Thursday, 9 May 2024
NEWS

Swap & Go และ Stallions Group พร้อมขับเคลื่อนพลังงานสะอาด พัฒนารถจักรยานยนต์ไฟฟ้าในไทย

Swap & Go จับมือ Stallions Group เดินหน้าส่งเสริมการใช้งานรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า พร้อมขยายเครือข่าย Battery Swapping ทางเลือกใหม่เพื่อสังคมไร้มลพิษ

.

นางสาวอาวีมาศ สิริแสงทักษิณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สวอพ แอนด์ โก จำกัด (Swap & Go) (ซ้าย) และนายธีรเจต ลาภจตุรพิธ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สตาเลียน มอเตอร์ไซค์เคิล จำกัด (Stallions) (ขวา) เปิดตัวโครงการความร่วมมือส่งเสริมการใช้งานรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า พร้อมขยายเครือข่าย Battery Swapping หรือสลับเปลี่ยนแบตเตอรี่ สร้างทางเลือกในการใช้พลังงานสะอาด เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของคนไทย ถือเป็นกลไกสำคัญที่สอดรับกับแผนพัฒนาประเทศ และเป็นการขยายผลจากต้นแบบการดำเนินธุรกิจในลักษณะแพลตฟอร์มและโครงสร้างพื้นฐานการสลับเปลี่ยนแบตเตอรี่ให้กับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าโดยไม่ต้องรอชาร์จของ Swap & Go ที่ได้พัฒนาแบตเตอรี่รุ่นใหม่ที่มีพลังงานสูงขึ้น รองรับการขยายตัวของผู้ใช้งานรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นในอนาคต

.

ทั้งนี้ กลุ่มบริษัท Stallions ผู้ผลิตและจำหน่ายรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าชั้นนำ ได้จับมือร่วมกับแบรนด์ TAILG ซึ่งเป็นแบรนด์จักรยานยนต์ไฟฟ้าอันดับ 3 ของจีน ที่มียอดการผลิตปีละ 12 ล้านคัน เพื่อมุ่งสร้างฐานการผลิตบนมาตรฐาน TAILG Technology เพื่อส่งออกตลาดทั้งอเมริกายุโรปและอาเซียนรวมถึงประเทศไทย รวมทั้งได้พัฒนารถจักรยานยนต์ไฟฟ้าให้สามารถใช้งานสลับแบตเตอรี่ในระบบของ Swap & Go โดยความร่วมมือนี้ เป็นการเตรียมความพร้อมในการเพิ่มจำนวนการใช้งานรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยผ่านการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจ ร่วมขับเคลื่อนและเพิ่มศักยภาพการใช้พลังงานสะอาดของประเทศ สอดรับกับวิสัยทัศน์ของกลุ่ม ปตท. ในการสร้างสรรค์นวัตกรรมพลังงานอนาคตที่ยั่งยืนร่วมกัน

สู้สุดใจ 1 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน 2 เหรียญทองแดง สำหรับผลการแข่งขัน รายการ Asian Open Figure Skating Trophy

 

สู้สุดใจ 1 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน 2 เหรียญทองแดง สำหรับผลการแข่งขัน รายการ Asian Open Figure Skating Trophy

2022 ณ Oasis Cantre Arena สาธารณรัฐอินโดนีเซีย ในวันแรก กับโปรแกรม Free Skate

.

น้องอิคคิว ชววิฐฌ์ เจียมหาทรัพย์ คว้าอันดับ 2 ในรุ่น Basic Novice Boys ด้วยคะแนน 22.24 คะแนน

.

น้องแพม พิมพิดา เลิศไพรวัน คว้าอันดับ 3 ในรุ่น Basic Novice Girls ด้วยคะแนน 34.70 คะแนน

.

น้องฮิโระ แก้วตาทิพย์ คว้าอันดับ 1  ในรุ่น Intermediate Novice Boys ด้วยคะแนน 43.71 คะแนน

.

และน้องพราว เบญญาภา เสายอด คว้าอันดับ 3 ในรุ่น Intermediate Novice Girls ด้วยคะแนน 38.48 คะแนน

.

ขอแสดงความยินดีและขอขอบคุณความพยายามของนักกีฬาทุกท่านที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติ

.

หมายเหตุ ฟิกเกอร์สเกต หรือ สเกตลีลา เป็นหนึ่งในกีฬาสเกตน้ำแข็ง ที่แข่งขันโดยใช้ประกอบการแสดง มี การหมุน, กระโดด, การทำสเต็บเท้า (step sequences) และ การแสดงท่าทางอื่น ๆ  มักจะเป็นการแสดงประกอบเสียงดนตรี การแข่งขันมีหลากหลายประเภททั้ง เดี่ยว,คู่ (ชาย-หญิง) ,ไอซ์แดนซิ่ง (ice dancing) และประเภทหมู่คณะ (synchronized skating) 

.

ดำเนินมาถึงครึ่งทางกับการแข่งขันเรือใบชิงถ้วยพระราชทานภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้าครั้งที่ 34

ดำเนินมาถึงครึ่งทางกับการแข่งขันเรือใบชิงถ้วยพระราชทานภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้าครั้งที่ 34 ประจำปี 2565 และเป็นวันแข่งขันวันสุดท้ายของการแข่งขันเรือใบเล็กรายการ “อินเตอร์เนชั่นแนล ดิงกี้ คลาส” ซึ่งจัดแข่งขันตั้งแต่วันที่ 3-6 ธันวาคม จบเกมนักกีฬาเยาวชนไทยทำผลงานสุดประทับใจ คว้าชัยไปถึง รุ่น ได้แก่ ออพติมิสต์ชาย-หญิงสกิฟฟ์โบ้ตไอแอลซีเอ โอเพ่น, 420 และ 470 ส่วนในสนามเรือใบใหญ่ซึ่งแข่งขันเป็นวันที่ 2 ผลปรากฏกัปตันอิทธินัย ยิ่งศิริ เแห่งเรือ Pine Pacific สามารถพลิกเกมขึ้นมาเป็นผู้นำตารางในรุ่นพรีเมียร์ได้สำเร็จ

.

การแข่งขันเรือใบเล็ก อินเตอร์เนชั่นแนล ดิงกี้ คลาส (International Dinghy Classes) ได้รับการผนวกเป็นส่วนหนึ่งของรายการภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้าต่อเนื่องเป็นปีที่ 8 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการสร้างนักกีฬาเรือใบเล็กที่มีศักยภาพให้มากยิ่งขึ้นและร่วมพัฒนาวงการกีฬาเรือใบของไทยให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน โดยปีนี้มีทัพเรือใบเล็กจากหลายประเทศเข้าร่วมการแข่งขันมากเป็นประวัติการณ์กว่า 180 ลำ การแข่งขันประกอบด้วยรุ่นออพติมิสต์ชายและหญิงสกิฟฟ์โบ้ตรุ่นไอแอลซีเอ 4 โอเพ่นรุ่นไอแอลซีเอ 6 โอเพ่นรุ่นไอแอลซีเอ 7 โอเพ่นรุ่น 420รุ่น 470และรุ่นโอเพ่นสกิฟฟ์

.

รายชื่อผู้ชนะการแข่งขันเรือใบเล็ก “อินเตอร์เนชั่นแนล ดิงกี้ คลาส” คิงส์คัพรีกัตต้าครั้งที่ 34

.

