Monday, 20 May 2024
THESTUDYTIMES

THE STATES TIMES ผนึกกำลัง 'KCS RADIO-MAYA Chanel' เสิร์ฟข่าวเด่นประเด็นร้อนทั่วไทย 'ฉับไว-เป็นกลาง-ชัดเจน' ดีเดย์ 18 ก.ย.นี้!!

"ไปกับข่าวไปกับเรา" สำนักข่าวออนไลน์ THE STATES TIMES ผนึกกำลัง KCS RADIO และ MAYA Channel สร้างมิติใหม่ในการเสนอข่าว ครอบคลุมทุกช่องทาง ออนไลน์ วิทยุ ทีวีดาวเทียม ดันรายการข่าว สดใหม่ ทั้งวัน 4 รายการ ตลอดวันจันทร์ถึงอาทิตย์ พร้อมออกอากาศคู่ขนาน ทั่วประเทศไทย

สำนักข่าวออนไลน์ THE STATES TIMES ชัดเจน เป็นกลาง ร่วมกับ KCS RADIO ผู้บริหารสถานีวิทยุชั้นนำทั่วไทย และ MAYA Chanel ทีวีดาวเทียม ช่องบันเทิงอันดับ 1 จากดาวเทียม PSI ช่อง 44 สร้างปรากฏการณ์ครั้งใหญ่ ผสานสื่อใหม่ (New Media) และสื่อดั้งเดิม (Traditional Media) ขับเคลื่อนพลังแห่งการรับรู้ข่าวสารที่ถูกต้องและน่าเชื่อถือให้กับประชาชนคนไทย ให้มีส่วนร่วมไปกับข่าว (Engagement) ผ่านทั้ง 3 ช่องทาง (Cross Media) โดยออกอากาศพร้อมกัน ทั้งออนไลน์, วิทยุ และทีวีดาวเทียม ภายใต้ความเชื่อมั่นที่จะทำให้คนไทยดูข่าวได้สนุกขึ้น

คุณสิริชล สถิตย์เสถียร รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เคซีเอส แอดเวอร์ไทซิ่ง จำกัด เผยถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า แม้ว่าบทบาทของสื่อวิทยุจะเปลี่ยนแปลงไปมากในช่วงที่ผ่านมา แต่ก็ยังพบว่าเป็นสื่อสำคัญที่ประชาชนคนไทยเลือกใช้เพื่อฟังข่าวสารอยู่เสมอ เพราะมีความน่าเชื่อถือสูง ซึ่งที่ผ่านมา KCS RADIO เอง ก็ได้ปรับตัวโดยใช้แนวคิดในการนำคอนเทนต์ดีๆ เป็นแกนกลาง และผลักดันคอนเทนต์เหล่านี้ ผ่านสื่อวิทยุไปสู่ประชาชน โดยเฉพาะ 'ข่าว' ที่ถือเป็นหนึ่งในคอนเทนต์สำคัญที่ผู้คนสนใจเป็นอย่างมาก 

ดังนั้น การตัดสินใจร่วมมือกับ สำนักข่าวออนไลน์ THE STATES TIMES ก็เพื่อเสริมแกร่งให้กับช่องทางของบริษัทฯ ด้วยการนำจุดแข็งด้านเนื้อข่าวสารของ THE STATES TIMES ที่มีความ 'ชัดเจน เป็นกลาง' มาร่วมส่งต่อผ่านสื่อวิทยุภายใต้เครือข่ายของ KCS ที่มีความครอบคลุมทั่วประเทศ ตลอดทั้งวัน 'จันทร์' ถึง 'อาทิตย์' โดยมั่นใจว่าการร่วมมือในครั้งนี้ จะเป็นมิติใหม่ ที่จะพลิกสื่อวิทยุให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง

ด้าน Maya Channel ทีวีดาวเทียม ช่องบันเทิงอันดับ 1 ของไทย จากจานดาวเทียม PSI ช่อง 44 เปิดเผยว่า แม้ Maya Channel จะเป็นผู้นำด้านคอนเทนต์บันเทิงที่ได้รับความนิยมจากประชาชนคนไทย แต่ก็ยอมรับว่า 'ข่าว' ถือเป็นอีกคอนเทนต์ที่ได้รับความสนใจไม่แพ้ 'บันเทิง' 

ดังนั้นการได้คอนเทนต์ข่าวเข้ามาเติมเต็มในช่อง Maya Channel จะสร้างความสมบูรณ์ให้ทางช่องเต็มอิ่มไปด้วย 'สาระ' และ 'บันเทิง' ซึ่งถือเป็นโอกาสอันดีที่ Maya Channel ได้มีโอกาสร่วมมือกับ สำนักข่าวออนไลน์ THE STATES TIMES ซึ่งถือเป็นสำนักข่าวที่มีการเติบโตสูงในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และเชื่อว่าการผสานความร่วมมือกัน ระหว่าง ออนไลน์, วิทยุ และ ทีวีดาวเทียม ในครั้งนี้ จะมอบประสบการณ์ที่ดีแก่ประชาชนคนไทยได้อย่างแน่นอน

ขณะที่ นายณัฐภูมิ รัฐชยากร Chief Operating Officer สำนักข่าวออนไลน์ THE STATES TIMES เผยถึงความมั่นใจในการผนึกกำลังกันจาก ทั้ง 3 แพลตฟอร์มสื่อในครั้งนี้ ว่า ถือเป็นการปรับรูปแบบการนำเสนอคอนเทนต์รายการข่าวที่แปลกใหม่และเป็นประโยชน์ โดยเพิ่มความหลากหลายของช่องทางการรับชม รับฟัง ให้ครบทั้งออนไลน์ และออนแอร์ ผ่านคลื่นวิทยุ และช่องโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม พร้อมทั้งปรับเนื้อหารายการข่าวในแต่ละช่วงเวลา ให้เหมาะสม ครอบคลุมตลอดทั้งวัน สดใหม่ ไม่ซ้ำใคร ซึ่งคาดว่าจะสามารถขยายฐานผู้ฟัง และผู้ชม รวมถึงผู้ติดตามในช่องทางต่างๆ ของทุกฝ่ายได้มากขึ้นอีกด้วย

