เริ่มจากร่างประมวลกฎหมายยาเสพติดที่เข้าสู่รัฐสภา เป็นการประชุมร่วมกันระหว่าง ส.ส. และ ส.ว. ได้เสนอมาตอนนั้นในร่างมาตรา 29 มันไม่มีคำว่า "กัญชา" อยู่ตั้งแต่ร่างมาแล้ว ทั้ง ๆ ที่กัญชาประเภท 5 เป็นยาเสพติดที่ถูกให้ความสำคัญมาตลอด ใน พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ

.

ต่อมารัฐสภาได้ทำการพิจารณาร่างประมวลกฎหมาย ยาเสพติด ซึ่งเสนอโดยรัฐบาล

ในมาตรา 29 ประเภท 5 มันไม่มีคำว่า ”กัญชา” อยู่ ซึ่งมีคำว่าพืชฝิ่น กับเห็ดขี้ควาย 2 อย่างเท่านั้น ซึ่งเมื่อก่อนตาม พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษปี 2522 ประเภท 5 มันมีคำว่ากัญชา ยาฝิ่น กระท่อม แล้วก็ถอดกระท่อมออกเหลือ 2 อย่าง

.

นายศุภชัย ใจสมุทร เฝ้าเกาะติด มาตรา 29 มาตลอด มีคนเสนอว่า ควรจะต้องมีคำว่ากัญชาด้วยไหม ในการประชุม นายศุภชัย ใจสมุทร เข้าร่วมประชุมด้วย บอกว่า ไม่ มันไม่มาตั้งแต่แรก นายศุภชัยเป็นรองประธาน ในเวลานั้น บอกว่าไม่ต้องมีคำว่ากัญชา นี่คือที่มาทั้งหมด

.

พฤศจิกายน 2564

.

- รัฐสภาทำการพิจารณาแล้วเสร็จ จึงมีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา และ มีผลบังคับใช้หลังจากนั้นอีก 30 วัน

.

8 ธันวาคม 2564

.

- จุดเริ่มต้นของการปลดล็อกกัญชา

- ประมวลกฎหมายยาเสพติด มีผลใช้บังคับ โดยการลงมติเห็นชอบ พร้อมทั้ง ส.ส. สว. ทั้งฝ่ายค้าน ทั้งฝ่ายรัฐบาล

.

ดังนั้นกัญชาไม่ได้เป็นยาเสพติดนับตั้งแต่วันที่ 8/12/2564 จนถึงปัจจุบัน

.

มกราคม 2565

.

- คณะกรรมการ ป.ป.ส.ได้มีการจัดประชุม คือตามกฎหมายมาตรา 29 กำหนดว่า ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขโดยคำแนะนำของคณะกรรมการควบคุมยาเสพติด และโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ซึ่งมีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี รับผิดชอบเรื่องนี้ ให้ประกาศระบุประเภทของยาเสพติดแต่ละประเภท

.

- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้เสนอต่อที่ประชุม คณะกรรมการ ป.ป.ส. ว่าสิ่งที่เป็นยาเสพติด คือ 1 คือ พืชฝิ่น 2 คือเห็ดขี้ควาย 3 คือสารสกัดจากกัญชา มีปริมาณสารเตตราไฮโดรแคนาบินอล (tetrahydrocannabinol – THC) เกิน 0.2 % ที่ยังเป็นยาเสพติด

.

- พรรคภูมิใจไทย ขอให้มีการประกาศบังคับใช้ โดยมีการนับไปอีก 120 วัน ก็คือวันที่ 8 มิถุนายน 2565

.

- นายศุภชัย เสนอ จะต้องมีกฎหมายพ.ร.บ. กัญชา กัญชง มาอีกฉบับหนึ่ง

.

- ที่ประชุมมอบให้พรรคภูมิใจไทย ซึ่งมีฉบับร่างอยู่แล้ว นำฉบับร่างพ.ร.บของพรรคภูมิใจไทย ที่เกี่ยวกับการทำเรื่องกัญชาเสรีทางการแพทย์นั้นมายื่น เพื่อให้ทันภายใน 120 วัน โดย อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้ไปยื่นต่อ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาเองโดยตรง

.

- นายชวน หลีกภัย ประธานสภา พิจารณาบรรจุเข้ามาเป็นร่างพระราชบัญญัติต่อไปได้ และนายกรัฐมนตรีได้อนุมัติรับรองให้ทันทีทันใด

.

9 มิถุนายน 2565

.

- วันที่ 9 มิถุนายน 2565 ได้ตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมา 25 คน และทำการพิจารณากันจนแล้วเสร็จ ผ่านไป 19 วันมีการประชุมรัฐสภาอีกครั้ง ปรากฏว่า มีการเสนอเข้าที่ประชุมแล้ว การเปิดเสรีกัญชานั้นได้ถูกตีตก จากพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อไทย พลังประชารัฐ ก้าวไกล และพรรคประชาชาติ ไม่ยอมให้กฎหมายผ่านมติการประชุม

.

- พ.ร.บ.กัญชา กัญชง เข้าสู่วาระที่ 2 มี ส.ส.จากพรรค ประชาธิปัตย์ เพื่อไทย ก้าวไกล ประชาชาติ ยืนยันจะเอากัญชากลับไปเป็นยาเสพติด จน ณ วันนี้สภาปิด พ.ร.บ.กัญชา ก็ค้างในสภา พรรคภูมิใจไทย เดินหน้าต่อ เพื่อจะทำกัญชาทางการแพทย์ตั้งแต่หาเสียง และเศรษฐกิจ จะไม่เอานันทนาการ พรรคภูมิใจไทย จะเอากัญชาทางการแพทย์เท่านั้น แต่โดนบิดเบือนจากพรรคการเมืองตรงข้ามพรรคภูมิใจไทย

.

10 มิถุนายน 2565

.

- อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดประชุมวิชาการ “มหกรรมกัญชา 360 องศา ปลดล็อคกัญชา ประชาชนได้อะไร” พร้อมแจกต้นกล้ากัญชา 1 พันต้น ณ จังหวัดบุรีรัมย์

.

16 มิถุนายน 2565

.

- กระทรวงสาธารณสุขออกประกาศ สธ. มีผลบังคับใช้วันที่ 17 มิ.ย 2565 เรื่อง สมุนไพรควบคุม (กัญชา) โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 4, 44, 45(3), 45(4) แห่ง พ.ร.บ.คุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ. 2542 กำหนดให้กัญชา หรือสารสกัดกัญชา เป็นสมุนไพรควบคุม

.

18 มิถุนายน 2565

.

- อนุทิน ชาญวีรกูล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย แจง ประกาศ สธ. กัญชาเป็นสมุนไพรควบคุม มีผลตามกฎหมายแล้ว

.

การขับเคลื่อนนโยบายกัญชาเสรีทางการแพทย์ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กว่า ๑ ปี ในช่วงแรกเน้นให้ประชาชนเข้าถึงยากัญชาทางการแพทย์ ที่ได้มาตรฐานจากสถานพยาบาลใกล้บ้านกว่า ๓๐๐ แห่งทั่วประเทศ

.

การผลักดันนโยบายกัญชาดำเนินไปอย่างต่อเนื่องโดยพรรคภูมิใจไทย จนกระทั่ง วันที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๖๒ ได้มีการเสนอร่างกฎหมาย ๒ ฉบับ คือ ร่างพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ แก้ไขเพิ่มเติม และร่างพระราชบัญญัติสถาบันพืชยาเสพติดแห่งประเทศไทย หรือที่รู้จักกันในชื่อ "กฎหมายปลูกกัญชาบ้านละ ๖ ต้น" เพื่อปลดล็อคกัญชาให้สามารถใช้ทางการแพทย์ได้อย่างแพร่หลาย และประชาชนสามารถปลูกได้ตาม นโยบาย ที่พรรคฯ หาเสียงไว้ในช่วงเลือกตั้ง

.

นโยบายปลดล็อกกัญชานี้ ออกมาเพื่อดึงดูดประชาชนให้สนใจ สนับสนุน และเลือกพรรคภูมิใจไทยเป็นรัฐบาล และให้นายอนุทิน ชาญวีรกูลหัวหน้าพรรค เป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อที่จะได้ทำให้กฎหมายฉบับนี้ผ่านมติ นายอนุทินยังกล่าวอีกว่า กัญชามีประโยชน์ ทั้งทางด้านการแพทย์ สุขภาพของประชาชน ช่วยในการรักษาโรคมากมาย และ ยังเป็นผลดีในทางด้านเศรษฐกิจอีกด้วย การคืนกัญชาให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์นี้ช่วยสร้างรายได้เสริม และ เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ พรรคภูมิใจไทยยังย้ำว่าถ้าไม่เลือกพรรคภูมิใจไทย คนที่ปลูกหรือใช้กัญชาจะกลับไปติดคุก

.

