Thursday, 9 May 2024
NEWS

ชะลอมไทยสู่ APEC เปิดใจเจ้าของงาน ชวนนท์ นศ. ชั้นปีที่ 3 คณะสถาปัตยกรรมฯ จุฬาฯ

โลโก้สามสีของการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค (APEC Economic Leaders’ Meeting) ปี 2022 ปรากฏอยู่ทั่วกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นเมืองเจ้าภาพจัดการประชุมฯ ในสัปดาห์นี้ โดยโลโก้ดังกล่าวเกิดจากฝีมือการออกแบบของนักศึกษาไทย วัย 21 ปี
.
ชวนนท์ วงศ์ตระกูลจง นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บอกเล่ากระบวนการออกแบบโลโก้สำหรับการประชุมทางเศรษฐกิจระดับโลกกับสำนักข่าวซินหัวว่าความท้าทายอยู่ที่จะผสมผสานอัตลักษณ์ของเอเปคเข้ากับสัญลักษณ์ของไทยได้อย่างไร

.

ชวนนท์เผยว่าช้าง วัด หรือยักษ์ มักถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของไทย แต่เขามองว่ามันธรรมดาเกินไปและอยากคิดนอกกรอบ และไม่อยากใช้สัญลักษณ์ที่ใช้กันบ่อยๆ จึงนึกถึง “ชะลอม” ขึ้นมา
.
เรานึกถึงต้มยำกุ้งเมื่อพูดถึงอาหารไทย หรือรถตุ๊กตุ๊กเมื่อพูดถึงการขนส่ง แล้วสัญลักษณ์ของเศรษฐกิจในไทยที่อยู่คู่กับคนไทยมานานคืออะไร ชะลอมเป็นเครื่องไม้เครื่องมือที่ใช้งานกันมาแต่โบราณ มันจักสานขึ้นจากไม้ไผ่และเป็นงานฝีมือที่ยั่งยืน ซึ่งสะท้อนความสมดุลของวิสัยทัศน์การประชุมฯ ในปีนี้” ชวนนท์กล่าว

.

ชวนนท์ใช้เวลาราว 3 เดือน ปรับแต่งลักษณะของชะลอมจนกลายเป็นโลโก้รูปแบบสุดท้าย โดยไผ่ที่จักสานเข้าด้วยกันก่อตัวเป็นช่องว่าง 21 ช่อง สื่อถึงสมาชิก 21 เขตเศรษฐกิจของเอเปค ส่วนปลายชะลอมที่ชี้ขึ้นฟ้าสื่อถึงการเติบโตของเอเปค ส่วนสีต่างๆ อาทิ สีน้ำเงินอันเป็นสัญลักษณ์การอำนวยความสะดวก สีชมพูแห่งการเชื่อมโยง และสีเขียวที่ยั่งยืน ยังสะท้อนหัวข้อการประชุมฯ ปีนี้ ได้แก่ เปิดกว้างสร้างสัมพันธ์ เชื่อมโยงกัน สู่สมดุล” (Open. Connect. Balance.)
.
แนวคิดหลากหลายและการออกแบบอันประณีตงดงามดังกล่าว ทำให้ชวนนท์ ซึ่งคลุกคลีกับการวาดภาพมาตั้งแต่ชั้นประถม เอาชนะผู้ร่วมประกวดเกือบ 600 รายได้ในที่สุด

.

อุไร เสงี่ยมศรี ช่างจักสาน วัย 65 ปี จากชุมชนพนัสนิคม แหล่งอนุรักษ์เทคนิคจักสานไม้ไผ่แบบโบราณ กล่าวว่าตั้งแต่โลโก้เอเปคเปิดตัว คนหนุ่มสาวก็หันมาสนใจชะลอมมากขึ้น บางคนได้มาเรียนรู้วิธีทำชะลอมด้วย
.
หลังจากหายไปจากชีวิตประจำวันคนไทยนานหลายสิบปี ปัจจุบันดูเหมือนชะลอมและงานจักสานไม้ไผ่อื่นๆ กำลังได้รับความนิยม และอาจมีโอกาสกลับมาเป็นส่วนหนึ่งในวิถีชีวิตผู้คนอีกครั้ง

.

แหล่งที่มา : สำนักข่าวซินหัว

แหล่งที่มา : https://mgronline.com/china/detail/9650000109614

มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) และ WORKPOINT จับมือกัน “เล่นใหญ่”

มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) และ WORKPOINT จับมือกัน “เล่นใหญ่” ในโครงการ เล่นใหญ่ Beyond Content Creator สร้างกระบวนการบ่มเพาะทักษะรอบด้าน ปั้นเด็กนิเทศสู่สุดยอดคอนเทนต์ครีเอเตอร์หน้าใหม่ ผลิตนักศึกษาแห่งอนาคตที่ตอบโจทย์ตลาดแรงงาน

.

ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญในพิธีลงนามความร่วมมือ ระหว่างคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ กับ บริษัท ไทย บรอดคาสติ้ง จำกัด (ในเครือเวิร์คพอยท์กรุ๊ป) เมื่อวันที่ 10 พ.ย. 2565 ณ สตูดิโอ 1 มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์

.

หนึ่งในโมเดลความร่วมมือระหว่างสถาบันการศึกษา และองค์กรวิชาชีพ ที่มองเป้าหมายเดียวกันถึงการสร้างสรรค์ “คนและผลงาน” ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคอย่างแท้จริง

.

ผศ.ดร.ทัณฑกานต์ ดวงรัตน์ รองอธิการบดีสายงานเครือข่ายสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (มธบ.) เปิดเผยว่า เด็กยุคใหม่มีความเป็นตัวตนสูงมาก ขณะที่การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีเกิดขึ้นตลอดเวลา นำมาสู่การปรับตัวในหลายด้าน

.

ซึ่งการพัฒนาความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยกับเวิร์คพอยท์ในครั้งนี้จะทำให้เด็กเรียนรู้การทำงานแบบมืออาชีพ โดยปัจจุบันนักศึกษาหลายคน อยากจะเป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์ และเป็นเจ้าของสื่อของตัวเอง

.

การจับมือระหว่างภาควิชาการและวิชาชีพ นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของนักศึกษาในการเรียนรู้ทักษะ และประสบการณ์ เพื่อมุ่งสู่เส้นทางสายนี้เมื่อจบการศึกษา

.

ด้าน ผศ.ศิวนารถ หงษ์ประยูร คณบดี คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (มธบ.) เปิดเผยว่า ด้วยเทรนด์ของคอ

 .

ทางคณะฯ มีการปรับหลักสูตรใหม่ นักศึกษาจะได้คิดสร้างสรรค์ดิจิทัล

คอนเทนต์มากขึ้น พร้อมกับนำความรู้ด้านบิ๊กดาต้ามาวิเคราะห์ มีการศึกษาและทำความเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคและพฤติกรรมคนดูมากขึ้น เพื่อให้การสร้างสรรค์งานตรงกลุ่มกับเป้าหมาย

.

“ความร่วมมือนี้จะเกิดประโยชน์กับนักศึกษาเป็นอย่างมาก ไม่ใช่เรียนอย่างเดียว แต่ทำงานกับมืออาชีพ เพื่อให้การทำคอนเทนต์สามารถตอบโจทย์ผู้ชมในทุกแพลตฟอร์ม ทั้งยังเป็นการเตรียมความพร้อมนักศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ให้มีครบทั้งความรู้ในห้องเรียนและทักษะในโลกการทำงาน” ผศ.ศิวนารถ กล่าว

.

ดร.วิชนี ศรีสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการสายงานการตลาด บริษัท ไทย บรอดคาสติ้ง จำกัด เปิดเผยว่า ความร่วมมือในโครงการนี้เป็นการเปิดโอกาสให้นักศึกษานำเสนอความคิดสร้างสรรค์ ในการผลิตรายการใหม่ พร้อมโอกาสแสดงผลงานในช่องบางพูนแคมปัส ซึ่งเป็นช่องยูทูบที่ได้รับความนิยมอย่างมากทางออนไลน์ อาทิ รับก่อน นาวยูซีมี่ ฯลฯ

.

“ยินดีเป็นอย่างมากที่จะได้ถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์อย่างเต็มความสามารถของเรา ตั้งแต่แนวคิด ทัศนคติ วิธีการ เทรนด์ใหม่ ๆ ในวงการสื่อปัจจุบัน พร้อมทั้งเป็นแรงบันดาลใจให้น้อง ๆ ที่ต้องการจะเดินในเส้นทางนี้ให้ได้รับความรู้ ทักษะ และประสบการณ์การทำงานอย่างถูกต้อง และรวดเร็วขึ้น เพื่อนำสิ่งที่ได้จากห้องเรียนสู่การปฏิบัติจนออกมาเป็นผลงานที่มีคุณภาพ สามารถต่อยอดและใช้งานจริงได้” ดร.วิชนี ศรีสวัสดิ์ กล่าว

.