รุ่นออพติมิสต์ชาย – ชนาธิป  ทองกล่ำ จากไทย

รุ่นออพติมิสต์หญิง – ปริญ ทรัพย์ยิ่ง จากไทย

รุ่นสกิฟฟ์โบ้ต – นริสรา สัตตะ และ นิชาภา ไหวไว จากไทย

รุ่นไอแอลซีเอ 4 โอเพ่น – คีแนน ตัน จากสิงคโปร์

รุ่นไอแอลซีเอ 6 โอเพ่น – คู แซคารี จากสิงคโปร์

รุ่นไอแอลซีเอ 7 โอเพ่น – ประกาศิต หงส์ประดับ จากไทย

รุ่นโอเพ่นสกิฟฟ์ – อนันดี ชานดาวาร์คาร์ จากอินเดีย

รุ่น 420 – ทีมของ ปาลิกา พูนพัฒน์ และ จักรภัทร วิริยะกิตติ จากไทย 

รุ่น 470 – ทีมของนาวี  ธรรมสุนทร และ ปณิดา สุขสมพร จากไทย

.

นาวาเอกพรพรหม สกุลเต็ม ผู้อำนวยการ การแข่งขันเรือใบเล็ก อินเตอร์เนชั่นแนล ดิงกี้ คลาส กล่าวว่า “การแข่งขันเรือใบเล็กในปีนี้ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างสูงเพราะในปีก่อน ๆ มีทีมเรือร่วมแข่งขันไม่เกินร้อยลำ แต่ในปีนี้มีจำนวนมากกว่า 180 ลำ ซึ่งถือว่าเป็นฟลีตที่ใหญ่มาก และทะเลภูเก็ตยังคอนเซ็ปต์สนามลมแรงซึ่งเด็ก ๆ ที่เล่นเรือใบเล็กรู้เลยว่ามาที่นี่ต้องเจอลมแรงแน่นอนและต้องแข็งแกร่งเท่านั้นถึงจะคว้าชัยในสนามนี้ได้ ดังนั้นในภาพรวมการจัดแข่งขันถือได้ว่าเกินความคาดหวังเลยทีเดียว ในส่วนการเล่นของนักกีฬาไทย รุ่นเล็กอย่างออพติมิสต์ถือว่ายกทีมชาติไทยมาลงแข่งเกือบทั้งหมดเพราะช่วงนี้ออพติมิสต์ยังไม่มีแข่งที่อื่น ทำให้น้อง ๆ มีโอกาสมาแข่งประกบพี่ ๆ ในสนามที่ลมแรงเหมือนต่างประเทศ จึงช่วยเพิ่มประสบการณ์ได้อย่างมาก โดยในช่วง 6-7 ปีที่ผ่านมา นักกีฬาเรือใบเล็กของเราติด Top 5 ของโลกมาตลอด ในรุ่น 420 และรุ่น 470 รวมถึงรุ่นสกิฟฟ์ ที่มาแข่งในคิงส์คัพปีนี้ล้วนเป็นมือทีมชาติ ซึ่งถือเป็นโอกาสมาเก็บตัวและซ้อมที่นี่ด้วย เพื่อเตรียมแข่งในซีเกมส์ที่กำลังจะมาถึง รวมถึงรายการชิงแชมป์โลกที่จะมีต่อไปอีก และยังมีการแข่งคัดตัวโอลิมปิกในปีหน้า เห็นได้ว่าเราได้ร่วมกันปูเส้นทางการพัฒนากีฬาเรือใบเล็กไทยไว้อย่างต่อเนื่อง”      

ปัจจุบัน ทุกภาคส่วนต่างพยายามร่วมกันผลักดันกีฬาเรือใบเล็กในเมืองไทยให้มีการพัฒนาไปอย่างต่อเนื่อง โดยหลังจากจบการแข่งขัน “อินเตอร์เนชั่นแนล ดิงกี้ คลาส” ในคิงส์คัพรีกัตต้า ทางสโมสรเรือใบราชวรุณฯ ยังร่วมกับสมาคมแข่งเรือใบแห่งประเทศไทยและเมืองพัทยา จัดการแข่งขัน ILCA Asian Open Championship ในวันที่ 10-15 ธันวาคม โดยเป็นการจัดให้กับ ILCA Asia International Laser Class Association (Asia) ซึ่งการจัดแข่งขันอย่างต่อเนื่องจะช่วยต่อยอดความสำเร็จของรายการคิงส์คัพรีกัตต้า ยกระดับประเทศไทยให้เป็น Venue of Choices for International Sailing Events ซึ่งจะช่วยส่งเสริมและพัฒนาทั้งกีฬาเรือใบเล็กและเรือใบใหญ่ของไทยอย่างยั่งยืน

.

สำหรับการแข่งขันเรือใบใหญ่ทั้งประเภทคีลโบ้ตและมัลติฮัลล์ในวันที่ 2 นี้ กัปตันอิทธินัย ยิ่งศิริ แห่งเรือ Pine Pacific สามารถชิงตำแหน่งผู้นำตารางได้สำเร็จ หลังเจอสภาพลมแรงที่เข้าทางทีมคู่แข่งในวันแรกและเกิดปัญหาใบเรือขาดจนคว้าเพียงที่ 2 ในวันแรก

.

ผู้นำการแข่งขันเรือใบใหญ่ประเภทคีลโบ้ตและมัลติฮัลล์วันที่ 2 ภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้าครั้งที่ 34

.

รุ่นไออาร์ซี 0 – เรือ Team Hollywood กัปตันเรย์มอนด์ โรเบิร์ต จากออสเตรเลีย

รุ่นไออาร์ซี 1 – เรือ Let's Get It On กัปตันแกรี่ ฮอลต์ จากออสเตรเลีย

รุ่นพรีเมียร์ – เรือ Pine Pacific กัปตันอิทธินัย ยิ่งศิริ จากไทย

รุ่นครูซิ่ง – เรือ Kinnon กัปตันทอร์เบ็น คริสเตนเซน จากเดนมาร์ก

รุ่นมัลติฮัลล์ – เรือ 2fast4you กัปตันเฮอร์มานน์ ชวาร์ซ จากออสเตรีย

.

การแข่งขันเรือใบชิงถ้วยพระราชทานภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า ดำเนินการโดยคณะกรรมการจัดงานการแข่งขันเรือใบภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า ภายใต้การอำนวยการของสโมสรเรือใบราชวรุณ โดยการสนับสนุนจากกองทัพเรือ สมาคมแข่งเรือใบแห่งประเทศไทย และจังหวัดภูเก็ต โดยมีผู้สนับสนุนการจัดงานคือ กะตะ กรุ๊ป รีสอร์ท, อาร์เอ็มเอ กรุ๊ปบริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) และ เวิร์กฟอร์ซ อินเตอร์เนชั่นแนล

.

ที่มา : https://www.thaipost.net/sport-news/278678/

.