แต่ดูเหมือนว่าเกมที่พรรคภูมิใจไทยได้คิดไว้เหมือนจะพลิก เนื่องจาก พรรคประชาธิปัตย์ เพื่อไทย พลังประชารัฐ ก้าวไกล และพรรคประชาชาติไม่ได้ลงมติเห็นชอบกับ พ.ร.บ กัญชาดังกล่าว พ.ร.บ จึง ถูกตีตกไป น่าจะเป็นด้วยเหตุผลทางการเมือง ที่กลัวพรรคภูมิใจไทยได้คะแนนนิยมจากประชาชนมากเกินไป นี่จึงเป็นอีกทางที่พรรคการเมืองอื่นๆอาทิ เพื่อไทย พลังประชารัฐ ฯลฯ ใช้เพื่อสกัด พรรคภูมิใจไทย โดยไม่ยอมรับ พ.ร.บ กัญชง กัญชา และลงมติไม่เห็นชอบ

.

ซึ่งดูขัดแย้งกับช่วงแรกที่พรรคภูมิใจไทย ได้ยื่นเสนอร่างต่อรัฐสภา ส.ส. สว. ทั้งฝ่ายค้าน ทั้งฝ่ายรัฐบาล และ นายกรัฐมนตรี ต่างมีความเห็นไปในทิศทางเดียวกัน คือ ยอมรับ พ.ร.บ กัญชง กัญชา และ การเปิดเสรีกัญชาให้ใช้ได้อย่างถูกกฎหมาย โดยที่ไม่ถูกระบุอยู่ใน ประเภทของยาเสพติด แต่เมื่อการแสวงหาผลประโยชน์ และ การเลือกตั้ง ได้เกิดขึ้น ทุกอย่างจึงพลิกผัน เพื่อผลประโยชน์ของตนทั้งสิ้น

.

#THESTUDYTIMES

#TeenAgeNewsAgency

#สำนักข่าววัยเรียน

#GuidetoLearning

#NewsFeed

#KitNew

#คิดนิว

#ความคิดใหม่เริ่มได้ที่นี่

ถึงแม้คุณพ่อคุณแม่จะไม่สามารถสอนทักษะทางเทคนิคให้

ลูกได้ แต่ยังคงมีบทบาทสำคัญอยู่เสมอ ในการคอยฝึกและ

สร้าง Soft Skills ที่ดีให้กับลูก ๆ นะคะ

.

“Soft Skills” คือ ทักษะพื้นฐานทางสังคม ทางอารมณ์

และทางความสัมพันธ์ ยังคงเป็นส่วนสำคัญในการทำงาน

ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและในอนาคต หากถูกฝึกฝนตั้งแต่

ยังเด็กก็จะสามารถใช้ทักษะนี้ได้ดีกว่าคนอื่น ๆ

.

ในศตวรรษ 21 นี้ จะมี Soft Skills ใด ที่คุณพ่อคุณแม่ควรให้

ความสำคัญกับลูกตั้งแต่ตอนนี้ มาดูกันค่ะ

.

1.ทักษะการสื่อสารและเข้าสังคม

การสื่อและการเข้าสังคมถือเป็นหนึ่งในทักษะสำคัญที่ปฏิเสธไม่ได้

นอกเหนือจากการฝึกให้ลูกพูด แสดงออก หรือโต้ตอบแล้ว อีกหนึ่งสิ่ง

ที่สำคัญในการสื่อสารคือ การให้ความเคารพคู่สนทนา การมีมารยาท

การรู้จักตีความนัยแฝงต่าง ๆ ในบทสนทนา เพื่อให้ลูก ๆ ได้ฝึกการเป็นทั้ง

ผู้ฟังและผู้พูดที่ดีอีกด้วยค่ะ

.

2.ทักษะการทำงานเป็นทีมและการทำงานร่วมกับผู้อื่น

เด็กๆ หลายคนถนัดที่จะทำบางสิ่งคนเดียวและในหลาย ๆ ครั้ง

เด็กบางคนสามารถทำทุกสิ่งคนเดียวได้อย่างดีเยี่ยม แต่ในอนาคตต

ของการทำงานจริง เขาต้องทำร่วมกับคนอื่นอย่างแน่นอนค่ะ

และเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการทำงานร่วมกับผู้อื่นในอนาคต

ควรฝึกทักษะนี้ให้เด็กๆ ได้ลองตั้งแต่ตอนนี้ เพื่อลดปัญหา

การทำงานเป็นทีมของลูก ๆ ในอนาคตค่ะ

.

3.ทักษะการแก้ไขปัญหาและคิดวิเคราะห์

ในอนาคตเด็ก ๆ ต้องประสบพบเจอกับปัญหาและอุปสรรคมากมาย

ไม่ใช่แค่ในการทำงาน แต่ยังรวมถึงในชีวิตประจำวันอีกด้วยค่ะ

การแก้ไขปัญหาอย่างเป็นลำดับขั้นตอน จึงเป็นส่วนสำคัญอย่างมาก

สำหรับเด็กค่ะ นอกเหนือจากการฝึกผ่านเกม หรือการถามตอบแล้ว

คุณพ่อคุณแม่ยังสามารถฝึกได้ง่าย ๆ ด้วยการปล่อยให้เขาแก้ไขปัญหา

ที่เกิดขึ้นในแต่ละวันโดยธรรมชาติด้วยตัวของพวกเขาเอง ไม่พยายาม

ช่วยหรือแก้ไขทุกอย่างให้กับเขา

.

4.ทักษะการตัดสินใจ

เด็ก ๆ หลายคนเติบโตมาด้วยความลังเลในใจอยู่เสมอ ไม่สามารถ

ตัดสินหลายสิ่งหลายอย่างด้วยตัวเองได้ค่ะ สิ่งที่สำคัญอีกอย่างของ

การฝึกทักษะนี้แล้ว ความสัมพันธ์หรือการปฏิบัติของพ่อแม่ต่อลูกเอง

สามารถทำให้ลูก ๆ มีอิสระในการบ้างไหม? เราให้โอกาสเขาได้

ตัดสินใจอะไรด้วยตัวเองบ้างหรือเปล่า? รายละเอียดเล็ก ๆ น้อยเหล่านี้

ล้วนมีผลในการสร้างทักษะและความกล้าในการตัดสินใจของเขา

ตลอดจนความรู้สึกเคารพและเชื่อมั่นในตัวเองของลูกๆด้วยค่ะ

.

5.ทักษะความคิดสร้างสรรค์

การมีทักษะความคิดสร้างสรรค์สามรถช่วยกระตุ้นทักษะหรือความ

สามารถของเด็กในการแก้ไขปัญหา ในการหาทางออกใหม่ ๆ ให้กับ

ปัญหาที่เด็ก ๆ ไม่เคยเจอมาก่อน หรืออาจไม่มีทางแก้ที่น่าพึงพอใจ

ในการฝึกทักษะนี้ให้เด็ก ๆ หัวใจสำคัญคือ การปล่อยให้เขาได้

คิดนอกกรอบ คิดจากศูนย์ หรือคิดในแบบที่เขาอาจไม่เคยคิดมาก่อน

หรือไม่จำเป็นต้องคิดตามใคร ๆ ขอแค่คุณพ่อคุณแม่เปิดโอกาสให้ลูก ๆ

ได้ลองเป็นตัวเองหรือก้าวออกนอกกรอบบ้าง จะสามารถเป็นก้าวที่

สำคัญในการสร้างเสริมทักษะความคิดสร้างสรรค์ของพวกเขา

และเป็นก้าวเล็ก ๆ สู่ก้าวใหญ่ในสิ่งที่เด็ก ๆ ปรารถนาที่จะทำหรือ

ยึดเป็นอาชีพในอนาคตได้อีกด้วยค่ะ

.

ความสำเร็จยอมไม่อาจพึ่งพาเพียงแค่ Hard Skills ของพวกเขา

แต่ยังต้องพึ่งพา Soft Skills ต่าง ๆ เพื่อทำงานร่วมกับคนอื่น เพื่อ

เป็นผู้นำ เพื่อคิดวิเคราะห์ สร้างสรรค์ จัดการบริหารภาระงานของ

ตัวเอง ตลอดจนต่อยอดในสิ่งต่าง ๆ

.

ที่มา : Know-are

.