นอกจากพิธีลงนามความร่วมมือแล้ว ยังมีเสวนาในหัวข้อ “คิด-อย่าง-Work ให้ตรง Point” ที่ได้วิทยากรจากทั้ง มธบ.และเวิร์คพอยท์ตัวจริงเสียงจริงของวงการ มาร่วมถ่ายทอดประสบการณ์ตรงให้คนที่สนใจทำงานสายคอนเทนต์ครีเอเตอร์ได้ฟังกัน

 

โดยวิทยากร อาจารย์สุดถนอม รอดสว่าง หัวหน้าหลักสูตรการสร้างสรรค์ดิจิทัลคอนเทนต์และสื่อ คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ คุณสหพร ยี่ตันสี Group Head ฝ่ายผลิต จากเวิร์คพอยท์ และคุณกนกกร เล็บครุฑ โปรดิวเซอร์ จากเวิร์คพอยท์ สรุปความน่าสนใจได้ดังนี้

.

หลักการ “คิด” แยกเป็นสองส่วนที่จะบอกว่าคอนเทนต์นั้นประสบความสำเร็จและทำได้จริง โดยส่วนแรก “ค” การคิดที่ครบ “ลูกค้าชอบ-ตัวเราชอบ-คนดูชอบ” ส่วนที่สอง “ด” มาจาก ได้ ที่เกิดจากการคิด และนำความคิดนั้นไปใช้งานได้จริง

.

การคิดต้องสอดคล้องกับบริบทการใช้ชีวิตของคนปัจจุบัน ทุกวันนี้สื่อเคลื่อนไหวตลอด เช่น คน รถไฟฟ้า ก็เป็นสื่อได้ ดังนั้นคอนเทนต์ที่คิด ต้องเคลื่อนไหว เร็ว และให้ทางเลือก

.

เข้าใจพฤติกรรมของผู้บริโภค และกลุ่มคนดู

.

คอนเทนต์นั้นต้องแตกต่าง และให้คุณค่ากับคนดู

.

คอนเทนต์ที่คิดต้องมาจากความรู้ การศึกษา มองให้ขาด และเข้าถึงกลุ่มคนที่ต้องการจะสื่อสาร

.

การคิดคอนเทนต์ เปรียบเหมือนกับการลับมีด การฝึกคิดบ่อย ๆ จะทำให้ได้ความคิดที่คม มีเอกลักษณ์ ด้วยข้อมูลที่ลึก และแตกต่าง

.

เรียนรู้การเล่าเรื่องข้ามสื่อ (แพลตฟอร์ม) จะตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายได้ดี

.

สำหรับโครงการ “เล่นใหญ่ Beyond Content Creators” นักศึกษาจะได้เรียนรู้การทำงานกับลูกค้าจริง ตลาดจริง และโจทย์จริง เป็นทั้งการอบรม (Workshop) ศึกษาดูงาน และ การผลิตคอนเทนต์ สร้างสรรค์ผลงานจริง

.

โดยเริ่มการสอนและจัดอบรมระหว่างวันที่ 16 มกราคม - 14 พฤษภาคม 2566 โดยเมื่อจบโครงการผลงานที่ผลิตจะถูกนำไปเผยแพร่ทางช่องยูทูบบางพูนแคมปัส

.

ที่มา : คมชัดลึก

 

 

 