นักเรียนต้นแบบ !! ‘น้องออร์แกน’ เด็กหญิงชั้นป.1 มีศิลปะในหัวใจ วาดภาพขายสร้างรายได้กว่า 2 แสนบาท

ชื่นชม น้องออร์แกน เด็กหญิงชั้นป.6 สอนวิชาวาดรูปให้กับเพื่อน ๆ และน้อง ๆ ชั้นประถมศึกษาต่างสถาบันเป็นครั้งแรก หลังเธอประสบความสำเร็จจากการวาดภาพสีน้ำ ขายผ่านช่องทางออนไลน์ไปต่างประเทศ จนสร้างรายได้ 2 ปีกว่า 200,000 บาท
.
ที่โรงเรียนเทศบาลวัดตรังคภูมิพุทธาวาส อ.กันตัง จ.ตรัง วานนี้ (6 ธ.ค.) เวลา 14.00 น. มีนักเรียนตั้งแต่ชั้น ป.1 จนถึง ป.6 จำนวน 80 คน มาเรียนวิชาศิลปะการวาดรูปด้วยสีน้ำกับ ด.ญ พรปวีณ์ อุตตสุรดี หรือ น้องออร์แกน อายุ 11 ปี นักเรียนชั้น ป.6 โรงเรียนอนุบาลตรัง ซึ่งน้องออร์แกน ได้กลายเป็นต้นแบบให้กับนักเรียนทุกคนที่มีศิลปะอยู่ในหัวใจ ให้กล้าแสดงออกด้วยการวาดภาพสีน้ำ
.
เริ่มจากง่ายไปหายาก ซึ่งผลงานที่ออกมาเป็นธรรมชาติมากที่สุด สามารถฝากขายทางออนไลน์ได้หลายช่องทาง โดยทำเงินให้กับเจ้าของภาพได้ไม่ยาก ทั้งยังได้ฝึกสมาธิ ฝึกความอดทน และใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์อย่างคุ้มค่าด้วย
.
น้องออร์แกน ประสบความสำเร็จในการวาดภาพสีน้ำขายผ่านทางเพจ/เฟสบุ๊ก ชื่อว่า N’ August N’ organ จนสามารถขายชาวต่างชาติในเวลา 2 ปีได้เงินมาแล้วกว่า 200,000 บาท ซึ่งสามรถแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของผู้ปกครองลงไปได้มาก น้องออร์แกนจึงได้รับเชิญเป็นวิทยากรถ่ายทอดวิชาศิลปะการวาดภาพให้กับนักเรียนคนอื่น ๆ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนที่รักศิลปะทุกคนได้ยึดตามเป็นแบบอย่าง ครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่น้องออร์แกนมาเป็นวิทยากร สร้างความตื่นเต้นให้กับน้องออร์แกนเป็นอย่างมาก
.
สำหรับน้องออร์แกน ได้ฝึกวาดภาพสีน้ำมาตั้งแต่อายุ 5 ขวบ คุณแม่เห็นมีแววจึงส่งให้เรียนวิชาศิลปะ ทำให้น้องยิ่งมีพัฒนาการที่ดีขึ้น จนกระทั่งน้องอายุ 9 ขวบ คุณแม่จึงตั้งเพจเฟซบุ๊กให้ เพื่อนำภาพวาดของน้องไปฝากขาย ราคาเริ่มต้นที่ภาพละ 10,000 บาท
.
ปรากฏว่า ถูกใจชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก เพราะเป็นภาพวาดของเด็กชั้นป.5 ป.6 ที่ลงสีน้ำและสีอะคริลิกได้อย่างสวยงาม จนมีการติดต่อขอซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉลี่ยเดือนละ 2-3 ภาพ หรือ 20,000-30,000 บาทต่อเดือน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นภาพวิว ทิวทัศน์ทั่วไปตามท้องไร่ท้องนา ภูเขาและทะเล นอกจากจะสร้างรายได้ให้กับน้องออร์แกนอย่างเป็นกอบเป็นกำแล้ว ยังถือว่าเป็นการฝึกสมาธิ และใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ได้อีกทางหนึ่ง
.
น้องออร์แกน กล่าวว่า ตนหัดวาดภาพมาตั้งแต่อายุ 5 ขวบแต่วาดไม่สวย คุณแม่จึงให้ไปเรียนศิลปะ และครูบอกว่ามีพรสวรรค์และก็เรียนต่อมาเรื่อย ๆ ซึ่งตอนนี้วาดภาพได้เยอะแล้ว ส่วนภาพที่วาดได้นำไปขายชาวต่างชาติรูปละ 10,000 บาท ขายได้เดือนละ 2-3 ภาพ โดยผ่านทางเฟซฯ โดยมีรายได้แล้วกว่า 200,000 บาท
.
แหล่งที่มา : https://www.bangkokbiznews.com/lifestyle/art-living/1041698

เด็กไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก

เด็กไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก

.

ทีม Cheerleading จาก โรงเรียนดรุณาราชบุรี ตัวแทนทีมชาติไทย ได้รับรางวัลเหรียญทอง จากการแข่งขัน JAPAN OPEN CHEERLEADING CHAMPIONSHIP ณ กรุงโตเกียวประเทศญี่ปุ่น ในวันทื่ 3-4 ธันวาคม 2565  ที่ผ่านมา

.

ที่มา FB: Chaiyasit Prampro

.

ฝีมือนักกอล์ฟเยาวชนไทย ! 'วิรดา-พากเพียร' คว้าแชมป์ สิงห์ ไทยแลนด์ จูเนียร์ ฯ 2022

พากเพียร นุกูลอุดมพานิชย์ คว้าแชมป์ประเภทชาย ขณะที่ วิรดา ถวิลสังข์ รับแชมป์ประเภทหญิง ในการแข่งขันกอล์ฟเยาวชนรายการ "สิงห์ ไทยแลนด์ จูเนียร์ แมตช์เพลย์ แชมเปี้ยนชิพ 2022" (คลาส ซี-ดี) ณ สนามกบินทร์บุรี สปอร์ตส คลับ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี เมื่อวันจันทร์ที่ 5 ธันวาคม 2565

รายการนี้เป็นหนึ่งในรายการแข่งขันที่จัดโดย สมาคมกีฬากอล์ฟแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (สกท.) ด้วยการสนับสนุนโดย สิงห์ คอร์เปอเรชั่น เปิดโอกาสให้นักกอล์ฟเยาวชน ชาย-หญิง คลาส ซี (11-12 ปี) และ คลาส ดี (9-10 ปี) โดยรูปแบบการแข่งขันแบบสโตรคเพลย์ 2 วัน 36 หลุม เพื่อคัดนักกอล์ฟ ชาย 8 คน และหญิง 8 คน ที่ทำผลงานดีสุดเข้าไปเล่นรอบชิงชนะเลิศแบบแมตช์เพลย์ ระหว่างวันที่ 3-5 ธันวาคม 2565 ขณะที่นักกอล์ฟเยาวชนที่ไม่ผ่านไปเล่นรอบชิงชนะเลิศจะแข่งขันต่อเพื่อลุ้นแชมป์สโตรคเพลย์