#THESTUDYTIMES

#TeenAgeNewsAgency

#สำนักข่าววัยเรียน

#GuidetoLearning

#NewsFeed

#KitNew

#คิดนิว

#ความคิดใหม่เริ่มได้ที่นี่

เมื่อวานนี้ (4 เมษายน 2566) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (ธนาคารกรุงไทย) ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงกับ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) และ บริษัท PTT International Trading Pte Ltd ประเทศสิงคโปร์ (PTTT ถือหุ้น 100% โดย ปตท.) ในการเข้าทำสัญญาอนุพันธ์ป้องกันความเสี่ยงเชื่อมโยงคาร์บอนเครดิต หรือ Carbon Credit Linked Derivatives

.

ซึ่งนับเป็นนวัตกรรมใหม่ของตลาดทุนไทย ที่ธนาคารได้ออกแบบและพัฒนาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการด้านการบริหารความเสี่ยงทางการเงินของ ปตท. รวมถึงเป็นการส่งเสริมเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของทั้งสองบริษัท นอกจากนี้ยังช่วยพัฒนาตลาดการซื้อขายคาร์บอนเครดิตระหว่างองค์กรในประเทศ โดย PTTT ประเทศสิงคโปร์ จะทำหน้าที่เป็นผู้จัดหาคาร์บอนเครดิตที่มีมาตรฐานให้เพื่อใช้สำหรับลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในกิจกรรมต่าง ๆ ในอนาคต นอกจากนี้ ข้อตกลงยังครอบคลุมถึงการบรรลุเป้าหมายด้าน ESG ของ ปตท.

.

นายรวินทร์ บุญญานุสาสน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารกรุงไทย ในฐานะธนาคารพาณิชย์ชั้นนำของประเทศ มุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่มในทุกมิติ โดยให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) และเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) ของ United Nations Development Programme (UNDP)

.

โดยเฉพาะด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นทิศทางที่ผู้บริโภค และธุรกิจทั่วโลกให้ความสำคัญ โดยล่าสุดธนาคารลงนามบันทึกข้อตกลงกับ ปตท. และ บริษัท PTTT ประเทศสิงคโปร์ ในการเข้าทำสัญญาอนุพันธ์เพื่อป้องกันความเสี่ยงทางการเงิน (Derivatives) ที่เชื่อมโยงกับคาร์บอนเครดิต (Carbon Credit Linked Derivatives) เป็นครั้งแรกในประเทศไทย

.

นอกจากนี้ข้อตกลงยังครอบคลุมถึงการบรรลุเป้าหมายด้าน ESG ถือเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นพัฒนาและการเป็นผู้นำตลาด ESG Financial Solution ของธนาคาร ตอบโจทย์เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) ในด้านการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ส่งเสริมการบริโภคและการผลิตอย่างมีความรับผิดชอบ และสร้างความร่วมมือเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน รวมถึงมุ่งเน้นการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ก้าวสู่การเป็นองค์กรที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions)

.

“ธนาคารยังคงเดินหน้าพัฒนานวัตกรรมด้านตลาดทุน และนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการทางการเงินให้กับลูกค้าอย่างครบวงจร และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ตอบโจทย์โลกธุรกิจยุคใหม่ที่มีความผันผวน และเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เสริมศักยภาพธุรกิจ และเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนต่อไป”

.

นางสาวพรรณนลิน มหาวงศ์ธิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในสถานการณ์เศรษฐกิจโลกปัจจุบันที่มีความผันผวนอันเนื่องมาจากปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ เงินเฟ้อและนโยบายการบริหารจัดการดอกเบี้ยของแต่ละประเทศ ปตท. มีนโยบายการบริหารความเสี่ยงจากความผันผวนทางการเงินด้วยวิธี Natural Hedge รวมทั้ง มีการใช้เครื่องมือการบริหารความเสี่ยงเมื่อมีจังหวะและสถานการณ์ที่เหมาะสม

.

โดยธุรกรรมนี้จะเป็นครั้งแรกที่มีการเชื่อมโยงคาร์บอนเครดิต ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมของตลาดทุนเพื่อส่งเสริมการบริหารจัดการทางการเงินให้กับองค์กรตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนของโลกยุคปัจจุบัน รวมถึงสนับสนุนให้ทั้ง 3 องค์กรมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนประเทศไทยให้บรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions)

.

“การลงนามบันทึกข้อตกลง Carbon Credit Linked Derivatives ระหว่างธนาคารกรุงไทย ปตท. และ PTTT ในครั้งนี้ จะมีส่วนสนับสนุนกลยุทธ์ “ปรับ เปลี่ยน ปลูก” ของ ปตท. ที่ตั้งเป้าความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี 2040 และ การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี 2050 ซึ่งเร็วกว่าเป้าหมายของประเทศ ด้วยการทำงานเชิงรุก ปรับกระบวนการผลิต ค้นคว้าพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ พร้อมทั้งเปลี่ยนสู่ธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พลังงานสะอาด ธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อส่งเสริมและสร้าง EV Ecosystem ในประเทศ รวมทั้งธุรกิจใหม่ที่ไกลกว่าพลังงาน ตลอดจนเพิ่มปริมาณการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการปลูกป่าเพิ่ม 2 ล้านไร่ โดยแบ่งเป็น ปตท. 1 ล้านไร่ และความร่วมมือของบริษัทในกลุ่ม ปตท. อีก 1 ล้านไร่ ภายในปี 2030 อีกด้วย”

.

นายพงษ์พันธุ์ อมรวิวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า PTT International Trading Pte Ltd (PTTT) ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ ปตท. เป็นผู้นำในการพัฒนาและมีความพร้อมในการดำเนินธุรกิจการค้าคาร์บอนเครดิต ทั้งในรูปแบบ Over The Counter และตลาด Exchange ทำให้สามารถเข้าถึงและขยายขอบเขตการค้าคาร์บอนเครดิตได้อย่างกว้างขวาง เพื่อให้ได้มาซึ่งคาร์บอนเครดิตที่มีมาตรฐาน และได้รับการยอมรับในระดับสากล

.

สำหรับการซื้อขายคาร์บอนเครดิตที่เชื่อมโยงในธุรกรรมครั้งนี้ จะเป็นต้นแบบในการพัฒนาตลาดสัญญาซื้อขายคาร์บอนเครดิตที่เชื่อมโยงกับอนุพันธ์เพื่อป้องกันความเสี่ยงทางการเงินหรือผลิตภัณฑ์ทางการค้าอื่น ๆ ต่อไป ทั้งนี้ กลุ่ม ปตท. มุ่งมั่นและพร้อมเป็นกำลังสำคัญร่วมกับองค์กรต่าง ๆ ในการขับเคลื่อนประเทศสู่สังคมคาร์บอนต่ำ ผ่านการดำเนินงานในทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม เพื่อบรรลุเป้าหมาย การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในระดับประเทศต่อไป

.

#THESTUDYTIMES

#TeenAgeNewsAgency

#สำนักข่าววัยเรียน

#GuidetoLearning

#NewsFeed

#KitNew

#คิดนิว

#ความคิดใหม่เริ่มได้ที่นี่

ขอแสดงความยินดีกับ

.

นายภคนันท์ ทัศนาภิรมย์ ชั้น ม.5 ห้อง 341 และ นายกษิดิ์เดช อิ้วศรีสกุล ชั้น ม.5 ห้อง 824 จากโรงเรียนโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา นักเรียนทุน พสวท. รุ่นที่ 38

เข้ารับพระราชทานถ้วยรางวัลชนะเลิศ (Top Award) จากการประกวดโครงงานของนักวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์ ครั้งที่ 25 (YSC 2023) จากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีฯ ในงานประชุมวิชาการประจำปี สวทช. ครั้งที่ 18

(18th NSTDA Annual Conference: NAC2023) ภายใต้หัวข้อ

.

สวทช. : ขุมพลังหลัก วทน. เร่งการขับเคลื่อนโมเดลเศรษฐกิจ BCG สู่ความยั่งยืน

(NSTDA: STI powerhouse to drive BCG economy for Thailand's sustainable development)

.

จัดโดย สวทช. ณ ศูนย์ประชุมอุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย

.

โดยนักเรียนคนเก่งทั้งคู่นั้นก็จะได้รับสิทธิ์ในการเป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมการประกวด

ในงาน Regeneron ISEF 2023 ณ Dallas, Texas, USA ระหว่างวันที่ 13 - 21 พฤษภาคม 2566

.