นี่คือ 6 เรื่องจริงของนักเรียนเกาหลีใต้ ที่คนส่วนใหญ่ไม่ทราบ

นี่คือ 6 เรื่องจริงของนักเรียนเกาหลีใต้ ที่คนส่วนใหญ่ไม่ทราบ
.
1️.เรียนเฉลี่ย 15 ชั่วโมงต่อวัน
คนเกาหลีให้ความสำคัญกับระบบการศึกษามาก นักเรียนชั้นมัธยมปลายโดยทั่วไปจะเริ่มเรียนตั้งแต่ประมาณ 8 - 9 โมงเช้าจนถึง 3 - 4 ทุ่มครึ่ง 
.
โดยส่วนใหญ่มักจะไปเรียนที่สถาบันติวเตอร์ต่อหลังจากการเรียนการสอนที่โรงเรียนจบลงแล้ว 
.
ทำให้มื้อเย็นของนักเรียนเกาหลีต้องนั่งกินกันในชั้นเรียน หากถามว่าพวกเขาเรียนเสริมอะไรกันบ้าง 
.
คำตอบคือส่วนใหญ่จะเป็นวิชาคำนวณกับทักษะภาษาอังกฤษ เพราะสิ่งเหล่านี้จำเป็นอย่างมากสำหรับวงการธุรกิจเกาหลี 
.
นอกจากนั้นยังต้องท่องหนังสือ ฝึกทำข้อสอบในทุก ๆ วัน เพื่อต่อสู้กับคู่แข่งมากมายในสนามสอบยามที่พวกเขาต้องสอบเข้าในมหาวิทยาลัยดีๆ ได้นั่นเอง
.
ประเทศเกาหลีใต้มีการแข่งขันในเรื่องของการศึกษาและการทำงานสูงมาก 
.
พ่อแม่หลายคนก็พยายามผลักดันให้ลูกของตนเข้าเรียนพิเศษเพื่อจะได้มีอนาคตดีๆ ทำให้กว่าจะได้กลับบ้านก็ดึกดื่นแล้วก็ต้องตื่นเช้ามาโรงเรียนอีก 
.
ทางรัฐบาลเล็งเห็นปัญหานี้จึงมีเคอร์ฟิวให้เด็กนักเรียนสามารถใช้เวลาในสถาบันการศึกษาได้ไม่เกินสี่ทุ่ม และหลายโรงเรียนก็ผ่อนปรนให้เลิกเรียนเร็วขึ้นด้วย
.
2️.เรียนวันจันทร์ - เสาร์
หากวันธรรมดาสำหรับการไปโรงเรียนของบ้านเราคือวันจันทร์ - ศุกร์ วันธรรมดาของการไปโรงเรียนที่เกาหลีก็คือวันจันทร์ – เสาร์
.
แต่ยังโชคดีที่ตอนนี้ตารางเรียนของโรงเรียนในเกาหลีใต้ได้มีการปรับเปลี่ยนเพื่อให้เด็กนักเรียนมีเวลาพักบ้างแล้ว 
บางโรงเรียนก็ปรับให้มาเรียนในวันเสาร์แค่สองครั้งต่อเดือนแทน
.
3️.ต้องให้ความเคารพครูและตรงต่อเวลา
เรื่องนี้ถือเป็นที่สำคัญมากในเกาหลี เราอาจจะเห็นกันว่าในต่างประเทศ นักเรียนสามารถพูดเล่นกับอาจารย์ได้ 
.
แต่ที่เกาหลีใต้ไม่ใช่แบบนั้น พวกเขาให้ความสำคัญกับเรื่องของความต่างระหว่างวัยและวุฒิภาวะมาก 
นอกจากนั้นอาชีพครูอาจารย์ยังถือเป็นอาชีพที่ทรงคุณค่าและเป็นที่นับหน้าถือตาในสังคม ดังนั้นจึงต้องแต่งตัวดีและสุภาพอยู่เสมอ
.
อีกเรื่องที่ขาดไม่ได้คือความตรงต่อเวลา อาจารย์เกาหลีมักจะทำอะไรตรงเวลาเสมอ 
หาช่วงที่อาจารย์จะเข้าสอนสายยากมาก เพราะอย่างนั้นทุกคนในคลาสจึงต้องเผื่อเวลามาก่อนอาจารย์อย่างน้อย 10 นาที 
.
4️.การลงโทษทางร่างกาย
ในขณะที่ในสหรัฐอเมริกาหรืออีกหลายๆ ประเทศฝั่งตะวันตกมีบทลงโทษสำหรับครูที่ทำโทษเด็กทางร่างกาย 
แต่เกาหลีใต้ไม่ใช่แบบนั้น อันที่จริงสำหรับบ้านเราหรือหลาย ๆ ประเทศในฝั่งเอเชียเองก็ยังมองว่ามันเป็นเรื่องปกติ 
ผู้ปกครองเกาหลีเองก็ไม่ค่อยมีปัญหาอะไรกับเรื่องการลงโทษทางร่างกายเหมือนบ้านเรา บางครั้งก็ตีด้วยไม้ 
บางครั้งก็ให้ยืนยกมือไว้เหนือหัว แบบที่อาจเห็นได้จากซีรีส์เกาหลีวัยเรียนทั่ว ๆ ไป
.
5.Internet Explorer เป็นที่นิยมมากกว่า Google Chrome
ที่เกาหลีไม่นิยมใช้ Google Chrome หรือ Mozilla Firefox แต่จะชอบใช้ Internet Explorer มากกว่า 
เวลาอาจารย์จะใช้อินเทอร์เน็ตหาข้อมูลให้นักเรียนดูประกอบในคลาสก็มักจะเปิด Internet Explorer ขึ้นมาใช้งานเสมอ 
นอกจากนั้นยังไม่ใช้ Google แต่จะใช้เสิร์ชเอนจินจากเว็บสีเขียวที่ชื่อ Naver 
.
6. "สอบ” หรือ “ออกรบ”
เมื่อถึงฤดูกาลสอบ เราจะเห็นภาพบรรดาผู้ปกครองของเด็กนักเรียนเกาหลีใต้ออกมาส่งลูกเข้าสนามสอบ 
บางทีก็เป็นรุ่นพี่รุ่นน้องมายืนให้กำลังใจ ทำป้ายเชียร์กันใหญ่โต แถมยังมีสำนักข่าวต่างๆ มาทำข่าวกันอย่างคึกคัก 
ถือเป็นภาพที่แปลกตามากสำหรับชาวต่างชาติ 
.
(อาจจะยกเว้นที่อินเดีย เพราะที่อินเดียก็มีการเชียร์ลูกๆ เข้าสอบคล้ายกันกับที่เกาหลี) 
นอกจากจะมีกองเชียร์แล้วยังมีคนออกมายืนแจกขนม ชา กาแฟ ให้กับคนที่เข้าสอบ 
เพื่อเป็นการเติมพลังให้เด็กๆ ในวันที่เครียดแสนเครียด มีแท็กซี่บริการรับส่งนักเรียนที่จะไปสอบฟรี 
.
หรือหากที่ใดกำลังดำเนินการก่อสร้างอยู่ก็มีคำสั่งให้ระงับไปก่อนเพราะเสียงดังกล่าวจะทำลายสมาธิ 
ถือได้ว่าเกาหลีใต้เป็นประเทศที่ให้ความสำคัญกับการสอบมากๆ 
.
ที่มา : เด็กดีดอทคอม
 

ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล 16 พฤศจิกายน 2565

ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล 16 พฤศจิกายน 2565

โอกาสไปเรียนฟรี ที่ต่างประเทศ มาแล้ว ! ก.พ. เปิดสอบชิงทุน ต่อโท - เอก

เมื่อวันที่ 16 พ.ย. 65 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลขอเชิญชวนนิสิต นักศึกษา รวมถึงผู้ที่มีคุณสมบัติสมัครสอบแข่งขันเพื่อรับทุนรัฐบาล สำหรับบุคคลทั่วไประดับปริญญา ประจำปี 2566 ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน หรือ สำนักงาน ก.พ. ได้เปิดรับสมัครระหว่างวันที่ 10 พ.ย. - 28 ธ.ค. 65  ผ่านช่องทาง http://scholar.ocsc.go.th

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ทุนการศึกษาสำหรับบุคคลทั่วไประดับปริญญา ประจำปี 2566 มีทั้งสิ้น 137 ทุน ประกอบ ด้วยทุนตามความต้องการของส่วนราชการ (บรรจุก่อนไปศึกษา) 43 ทุน, ทุนด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  86 ทุน  ทุนศึกษา ณ University of Chinese Academy of Sciences หรือ ทุน UCAS 5 ทุน และ ทุนสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(กลต.) 3 ทุน

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า คุณสมบัติของผู้สมัคร กรณีทุนระดับปริญญาโท หรือ โท-เอก  ต้องเป็นผู้ที่กำลังศึกษาอยู่ปีสุดท้ายระดับปริญญาตรี หรือจบปริญญาตรี มี GPAX ไม่ต่ำกว่า 2.75 หรือ 3.00 ตามที่กำหนดในใบประกาศรับสมัคร ยกเว้นทุนธนาคารแห่งประเทศไทยที่กำหนด GPAX ไม่ต่ำกว่า 3.00 และอายุไม่เกิน 35 ปี นับถึงวันปิดรับสมัคร  ส่วนทุนระดับปริญญาเอก  คุณสมบัติต้องเป็นผู้ได้รับปริญญาโท มี GPAX ไม่ต่ำกว่า 3.50 และอายุไม่เกิน 40 ปี นับถึงวันปิดรับสมัคร ยกเว้นทุน กลต. ต้องอายุไม่เกิน 35 ปี

“สำนักงาน ก.พ. เป็นองค์กรกลางด้านการบริหารและพัฒนาทรัพยากรบุคคลของรัฐบาล ภารกิจส่วนหนึ่งจะดูแลการคัดเลือกบุคคลเพื่อไปศึกษาทั้งในและต่างประเทศในระดับปริญญาตรี โท และเอก ในสาขาที่เป็นที่ต้องการของหน่วยงานต่างๆ โดยนักเรียน นิสิต นักศึกษาและประชาชนทั่วไปที่สนใจสามารถติดตามข่าวสารการเปิดรับสมัครสอบแข่งขันได้ที่เว็บไซต์สำนักงาน ก.พ. https://www.ocsc.go.th/” น.ส.ไตรศุลี กล่าว

 น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ทางด้านสำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) ก็อยู่ระหว่างประกาศเชิญชวนผู้ผู้สนใจสมัครเข้ารับการคัดเลือกรับทุนการศึกษา ภายใต้กรอบความร่วมมือด้านอวกาศแห่งเอเชียแปซิฟิก ( Asia-Pacific Space Cooperation Organization : APSCO) ประจำปี พ.ศ. 2566 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาทรัพยากรบุคคลที่มีความรู้ด้านเทคโนโลยีอวกาศหนึ่งในอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศไทย

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า สำหรับทุนภายใต้โครงการดังกล่าวนี้มี จำนวน 3 ทุน ทั้งหมดศึกษาที่สาธารณรัฐประชาชนจีน ประกอบด้วย 1.ทุนระดับปริญญาเอก ด้านวิศวกรรมอวกาศ ของสถานบันเทคโนโลยีฮาร์บิน โดยจะปิดรับสมัครภายในวันที่ 9 ธ.ค. 65 2.ทุนระดับปริญญาโทและปริญญาเอก ด้านการบริหารจัดการ และวิศวกรรมการบินและอวกาศยาน ของมหาวิทยาลัยเจ้อเจียง โดยจะปิดรับสมัครวันที่ 31 ธ.ค. 65 และ 3.ทุนระดับปริญญาโทและปริญญาเอก ด้านการสำรวจและทำแผนที่ ของมหาวิทยาลัยอู่ฮั่น จะเปิดรับสมัครระหว่างวันที่ 1 ธ.ค. 65- 15 ก.พ. 66 

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า หากผู้สนใจสามารดูข้อมูลที่ https://www.onde.go.th/view/1/main/TH-TH และเข้าไปที่เมนู ทุนการศึกษา หรือศึกษารายละเอียดสาขาวิชาที่เปิดรับสมัคร คุณสมบัติของผู้สมัคร เงื่อนไข และวิธีการสมัครตามโครงการนี้ได้โดยตรงที่ https://bit.ly/3fxCn2y ส่วนช่องทางการสมัครนั้นให้จัดส่งเอกสารที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วนไปยัง กองกิจการอวกาศแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เลขที่ 120 หมู่ที่ 3 ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาฯ อาคารรัฐประศาสนภักดี ชั้น 9 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ 10210 ภายในเวลาก่อนครบกำหนดปิดรับสมัครที่ระบุไว้สำหรับแต่ละหลักสูตร ไม่น้อยกว่า 5 วันทำการ โดยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร 02-141-6882 หรือ อีเมล onde_apsco@onde.go.th

 

แพทย์ไทย เก่งระดับโลก 'นพ.ชูชัย ศุภวงศ์' คนไทยคนแรก คว้ารางวัล จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด

วันนี้ The Study Times  ขอพาลูกเพจทุกคน ไปทำความรู้จัก กับอีกหนึ่งคนไทย ระดับโลก นั้นคือ 'นพ.ชูชัย ศุภวงศ์' ซึ่งถือได้ว่าเป็นคนไทยคนแรก ที่สามารถคว้ารางวัล ‘ผู้นำด้านสาธารณสุข’ จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด มาได้  ซึ่งได้สร้างชื่อเสียงให้กับวงการแพทย์ไทย ไปไกลระดับโลก จากผลงานโดดเด่นในการเป็นผู้นำการควบคุมการสูบบุหรี่ ด้านสิทธิมนุษยชน คุ้มครองสิ่งแวดล้อม ปฏิรูประบบสุขภาพปฐมภูมิ ระบบสุขภาพชุมชน

.

โดยมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เมืองบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา ได้มอบรางวัล ให้กับนพ.ชูชัย ศุภวงศ์ ประธานกรรมการมูลนิธิแพทย์ชนบท ซึ่งได้รับรางวัลผู้นำด้านสาธารณสุข (Leadership Award in Public Health Practice) จาก โรงเรียนสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (Harvard T.H. Chan School of Public Health ) เมื่อช่วงเดือนกันยายน ที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นคนไทยคนแรก และ คนเอเชียคนที่ 3 ที่ได้รับรางวัลนี้

.

สำหรับรางวัลผู้นำด้านสาธารณสุข เป็นการยกย่องผู้สำเร็จการศึกษา ที่เป็นแบบอย่างที่โดดเด่นของการเป็นผู้นำที่มีประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานด้านสาธารณสุขในภาครัฐ หรือเอกชน

.

โดยคณะกรรมการพิจารณาเห็นว่า นพ.ชูชัย ศุภวงศ์ มีผลงานโดดเด่นด้านสิทธิมนุษยชน การคุ้มครองสิ่งแวดล้อม และระบบสุขภาพแห่งชาติ โดยศาสตราจารย์นายแพทย์ Bernard T. Lee เปิดเผยว่า ในฐานะประธานร่วมของคณะกรรมการ ปีนี้เป็นปีที่มีการแข่งขันอย่างสูงยิ่ง อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จในอาชีพที่โดดเด่นของ นพ.ชูชัย ศุภวงศ์ สร้างความประทับใจให้กับคณะกรรมการผู้พิจารณา ในหลาย ๆ ด้าน”

.