หลังจบการแข่งขัน ประเภทชาย พากเพียร นุกูลอุดมพานิชย์ ที่เข้ารอบมาในฐานะมือวางอันดับ 2 เอาชนะ ธนัทวัฒน์ คล้ายทับทิม ด้วยสกอร์ 2 และ1 (ชนะ 2 อัพ ที่หลุม 17) ในรอบ 8 คน เข้าไปพบกับ ณพล เสถียรมงคล ในรอบ 4 คนสุดท้าย ก่อนเอาชนะไปได้อีกด้วยสกอร์ 2 และ 1 (ชนะ 2 อัพ ที่หลุม 17) เข้าไปชิงชนะเลิศกับ อุทัย รัตนเวทย์ ที่ผ่านเข้ารอบในฐานะมือ 1 ก่อน พากเพียร สู้กับ อุทัย อย่างสูสีจนถึงในหลุมสุดท้าย ก่อนเอาชนะไปด้วยสกอร์ 2 อัพ คว้าแชมป์ไปครอง โดย อุทัย รับอันดับ 2 ขณะที่รอบชิงอันดับ 3 ณพล เอาชนะ อธิชา ไชยเทพ ด้วยสกอร์ 1 อัพ คว้าอันดับ 3 ขณะที่ อธิชา คว้าอันดับ 4

ส่วนประเภทหญิง วิรดา ถวิลสังข์ เข้ารอบชิงด้วยการเป็นมืออันดับ 1 เล่นรอบ 8 คนสุดท้ายเอาชนะ ปราณิสา สุคนธโอสถ ไปด้วยสกอร์ขาดลอย 6 และ 4 (ชนะ 6 อัพ ที่หลุม 14) เข้ารอบรองชนะเลิศพบกับ ภิญญาพัชญ์ กมลบวร ก่อนจะเอาชนะไปด้วยคะแนน 4 และ 3 (ชนะ 4 อัพ ที่หลุม 15) ผ่านไปสู่รอบชิงชนะเลิศพบกับ ณิชกมล พนาพิศาล มืออันดับ 6 ที่เอาชนะ เสานิตย์ เจริญสุขรุ่งเรือง ด้วยคะแนน 9และ 8 (ชนะ 9 อัพ ที่หลุม 10) โดยในรอบชิงชนะเลิศ วิรดา อาศัยความเหนือชั้นเอาชนะไปด้วยคะแนน 3 และ 2 (ชนะ 3 อัพ ที่หลุม 16) คว้าแชมป์ไปครอง ขณะที่ ณิชกมล รับอันดับ 2 ด้านคู่ชิงอันดับ 3 ภิญญาพัชญ์ เอาชนะ เสานิตย์ ไปด้วยคะแนน 3 และ 2 (ชนะ 3 อัพ ที่หลุม 16) คว้าอันดับ 3 และ เสานิตย์ รับอันดับ 4

ด้านการแข่งขันแบบสโตรคเพลย์ ณัฏฐ์ อินทร ทำสกอร์รวม 1 โอเวอร์พาร์ 145 คว้าแชมป์ในประเภทชาย โดยมี เจษฏา ช่วงประยูร คว้าอันดับ 2 ที่สกอร์รวม 6 โอเวอร์พาร์ 150 และ ณัฏฐ์ภพ เหลืองเจริญวัฒนา คว้าอันดับ 3 ด้วยสกอร์รวม 8 โอเวอร์พาร์ 152 ขณะที่ประเภทหญิง ณัทชารีย์ คุณปสุต รับแชมป์ด้วยสกอร์รวม 4 โอเวอร์พาร์ 148 โดยมี พลอยชนก สุวรรณจักร์ศรี รับอันดับ 2 ที่สกอร์รวม 5 โอเวอร์พาร์ 149 และ ภัสธมนท์ สุทธิรักษ์พงศ์ สกอร์รวม 7 โอเวอร์พาร์ 151 รับอันดับ 3

สำหรับรายการแข่งขันต่อไปของสมาคมกีฬากอล์ฟแห่งประเทศไทย เป็นการแข่งขัน "โครงการพัฒนานักกอล์ฟดาวรุ่งมุ่งสู่นักกอล์ฟทีมชาติไทย" รอบสุดท้าย ซึ่งจะมีขึ้น ณ สนาม สิงห์ปาร์ค ขอนแก่น กอล์ฟ คลับ ระหว่าง 12-16 ธันวาคม 2565 ต่อไป

ที่มา : ไทยโพสต์

KEETA' โปรเจคอนาคต ! ทีมเยาวชนไทยเข้ารอบ NASA ผลิตอาหารจากแมลง !

ทีม “กีฏะ” หรือ KEETA ทีมคนไทย ที่สมควรได้รับเสียงเชียร์จากคนไทยทั้งประเทศ เพราะมีดีกรีความสามารถระดับโลก จนก้าวสู่รอบ 9 ทีมสุดท้าย จากกว่า 300 ทีมทั่วโลก บนเวที โครงการพัฒนาระบบผลิตอาหารอัตโนมัติและครบวงจรสำหรับนักบินอวกาศ หรือ Deep Space Food Challenge จัดโดย องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ (NASA) และ องค์การอวกาศแคนาดา

.

ดร .โพธิวัฒน์ งามขจรวิวัฒน์ อาจารย์ประจำสาขาวิชาวิศวกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ คณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ (PIM) หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งทีมกีฏะ เล่าว่า การแข่งขันนี้เพื่อแก้ปัญหา 100 ปีของ NASA เพราะแม้วิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับอวกาศจะก้าวหน้าแค่ไหน แต่ปัญหาหลักยังคงอยู่เสมอ คือการผลิตอาหารให้เพียงพอสำหรับมนุษย์ที่ขึ้นไปสำรวจ และใช้ชีวิตบนอวกาศ ครั้งนี้ NASA ให้โจทย์สำหรับการผลิตอาหารให้นักบินอวกาศ 4 คน ระยะเวลา 3 ปี

.

“ผม และ ดร.วเรศ จันทร์เจริญ ผู้ร่วมก่อตั้งทีม ทำงานวิจัยด้านอวกาศอยู่แล้ว พอมีการแข่งขันนี้ ก็คุยถึงการต่อยอดจากเรื่องที่มีองค์ความรู้กันอยู่แล้วอย่างเรื่อง 3D Food Printer เพื่อนำมาเป็นเครื่องปรินท์อาหารบนอวกาศ หากเอามาประกอบกับวัตถุดิบที่เหมาะสม น่าจะตอบโจทย์การแก้ปัญหานี้ได้ เรา 2 คน และน้องๆ นิสิตฝึกงานที่ Space Zab สตาร์ทอัพวิจัยด้านอวกาศของ ดร.วเรศ จึงเริ่มต้นสร้างทีม ร่วมมือกันแก้โจทย์” ดร.โพธิวัฒน์ กล่าว

.

วัตถุดิบหลักที่ทีมนึกถึงคือ “หนอนแมลง” เพราะคนไทยนิยมทาน รสชาติอร่อย คุณค่าทางอาหารสูง และเป็นสิ่งมีชีวิตที่ขยายพันธุ์ได้อย่างต่อเนื่องครั้งละจำนวนมาก ทีมค่อยๆ ตัดช้อยส์แมลงชนิดต่างๆ จนเหลือหนอนด้วงสาคู ซึ่งเป็นแมลงปลอดภัย ไม่มีผลกระทบเรื่องเสียง หรือการบินในอวกาศ การเลือกวัตถุดิบเป็นแมลง ทำให้ทีมตั้งชื่อว่า “กีฏะ” ที่แปลว่าแมลง

.