#THESTUDYTIMES #TeenAgeNewsAgency #สำนักข่าววัยเรียน

#GuidetoLearning #NewsFeed #KitNew #คิดนิว #ความคิดใหม่เริ่มได้ที่นี่

1. Work and Travel หรือ WaT
เริ่มที่โครงการแรก ที่หลาย ๆ คนอาจจะรู้จักกันดีอยู่แล้ว เพราะเป็นโครงการแลกเปลี่ยนยอดฮิต ได้ทั้งฝึกภาษา เรียนไปด้วย ทำงานด้วย ในระยะเวลา 4 เดือนที่ประเทศสหรัฐอเมริกา จบระยะเวลาโครงการแล้ว สามารถเที่ยวต่อได้อีก 1 เดือนหลังวีซ่าหมดอายุ แค่มีอายุระหว่าง 18–28 ปี เกรดเฉลี่ย 2.00 ขึ้นไปก็สามารถยื่นสมัครได้ โครงการแลกเปลี่ยนนี้จะเปิด 2 รอบต่อปี มีช่วง Spring คือเดือน มีนาคม-กรกฎาคม และ Summer คือเดือน พฤษภาคม-กันยายน งานที่ไปทำจะเป็นงานบริการ งานโรงแรม สวนสนุก ร้านอาหารฟาสฟู้ด และอื่น ๆ ได้ไปทำงานต่างประเทศ ได้ใช้ภาษาอังกฤษ รับรองว่าคุ้มค่าแน่นอน 

2. WWOOF
ชื่อโครงการ WWOOF นั้น ย่อมาจาก World Wide Opportunities on Organic Farms หรือ Willing Workers on Organic Farms นั่นเองค่ะ โครงการแลกเปลี่ยนไปเป็นอาสาสมัครในฟาร์ม เลือกได้ 60 ประเทศทั่วโลก เช่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ฝรั่งเศส สวิสเซอร์แลนด์ เยอรมัน ญี่ปุ่น เวียดนาม มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ เป็นต้น สำหรับใครที่รักธรรมชาติ รักทุ่งหญ้าและเหล่าสัตว์น้อยใหญ่ อยากไปเป็นอาสาสมัครที่ต่างประเทศ โครงการแลกเปลี่ยนนี้ก็ถือว่าน่าสนใจมาก เพราะนอกจากจะได้ลองไปทำงานในฟาร์มต่างประเทศแล้ว ก็ยังได้ที่พักฟรี และอาหารฟรีด้วย สามารถไปเที่ยวต่างประเทศ ได้เรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่นไปพร้อม ๆ กัน 

3. SERVAS
เป็นโครงการแลกเปลี่ยนที่ก่อตั้งโดยองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร เป็นอาสาสมัครที่สามารถไปเรียนรู้วัฒนธรรมของคนในท้องถิ่นและได้พักกับ Host เป็นคนในประเทศนั้น ๆ ทำให้ได้เรียนภาษาและเรียนรู้วัฒนธรรมของประเทศนั้น ๆ ไปพร้อมกัน นอกจากจะสามารถไปอาศัยอยู่กับ Host แล้ว ก็สามารถสมัครเป็น Host เองได้อีกด้วย เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนภาษาและวัฒนธรรมให้แก่คนต่างชาติ อารมณ์เหมือนได้ไปนอนค้างบ้านญาติในต่างประเทศ ใครที่จะอยากเข้าร่วมสามารถสมัครสมาชิกได้เลย 

4. Workaway
โครงการแลกเปลี่ยน ให้ไปเป็นอาสาสมัครที่ไม่มีค่าจ้าง เหมาะสำหรับหาประสบการณ์การทำงาน หรือฝึกงาน และมีโอกาสได้ไปต่างประเทศ คล้าย ๆ กับโครงการ WWOOF แต่งานที่สามารถเลือกไปเป็นอาสาสมัครมีหลากหลายมากกว่า อย่างเช่นครูสอนภาษา เลี้ยงสุนัข ทำงานอื่น ๆ จิปาถะทั่วไป แลกกับที่อยู่และอาหารฟรี โดยที่จะสามารถไปอาศัยกินอยู่ที่บ้านโฮส สามารถเลือกได้ 170 ประเทศทั่วโลก อยากไปทำงานต่างประเทศที่ไหนก็จิ้มเอาเลย!

5. Au-Pair
โครงการแลกเปลี่ยน ที่ทำให้ได้ไปเป็นพี่เลี้ยงเด็กในต่างประเทศ โดยที่จะต้องไปอาศัยอยู่กับโฮส 1-2 ปี เป็นโครงการแลกเปลี่ยนที่ได้เงินค่าจ้างแถมได้ลองใช้ชีวิตในต่างประเทศแบบถูกกฎหมาย ใครที่อยากเรียนไปด้วยทำงานไปด้วย ก็สามารถสมัครเรียนต่อได้ แอบกระซิบว่าค่าจ้างของพี่เลี้ยงเด็กในต่างประเทศนั้นแพงมาก ๆ ใครที่ชอบทำงานร่วมกับเด็ก และอยากลองฝึกภาษา ต้องลองไปสมัครเลย ได้ประสบการณ์กลับมาเยอะแน่นอน t

6. Work & Holiday หรือ WaH
โครงการแลกเปลี่ยนไปทำงานที่ต่างประเทศ คล้าย ๆ โครงการ Work and Travel แต่สามารถเลือกไปออสเตรเลียหรือนิวซีแลนด์เป็นเวลา 1 ปี ได้ เพื่อน ๆ ที่เรียนจบมหาวิทยาลัยแล้ว ไม่รู้จะไปที่ไหนต่อ ก็ลองสมัครไปโครงการนี้ได้ ได้เก็บประสบการณ์การทำงาน ได้ใช้ภาษา ฝึกสกิลการเอาตัวรอด และได้ลองใช้ชีวิตในต่างประเทศด้วย เผื่อใครที่อยากย้ายประเทศ ลองไปสมัครโครงการนี้ดูก่อน ซ้อมไปอยู่ต่างประเทศ จะได้รู้ว่าถ้าย้ายประเทศแล้วจะสามารถอยู่ได้ไหม แต่ต้องมีผลสอบวัดระดับภาษา TOEFL หรือ IELTS ด้วย 

7. Work and Study
โครงการแลกเปลี่ยนที่สามารถเรียนและทำงานเก็บประสบการณ์ไปพร้อม ๆ กัน ได้ฝึกภาษาแบบเน้น ๆ เลือกไปได้ 8 ประเทศ มีเวลาการทำงานจำกัด สามารถแบ่งเวลาเรียนและทำงานได้อย่างลงตัว ไม่ต้องห่วงเรื่องการจัดการเวลาหรือการปรับตัวเท่าไหร่ ใครที่อยากลองไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน หรือเรียนต่อต่างประเทศ และสามารถทำงานไปด้วยได้ โครงการนี้เป็นอีกหนึ่งโครงการที่น่าสนใจ 

8. AIESEC
โครงการอาสาสมัครที่มีโอกาสได้ไปต่างประเทศในระยะเวลาสั้น ๆ 6-8 สัปดาห์ มีสมาชิก 126 ประเทศทั่วโลก จุดประสงค์ของโครงการ จัดตั้งขึ้นมาเพื่อพัฒนาความเป็นผู้นำของเยาวชนระดับโลก มีกิจกรรมให้ทำหลากหลาย อย่างการสอนหนังสือ ทำงานในร้านกาแฟ ทำให้ได้ใช้ภาษาและ มีโอกาสได้ไปต่างประเทศเป็นโครงการสำหรับนักศึกษามหาวิทยาลัยเท่านั้น และต้องสมัครสมาชิก 

9. Internship & Training
สำหรับน้อง ๆ ที่เรียนจบมหาวิทยาลัยแล้ว อยากได้ประสบการณ์ในการฝึกงาน ต้องไปโครงการนี้เลย เป็นโครงการแลกเปลี่ยนที่ให้โอกาสไปฝึกงานในประเทศสหรัฐอเมริกาสำหรับนักศึกษา ช่วยพัฒนาทักษะภาษา ได้ไปฝึกงานในสายอาชีพที่เรียนมา หรือจะเลือกสายอาชีพอื่นก็ได้ และสามารถเที่ยวต่อได้อีก 1 เดือนก่อนกลับประเทศ ได้ครบทั้งประสบการณ์ เที่ยว ฝึกภาษา ใครที่ทำงานแล้วก็สมัครได้ แต่ต้องมีประสบการณ์ในสายงานนั้น ๆ 5 ปีขึ้นไป 

