตชชัยภูมิ จำกัด (มหาชน)
.
ผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน รวมทั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้าสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าบริษัท วี.ซี.เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด ผู้ผลิตและจำน่ายจักรยายนยนต์ไฟฟ้า บริษัท เอ็นเซิร์ฟ โฮลดิ้ง จำกัด บริษัท อินโนวาแพค จำกัด บริษัท ทีแอนด์ที ไมโครโมบิล จำกัดเข้าร่วมชมผลงานด้วย
.
"ทีมนักวิจัย มข. ประสบความสำเร็จในการพัฒนาศึกษาวิจัยและทดลองแบตเตอรี่ชนิดโซเดียมไอออนจากแหล่งแร่เกลือหินในประเทศไทย เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตแบตเตอรี่ทางเลือกโดยการใช้วัตถุดิบที่มีภายในประเทศทดแทนแบตเตอรี่ชนิดลิเทียมไอออน ทั้งนี้ได้ดำเนินการพัฒนาต่อยอดเทคโนโลยีการผลิตแบตเตอรี่ทางเลือกในระดับเซลล์จากโรงงานแบตเตอรี่และพลังงานยุคใหม่ จนออกมาเป็นผลิตต้นแบบ (Prototype) 
.
และนำไปทดลองใช้งานจริงในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ใหม่ และระบบกักเก็บพลังงาน (Energy Storage System: ESS) ที่จะเป็นแบตเตอรี่สำหรับจักรยานไฟฟ้า แบตเตอรี่สำรองสำหรับระบบโซลล่าเซลล์ และ ไฟส่องสว่าง อย่างไรก็ตามจากความสำเร็จเหล่านี้ ส่งผลอุตสาหกรรมไทยมีขีดความสามารถในการแข่งขันและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ซึ่งหนึ่งในกลุ่มเป้าหมายหลักคือ อุตสาหกรรมการผลิตแบตเตอรี่แห่งอนาคตจากวัตถุดิบที่มีในประเทศ"
.
ขณะที่ ดร. ธีรวุธ ตันนุกิจ ผู้แทนอธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ กล่าวว่า ภาคอีสานเป็นแหล่งแร่สำรองที่มีปริมาณมหาศาลมาก ที่ทำให้ทุนสนับสนุนมหาวิทยาลัยขอนแก่นเพราะเล็งเห็นว่าโซเดียมไอออนแบตเตอรี่มีศักยภาพที่จะมาเป็นแบตเตอรี่ทางเลือกเพื่อจะทดแทนลิเทียมไอออนแบตเตอรี่
.
เพราะต้องพึ่งพาการนำเข้าจากต่างประเทศ 100% ปีงบประมาณหน้าทาง มข. จากทำแบตเตอรี่โซเดียมไอออนให้มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิมเพื่อที่จะมาเทียบกับแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนและตอนนี้ได้นำไปใช้กับ อีไบรท์หรือจักรยานยนต์ต้นแบบที่ใช้พลังงานจากโซเดียมไอออนซึ่งเป็นความสำเร็จจากโครงการครั้งนี้และเป้าหมายต้องการจะสร้างอุตสาหกรรมแบตเตอรี่ครบวงจร ในส่วนตัวเกลือหินหรือเกลือสินเธาว์กิโลกรัมละไม่กี่บาทแต่พอมาทำเป็นตัววัตถุดิบตั้งต้นแบตเตอรี่โซเดียมไอออนตัวนี้จะยกระดับมูลค่าทางเศรษฐกิจแร่ตัวนี้อย่างมากในอนาคต และจะทำการต่อยอดให้เป็นอุตสาหกรรมต่อไป
.
ที่มา: https://www.thaipost.net/district-news/263441/
 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STUDY TIMES
Take Me Top