เมื่อต้องคิดระบบผลิตอาหารสำหรับการใช้ชีวิต 3 ปี สิ่งที่มองว่าจำเป็น คือการสร้าง “ระบบนิเวศ” ที่ทำให้ผลิตอาหารได้ต่อเนื่อง ยั่งยืน และใช้พื้นที่น้อยที่สุด เพื่อให้ขนส่งระบบไปบนอวกาศได้จริง จึงออกแบบระบบนิเวศให้มี 3 ส่วน ได้แก่ 1.ระบบเพาะปลูกพืช เพื่อเป็นอาหารแมลง 2.ระบบปศุสัตว์แมลง เพื่อเพาะเลี้ยงแมลง และนำมูลไปเป็นปุ๋ยเพาะปลูกพืช และ 3.ระบบผลิตอาหาร นำแมลงมาผ่านกระบวนการผลิตอาหาร พิมพ์ออกมาผ่าน 3D Food Printer ในตู้กดอาหารอัตโนมัติ เมนูหน้าตาคล้ายนักเก็ต 1-2 เมนู โดยทั้ง 3 ระบบ ทำในพื้นที่ 30 ตารางเมตร

.

“เป้าหมายสูงสุดของทีม คือคว้าชัยชนะบนเวที เพราะเป็นก้าวสำคัญพาไทยขึ้นแท่นผู้นำในเศรษฐกิจอวกาศแบบใหม่ ตอบโจทย์การผลิตอาหารอวกาศ เพื่อหลากธุรกิจใหม่ที่ทยอยเกิดขึ้น กระทั่งการขึ้นไปใช้ชีวิตจริงบนดาวต่างๆ สิ่งที่ทำถือว่าแปลกใหม่ ต่างจากอาหารอวกาศยุคก่อนต้องเป็นแคปซูล หรือผลิตด้วยระบบฟรีซดราย หากได้รับแรงสนับสนุน อาจทำให้ไทยกลายเป็นผู้นำธุรกิจอาหารอวกาศของโลก” ดร.โพธิวัฒน์ กล่าว

.

ด้าน สิทธิพล คูเสริมมิตร หรือ ตุลย์ บัณฑิตคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สมาชิกทีมกีฏะ เสริมว่า ผลงานนี้ไม่เป็นประโยชน์กับการใช้ชีวิตบนอวกาศเท่านั้น แต่ยังประยุกต์ใช้กับการผลิตอาหารเพื่อพื้นที่ทุรกันดารบนโลกได้ด้วย ตามโจทย์ของ NASA

.

“เรากำลังทำเรื่องที่ไม่เคยมีมาก่อน ต้องรวมพลังคนหลายกลุ่ม ทั้งวิศวกร หมอ นักวิทยาศาสตร์ ทำงานร่วมกัน และเรื่องที่เป็นโอกาสผลักดันจุดเด่นของไทยจากครัวโลก สู่ครัวอวกาศ จะทำเต็มที่ อยากให้ทุกคนสนับสนุน และเป็นกำลังใจให้ด้วย” สิทธิพล ย้ำ

.

สำหรับการแข่งขัน อยู่ในเฟสที่ 2 การสาธิตครัวอวกาศ โดยช่วงกลางเดือนธันวาคม ทีมที่เหลืออยู่ต้องส่งรายงานความคืบหน้าโครงการ พร้อมวิดีโอสรุป และจะคัดเหลือ 5 ทีมสุดท้าย ที่ NASA จะเดินทางมาดูด้วยตัวเองในช่วงต้นปี 2566

.

ที่มา : มติชน

กมลชนก ยอดกำปั้นสาว กีฬาโคราช ช่วยไทย คว้าที่ 3 เยาวชนโลก ...

????กมลชนก ยอดกำปั้นสาว กีฬาโคราช ช่วยไทย คว้าที่ 3 เยาวชนโลก ...

กมลชนก ชูประดิษฐ์ กำปั้นสาว ชั้น ม.6 จากโรงเรียนกีฬาเทศบาลนครนครราชสีมา ลงแข่งขันศึกมวยสากลเยาวชนหญิงชิงแชมป์โลกปี 2022 รายการ "IBA Youth Men’s & Women’s World Championships 22" รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 54 กิโลกรัม ณ เมืองลานูเซีย ประเทศสเปน ผลปรากฏว่า กมลชนก โชว์พลังหมัดได้อย่างสุดแกร่งคว้าอันดับที่ 3 พร้อมเหรียญทองแดงมาฝากแฟนมวยชาวโคราชและชาวไทยได้อย่างน่าภาคภูมิใจ 

โดยเบื้องหลังความสำเร็จครั้งนี้ยอดมวยสาวคนเก่งได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจาก โค้ชเพิก พึ่งปัญญา และโค้ชสรศักดิ์ อิ่มสมบูรณ์ รวมถึงคณะผู้บริหารจากเทศบาลนครนครราชสีมานำโดย นายประเสริฐ บุญชัยสุข นายกเทศมนตรี และนายชัชวาล วงศ์จร รองนายกฯ 
.

#โรงเรียนกีฬาเทศบาลนครนครราชสีมา ????
#เพจกีฬาของคนโคราช
#korat24hr ✍️

แนะนำ 5 คณะน่าเรียนตลอดกาล เสี่ยงตกงานต่ำ เรียนจบโอกาสมีงานทำ 99.99% จะมีคณะสาขาสายไหนบ้าง ตามมาดูกัน!

แนะนำ 5 คณะน่าเรียนตลอดกาล เสี่ยงตกงานต่ำ เรียนจบโอกาสมีงานทำ 99.99% จะมีคณะสาขาสายไหนบ้าง ตามมาดูกัน!
.
“วิทยาศาสตร์สุขภาพ” เป็นสาขาที่ได้รับการการันตีว่า เสี่ยงตกงานต่ำมาก กี่ยุคกี่สมัยสายงานนี้ก็เป็นที่ต้องการอยู่ตลอด ความต้องการแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ในตลาดงานทั่วโลกไม่เคยเพียงพอ
.
“วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรมข้อมูล” อีกสาขาที่ไม่ตกงานแน่นอน ทั้งในตอนนี้ และอีก 4-5 ปีข้างหน้า เพราะสายอาชีพนี้ยังคงมีความต้องการสูงขึ้นเรื่อย ๆ ตามความก้าวหน้าของเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ที่สำคัญ “เงินเดือนหรือค่าตอบแทน” ก็สูงมาก
.
“การเงิน การลงทุน และอสังหาริมทรัพย์” สายงานด้านธุรกิจการเงินการลงทุน เป็นที่ต้องการอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอาชีพด้านการให้คำปรึกษา ในภาวะเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาด้วยแล้ว ยิ่งทำให้คนที่เรียนมาทางด้านนี้มีตลาดงานรองรับทั้งกว้างและเฉพาะทาง
.
“ธุรกิจ การตลาดดิจิทัล และดิจิทัลมีเดีย” อย่างที่รู้กันดีว่า ยุคนี้ไม่ว่าธุรกิจไหน ก็ต้องปรับตัวมาสู่การขายและทำธุรกิจในโลกออนไลน์ นั่นทำให้ตลาดงานมีความต้องการผู้เชี่ยวชาญ ที่มีทักษะความรู้เฉพาะทางด้านธุรกิจและการตลาดดิจิทัลมาช่วย
.
“การจัดการโลจิสติกส์ และวิศวกรรมโลจิสติกส์” อย่างที่รู้กันว่าสายงานวิศวะฯ เป็นที่ต้องการอย่างมากในแทบทุกสาขา แต่สาขาที่แรงสุด ๆ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาก็คือ “สาขาวิศวกรรมโลจิสติกส์” จากการเติบโตด้านโลจิสติกส์และโทรคมนาคมภายในประเทศ ทำให้ความต้องการแรงงานในสายนี้เพิ่มสูงขึ้นตาม

ที่มา : https://schoolhug.com/

“ทุนคิง” ทุนให้เปล่าของพระราชา ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงห่วงใยการศึกษาเด็กไทย

วันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร

.

พระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่เปี่ยมด้วยพระอัจฉริยภาพและความสามารถ ทรงอุทิศพระวรกายในการประกอบพระราชกรณียกิจ ตลอด 70 ปีที่ทรงครองราชสมบัติ โดยพระราชกรณียกิจด้านการศึกษาในรัชสมัยของพระองค์ ได้ทรงจัดตั้งทุนเล่าเรียนหลวงขึ้นมาอีกครั้ง ในปี 2508 การรื้อฟื้นทุนเล่าเรียนหลวง พระองค์ได้ทรงเพิ่มจำนวนทุนเล่าเรียนหลวงจากปีละ 2 ทุน เป็น 9 ทุน โดยทุนเล่าเรียนหลวง  King’s Scholarship หรือที่หลายคนเรียกกันติดปากว่า ‘ทุนคิง’

.

คือทุนให้นักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายที่ศึกษาในประเทศไทยได้มีโอกาสไปศึกษาต่อระดับปริญญาตรีในต่างประเทศ โดยทุนมีลักษณะเป็นทุนให้เปล่า หมายถึง นักเรียนที่สอบแข่งขันได้สามารถเลือกได้เลยว่าจะเรียนอะไร เรียนที่ไหน และไม่ต้องกลับมาใช้ทุนในหน่วยงานรัฐบาล แต่มีเงื่อนไขเมื่อเรียนจบต้องกลับมาทำงานที่ประเทศไทย

.

 ส่วนทุนเล่าเรียนหลวง ในระดับการศึกษาที่สูงกว่าปริญญาตรี นั้น ได้จัดให้มีขึ้นในปี พ.ศ. 2518 เนื่องจากในมหามงคลสมัยพระราชพิธีรัชดาภิเษกเฉลิมฉลองครบ 25 พรรษาแห่งการครองราชย์ โดยจัดตั้งทุนการศึกษาระดับปริญญาโท และปริญญาเอก ให้กับนักศึกษาที่เป็นคนไทย และชาวต่างประเทศที่มีผลการเรียนดีเด่นเป็นพิเศษซึ่งในปัจจุบันพระราชทานทุนเล่าเรียนหลวงแก่นักศึกษาของสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชียปีละ 16 ทุน ทุนละ 220,000 บาทต่อปี

.

ถ้าคำนวณการพระราชทานทุนเล่าเรียนหลวงตั้งแต่ปี 2508 จนถึงปัจจุบัน ก็เป็นระยะเวลา 57 ปี โดยมีผู้ได้รับทุนเล่าเรียนหลวงจากข้อมูลสำนักงาน ก.พ. ตั้งแต่มกราคม 2565 ถึง วันที่ 31 ตุลาคม 2565 กำลังศึกษาอยู่ 73 คน แบ่งเป็นศึกษาอยู่ที่สหราชอาณาจักร จำนวน 9 คน ศึกษาอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา จำนวน 63 คน และในประเทศไทย 1 คน  นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้ทรงสร้างทรัพยากรบุคคลให้เป็นกำลังคนที่มีคุณภาพและกลับมาพัฒนาประเทศไทยให้เจริญก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น

.

ปัจจุบัน ก.พ. โดยสำนักงาน ก.พ. เป็นหน่วยงานที่ดูแลจัดการนักเรียนทุนเล่าเรียนหลวง และนักเรียนทุนรัฐบาลต่าง ๆ เพื่อให้มั่นใจว่าทั้งนักเรียนทุนเล่าเรียนหลวง และนักเรียนทุนรัฐบาล จะสำเร็จการศึกษาและกลับมาปฏิบัติงานในประเทศไทยตามข้อกำหนดของแต่ละประเภททุนได้ โดยผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดการเปิดรับสมัครสอบแข่งขันเพื่อรับทุนเล่าเรียนหลวงได้ทาง เว็บไซต์ของ สำนักงาน ก.พ.

น้องพิงค์ คว้าแชมป์ แบดมินตันที่บาห์เรน ขยับสู่อันดับ 93 ของโลก

การแข่งขันแบดมินตันในศึก "อัลชาริฟกรุ๊ป บาห์เรน อินเตอร์เนชั่นแนล ชาเลนจ์ 2022” ทัวร์นาเมนต์ระดับอินเตอร์เนชั่นแนลชาเลนจ์ ที่มานามา ประเทศบาห์เรน เมื่อวันอาทิตย์ที่ 4 ธ.ค. 65 เป็นการแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศ
.

โดย "พิงค์" พิชฌามลณ์ โอภาสนิพัทธ์ พบกับ เอสเธอร์ นูรูมิ วาโดโย่ มืออันดับ 112 ของโลกจากอินโดนีเซีย ผลปรากฎว่า ขนไก่หน้าหวานของไทย ยังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมเอาชนะไปอย่างสนุก 2-0 เกม 21-17 และ 21-16 คว้าแชมป์ไปครองได้สำเร็จ
.
ทำให้เธอจะขยับอันดับโลก จาก 120 เข้าสู่ 93 ของโลก ในสัปดาห์หน้า

.

ที่มา: https://mgronline.com/sport/detail/9650000115516

 

ดร.ปกรณ์ ผอ.GISTDA ได้รับเลือกเป็น ประธานคณะกรรมการ ดาวเทียมสำรวจโลกต่อจากฝรั่งเศส

อีกก้าวความสำเร็จของคนไทย 'ดร.ปกรณ์ อาภาพันธุ์' ผู้อำนวยการ GISTDA ได้รับเลือกเป็น ดร.อวกาศ โดยเฟซบุ๊ก Wassana Nanuam ได้โพสข้อความแสดงความปลื้มใจโดยมีข้อความว่า

.

ปลื้ม!! ดร.ปกรณ์ อาภาพันธุ์

ผู้อำนวยการ GISTDA

ได้รับเลือกเป็น

ประธานคกก.ดาวเทียมสำรวจโลก

อย่างเป็นทางการต่อจาก CNES

องค์กรอวกาศของฝรั่งเศสl

GISTDA จะปฏิบัติหน้าที่l

ประธานคณะกรรมการดาวเทียมสำรวจโลก CEOS 2023

.

ดร.ปกรณ์ อาภาพันธุ์ ผู้อำนวยการ GISTDA

ในฐานะผู้แทน สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และคณะ เข้าร่วมประชุม 2022 CEOS Plenary ซึ่งเป็นการประชุมใหญ่ประจำปีของคณะกรรมการดาวเทียมสำรวจโลก (Committee on Earth Observation Satellites :CEOS) ที่มีองค์กรอวกาศภาครัฐด้านการสำรวจโลกด้วยดาวเทียมจากประเทศต่างๆทั่วโลก และหน่วยงานนานาชาติที่เกี่ยวข้องเป็นสมาชิก

.