"ต้องยอมรับว่า การร่วมมือกันในครั้งนี้ เป็นย่างก้าวครั้งสำคัญในการพาคอนเทนต์รายการข่าวของเราไปสู่ฐาน ผู้ชม-ผู้ฟัง ที่กว้างขึ้น และนั่นก็ทำให้เราต้องยิ่งมุ่งมั่นที่จะยกระดับคอนเทนต์ให้ดีขึ้นไปเรื่อยๆ ซึ่งทุกท่านจะไม่ผิดหวังที่จะ...ไปกับข่าว ไปกับเรา THE STATES TIMES ชัดเจนเป็นกลาง สด ใหม่ ทุกวันจันทร์ – วันอาทิตย์ อยู่กับเรา เข้าถึงทุกข่าว ครบทุกรส ตรงทุกประเด็น" ณัฐภูมิ กล่าวเสริม

สำหรับการร่วมมือระหว่างสำนักข่าวออนไลน์ THE STATES TIMES กับสถานีวิทยุ KCS Radio Station และสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม MAYA Chanel ภายใต้การคัดสรรข่าวสาร สาระความรู้ที่เป็นประโยชน์ ผ่านผู้ดำเนินรายการที่มากประสบการณ์ ทั้งความรู้ และชั้นเชิงในการนำเสนอ เหมาะแก่การติดตามรับชม-รับฟังได้ตลอดทั้งวัน จะเริ่มออนแอร์ตั้งแต่เวลา 07.00 – 23.00 น. ทุกวันจันทร์ ถึง อาทิตย์ ซึ่งมีรายการไฮไลต์เด่นๆ ดังนี้...

>> จันทร์ - ศุกร์
- พบ 'คู่หู คู่ฮา' ยามเช้า 'ไอยรา อัลราวีย์ บรัศว์ตฤณ' และ 'ดีเจศร' พ.จ.ท.อดิศร จันทรวัฒน์ 2 นักจัดรายการวิทยุที่จะมาถ่ายทอดเรื่องราวข่าวดี พร้อมขยี้เรื่องฮาเรียกรอยยิ้มผู้ฟังเป็นระยะ ผ่านรายการ 'NAVY TIME เรื่องดีๆ ประเทศไทยยามเช้า' ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 07.00 - 08.00 น.

- ต่อเนื่องด้วยรายการข่าวเที่ยงคุณภาพ 'คุยข่าว ถึงเครื่อง' โดยคุณปรเมษฐ์ ภู่โต (พี่ก๊อง) ผู้ดำเนินรายการ สื่อมวลชนข่าวสุดเก๋า พิธีกรโทรทัศน์, วิทยุ และ สื่อออนไลน์ มืออาชีพกว่า 30 ปี ในเวลา 12.00 - 13.00 น. 

- ยามเย็น ได้เวลาของ 'ถลกข่าว ถลกปัญหา' รายการข่าวที่พร้อมสแตนบายทุก 18.00-19.00 น. ของวันจันทร์-ศุกร์ เพื่อไล่ถลกทุกข่าวสารบ้านเมือง รวมถึงปัญหาที่ต้องสะท้อนในสังคม ให้ส่งต่อไปถึงหูของผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ดำเนินรายการโดย คุณสถาพร บุญนาจเสวี หรือ หยก THE STATES TIMES

- ส่วนช่วงค่ำพบกับสื่อมวลชนคุณภาพ คุณวารินทร์ สัจเดว ผู้ประกาศข่าว นักจัดรายการวิทยุ ฝีมือดี ฝีปากเด่น ในรายการ 'Alone Twogether' เวลา 22.00 - 23.00 น. เริ่ม 2 ตุลาคม นี้

>> เสาร์ - อาทิตย์ (ช่วงเช้า)
ไม่เพียงเท่านี้ ยังมีอีกหลากหลายรายการข่าว และสาระน่ารู้ จากทีมงานคุณภาพของสำนักข่าวออนไลน์ THE STATES TIMES และบุคคลสำคัญอีกมากมาย ที่มาร่วมคัดสรรคอนเทนต์ดีๆ เสิร์ฟให้ผู้ชมช่วงวันเสาร์ - อาทิตย์ ได้อิ่มเอมแบบครบรส ดังนี้...

- ช่วงเช้าวันเสาร์ กับ แขกรับเชิญสุดพิเศษในแวดวงธุรกิจ ที่จะมีร่วมถ่ายทอดเรื่องราวทางธุรกิจและกลยุทธ์การต่อยอดความสำเร็จในอนาคต ผ่านรายการ 'THE TOMORROW' โดยคุณวสันต์ มนต์ประเสริฐ นักจัดรายการวิทยุหนุ่มเสียงนุ่ม ทุกวันเสาร์ เวลา 07.00 - 08.00 น.

- ช่วงเช้าวันอาทิตย์ เวลา 07.00 - 08.00 น. พบกับรายการ 'EASY ECON' โดยได้รับเกียรติจาก คุณพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยเศรษฐศาสตร์ฮิโรชิมา ประเทศญี่ปุ่น มอบปริญญาดุษฏีบัณฑิตให้, อดีตปลัดกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา และอดีตรองปลัดกระทรวงการคลัง นำเรื่องดีๆ ของประเทศไทย ด้านเศรษฐกิจ, การเงิน, การท่องเที่ยว และอีกหลากหลายศาสตร์ดีๆ ที่น่ารู้ มาเล่าสู่คุณผู้ฟังเคียงคู่ไปกับผู้ดำเนินรายการจาก ‘กิจการวิทยุกระจายเสียงทหารเรือ'

>> เสาร์ - อาทิตย์ (ช่วงเที่ยง)
นอกจากนี้ เพื่อเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ ทาง THE STATES TIMES ยังได้จูงมือเหล่าน้องๆ New Generation ที่อยากมาร่วมวงแบ่งปันคอนเทนต์สไตล์คนรุ่นใหม่ มาโชว์ของผ่านรายการใสๆ ที่ดูไปอมยิ้มไป ได้แก่...

- 'จีนเนอเรชัน' ข่าวน่ารู้ที่อยู่ในรั้วกำแพงเมืองจีน แต่ถูก 2 เด็กซน 'น้องเพชร เจษฎา สุขารมย์' และ 'น้องแป้ง ณัฐธยาน์ ผลดี' แอบไปปีนส่อง แล้วเก็บมาเล่า ทุกวันเสาร์ เวลา 12.00 - 13.00 น.