10. HelpX
โครงการอาสาสมัครช่วยงานในท้องถิ่น เช่น งานในฟาร์ม ที่พัก โฮมสเตย์ ทำงานวันละ 3-6 ชั่วโมง มีโอกาสได้ไปประเทศออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ แคนาดา ฝรั่งเศส โครงการนี้ก็เป็นอีกหนึ่งโครงการที่ทำให้มีโอกาสไปต่างประเทศแบบไม่ต้องใช้งบเยอะ คล้าย ๆ กับ WWOOF ที่ทำงานให้โฮสเพื่อแลกกับที่อยู่อาศัยและอาหารฟรี แต่มีงานที่หลากหลายกว่า ใครที่อยากไปสามารถสมัครสมาชิกเพื่อเข้าร่วมโครงการได้เลย 

11. Work on Cruise
โครงการที่ทำให้มีโอกาสได้ไปทำงานเป็นลูกเรือ บนเรือสำราญในต่างประเทศ ใครที่ชอบงานบริการ เงินดี ต้องลองสมัคร ได้ใช้ภาษาในการทำงาน และมีโอกาสได้ไปใช้ชีวิตในต่างประเทศ ย้ายประเทศไปเรื่อย ๆ ได้ตามเส้นทางการเดินเรือ ไม่ต้องจบมหาวิทยาลัยก็สามารถสมัครได้ บอกเลยว่าเงินดีมาก ๆ! ถ้าใครที่มีประสบการณ์การทำงานบริการหรืองานโรงแรม และเก่งภาษา ก็จะเพิ่มโอกาสให้ได้งานสูง

ที่มา educazy

การแข่งขัน แบดมินตัน รายการ โยเน็กซ์ สวิส โอเพ่น 2023 ทัวร์นาเมนต์ระดับเวิลด์ทัวร์ 300 ที่เซนต์จาค็อบ ชาลเล่ เมืองบาเซิ่ล ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ประเภทหญิงเดี่ยว รอบชิงชนะเลิศ "หมิว" พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ นักตบลูกขนไก่ชาวไทย มืออันดับ 11 ของโลก ลงสนามพบกับ เมียร์ บลิดเฟลดท์ มืออันดับ 23 ของโลกจากเดนมาร์ก ซึ่งคู่นี่สถิติที่ผ่านมาเจอกันทั้งหมด 2 ครั้ง เป็นทางด้าน พรปวีณ์ ที่เก็บชัยได้หมด

เกมแรก นักตบลูกขนไก่ชาวไทย เป็นฝ่ายทำได้ดีในช่วงต้นออกนำก่อน 8-6 แต่ เมียร์ บลิดเฟลดท์ ก็พลิกสถานการณ์แซงนำ 9-8 ทั้งคู่สู้กันได้อย่างสนุกก่อนเสมอกัน 15-15 ก่อนที่ในช่วงท้าย พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ จะคุมเกมเอาชนะไปได้ก่อน 21-16 ขึ้นนำ 1-0 เกม

เกมสอง นักตบลูกขนไก่เดนมาร์ก ออกมาเล่นได้อย่างยอดเยี่ยมออกนำก่อน 8-5 จากนั้นก็รักษาระยะห่างฉีกนำ 17-13 แต่ "หมิว" ไม่ยอมง่ายๆ เล่นด้วยความมุ่งมั่นตบทำ 6 แต้มรวด พลิกกลับมานำ 19-17 ก่อนปิดแมตช์เอาชนะไปได้ 21-18 คว้าชัย 2-0 เกม ใช้เวลาแข่งขัน 47 นาที

สำหรับการคว้าแชมป์ในครั้งนี้ของ พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ ถือเป็นการหยิบแชมป์เวิลด์ทัวร์ รายการที่ 2 ต่อจากรายการ บาร์เซโลน่า สเปน มาสเตอร์ส ในปี 2020 และถือเป็นนักแบดมินตันชาวไทยคนที่ 2 ในรอบ 64 ปี ที่สามารถคว้าแชมป์สวิส โอเพ่น 2023 ต่อจาก ประเทือง ปัตตพงศ์ ในปี 1959

ที่มา : สนุก

ผ่า "เกณฑ์" น่าสนใจ รอบ 3 Admission จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

1. คณะที่เปิดให้เลือกใช้คะแนน  A-Level  ภาษาต่างประเทศได้ น้องๆ สามารถใช้ "ภาษาสเปน" ที่เปิดสอบปีนี้เป็นปีแรกได้เช่นกัน โดยใช้ยื่นได้ทุกคณะยกเว้น คณะนิเทศศาสตร์-คณะนิติศาสตร์

2. ทุกคณะมีการกำหนด GPAX ขั้นต่ำ ซึ่งในรอบนี้จะใช้เกรด 6 เทอมแล้ว  แต่มีเพียง 5 คณะที่ไม่กำหนดเกรดขั้นต่ำ คือ คณะวิทยาศาสตร์, คณะรัฐศาสตร์, คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี, คณะครุศาสตร์ สาขาวิชามัธยมศึกษา (มนุษยศาสตร์/สังคมศาสตร์) เอกภาษาไทย, คณะนิติศาสตร์

3. คณะวิศวกรรมศาสตร์ และคณะวิทยาศาสตร์ ทุกสาขาวิชากำหนดใช้คะแนน TPAT3 ซึ่งคณะวิทยาศาสตร์นั้น ใช้เป็นค่าน้ำหนักถึง 80%

4. ปีที่แล้วคณะรัฐศาสตร์ ใช้เกณฑ์เป็น GAT/PAT แต่ปีนี้ปรับมาใช้เป็น TGAT และ คะแนน A-Level   (สังคมศึกษา + ภาษาอังกฤษ + ภาษาต่างประเทศ/คณิตศาสตร์ประยุกต์ 2)  

5. คณะนิเทศศาสตร์ มีเปิดรับด้วยรูปแบบที่ใช้คะแนน A-Level  คณิตศาสตร์ประยุกต์ 1 และ 2 แบบแยกจำนวนรับ (เดิมเป็น PAT1, PAT2)

6.คณะอักษรศาสตร์ เลือกสอบวิชาคณิตศาสตร์ จากเดิมใช้คะแนน PAT1 ปรับมาเป็นใช้ A-Level วิชาคณิตศาสตร์ประยุกต์ 2

7. คณะจิตวิทยา เปิดรับ 3 รูปแบบเหมือนเดิมจากปีที่แล้ว แต่ปรับการใช้วิชาสอบจาก PAT1, PAT2 เป็น A-Level คณิตศาสตร์ประยุกต์ 1 + ชีววิทยา/วิทยาศาสตร์ประยุกต์

8. คณะนิติศาสตร์ มีเปิดรับด้วยรูปแบบที่ใช้คะแนน A-Level  คณิตศาสตร์ประยุกต์ 2 และเพิ่มการรับภาษาเกาหลี  เข้ามา

9. คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ใช้เกณฑ์เดิมทุกสาขาวิชา คือ ใช้ TPAT4 (PAT4 เดิม) + A-Level อังกฤษ คณิตศาสตร์ 1 และฟิสิกส์

10. ระวัง! เกณฑ์ขั้นต่ำรวม หมายความว่า บางสาขาอาจกำหนดขั้นต่ำว่าเมื่อรวมคะแนนทุกวิชาแล้ว จะต้องได้ไม่ต่ำกว่ากี่คะแนน เช่น หากคะแนนรวมเต็ม 100 คะแนน หากกำหนด 50% ก็จะต้องได้คะแนนมากกว่า 50 คะแนน เป็นต้น ปีนี้ คณะวิศวกรรมศาสตร์นั้นไม่ได้กำหนด แต่คณะที่มีการกำหนดคือ  

* คณะครุศาสตร์ สาขาวิชาประถมศึกษา กำหนดคะแนนรวมไม่ต่ำกว่า 50%

* ครุศาสตร์ สาขาวิชามัธยมศึกษา (มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์) วิชาเอกสังคมศึกษา กำหนดขั้นต่ำคะแนนรวม 50%

* ครุศาสตร์ สาขาวิชามัธยมศึกษา (มนุษยศาสตร์/สังคมศาสตร์) วิชาเอกภาษาไทย กำหนดขั้นต่ำคะแนนรวม 60%

* เศรษฐศาสตร์ กำหนดขั้นต่ำคะแนนรวม 40%

* นิติศาสตร์ กำหนดขั้นต่ำคะแนนรวม 50%

ที่มา : เด็กดี

แนะ 4 วิธีเรียนต่อตปท. ใช้เงินไม่เยอะ แถมได้เงินด้วย

1.เลือกไปเรียนต่อเมืองเล็ก ๆ ประหยัดกว่า 

ค่าเรียนภาษาที่ต่างประเทศทุกประเทศ เมืองใหญ่ ๆ อย่าง London, Toronto, Sydney ค่าเรียนภาษาจะแพงกว่าเมืองเล็ก ๆ อย่าง Brighton, Kent เป็นต้น อีกสิ่งที่สำคัญคือ “ ค่าครองชีพ ” เมืองเล็ก ๆ ค่าครองชีพจะถูกกว่า ไม่ว่าจะเป็นค่าอาหาร ค่าที่พัก ทำให้เราประหยัดเงินไปได้หลักหมื่นต่อเดือนเลยทีเดียว แถมโปรโมชันส่วนลดค่าเล่าเรียนที่เมืองใหญ่ ๆ ก็ลดน้อยกว่าเมืองเล็ก

2.เลือกเรียนสถาบันที่มีโปรโมชันส่วนลดเยอะที่สุด

เนื่องจากสถาบันสอนภาษาในต่างประเทศมีเยอะมาก แต่ละสถาบันต่างแข่งขันกันออกโปรโมชันมาตลอด เราควรศึกษาหาข้อมูลว่าช่วงที่เราจะไปเรียนมีโปรโมชันของที่ไหนลดเยอะที่สุด บางทีนอกจากจะมีส่วนลดให้แล้ว ยังมีแถมสัปดาห์เรียนฟรีให้อีก

3.ยิ่งเรียนนาน ค่าเรียนยิ่งถูก!