โดยที่ CEOS Plenary 2022 จัดขึ้น เมื่อ 29 พฤศจิกายน - 1 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา ที่เมือง Biarritz สาธารณรัฐฝรั่งเศส

.

โดยในการประชุมครั้งนี้ GISTDA ไดัรับมอบตำแหน่งประธานคณะกรรมการดาวเทียมสำรวจโลกอย่างเป็นทางการต่อจาก CNES ซึ่งเป็นองค์กรอวกาศของสาธารณรัฐฝรั่งเศส โดย GISTDA จะปฏิบัติหน้าที่ประธานหรือ CEOS Chair นับตั้งแต่เริ่มรับตำแหน่งรวมเป็นเวลาประมาณ 1 ปี

.

ดร.ปกรณ์ อาภาพันธ์ุ ในฐานะประธานคณะกรรมการคนต่อไป ได้มอบนโยบายการทำงานของคณะกรรมการฯ ไว้ว่า ในความร่วมมือกันในมิติต่างๆ ของหน่วยงานสมาชิก ที่มีอยู่ นั้น CEOS จะให้ความสำคัญที่จะผลักดันภารกิจที่สำคัญใน 2 เรื่องมากเป็นพิเศษ คือ

เรืองการใช้เทคโนโลยีการสำรวจโลกด้วยดาวเทียมในการติดตามการปลดปล่อยและเก็บกักคาร์บอนในพื้นที่ต่างๆทั่วโลก

.

ทั้งนี้เพื่อช่วยลดผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลก โดยหน่วยงานสมาชิกจะร่วมกันนำข้อมูลจากดาวเทียมและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องมาใช้เป็นเครื่องมือที่สำคัญในการสำรวจและตรวจวัดการกักเก็บคาร์บอน ให้นำไปสู่การบรรเทาปัญหาโลกร้อน ตามแนวทางและเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของ UNFCCC

.

เรื่องที่ 2 ขอให้ CEOS ให้ความสำคัญ นั้น คือการพัฒนาแนวทางการส่งเสริม New Space Economy โดย GISTDA จะร่วมกับองค์กรอวกาศจากภูมิภาคต่างๆ เข่น ESA, NASA, USGS, JAXA, CNES และ CSA เป็นแกนหลักในการพัฒนาข้อเสนอแนวทางดังกล่าวจากการรวบรวมข้อคิดเห็นและประสบการณ์ของหน่วยงานสมาชิกในเรื่องการส่งเสริมและทำงานร่วมกับภาคเอกชนที่เป็นธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการสำรวจโลกด้วยดาวเทียม

.

รวมถึงแสวงหาความเป็นไปได้ที่ CEOS สามารถจะให้การสนับสนุนด้านองค์ความรู้ เทคโนโลยีและข้อมูลแก่ภาคเอกชน เพื่อให้หน่วยงานสมาชิกจะสามารถพิจารณานำไปประยุกต์ใช้เป็นแนวทางในการยกระดับเศรษฐกิจอวกาศของประเทศตนเองให้มีความแข็งแกร่ง ยิ่งขึ้น ต่อไป

.

สำหรับ CEOS เป็นคณะกรรมการความร่วมมือของหน่วยงานรัฐจากประเทศต่างๆทั่วโลกที่รับผิดชอบเรื่องดาวเทียมสำรวจโลกและหน่วยงานนานาชาติที่เกี่ยวข้อง ก่อตั้งขึ้นภายใต้ข้อเสนอแนะจากการประชุม the G7 Economic Summit of Industrial Nations ในปี ค.ศ. 1984 เพื่อร่วมมือกันดำเนินงานเกี่ยวกับการสำรวจโลกด้วยดาวเทียมให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อมวลมนุษยชาติ

.

ปัจจุบัน CEOS มีสมาชิก 61 หน่วยงาน โดยในการดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการของ GISTDA อย่างเป็นทางการในช่วงปี ค.ศ.2023 นี้นั้น นอกจากเป็นการแสดงให้เห็นว่า การดำเนินงานเรื่องกิจการอวกาศของประเทศไทยอยู่ในระดับสากลและเป็นที่ยอมรับในเวทีระดับนานาชาติ แล้ว ยังจะเป็นการเพิ่มโอกาสให้กับประเทศในการร่วมกับเครือข่ายพันธมิตรที่จะนำซึ่งคุณค่าจากเทคโนโลยีอวกาศมาใช้ในการพัฒนาประเทศในมิติต่างๆเพื่อให้เกิดประโยชน์และยั่งยืน ต่อประชาชน และสังคมไทย ให้ได้สูงที่สุด ต่อไป

.