ทั้งนี้วิดีทัศน์ นำเสนอในวันพิธีรับมอบรางวัล สาระสำคัญของผลงาน นพ.ชูชัย ศุภวงศ์ ที่นำไปสู่การได้รับ รางวัลผู้นำด้านสาธารณสุข (Leadership Award in Public Health Practice) Leadership Award in Public Health Practice : ยกย่องผู้สำเร็จการศึกษาจาก โรงเรียนสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (Harvard T.H. Chan School of Public Health ) ที่เป็นแบบอย่างที่โดดเด่นของการเป็นผู้นำที่มีประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานด้านสาธารณสุขในภาครัฐหรือเอกชน สิทธิมนุษยชน. การคุ้มครองสิ่งแวดล้อม. ระบบสุขภาพแห่งชาติ

.

ที่มา: https://www.thaipost.net/education-news/230462/

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากสถาบันวิทยสิริเมธี และโรงเรียนกำเนิดวิทย์ ประจำปีการศึกษา 2564

วันนี้ (15 พฤศจิกายน 2565) - สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปยังวังจันทร์วัลเลย์ จังหวัดระยอง พระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากสถาบันวิทยสิริเมธี ประจำปี 2564 จำนวน 30 คน โดยแบ่งเป็นระดับปริญญาเอก จำนวน 26 ราย และระดับปริญญาโท จำนวน 4 ราย และพระราชทานทุนการศึกษา “ศรีเมธี” ให้กับนิสิตที่มีผลการเรียนดีเยี่ยมจากสถาบันฯ จำนวน 4 ราย รวมทั้งพระราชทานประกาศนียบัตรแก่ผู้แทนนักเรียนโรงเรียนกำเนิดวิทย์ ที่สำเร็จการศึกษา รุ่นที่ 5 จำนวน 2 ราย โดยมี นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ดร.ไพรินทร์ ชูโชติถาวร นายกสภาสถาบันวิทยสิริเมธี ดร.จำรัส ลิ้มตระกูล อธิการบดีสถาบันวิทยสิริเมธี ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.ทศพร ศิริสัมพันธ์ ประธานกรรมการ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) และ นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. พร้อมกับคณะผู้บริหารและพนักงาน กลุ่ม ปตท. เฝ้าฯ รับเสด็จ ณ ตำบลป่ายุบใน อำเภอวังจันทร์ จังหวัดระยอง

.

ในการนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงทอดพระเนตรผลงานทางวิชาการและงานวิจัยของสถาบันวิทยสิริเมธี ที่สอดคล้องกับความต้องการของธุรกิจในปัจจุบัน แบ่งเป็น 3 ด้าน ได้แก่ งานวิจัยทางด้านระบบปัญญาและหุ่นยนต์ (Al and Robotic) งานวิจัยทางด้านเทคโนโลยีกักเก็บพลังงาน การพัฒนาแบตเตอรี่และวัสดุคุณภาพภาพสูง (Energy Materials & Environment) และงานวิจัยพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีชีวภาพ (Biotechnology) เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ และการเพิ่มมูลค่าขยะอินทรีย์ อนึ่ง สถาบันวิทยสิริเมธี ได้รับการสนับสนุนและความร่วมมือจากทั้งภาครัฐและภาคเอกชน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บริษัทในกลุ่ม ปตท. เพื่อร่วมกันสร้างนักวิจัย พัฒนางานวิจัยที่มีศักยภาพไปสู่การใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ และสร้างคุณค่าให้แก่สังคม อันเป็นหนึ่งในเป้าหมายที่สำคัญของสถาบันฯ

.

ต่อมาทรงเป็นประธานในการลงนามความร่วมมือ (MOU) ระหว่าง บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) สถาบันวิทยสิริเมธี และสถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) เพื่อส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมจากการดำเนินโครงการสร้างเครื่องกำเนิดแสงซินโครตรอนระดับพลังงาน 3 GeV และห้องปฏิบัติการ ในพื้นที่เขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor of Innovation: EECi) พื้นที่ประมาณ 88 ไร่

.

เครื่องกำเนิดแสงซินโครตรอน ถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานทางด้านวิทยาศาสตร์ที่สำคัญและได้รับการยอมรับจากนานาประเทศ ให้เป็นเครื่องมือที่มีพลานุภาพ เป็นต้นกำเนิดของเทคโนโลยีด้านต่าง ๆ ที่สามารถสร้างคุณประโยชน์มากมายมหาศาลต่องานวิจัยทางด้านการแพทย์ การเกษตร อุตสาหกรรม และด้านอื่น ๆ โดยเครื่องกำเนิดแสงที่จะจัดสร้างนี้ มีค่าระดับพลังงาน 3 GeV และใช้เทคโนโลยี Double Triple Bend Achromat (DTBA) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ทำให้แสงซินโครตรอนมีความสว่างจ้ามากกว่าเดิม 1 ล้านเท่า และรองรับระบบลำเลียงแสงได้สูงถึง 22 ระบบ จึงสามารถนำไปประยุกต์ใช้ประโยชน์ด้านงานวิจัยได้หลากหลาย

.