สำหรับการไปเรียนภาษาระยะเวลาเรียนคือสิ่งสำคัญค่ะ ยิ่งเราเลือกเรียนหลายสัปดาห์ค่าเรียนจะยิ่งถูกลง เช่น ถ้าเราเลือกเรียน 1-4 สัปดาห์ ค่าเรียนจะอยู่ที่สัปดาห์ละ 10,xxx บาท แต่ถ้าเราเรียนสัปดาห์ที่ 5 ค่าเรียนจะลดลงมาเหลือสัปดาห์ละ 9,xxx บาท 

ทั้งนี้พี่ ๆ  แนะนำว่าการเรียนภาษาที่ต่างประเทศ ระยะเวลาประมาณ 3-6 เดือนเป็นช่วงเวลาที่เรียกว่า “กำลังดี” เพราะในช่วงแรก ๆ น้อง ๆ จะต้องมีช่วงของการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ เวลา 3-6 เดือนจึงเรียกได้ว่าไม่สั้นเกินไป และเมื่อเราปรับตัวได้แล้วการเรียนภาษาที่ต่างประเทศของเราก็จะคุ้มค่าที่สุดเลยค่ะ

4.ทำงาน Part time หาค่าขนมระหว่างเรียน

การไปเรียนภาษาที่ต่างประเทศ มีประเทศที่เปิดโอกาสให้นักเรียนสามารถทำงาน Part time ระหว่างเรียนได้อย่างถูกกฎหมายคือที่ Australia และ New Zealand ค่ะ ซึ่งงาน Part time นี้ก็มีหลายประเภทเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นพนักงานเสิร์ฟ, พนักงานร้านฟาสต์ฟู๊ด, พนักงานขาย, พนักงานร้านกาแฟ หรือแม้แต่พนักงานที่ทำงานในสวนสนุกค่ะ นอกจากจะได้เงินตอบแทนค่าเหนื่อยแล้ว งาน Part time ยังช่วยให้น้อง ๆ ได้ฝึกภาษากับเจ้าของภาษาด้วยค่ะ ถือว่าเป็นงานที่คุ้มแสนคุ้มเลยค่ะ

ที่มา : Hands On

มาแล้วจ้าทุนเรียนต่อชั้นมัธยมศึกษาประเทศสิงคโปร์ สำหรับน้อง ๆ คนไหนที่กำลังมองหาทุนเรียนต่อ ตอนนี้ ‘ASEAN Scholarship for Thailand’ ประจำปี 2023 เปิดรับสมัครแล้วจ้า!!

กระทรวงศึกษาธิการประเทศสิงคโปร์ (MOE) มอบทุนการศึกษา “ASEAN Scholarships” เพื่อให้นักเรียนจากประเทศในกลุ่มอาเซียนและประเทศจีนได้เข้ามาเรียนต่อระดับมัธยมศึกษา (Secondary Schools) หรือระดับเตรียมมหาวิทยาลัย (Junior Colleges) ณ สถานศึกษาในประเทศสิงคโปร์ โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภททุน คือ ระดับ Secondary 3 ระยะเวลารับทุน 4 ปี เรียนต่อที่ Secondary School ในสิงคโปร์ (เทียบเท่า ม.3 - ม.6) คุณสมบัติของผู้สมัครทุน สัญชาติไทย เกิดระหว่างวันที่ 2 มกราคม 2007 – 1 มกราคม 2010 , เกรดเฉลี่ย 3.00 ขึ้นไป , มีทักษะภาษาอังกฤษดี , เคยเข้าร่วมกิจกรรมนอกหลักสูตร และระดับ Pre-University รับทุน 2 ปี เรียนต่อ Junior College ในสิงคโปร์ (เทียบเท่า ม.5 - ม.6)

- คุณสมบัติของผู้สมัครทุน สัญชาติไทย เกิดระหว่างวันที่ 2 มกราคม 2005 - 1 มกราคม 2007, เกรดเฉลี่ย 3.00 ขึ้นไป , มีทักษะภาษาอังกฤษดี , เคยเข้าร่วมกิจกรรมนอกหลักสูตร

- รับสมัครทางออนไลน์ที่ https://isams.moe.gov.sg/azs/index.do?schmCat=ASEANตั้งแต่วันนี้ ถึง 26 เมษายน 2023

ที่มา : เพจ Dek-D

สำหรับน้องๆ หรือคุณพ่อคุณแม่ ที่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเรียนที่ไหน วันนี้เรามีอีกหนึ่งตัวเลือกมาแนะนำค่ะ เป็นห้องเรียนพิเศษ ICT / AI ม.1และม.4 ของโรงเรียนวชิรธรรมสาธิต ห้องเรียนนี้สอนด้วย จอ Interactive ทุกวิชา มีการเรียนภาษาที่ 3 โดย ม.1 จะเรียนภาษาจีน ม.2เรียนภาษาญี่ปุ่น ม.3เรียนภาษาฝรั่งเศส วิชาที่เรียนเพิ่มเติม เฉพาะห้อง ICT, AI มีวิชา Icreation 3D ซึ่งเป็นการออกเเบบโมเดล 3มิติ,วิชา Ai เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ เกี่ยวกับ การเขียนเกม เขียนเวป ซึ่งวัยรุ่นน่าจะชอบ รวมถึงการจัดศึกษาดูงานทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตอนนี้รับสมัครห้องเรียนพิเศษรอบ 2 ม.1เเละ ม.4

ตั้งแต่วันนี้ ถึง 30 มีนาคม 2566 และสอบในวันที่ 31 มีนาคม 2566 สำหรับผู้ปกครองหรือน้องๆ ที่สนใจ สามารถเข้าไปสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Fb : โรงเรียนวชิรธรรมสาธิต หรือโทร.02-7462833

ที่มา : เพจ Dek-D

เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2566 ที่ผ่าน มีข้อความบน Facebook ของ ดร.โอ วรวรงค์ รักเรืองเดช ผู้อำนวยการ โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ ได้โพสต์เนื่องในเกียรติยศของโรงเรียนไว้ได้อย่างน่าสนใจ โดยมีข้อความดังนี้

.

“เกียรติยศ ไม่ได้มาจากชาติกำเนิด แต่เกิดจากการกระทำ...”

.

วันนี้เป็น “วันแห่งเกียรติยศ” เป็นวันเชิดชูเกียรติและมอบเกียรติบัตรให้นักเรียนที่สำเร็จการศึกษาโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ ดร.ไพรินทร์ ชูโชตถาวร เป็นประธานพิธี กล่าวแสดงความยินดี พร้อมกับมอบรางวัลนักเรียนดีศรีมหิดล 1 รางวัล

.

ทุกปีเราจะเชิญองค์ปาฐกมาบรรยายให้นักเรียน เพื่อแนะนำเทคนิคและสร้างแรงบันดาลใจในก้าวต่อไปในชีวิต ปีนี้ได้รับเกียรติจาก ศ.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวง อว. คุณหมอนักวิจัยลำดับต้นๆ ของประเทศ มาเผยเคล็ดลับความสำเร็จของชีวิต ต้อง “เก่ง” ต้อง “ดี” และต้อง “โชคดี” ด้วย ซึ่งโชคนั้นมาแล้วต้องพร้อมรับ หากไม่พร้อมก็จะไม่ได้มันมา หลายครั้งเราทำเต็มที่แต่ไม่สำเร็จ พลาดบ้างก็ไม่เป็นไร เพราะมันสอนให้เราได้เรียนรู้ และทำสิ่งนั้นให้ดียิ่งขึ้นได้

ปีนี้เราได้มอบรางวัลเชิดชูเกียรติ 259 รางวัล และเกียรติบัตร 240 คน

.