-  ปิดท้ายวันอาทิตย์ ช่วง 12.00 - 13.00 น. กับ 'Y WORLD' รอบโลกน่ารู้ กับ 'น้องอ้อน' สาวหมวย รวยไลฟ์สไตล์ ที่พร้อม Shine เรื่องเด่นและอินเทรนด์ในโลกที่คน GEN Y พลาดแล้วจะเสียดาย

ทั้งหมดที่กล่าวมา พร้อมเสิร์ฟสู่ 'ผู้ชม-ผู้ฟัง' ทันที 18 กันยายน นี้ ... ร่วม "ไปกับข่าวไปกับเรา" ทางสำนักข่าวออนไลน์ THE STATES TIMES, เครือข่ายวิทยุ KCS RADIO และ ช่องทีวีดาวเทียม MAYA Channel

นักเรียน รร.วิทย์จุฬาภรณ์ ปทุมฯ คว้า 6 ทอง 2 เงิน 1 โล่รางวัล 5 เกียรติบัตร จากการแข่งขันสิ่งประดิษฐ์ในงาน ‘Indonesia Inventors Day 2023’

เมื่อวานนี้ (19 ก.ย. 66) ผู้ใช้งานเฟซบุ๊ก ‘Khunthong Klaythong’ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า…

ขอแสดงความยินดีกับทัพนวัตกรของเราวันนี้ พวกหนูทุกคนเก่งมากๆ ครับ
🥇🥇🥇🥇🥇🥇6 เหรียญทอง
🥈🥈2 เหรียญเงิน
🏆1 โล่รางวัล special award
🎖🎖🎖🎖🎖5 เกียรติบัตร special award

ในงาน The 10th International Young Inventor Awards (IYIA2023) ณ เมืองบาหลี ประเทศอินโดนีเชีย

🏆🎖🥇จากผลงาน
Title of invention : CTS Glove+ : Physical therapy innovation for treating and preventing Carpal Tunnel Syndrome in rubber plantation farmers
Name of inventor : Witchapol Thitiapirukkul, Sirisak Thohad, Peeraya Phaewking, Pattarapol Seetiangtum and Purich Phichayanurat 
Name of supervisor : 
Khunthong Klaythong

🥇🎖จากผลงาน
Title of Invention : 
RADPRO+ : The Development of Composite Material from UHT Recycled Milk Cartons with Carbon Black and Barium Sulfate as a Guideline to Improve Radiation Protection Sheets
Name of Inventors : Sakdinand Patipanyankitti, Pharitt Khantheethoa, Sirana Saesoo, Chayapond Tiyapunjanit and Punnawit Jullachaeng
Name of Supervisor : Khunthong Klaythong

🥇🎖จากผลงาน
Title of Invention : Pro-therapea : Increasing Protein for Ready-to-use Therapeutic Plant-Bases Food (RUTF) from Rhizopus oligosporus Fermented peanut with Wolffia globosa for Severely Malnourished Children
Name of Inventors : Ploykhwan Taraproncin, Anchalisa Doungpanumas, Palida Thongnirun and Siroth Vattanasontronsil
Supervisor
Chorruk Wongsawan, Palida Tanganurat

🥇🎖จากผลงาน
Tittle of Invention :
AUDISIGN : Application for encourage the development of sign language communication for children with hearing impairment
Name of Inventors : Jitisa Jukpatch, Yada Wajeenuraksakulchai, Apiphon Suwanchaisakul and Apichet Liawpirojh
Name of Supervisor : Khunthong Klaythong

🥇จากผลงาน
Title of Invention :
JOGURTO : Development of Greek yogurt products with low phosphorus content from RD43 rice milk and Hom Nil rice milk to be a healthy alternative food for patients with kidney disease
Name of Inventors: Preeyapath Anannvadeethana, Thanakrit Phithaksa, Morrakot Tiasuwan and Sahawass Tanapatworatan
Name of Supervisor: Chorruk Wongsawan

🥇จากผลงาน
Tittle of Invention : 
FLODRAIN :  Development of porous geopolymer materials with rubber powder be used as a flooring material for solving the problem of flooding the footpath
Name of Inventors: Nippitch Saengnopharat and Suphakan Bautista
Name of Supervisor : Miss Nawawan Bangpong

🥈🎖จากผลงาน
Tittle of Invention :
Oral film “Porphyfilm” (The studying of the quality of mangosteen peel and clove oil to prevent Porphyromonas gingivalis bacteria which is the cause of swollen gums and the development of gum coated film used to cure the primary phase of swollen gums)
Name of Inventors :
Panicha Rakrapee, Nattapat Kabklang, Trin Bussmuangpak and Sattabongkod Onwan
Name of Supervisor :
Pornpan Chomwong

🥈จากผลงาน
Tittle of Invention :
Fleapronil (Innovation of Polymer Microcapsule Encapsulating Fipronil for Flea and Tick Drop in Pets)
Name of Inventors :
Tunyaret Songprasit, Napatsawan Pawa, Natcha Skulnee and Zabit Madali
Name of Supervisor :
Daranee Chaiyaveij and Amorn Chaiyasat

ขอแสดงความยินดีกับทุกๆ ผลงานนะครับ ขอบคุณคุณครูที่ปรึกษาทุกท่าน ขอบคุณฝ่ายบริหารของโรงเรียน ขอบคุณผู้ปกครองทุกท่าน ที่สำคัญขอบคุณเด็กๆ ทุกคนที่มาเดินทางมาด้วยกัน พวกหนูเก่งมากๆ ทุกคนเลย

สำหรับงาน Indonesia Inventors Day 2023 (IID 2023) เป็นงานประกวดและนำเสนอผลงานของนักประดิษฐ์จากประเทศต่าง ๆ ถือเป็นเวทีสำคัญแห่งหนึ่งในสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ซึ่งจัดขึ้นโดย Indonesian Invention and Innovation Promotion Association (INNOPA) หน่วยงานด้านการส่งเสริมสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมแห่งอินโดนีเซีย โดยมี วช. เป็นหน่วยงานของไทยในการคัดกรองและนำเสนอชื่อผลงานประดิษฐ์คิดค้นและนวัตกรรม (Exclusive Agency) เพื่อเข้าร่วมประกวดในเวที IID ซึ่ง IID เป็นเวทีที่ได้รับการตอบรับจากนักประดิษฐ์ นักวิจัย และนักวิชาการจากนานาประเทศ โดยการจัดงานในปีนี้มีการจัดแสดงผลงานสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมกว่า 400 ผลงาน จากประเทศต่าง ๆ มากกว่า 40 ประเทศ

โดยจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16 - 19 กันยายน 2566 ณ Aston Denpasar & Convention Hall เมืองเดนปาซาร์ บาหลี สาธารณรัฐอินโดนีเซีย

‘CADT DPU’ เปิดสูตรใหม่ สร้างแรงบันดาลใจให้เด็กรั้วกองบิน ติวเข้ม!! หลักสูตรสอบแอร์-สจ๊วตเชิงลึก ปูทางสู่อาชีพในฝัน

เมื่อวานนี้ (22 ก.ย. 66) ผู้ช่วยศาสตราจารย์ น.ต.ดร.วัฒนา มานนท์ คณบดีวิทยาลัยการพัฒนาและฝึกอบรมด้านการบิน (CADT : College of Aviation Development and Training ) มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) เปิดเผยว่า ขณะนี้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมการบินฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้บุคลากรทั้ง 2 อุตสาหกรรมขาดแคลนจำนวนมาก จากผลสำรวจของ IATA พบว่าปัจจุบันสายการบินทั่วโลกมีจำนวนผู้โดยสารกลับมาใช้บริการ จำนวน 4,500 ล้านคนต่อปี ซึ่งใกล้เคียงกับช่วงก่อนเกิดโควิด -19 ในปี 2562 ที่มีจำนวน 4,540 ล้านคน ส่วนรายได้ของภาคการบินฟื้นกลับมาประมาณ 8 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

สำหรับประเทศไทยมีเที่ยวบินเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน ได้แก่ สนามบินสุวรรณภูมิมีทั้งหมด 826 เที่ยวบินต่อวัน ขณะที่สนามบินดอนเมืองมี 481 เที่ยวบินต่อวัน ซึ่งตัวเลขที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวสอดรับกับนโยบายของรัฐบาลที่ตั้งเป้าให้คนเดินทางท่องเที่ยวไทยจำนวน 30 ล้านคนต่อปี ขณะนี้ผ่านไป 8 เดือนมีผู้โดยสารเดินทางมาไทยแล้วจำนวน 17 ล้านคน

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ น.ต.ดร.วัฒนา กล่าวว่า จากสถิติดังกล่าว CADT DPU ในฐานะสถาบันการศึกษา ที่มุ่งมั่น สร้างมืออาชีพด้านธุรกิจการบิน ได้เตรียมหลักสูตรผลิตบุคลากรเพื่อรองรับตลาดแรงงานด้านการบิน ด้วยการจัดหลักสูตรพิเศษ 2 หลักสูตร ดังนี้

หลักสูตรที่ 1 สำหรับกลุ่มเด็กชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายรวมถึงนักศึกษาใหม่ เป็นหลักสูตรสร้างแรงบันดาลใจ (Inspiration) ให้กับเด็ก โดยการจัดค่ายการบินร่วมกับ เพจเด็ก ม.ปลาย เพื่อสร้างการรับรู้เกี่ยวกับอุตสาหกรรมการบินทั้ง 9 กิจกรรมของการบินพลเรือน ที่สำคัญจะได้รู้ว่าตนเองเหมาะกับอาชีพอะไรสังกัดอยู่ส่วนไหน นอกจากนี้ ยังมีการเตรียม MOU (Memorandum of Understanding) กับสมาคมสโมสรลูกเสืออากาศ เพื่อดึงกลุ่มเด็กนักเรียนที่อาศัยอยู่ใกล้สนามบินหรือกองบินทั่วประเทศ มาเข้าร่วมกิจกรรมเรียนรู้เกี่ยวกับหลักสูตรการเรียนด้านการบิน โดยเตรียมเปิดตัวครั้งแรกที่กองบิน 46 จังหวัดพิษณุโลกในเร็วๆ นี้

คณบดี CADT DPU กล่าวเพิ่มเติมว่า หลักสูตรที่ 2 เป็นกลุ่มนักศึกษาชั้นปีที่ 3 ถึง ชั้นปีที่ 4  รวมถึงผู้ที่สำเร็จการศึกษาไปแล้วประมาณ 1-2 ปี ที่มีความฝันอยากก้าวเข้าสู่การเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน ทางสถาบันการบิน (DAA) จึงเตรียมหลักสูตรติดปีกให้เป็นนางฟ้าอย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยหลักสูตร Cabin Crew Born to be by DAA โดยรายละเอียดในหลักสูตรนั้น วันแรก Grooming day จะมีการเทรนด์การแต่งกายทำผม และเลือกเครื่องสำอางให้เหมาะกับโทนผิว

วันที่ 2 Personality day เทรนด์เรื่องบุคลิกภาพ การใช้สีหน้า และน้ำเสียงในการสนทนา รวมถึงเทคนิคการทำ Resume และการตอบคำถามให้โดนใจกรรมการ วันที่ 3 IATA Airline Customer Service เป็นการ Up Skill เพิ่มโอกาสให้ได้งานด้วย IATA Certificate ส่วนวันสุดท้าย Exclusive Interview Day จะสอนเทคนิคสอบสัมภาษณ์แบบกลุ่ม แบบเดี่ยว ทั้งเวอร์ชันภาษาไทยและภาษาอังกฤษ โดยจะเริ่มเรียนทุกวันเสาร์จำนวน 4 สัปดาห์ ระหว่างวันที่ 21 ตุลาคม ถึง 11 พฤศจิกายน 2566 เวลา 09.00-16.00 น. สอบถามเพิ่มเติมที่ โทร. 061-863-7991 E-mail: daa@dpu.ac.th Line : @daa_dpu หรือคลิก Link https://lin.ee/hHrcpYa  แบบฟอร์มลงทะเบียน https://forms.gle/R8ZF3ccMzu69UjWp9