ที่มา : FB Wassana Nanuam

ในหลวง-พระราชินี เสด็จฯ สยามพารากอน ทอดพระเนตรโขนภาพยนตร์

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จฯ ทอดพระเนตรโขนภาพยนตร์ หนุมาน ไวท์ มังกี (WHITE MONKEY) และนิทรรศการ"โขนภาพยนตร์" ณ โรงภาพยนตร์สยามภาวลัย รอยัล แกรนด์ เธียเตอร์ ชั้น 6 ศูนย์การค้าสยามพารากอน
.
วันนี้ (4 ธ.ค.) เมื่อเวลา 19.58 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง จากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปทอดพระเนตรโขนภาพยนตร์ หนุมาน ไวท์ มังกี (WHITE MONKEY) และนิทรรศการ “โขนภาพยนตร์” ณ โรงภาพยนตร์สยามภาวลัย รอยัล แกรนด์ เธียเตอร์ ชั้น 6 ศูนย์การค้า
สยามพารากอน เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร
.
โอกาสนี้ทอดพระเนตรนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ “โขนภาพยนตร์” ก้าวแห่งนาฏกรรม..โขนแห่งรัชสมัย KHON THE MILESTONE OF THE REIGN เพื่อเป็นการรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันที่ 5 ธันวาคม 2565 และเพื่อเป็นการดำเนินการตามพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการอนุรักษ์และสืบสานศิลปะการแสดงโขนอีกประการสำคัญ คือเป็นการดำเนินตามรอยพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ในการสืบสานรักษาต่อยอดศิลปะวัฒนธรรมประจำชาติไทยเพื่อให้เกิดความยั่งยืนและสืบทอดไปสู่เยาวชนของชาติต่อไป
.
โดยนิทรรศการได้ดำเนินเนื้อเรื่อง ผ่านโขนแห่งรัชสมัย ที่พระมหากษัตริย์ไทยทุกรัชกาลทรงเป็นผู้นำ ในการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมการดำเนินชีวิตด้านนาฏกรรมและการดนตรีมาทุกยุคทุกสมัย ตั้งแต่รัชกาลที่1 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงพระราชนิพนธ์บทละครเรื่องรามเกียรติ์ตั้งแต่ต้นจนจบมีหลักฐานว่ามีการแสดงโขนตอนหนุมานถวายแหวน หนุมานยกแท่นท้าวชมพู เป็นต้น เรื่อยมาจนถึง ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่9 ที่ส่งร่วมอุปถัมภ์การแสดงโขน สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถพระบรมราชชนนีพันปีหลวง มีพระราชดำริเรื่องฟื้นฟูโขนและมีพระราชเสาวนีย์เกี่ยวกับการส่งเสริมและจัดสร้างเครื่องแต่งกาย โปรดเกล้าฯ ให้ศึกษาวิธีแต่งหน้าโขนที่เปิดหน้าส่งผลให้เกิดช่างฝีมือหลายด้าน ที่สำคัญคือมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ จัดแสดงโขนถวายมายาวนานนับทศวรรษ และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้จัดแสดงโขนสู่ประชาชนทุกปี
.
จากนั้นเสด็จเข้าภายในโรงภาพยนตร์ ฯ ทรงรับการทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายสูจิบัตรและถวายของที่ระลึก นางนฤมล ล้อมทอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท สหศีนิมา จำกัด กราบบังคมทูลรายงานวัตถุประสงค์ของการจัดงาน ฯ และกราบบังคมทูลเชิญทอดพระเนตรโขนภาพยนตร์ หนุมาน ไวท์ มังกี (WHITE MONKEY) จบแล้ว พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ กระทรวงวัฒนธรรม ผู้กำกับภาพยนตร์ ผู้กำกับการแสดงโขน และผู้ให้การสนับสนุน เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รับพระราชทานช่อดอกไม้ สมควรแก่เวลา จึงประทับรถยนต์พระที่นั่งเสด็จพระราชดำเนินกลับ
.
พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อศิลปะการแสดง “โขน” นาฏศิลป์ชั้นสูงของไทย และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเอาพระราชหฤทัยใส่ในการทำนุบำรุงมรดกศิลปวัฒนธรรม โดยเฉพาะศิลปะการแสดงโขน โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์ ทรงดูแลส่งเสริมให้ดำรงคงอยู่มาจนถึงปัจจุบัน 
.
ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัท สหศีนิมา จำกัด ได้ดำเนินการในการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมของชาติ จัดการแสดงโขนณ โรงมหรสพหลวงศาลาเฉลิมกรุง ตั้งแต่ปี 2548 อย่างต่อเนื่องตลอดมา โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานให้จัดการแสดงโขนสำหรับนักท่องเที่ยว ณ โรงมหรสพหลวง ฯ เพื่อเป็นการสืบสาน รักษา และต่อยอด ศิลปะการแสดง “โขน” ให้เป็นที่ประจักษ์สู่สายตาประชาคมโลก ตั้งแต่ปี 2561 จนถึงปัจจุบัน
.
โดยบริษัท สหศีนิมา จำกัด ร่วมกับกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ และกระทรวงวัฒนธรรม ดำเนินการจัดการผลิตโขนภาพยนตร์ “หนุมาน ไวท์ มังกี” (HANUMAN White Monkey) โดยการผสมผสานศิลปะการแสดงแบบเดิมที่เกิดขึ้นบนเวที กับเทคนิคทางด้านดิจิทัลคอมพิวเตอร์กราฟิก และเทคนิคพิเศษของภาพยนตร์ มาสร้างสรรค์จินตนาการให้กับเรื่องราวของโขนรามเกียรติ์ ในรูปแบบของโขนภาพยนตร์ ให้ผู้ชมได้รับความสนุก ตื่นเต้น ประทับใจยิ่งขึ้น และสอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้ชมยุคใหม่ โดยเฉพาะเยาวชนคนรุ่นใหม่ และเป็นการเผยแพร่เอกลักษณ์ของศิลปะการแสดงประจำชาติของไทยไปสู่สากล
ทั้งนี้โขนภาพยนตร์ จะฉายให้ประชาชนทั่วไปได้ชมพร้อมกันทั่วประเทศ ณ โรงภาพยนตร์เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ และ โรงภาพยนตร์เอสเอฟ ซีเนม่า ตั้งแต่วันที่ 5 ธันวาคม เป็นต้นไป

.

ที่มา: https://mgronline.com/onlinesection/detail/9650000115500

อย่าพลาดโอกาสดี ๆ มจธ.เปิดโครงการสำหรับสายเทค ลงทะเบียนเลย!! เรียนฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย

บอกต่อโครงการสำหรับสายเทค เปิดรับสมัครแล้ว เรียนฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย

.

โปรแกรม Junior Software Developer รุ่น 4 บูทแคมป์จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี เปิดรับสมัครผู้คนที่สนใจด้านเทคโนโลยี ที่อยากเสริมความรู้อัปสกิลเทพ ปูทางในอาชีพดิจิทัล

.

ทักษะต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อการเป็นนักพัฒนาซอฟต์แวร์ เช่น การเขียนโปรแกรม ทักษะการทำงาน และทัศนคติ เป็นต้น

.

เรียนรู้ด้าน Developer โดยรวมไปถึงพื้นฐานการสร้างเว็บไซต์ การใช้ภาษาโปรแกรมมิ่งในการสร้างเว็บไซต์ต่างๆ เช่น HTML, CSS, Javascript, React, Node JS, Express, Relational databases, MongoDB

.

ลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันนี้ – 16 ธันวาคม 2565

https://bit.ly/JSDBootcamp

.

Full-time Bootcamp ตลอด 14 สัปดาห์

ตั้งแต่วันที่ 13 กุมภาพันธ์ – 26 พฤษภาคม 2566

.

หลักสูตรแน่นทุกวัน ได้รับความรู้จัดเต็มจากผู้เชี่ยวชาญสายเทค และหลังจบโครงการฯ ยังช่วยด้านการหางานและการเตรียมตัวสมัครงานด้วยนะ

.

ที่มา : TechHub

หัวใจที่ยิ่งใหญ่ !! บัณฑิตสาวโพสภาพกราบเท้าพี่ชาย พร้อมใส่ชุดครุยให้พี่ชาย หลังส่งเรียนจนจบ

บัณฑิตสาวป้ายแดงโพสต์คลิปสุดซึ้งขณะที่ตนสวมชุดครุยของตนให้พี่ชายใส่ และก้มลงกราบเท้าขอบคุณพี่ชาย พร้อมขอบคุณที่เสียสละให้น้องสาวทุกอย่างจนประสบความสำเร็จ

.

เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. สมาชิก TikTok ชื่อว่า “chnitakotchasit” โพสต์คลิปวิดีโอสุดซึ้งของบัณฑิตสาวป้ายแดงจากมหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช ที่กำลังสวมชุดครุยของตนให้พี่ชายใส่ และก้มลงกราบเท้าขอบคุณพี่ชาย ซึ่งเป็นผู้เสียสละให้ทุกอย่างเพื่อน้องสาว โดยผู้โพสต์ระบุข้อความว่า "ขอบคุณผู้ชายคนนี้ที่เสียสละให้น้องสาวทุกอย่าง #บัณฑิตป้ายแดง #รับปริญญา #จบแล้ว"

.

อย่างไรก็ตาม คลิปวิดีโอดังกล่าวมียอดรับชมกว่า 7.5 ล้านครั้ง มีชาวเน็ตร่วมคอมเมนต์แสดงความยินดีกับบัณฑิตสาวป้ายแดงและชื่นชมความเสียสละของพี่ชายที่มีต่อน้องสาวจนเรียนจบประสบความสำเร็จ
.
แหล่งที่มา : https://mgronline.com/onlinesection/detail/9650000115135


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STUDY TIMES
Take Me Top