ผมกล่าวปัจฉิมโอวาท ให้นักเรียนใช้ “ต้นทุน” ที่ MWIT ไปสร้างสิ่งที่มีความหมายในอนาคต ไม่มองตนเอง มองเพื่อสังคม และถ้ามีโอกาสก็กลับมาช่วย MWIT ต่อไป

.

ที่พี้คสุด คือ งานเลี้ยงอาหารกลางวันโดยผู้ปกครอง มีเกมส์ มีร้องเพลง เด็ก ครู ผู้ปกครอง บรรยากาศดีมาก ช่วงสุดท้ายผู้ปกครองเดินมาขอบคุณ ด้วยการ์ดและพวงมาลัยเล็กๆ คำขอบคุณของผู้ปกครอง เป็นคำพูดที่ซาบซึ้งมากจริงๆ ทำให้ผมคิด จินตนาการMWIT รับลูกของท่านผู้ปกครองมาดูแลตั้งแต่ ม.4 ต้องยอมรับว่าเราไม่รู้จักกัน เราไม่เคยใช้เวลาด้วยกัน MWIT มีแค่พันธะสัญญาต่อรัฐบาล ต่อสังคมไทยว่า เราจะสร้างนักเรียนที่มีความพร้อมในการเรียนต่อระดับอุดมศึกษา และมีโอกาสในการพัฒนาประเทศต่อไป

.

ครูของเราทำตามหน้าที่ ที่ประชาชนจ่ายเงินเดือนให้ทำ แต่สิ่งที่มากกว่านั้น คือ ครูของเรา หลงกล “รัก” นักเรียนที่เข้ามาใหม่ เสมือน “ลูก” ไม่รู้จักกันมาก่อน แต่ก็คิดว่าเขาเหมือนลูก ก็เพราะคุณพ่อคุณแม่ของลูก ฝากให้ดูแล... เหมือนลูก ฝากไว้กับโรงเรียน ฝากไว้กับครู MWIT

ครูของเราจึงทำหน้าที่มากกว่า อาจารย์ที่สอนหนังสือ เราดูแล ตั้งแต่เช้าจรดเย็น ยันดึก แล้วตื่นมาตอนเช้า ครูผู้สอนทุ่มเทปั้นเด็กให้มีความรู้รอบด้าน ให้เก่งเฉพาะทาง สามารถสร้างองค์ความรู้ใหม่ ผ่านการทำโครงงานวิจัย เข็นให้นักเรียนกล้าคิด กล้าทำ กล้านำเสนอ ครูหอพักดูแลชีวิตในโรงเรียนประจำ ให้อยู่ดีมีสุข ครูต้องมาอยู่เวรกลางคืน วันหยุดผิดแปลกไม่เหมือนคนอื่น เวลาชีวิตเข้ากับคนอื่นไม่ได้ ทำให้บางคนก็ต้องเสียสละชีวิตครอบครัว การอยู่พร้อมหน้ากันกับที่บ้าน กับลูก เพื่อดูแลนักเรียน MWIT ครูที่ปรึกษา ดูแล LEARN & LIVE การใช้ชีวิตในโรงเรียนประจำคอยกำกับดูแลให้เรียนครบตามหลักสูตร ทำกิจกรรมให้ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน ดูแลสุขภาพกายสุขภาพใจ ทำแบบนี้กับนักเรียนต่อเนื่อง 3 ปี บ่นบ้างท้อบ้าง เหมือนที่พ่อแม่ดูแลลูก ไม่ว่าเหนื่อยแค่ไหน ก็ทำพอผู้ปกครองมาขอบคุณ ภาพความรู้สึกเหล่านั้นก็แล่นมาในหัว ซาบซึ้งในสิ่งที่ครูของเราทุ่มเทแรงกายแรงใจในการทำมาโดยตลอด นี่แหละที่เราใช้คำว่า ความผูกพันระหว่างครูกับนักเรียน ของ MWIT

.

It’s a lifetime relationship.

.

เราใส่จิตวิญญาณเข้าไปในความสัมพันธ์นี้ ในช่วงเวลาสั้น ๆ 3 ปี เพื่อที่จะทำให้มันอยู่ตลอดไป

นี่คือสิ่งที่สะท้อนถึง “คุณค่า” ที่พวกเราทุ่มเท ใส่แรงกายแรงใจลงไป คำขอบคุณจากปากของคุณพ่อคุณแม่ มีความหมายกับพวกเรามาก ขอบคุณนะครับที่ทำให้เรามีความสุข ขอบคุณที่ทำให้คำว่า “เกียรติยศ” มีความหมายที่ดียิ่งๆ ขึ้นไปสำหรับชาว MWIT

.

วรวรงค์ 25 มี.ค. 66

.

ที่มา : Facebook ดร.โอ วรวรงค์ รักเรืองเดช

.

#THESTUDYTIMES #TeenAgeNewsAgency #สำนักข่าววัยเรียน

#GuidetoLearning #NewsFeed #KitNew #คิดนิว #ความคิดใหม่เริ่มได้ที่นี่

SX Talk Series x Win Win WAR Thailand

"Exploring the Impact of Social Enterprises: From Local to Global"

.

สมัครเข้าร่วมงานฟรี! http://bit.ly/3z3zInq

.

SX ร่วมกับรายการ Win Win WAR Thailand จัดเสวนา พร้อมรับสมัครผู้เข้าเเข่งขันประกวดรายการ Win Win WAR Thailand Season 5

ในวันพุธที่ 29 มีนาคม 2566 นี้เวลา 16:30 - 18:30 น. ที่ C asean Samyarn CO-OP ชั้น 2 สามย่านมิตรทาวน์

.

ขอเชิญชวนน้องๆนักศึกษา และผู้ที่สนใจ มีข้อสงสัย อยากรู้เทคนิคการทำธุรกิจที่ได้ทั้งกำไร และมี Impact ต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม จากพี่ๆเจ้าของธุรกิจเจ๋งๆ

.

1. พี่แอ๊ด คุณพีรดา ปฏิทัศน์ ประธานแนวร่วมปฏิวัติขยะสุพรรณบุรี

- จะขยะชนิดไหน ก็สามารถนำกลับมาใช้ประโยชน์ ใช้ใหม่ สร้างรายได้เพิ่มได้! เช่น ขยะพลาสติกใส เปลี่ยนเป็นน้ำมันดิบ ลดต้นทุนเกษตรกร เพิ่มรายได้ให้กับครอบครัว

.

2. พี่ไนล์ คุณภาณุพงศ์ ธนารักษ์วุฒิกร กรรมการผู้จัดการ ATTRA GROUP

- software, hardware IoT house สุดเจ๋ง ผู้ใช้ technology มาพลิกวงการธุรกิจเพื่อสังคมด้วยผลิตภัณฑ์ เช่น ตู้ฆ่าเชื้อยืดอายุอาหาร นามบัตร electronic ลดการใช้กระดาษ จากเด็กอายุ 19 ปัจจุบันพร้อมเปิดตลาดบุกประเทศสิงคโปร์

.

3. พี่แป้ง คุณทลปภร ปัญโยรินทร์ General Manager SE Thailand สมาคมธุรกิจเพื่อสังคมที่ สร้างความร่วมมือ เชื่อมโยงธุรกิจ สื่อสารและสร้างองค์ความรู้ใหม่ ผลักดันนโยบาย พร้อมที่จะมาแชร์เทคนิคการ scale ธุรกิจในฝันให้เป็นจริง

.

ห้ามพลาด! ไม่มีค่าใช้จ่าย เพียงลงทะเบียนล่วงหน้า รับน้ำ SX Can เลยทันที!

.

#THESTUDYTIMES #TeenAgeNewsAgency #สำนักข่าววัยเรียน

#GuidetoLearning #NewsFeed #KitNew #คิดนิว #ความคิดใหม่เริ่มได้ที่นี่

Griffith University เป็นอีกหนึ่งมหาวิทยาลัยดังจากบริสเบน โดยทางสถาบันมีหลักสูตรการสอนระดับดีเลิศ ที่ได้รับรางวัลการจัดอันดับหลายสาขาวิชา Business and Economics ของมหาวิทยาลัยนี้ติดอันดับ 125 ของสาขาวิชาที่ดีที่สุดของโลก ระบบการศึกษาของ Griffith มีความยืดหยุ่นแบบที่สามารถให้นักศึกษาเลือกเรียน Diploma Course เพื่อให้การเรียนในหลักสูตรปริญญาตรี หรือโทของนักเรียนผ่านเกณฑ์ และจบการศึกษาได้อย่างราบรื่น

.