“ถือเป็นครั้งแรกของ DAA ที่เปิดโอกาสให้คนที่มีความฝันอยากเป็นแอร์-สจ๊วต เข้ามาเทรนด์ก่อนสอบกับผู้เชี่ยวชาญมากประสบการณ์จากสายการบินต่าง ๆ ทุกคนที่เข้ามาอบรมจะได้รับความรู้เชิงลึกและเทคนิคการสัมภาษณ์งานที่ตรงใจกรรมการมากที่สุด ที่สำคัญหลังจากผ่านการอบรมสามารถสมัครสอบเพื่อรับ Certificate จาก IATA ได้อีกด้วย และสามารถนำไปแนบการสมัครงานเพิ่มโอกาสในการได้คะแนนพิเศษที่ไม่ควรพลาด

ผู้ที่ผ่านการอบรมจะมีความเป็นตัวเองอย่างสง่างาม มีความมั่นใจในการพิชิตใจกรรมการมากขึ้น ทั้งนี้หากผู้เข้าอบรมสามารถนำไปปฏิบัติได้ตามที่อบรม จะผ่านการสอบสัมภาษณ์ได้อย่างไม่ยากแน่นอน นอกจากนี้ทาง DAA ยังมีความพร้อมในการเปิดหลักสูตรพิเศษที่หลากหลาย หากหน่วยงานต่าง ๆ อาทิ บริษัทวิทยุการบิน พนักงานอำนวยการบิน เป็นต้น เปิดรับสมัครงานในตำแหน่งเฉพาะทาง เราพร้อมที่จะผลิตนักศึกษาให้ตรงกับความต้องการของแต่ละหน่วยงานในอุตสาหกรรมการบิน” คณบดี CADT DPU กล่าวในตอนท้าย

‘กองทุนดีอี’ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโครงการ 5G ต้นแบบ หลัง ม.เชียงใหม่ได้รับทุนนำร่องขยายบริการเข้าถึงประชาชน

สดช. ลงพื้นที่เชียงใหม่ ตรวจเยี่ยมโครงการนำร่องการพัฒนาย่านเทคโนโลยี 5G ต้นแบบ สำหรับให้บริการประชาชน (5G District)

เมื่อวันที่ 21-22 ก.ย. 66 นายภุชพงค์ โนดไธสง เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) พร้อมด้วยนายสมบูรณ์ เมฆไพบูลย์วัฒนา ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านการบริหารเทคโนโลยีดิจิทัลและการสื่อสาร’ นายสมเกียรติ ศิริวัฒนโชค ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านการบริหารจัดการเชิงนโยบาย พร้อมด้วย  นางสุรีพร พรโสภณวิชญ์ ผู้อำนวยการกองบริหารกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, และผู้บริหารจากสำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) ลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อตรวจเยี่ยมโครงการนำร่องการพัฒนาย่านเทคโนโลยี 5G ต้นแบบ สำหรับให้บริการประชาชน (5G District) ส่วน 5G Smart Health เพื่อพัฒนาแนวทางและประยุกต์ใช้ระบบเทคโนโลยี 5G ในการส่งเสริมการให้บริการการแพทย์ 5G Smart Ambulance สำหรับบริหารจัดการรถพยาบาลแบบรวมศูนย์ และ Telemedicine สำหรับโรงพยาบาลประจำอำเภอในเขตจังหวัดภาคเหนือตอนบน

โดยโครงการดังกล่าว เป็นโครงการของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งเป็นผู้ได้รับทุนจากกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม มีแหล่งข้อมูล (Big Data) เพื่อนําไปวิเคราะห์และประมวลผลต่อในด้านการพัฒนาพื้นที่ให้เหมาะสมต่อประชากรในท้องถิ่นระบบเชื่อมโยงและข้อมูลระหว่างกลุ่มข้อมูลแบบเรียลไทม์ ณ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และโรงพยาบาลสันทราย จ.เชียงใหม่

‘กัมมี่กลิ่นรสตรีผลาและโคล่า’ แบรนด์ อินนอริช กับครั้งแรกที่มีรสสมุนไพร เคี้ยวสนุก ได้ประโยชน์ ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่

เมื่อเร็ว ๆ นี้ บริษัท อินโนบิก นูทริชั่น จำกัด ในกลุ่ม บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจโภชนาการ เพื่อสุขภาพ ตอบโจทย์ความต้องการด้านโภชนาการของคนไทย เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ‘กัมมี่กลิ่นรสตรีผลาและโคล่า’ แบรนด์อินนอริช (Innourish) ครั้งแรกของกลิ่นรสสมุนไพรตรีผลาในรูปแบบกัมมี่ ที่เคี้ยวสนุกครบรส ดึงจุดแข็งสมุนไพรไทย ‘ตรีผลา’ ที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ปรับสมดุล ผสานความหอมของกัมมี่กลิ่นรสโคล่า อร่อย ทานง่าย ได้ประโยชน์ เดินหน้าเตรียมกลยุทธ์ รุกตลาดคนรุ่นใหม่ และวัยทำงาน ด้วยพรีเซ็นเตอร์หนุ่มอารมณ์ดี ‘มาริโอ้ เมาเร่อ’ เจ้าของนิยาม ‘รสชาติมันโอ้’ 

ดร.บุรณิน รัตนสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจใหม่และโครงสร้างพื้นฐาน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และประธานกรรมการ บริษัท อินโนบิก (เอเซีย) จำกัด เปิดเผยว่า อินโนบิก (เอเซีย) ได้จัดตั้งบริษัท อินโนบิก นูทริชั่น จำกัด ดำเนินธุรกิจโภชนาการทางการแพทย์ (Medical Nutrition) และโภชนเภสัช (Nutraceutical) อย่างครบวงจร เพื่อต่อยอดงานวิจัยและการพัฒนาผลิตภัณฑ์โภชนาการสุขภาพออกสู่ตลาด เพิ่มความหลากหลายให้กับผู้บริโภค และสร้างมูลค่าให้เศรษฐกิจไทย และด้วยการเป็นบริษัทของคนไทยที่เล็งเห็นศักยภาพของสมุนไพรไทย ประกอบกับปัจจุบันผู้บริโภคหันมาให้ความสนใจกับผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรธรรมชาติ ที่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย เป็นอีกทางเลือกในการบริโภค เราจึงมีความตั้งใจในการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรดั้งเดิมของไทย เป็นขนมทานเล่นที่ได้คุณภาพมาตรฐาน และเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ซึ่งการพัฒนานี้จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับสมุนไพรไทย และเป็นความท้าทายที่ต้องอาศัยการทำงานร่วมกับพันธมิตรแนวหน้าในการคิดค้น วิจัย และพัฒนาต่อยอดให้ตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภค

”หนึ่งในเป้าหมายสำคัญคือ การสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับคนทุกเพศ ทุกวัย ได้ทดลองขนมรูปแบบใหม่ โดยใช้ข้อจำกัดของรสชาติสมุนไพรเป็นแรงบันดาลใจและความท้าทายในการพัฒนาผลิตภัณฑ์กัมมี่กลิ่นรสตรีผลาและโคล่า ภายใต้แบรนด์อินนอริช ให้อร่อย ทานง่าย และยังได้ประโยชน์ด้วย ซึ่งความตั้งใจนี้ พิสูจน์ได้จากการได้รับรางวัลระดับโลกอย่าง Superior Taste Award 2023 จาก International Taste Institute ที่เป็นเครื่องการันตีรสชาติความอร่อย”

รศ.ดร.นพ.ประวิทย์ อัครเสรีนนท์ หัวหน้าสถานการแพทย์แผนไทยประยุกต์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เผยถึงสรรพคุณของสมุนไพรตรีผลา ว่า “ตรีผลาเป็นยาแผนโบราณที่มีส่วนผสมจากผลไม้ 3 ชนิด คือ มะขามป้อม ให้วิตามินซีสูง ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ สมอไทย มีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อนๆ ช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบขับถ่าย และสมอพิเภก ให้คุณสมบัติในการปรับสมดุลธาตุ ในอดีตตรีผลาเป็นยาแผนโบราณมักใช้ในรูปแบบยาต้ม แม้จะมีสรรพคุณหลายด้าน แต่จะถูกพูดถึงเรื่องของรสชาติที่ทานยาก ทำให้หลายคน โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ เข้าไม่ถึงสมุนไพรชนิดนี้ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องน่ายินดีที่อินโนบิก นูทริชั่น ได้พัฒนาและดึงศักยภาพของ 'ตรีผลา' มาต่อยอดเป็นกัมมี่กลิ่นรสตรีผลาและโคล่าได้สำเร็จ ทำให้สมุนไพรไทยสามารถเข้าถึงผู้บริโภครุ่นใหม่ เชื่อว่ากัมมี่ตัวนี้จะเป็นผลิตภัณฑ์ที่มาแรงด้วยรสชาติ ความแปลกใหม่ และจุดแข็งที่สรรพคุณเฉพาะตัว” 

ภก.กิตติณัฐ ศรภิญญา กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินโนบิก นูทริชั่น จำกัด กล่าวว่า “กัมมี่กลิ่นรสตรีผลาและโคล่า แบรนด์ อินนอริช (Innourish) เป็นผลิตภัณฑ์ที่ อินโนบิก นูทริชั่น มุ่งมั่นพัฒนาให้เป็นทางเลือกใหม่ของคนรุ่นใหม่ ในรูปแบบของกัมมี่กลิ่นรสสมุนไพร ทานสนุก เคี้ยวง่าย รสชาติอร่อย และด้วยเป้าหมายเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ จึงได้ดึงนักแสดงหนุ่ม ‘มาริโอ้ เมาเร่อ’ มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ ด้วยบุคลิกขี้เล่น สนุกสนาน ของมาริโอ้ที่ตรงกับคาแรคเตอร์ของกัมมี่อย่างกลมกล่อมลงตัว จึงเหมาะที่จะเข้ามาเสริมความสนุกของแบรนด์และส่งต่อไปยังกลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดี”

สัมผัสความอร่อยสไตล์ใหม่ ในราคาซองละ 38 บาท ได้แล้ววันนี้ที่ Tops, Gourmet Market, Jiffy, Villa Market, Foodland, Fascino หรือ Innobic Official Store ใน Shopee Lazada และ TikTok Shop สามารถติดตามโปรโมชั่นและกิจกรรมพิเศษต่างๆ เพิ่มเติมได้ที่  https://www.facebook.com/Innourish

2 วงดนตรี ‘เตรียมอุดมศึกษา-หน้าโรงเรียน’ คว้ารางวัลชนะเลิศ ในการประกวด ‘THE POWER BAND 2023 Season 3’

ใกล้ความฝันสู่การเป็นศิลปินมืออาชีพเข้ามาอีกขั้น! เมื่อบรรดาเหล่าคนดนตรีได้พิสูจน์ฝีมือ และสร้างสรรค์พลังทางดนตรีในแบบฉบับของตนเองอย่างเข้มข้นบนเวทีประกวดวงดนตรีคุณภาพระดับประเทศ THE POWER BAND 2023 Season 3 ที่จัดขึ้นโดยกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ร่วมกับวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล และ 6 ค่ายเพลงดัง ได้แก่ Muzik Move, LOVEiS Entertainment, Smallroom, What The Duck, Warner Music Thailand และ XOXO Entertainment ซึ่งได้ 2 วงดนตรีที่ชนะเลิศจากการประกวดจาก Class A และ Class B ไปแล้วเมื่อเร็ว ๆ นี้ ณ โรงละคร อักษรา คิง เพาเวอร์ โดยมีนายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ และ ศาสตราจารย์ นายแพทย์บรรจง มไหสวริยะ อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล ให้เกียรติเป็นผู้มอบรางวัล

โดยในปีนี้ ผู้ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศทุกวงได้พกความมั่นใจ เพื่อประชันความสามารถทางดนตรีกันอย่างเต็มที่ ต่อหน้าคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากหลากหลายสาขาอาชีพในวงการเพลงทั้งไทยและต่างชาติ ประกอบด้วย พล คชภัค ผลธนโชติ ผู้บริหารค่าย Boxx Music และ Zircle Muzik, โอ๊บ เพิ่มศักดิ์ พิสิษฐ์สังฆการ ผู้บริหารค่าย Move Records, Associate Professor Giorgi Mikadze นักเปียโน - นักประพันธ์ดนตรีชาวจอร์เจีย จากวิทยาลัยดนตรีเบิร์กเลย์, เป้ ไพสิฐ คำกลั่น หรือ Pae Sax Producer และศิลปินจากค่าย Melodic Corner และ ศรุติ วิจิตรเวชการ หัวหน้าสาขาวิชาดนตรีแจ๊ส ม.มหิดล ซึ่งเกณฑ์การตัดสินพิจารณาจากหลากหลายคุณสมบัติ ทั้งสไตล์การร้องและการโชว์ที่เป็นเอกลักษณ์ การเรียบเรียงองค์ประกอบของดนตรี ความเข้าใจในทฤษฎีดนตรี ทักษะการเล่นเครื่องดนตรี ความสมบูรณ์ของการเล่นเป็นวง และการขับร้อง รวมไปถึงความคิดสร้างสรรค์อันยอดเยี่ยม

นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ กล่าวว่า กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ มุ่งมั่นส่งเสริมศักยภาพของคนไทยทางด้านดนตรีอย่างต่อเนื่อง ผ่านการจัดเวทีประกวดวงดนตรีคุณภาพระดับประเทศ THE POWER BAND ซึ่งในปีนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 3 แล้ว ที่ผ่านมา เราได้เห็นเยาวชนไทยที่มีศักยภาพได้สร้างโอกาส และพลังแห่งความเป็นไปได้ให้เกิดและเติบโตขึ้นบนเส้นทางสายดนตรี โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เวทีนี้จะช่วยให้พวกเขาได้พัฒนาตนเองให้ได้ไปอยู่ในจุดสูงสุด เป็นการเพิ่มพูนทักษะ และประสบการณ์ให้มากขึ้นอีกด้วย

Associate Professor Giorgi Mikadze นักเปียโน และนักประพันธ์ดนตรีชาวจอร์เจีย จากวิทยาลัยดนตรีเบิร์กเลย์ หนึ่งในคณะกรรมการตัดสิน กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสมาชมการแข่งขัน THE POWER BAND ในครั้งนี้ และรู้สึกชื่นชมในความสามารถทางด้านดนตรีของคนไทย สิ่งสำคัญคือ ให้มีความสุขกับการเล่นดนตรี และหมั่นฝึกซ้อมเป็นประจำ วันนี้ ได้เห็นนักดนตรีไทยทั้งรุ่นเด็กและผู้ใหญ่ที่มีศักยภาพสูง และมั่นใจว่าจะประสบความสำเร็จในอนาคตอย่างแน่นอน

สำหรับ 2 วงดนตรี ที่คว้ารางวัลชนะเลิศ บนเวที THE POWER BAND 2023 Season 3

ประเภทรุ่นมัธยมศึกษา Class A ได้แก่ วงเตรียมอุดมศึกษา จากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา กรุงเทพฯ รับถ้วยรางวัลเกียรติยศ และเงินรางวัล 150,000 บาทไปครอง นายชลธาร เซ็นเชาวนิช ตัวแทนวงเตรียมอุดมศึกษา กล่าวว่า ทุกคนในวงได้ทำในสิ่งตนเองรักคือการเล่นดนตรี เราตั้งใจกับการประกวดครั้งนี้มาก ๆ โดยได้ดึงจุดเด่นเรื่องดนตรีไทยร่วมสมัยออกมาโชว์ครับ เพราะอยากสร้างความแตกต่าง ไม่อยากให้คนไทยลืมดนตรีไทยไป เวที THE POWER BAND 2023 Season 3 ถือเป็นก้าวแรกที่ทำให้วงของพวกเราประสบความสำเร็จไปอีกขั้นในเส้นทางสายดนตรี สามารถต่อยอดไปทำอย่างอื่นในวงการเพลงได้อีกเยอะ ที่สำคัญยังได้มิตรภาพจากเพื่อนต่างโรงเรียนอีกด้วยครับ

ประเภทรุ่นบุคคลทั่วไป ไม่จำกัดอายุ Class B ได้แก่ วงหน้าโรงเรียน จ.ศรีสะเกษ รับถ้วยรางวัลเกียรติยศ และเงินรางวัล 150,000 บาท นางสาวภัทรภร เติมทานาม ตัวแทนวงหน้าโรงเรียน กล่าวว่า วินาทีแรกที่ประกาศผลว่าได้แชมป์ พวกเราดีใจกันมาก ๆ เพราะทุกคนทุ่มเทฝึกซ้อมอย่างหนักเพื่อการประกวดในครั้งนี้ เวที THE POWER BAND ถือเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับทุกคนในวง ก่อนหน้านี้พวกเราได้มีโอกาสได้เข้าแคมป์ดนตรีด้วย เราได้คอมเมนต์จากกูรูคนดนตรีให้ได้ไปพัฒนาต่อ เป็นสิ่งที่ดีมาก ๆ สำหรับคณะกรรมการตัดสินทุกคนเป็นมืออาชีพ เป็นคนที่เรายอมรับการตัดสินได้ ทุกคอมเม้นต์เป็นประโยชน์ทุกอย่างค่ะ ขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีจาก คิง เพาเวอร์ และทุก ๆ พันธมิตรที่เปิดโอกาสให้พวกเรามีพื้นที่โชว์ศักยภาพอย่างเต็มที่ค่ะ

ทั้งนี้ผู้ชนะเลิศทั้งสองวงจะได้ร่วมทำซิงเกิลเพลง และมิวสิกวิดีโอกับค่ายเพลงภายใต้การดูแลของ บริษัท มิวซิกมูฟ จำกัด อีกด้วย

นอกจากนี้ ภายในงานทุกคนยังได้ชมการแสดงมินิคอนเสิร์ตจากวงป๊อปแถวหน้าของไทย TATTOO COLOUR และศิลปินรุ่นน้อง SERIOUS BACON ที่มาร่วมโชว์พลังเสียงในฐานะศิลปินไอดอลของงาน THE POWER BAND 2023 Season 3 สร้างความสนุกสนานและความสุขให้ทุกคนอย่างเต็มที่ สามารถติดตามการประกาศผลรางวัลรอบชิงชนะเลิศทั้งหมดของเวทีประกวดวงดนตรีคุณภาพระดับประเทศ THE POWER BAND 2023 Season 3 ได้ที่ช่องทาง Facebook และ Instagram King Power Thai Power พลังคนไทย

‘ปตท.’ รับรางวัลสูงสุด ‘องค์กรต้นแบบด้านสิทธิมนุษยชน’ ต่อเนื่อง 3 ปีซ้อน สะท้อนองค์กรยึดมั่นในหลักธรรมาภิบาล-สร้างความเท่าเทียม-ยกระดับคุณภาพชีวิต