Griffith Remarkable Scholarship ทุนการศึกษานี้มีมูลค่าสูงสุด โดยทางมหาวิทยาลัย Griffith ได้จัดเตรียมทุนส่วนลดค่าเรียน 50% ให้กับนักศึกษาที่สมัครเรียนต่อปริญญาตรี หรือปริญญาโทกับมหาวิทยาลัยในปี 2023 นี้ ทุน Remarkable นี้ต้องส่งใบสมัครไปพร้อมกับเอกสารอย่าง ผลการเรียนเฉลี่ย (transcript) และจดหมาย personal statement ตามวันที่มหาวิทยาลัยกำหนด และทุนมีจำนวนจำกัด

.

เงื่อนไขในการรับทุนการศึกษา

* สำหรับนักศึกษานานาชาติที่มีผลการเรียนมัธยมที่ GPA 3.30 หรือ ปริญญาตรี GPA 3.00

* สำหรับผู้ที่สนใจเรียนต่อปริญญาตรี และโท ที่ Griffith University ในปี 2023

* สำหรับผู้ที่ได้รับ offer จากทางมหาวิทยาลัยแล้วเท่านั้น

* สำหรับผู้ที่ไม่เคยได้รับทุนการศึกษาประเภทอื่นจากมหาวิทยาลัยมาก่อน

* หมดเขตสมัครขอทุนในรอบต่อไป ดังนี้ 14 เมษายน 2023 (ผลออก 12 พฤษภาคม) และ 4 สิงหาคม 2023 (ผลออก 23 สิงหาคม) ตามเงื่อนไขที่มหาวิทยาลัยกำหนด

.

International Student Academic Excellence Scholarship ทุนส่วนลดค่าเรียน 25% สำหรับนักศึกษาที่สนใจไปเรียนต่อปริญญาตรี และปริญญาโทในปี 2023 นี้ โดยมหาวิทยาลัยจะพิจารณามอบทุนการศึกษาให้อัตโนมัติ จากผลการเรียนเฉลี่ยที่ผ่านมา เมื่อนักศึกษาทำการสมัครเรียน ไม่ต้องใช้ใบสมัครเพิ่มเติม เกณฑ์การพิจารณามอบทุนจะมาจากผลการเรียนเฉลี่ยของผู้สมัครเรียน ผลการรับทุนจะแสดงอยู่ในจดหมายตอบรับจากมหาวิทยาลัย หรือ Offer letter

.

เงื่อนไขในการรับทุนการศึกษา

* สำหรับนักศึกษานานาชาติที่มีผลการเรียนมัธยมที่ GPA 3.30 หรือ ปริญญาตรี GPA 3.00

* สำหรับผู้ที่สนใจเรียนต่อปริญญาตรี และโท ที่ Griffith University ในปี 2023

* สำหรับผู้ที่ได้รับ offer จากทางมหาวิทยาลัยแล้วเท่านั้น

* สำหรับผู้ที่ไม่เคยได้รับทุนการศึกษาประเภทอื่นจากมหาวิทยาลัยมาก่อน

.

International Student Academic Merit Scholarship ทุนส่วนลดค่าเรียน 20% สำหรับนักศึกษาที่สนใจไปเรียนต่อปริญญาตรี และปริญญาโทในปี 2023 นี้ โดยมหาวิทยาลัยจะพิจารณามอบทุนการศึกษาให้อัตโนมัติ จากผลการเรียนเฉลี่ยที่ผ่านมา เมื่อนักศึกษาทำการสมัครเรียน ไม่ต้องใช้ใบสมัครเพิ่มเติม เกณฑ์การพิจารณามอบทุนจะมาจากผลการเรียนเฉลี่ยของผู้สมัครเรียน ผลการรับทุนจะแสดงอยู่ในจดหมายตอบรับจากมหาวิทยาลัย หรือ Offer letter

.

เงื่อนไขในการรับทุนการศึกษา

* สำหรับนักศึกษานานาชาติที่มีผลการเรียนมัธยมที่ GPA 2.60 หรือ ปริญญาตรี GPA 2.70

* สำหรับผู้ที่สนใจเรียนต่อปริญญาตรี และโท ที่ Griffith University ในปี 2023

* สำหรับผู้ที่ได้รับ offer จากทางมหาวิทยาลัยแล้วเท่านั้น

* สำหรับผู้ที่ไม่เคยได้รับทุนการศึกษาประเภทอื่นจากมหาวิทยาลัยมาก่อน

.

ที่มา : hands-on

.

#THESTUDYTIMES #TeenAgeNewsAgency #สำนักข่าววัยเรียน

#GuidetoLearning #NewsFeed #KitNew #คิดนิว #ความคิดใหม่เริ่มได้ที่นี่

ที่เกาหลีตอนนี้เป็นช่วงเปิดรับสมัครของหลายมหาวิทยาลัยเลยค่ะ อย่างตอนนี้ ‘Chung-Ang University’ (중앙대학교)  (ม.จุงอัง) มหาลัยดังจากกรุงโซล ก็กำลังเปิดรับสมัครนักศึกษาใหม่ในเทอม Fall 2023 อยู่มีคณะน่าเรียนมากมาย ครอบคลุมทั้งสายวิทย์และสายศิลป์ นอกจากนี้ยังมีโอกาสได้ทุนค่าเล่าเรียนเต็มจำนวนอีกด้วย ใครไม่อยากพลาดรีบตามมาเช็กเลย ใกล้หมดเขตแล้ว!! ซึ่งเปิดรับสมัครทุนตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 14 เมษายน 2566  สำหรับคุณสมบัติของผู้สมัคร สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่า สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ http://oia.cau.ac.kr  

ที่มา : เพจ Dek-D

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี มทร.ศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง ได้คิดค้นสร้างนวัตกรรมแพลอยน้ำส่งเสริมการเกษตรขนาดย่อม (Smart Farm) เหมาะสำหรับการเกษตรแบบใหม่ โดยการนำเทคโนโลยีในการบริหารงานเกษตร ด้วยการทำการทดลอง ปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ และปลูกมะเขือเทศ ควบคู่กับการเลี้ยงปลาในกระชัง บนแพลอยน้ำที่มีขนาด แพลอยน้ำที่มีขนาด 6 x 6 เมตร โดยวัสดุส่วนใหญ่เป็นวัสดุที่เหลือใช้ จึงนำมาดัดแปลงทำเป็นแพลอยน้ำ ราคาต้นทุนพร้อมระบบติดตั้งประมาณ 28,000 บาท โดยควบคุมการให้น้ำ อาหาร และอุณหภูมิ ผ่านแอพพลิเคชั่นที่เขียนขึ้นเอง ผ่านสมาร์ทโฟน ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนขอแค่มีสัญญาณอินเตอร์เน็ตสามารถสั่งการได้หมดเหมาะกับเกษตรกรที่เป็นมือใหม่หัดปลูกและมืออาชีพที่เป็นฟาร์มได้

นายยสินทร แสงหล้า นักศึกษาชั้นปีที่ 3 สาขาวิศวกรรมไฟฟ้า กล่าวว่า ตนเองและเพื่อน ๆ ร่วมกันสร้างแพลอยน้ำนี้ขึ้นมาพร้อมกับการคิดค้นพัฒนาการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ และระบบให้อาหารปลาแบบอัตโนมัติ เพื่อเป็นการประหยัดเวลา โดยใช้เทคโนโลยีทางด้านระบบควบคุมโรงเรือนอัตโนมัติผ่าน IoT ร่วมกับพลังงานแสงอาทิตย์ 

จากการทดลองปรากฏว่าผักไฮโดรโปนิกส์มีความเจริญเติบโตได้ดี  สามารถใช้ระยะเวลาในการปลูกเหลือเพียง 25-30 วันก็สามารถเก็บผักได้แล้ว ส่วนมะเขือเทศมีผลโต ได้ผลผลิตที่มากกว่าปลูกด้วยดิน อย่างเห็นได้ชัด และใช้เวลาปลูกเพียง 2-3 เดือน รวมถึงไม่มีแมลงศัตรูพืชต่างๆมารบกวน ซึ่งนวัตกรรมแพลอยน้ำส่งเสริมการเกษตรขนาดย่อมนี้ทางนักศึกษาและมหาวิทยาลัยฯพร้อมที่จะถ่ายทอดให้เกษตรกรผู้สนใจนำไปประยุกต์ใช้กับแปลงผักหรือฟาร์มของเกษตรต่อไป 

ที่มา : แนวหน้า