เมื่อเร็ว ๆ นี้ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในพิธี มอบรางวัลองค์กรต้นแบบด้านสิทธิมนุษยชน ประจำปี 2566 (Human Rights Awards 2023)” จัดโดย กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม ระดับดีเด่น ประเภทองค์กรรัฐวิสาหกิจ ให้แก่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) โดยมีนายวรพงษ์ นาคฉัตรีย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหารความยั่งยืน ปตท. เป็นผู้แทนรับมอบรางวัล นับเป็นรางวัลระดับสูงสุดต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 สะท้อนการดำเนินธุรกิจของ ปตท. ที่ยึดมั่นพันธกิจดำเนินงานภายใต้การกำกับดูแลกิจการที่ดี มีธรรมาภิบาล และเคารพซึ่งหลักสิทธิมนุษยชน เพื่อสร้างความเท่าเทียมให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย พร้อมสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับองค์กรในระยะยาว และยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชนและสังคมไทยให้เติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน

คณะแพทยฯ ม.เกษตรฯ พร้อม!! หลังแพทยสภารับรอง เริ่มรับนิสิตรุ่นแรก ปีการศึกษา 2567 ผ่าน กสพท. 21 คน

เมื่อวันที่ 25 ก.ย. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้แจ้งว่า หลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต ของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ผ่านการรับรองจากแพทยสภาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีข้อความระบุว่า

“ประกาศ เรื่อง แพทยสภาให้การรับรองคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ผ่านการตรวจประเมินหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต หลักสูตรใหม่ 2567 ณ วันที่ 15 กันยายน 2566”

ทั้งนี้ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มีกำหนดรับนิสิตใหม่รุ่นละ 48 คน โดยแบ่งฝึกปฏิบัติการที่โรงพยาบาลศูนย์สกลนคร และโรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช จ.สุพรรณบุรีแห่งละ 24 คน โดยขณะนี้เปิดรับสมัครนิสิตรุ่นแรก ปีการศึกษา 2567 ผ่านกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย (กสพท.) นำร่องจำนวน 21 คน 

สำหรับวิชาเรียน หลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต ม.เกษตรศาสตร์ เรียน 6 ปี จำนวนหน่วยกิตตลอดหลักสูตร 244 หน่วยกิต จากโครงสร้างหลักสูตร วิชาเรียนในกลุ่มวิชาบังคับไม่ได้ต่างจากหลักสูตรของมหาวิทยาลัยอื่น ๆ เพราะจะเน้นการเรียนที่ปูพื้นฐานด้านการแพทย์และเจาะลึก รวมถึงการฝึกปฏิบัติงานในระดับชั้นคลินิก หรือ ในโรงพยาบาลกลุ่มวิชาเฉพาะที่ส่งเสริมสมรรถนะที่เป็นจุดเด่นของสถาบัน และกลุ่มวิชาเฉพาะที่ส่งเสริมศักยภาพ

อาทิ วิชาเวชศาสตร์ระดับเซลล์และโมเลกุลเพื่อการตรวจวินิจฉัยโรค, วิชาพันธุศาสตร์ทางการแพทย์และเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์, วิชาองค์ความรู้จากการศึกษาในต่างประเทศ, วิชาการฝึกปฏิบัติการดูแลประคับประคองสำหรับผู้ป่วยสูงอายุ, วิชากีฏวิทยาทางการแพทย์, วิชาพืชสวนบำบัดและสัตว์บำบัดเพื่อสุขภาพ, วิชาสุขภาพและการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ,

วิชาการพัฒนาแอปพลิเคชันการดูแลผู้ป่วย, วิชาวิทยาศาสตร์ข้อมูลทางการแพทย์และการประยุกต์, วิชาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก, วิชาพืชสมุนไพรเพื่อสุขภาพ, วิชาสปาทางการแพทย์, วิชาการฝึกปฏิบัติเวชศาสตร์มารดาและทารกในครรภ์ ฯลฯ 

‘Swap & Go - OR’ รุกขยายสถานีสลับแบตฯ มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า เชื่อมต่อการเดินทางทุกรูปแบบ ตั้งเป้า 100 แห่ง ภายในปี 67

เมื่อวันที่ 27 ก.ย. 66 ดร.บุรณิน รัตนสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจใหม่และโครงสร้างพื้นฐาน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วย นายสุชาติ ระมาศ ผู้อำนวยการใหญ่ นายพิมาน พูลศรี รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (โออาร์) และนางสาวอาวีมาศ สิริแสงทักษิณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สวอพ แอนด์ โก จำกัด ตอกย้ำโปรเจกต์ความร่วมมือ ‘Swap & Go - Universal Battery Swapping Network Expansion Empowered by OR’ การขยายเครือข่ายแพลตฟอร์มสถานีสลับแบตเตอรี่สำหรับมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าของสวอพ แอนด์ โก ที่ใช้ได้กับมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าทุกรูปแบบ (Universal Swapping) ภายในสถานีบริการ PTT Station ของโออาร์ ตอบโจทย์การเดินทางที่ต้องการความสะดวกและรวดเร็ว 

เพื่อให้การเปลี่ยนผ่านการใช้พลังงานเป็นไปอย่างไร้รอยต่อ (Seamless Mobility) ตั้งเป้าขยายจุดให้บริการสถานีสลับแบตเตอรี่ครอบคลุมกรุงเทพฯ ปริมณฑลกว่า 100 แห่งในปี 2567 และบริการดูแลรักษาและซ่อมบำรุง ผ่านเครือข่ายสถานีบริการ PTT Station เพื่อเพิ่มสัดส่วนการใช้นวัตกรรมพลังงานสะอาดและเป็นทางเลือกของผู้บริโภคในการประหยัดค่าใช้จ่ายทางด้านพลังงาน โดยสร้างระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าทุกมิติ เพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมเติบโตไปพร้อมกัน

‘อ.วิริยะ’ ชี้ ‘การศึกษา’ คือ ‘การลงทุน’ ที่คุ้มค่าที่สุด

“การศึกษา คือ การลงทุนที่คุ้มค่าที่สุด…
และส่งผลระยะยาวต่อเศรษฐกิจและสังคม”

อาจารย์วิริยะ ฤาชัยพาณิชย์ นักวิชาการอิสระ นักพูด นักเขียนด้านการศึกษา กล่าว


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STUDY TIMES
Take Me Top