จากนั้น สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปเป็นประธานในพิธีเปิดอาคารปฏิบัติการวิศวกรรม (Fabrication Center) ซึ่งเป็นห้องทดลองสำหรับนักเรียนในการสืบค้นข้อมูลและพัฒนาต้นแบบสิ่งประดิษฐ์ตามแนวคิดของตนเอง พร้อมทรงติดตามความก้าวหน้าและความยั่นยืนของโรงเรียนกำเนิดวิทย์ โดยมี

.

รองศาสตราจารย์ ดร.บุญโชติ เผ่าสวัสดิ์ยรรยง ผู้อำนวยการโรงเรียนกำเนิดวิทย์ กราบบังคมทูลรายงาน ต่อมาเสด็จพระราชดำเนินไปยัง “ศูนย์เรียนรู้เกษตรนวัต สถาบันเทคโนโลยีจิตรลดา” ซึ่งเป็นแหล่งการเรียนรู้สำคัญในการพัฒนาภาพลักษณ์ของเกษตรกรไทยยุคใหม่ ให้เป็นอาชีพที่น่าภาคภูมิใจและยั่งยืน โดย นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. และ นายเทอดเกียรติ พร้อมมูล ประธานกรรมการ บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด ทูลเกล้าฯ ถวายหนังสือและแพลตฟอร์ม “สวนสมรม” ที่นำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ประโยชน์ในการพัฒนาระบบการเกษตร

.

ต่อมาทรงเสด็จพระราชดำเนินเยือนลานใจบ้าน สถาบันวิทยสิริเมธี โดยมีนายมนตรี ลาวัลย์ชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (ปตท.สผ.) พร้อมด้วยคณะผู้บริหารและพนักงาน เฝ้าฯ รับเสด็จ และนำเสนอนิทรรศการโครงการด้านนวัตกรรมและสิ่งแวดล้อม ผลงานของ ปตท.สผ. ร่วมกับพันธมิตร ที่จะช่วยสนับสนุนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกผ่านแนวคิด EP Net Zero 2050 ของ ปตท.สผ. นอกจากนี้ยังจัดแสดงเกี่ยวกับเทคโนโลยี Smart Forest Solution ซึ่งเป็นผลงานของ บริษัท เอไอ แอนด์ โรโบติกส์ เวนเจอร์ส หรือ เออาร์วี ซึ่งเป็นบริษัทด้านปัญญาประดิษฐ์และหุ่นยนต์ในเครือ ปตท.สผ. โดยเป็นเทคโนโลยีเพื่อการวางแผนบริหารจัดการพื้นที่สีเขียวให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โครงการด้านการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและระบบนิเวศทางทะเลอย่างยั่งยืนของ ปตท.สผ. ภายใต้แนวคิด “ทะเลเพื่อชีวิต” (Ocean for Life) เพื่อเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพให้กับระบบนิเวศใต้ทะเล

.

จากนั้น ทอดพระเนตรการแสดงโดรนแปรอักษรประกอบ แสง สี เสียง ซึ่งกลุ่ม ปตท. โดย ปตท.สผ. และบริษัท เออาร์วี จัดแสดงขึ้นด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ โดยใช้โดรนจำนวนกว่า 700 ลำ ทำการแสดงรวม 9 ภาพ ในรูปแบบ 3 มิติ ผสานม่านน้ำมัลติมีเดีย ในชื่อชุด “ความยั่งยืนจากท้องทะเลสู่ท้องฟ้า เหล่าประชาร่วมเทิดพระเกียรติ” โดยนำเสนอความมุ่งมั่นของ ปตท.สผ. ในการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล เชื่อมโยงสู่การใช้เทคโนโลยีโดรนและปัญญาประดิษฐ์เพื่อดูแลความสมบูรณ์ของทรัพยากรชายฝั่ง รวมถึงเพื่อพัฒนาภาคการเกษตรของไทย และพระราชกรณียกิจในสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

มหาวิทยาลัยขอนแก่น

15 พ.ย.2565 - ที่อาคารสิริคุณากร มหาวิทยาลัยขอนแก่น หรือ มข. รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น พร้อมด้วย ดร. ธีรวุธ ตันนุกิจ ผู้แทนอธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ ร่วมเปิดตัวแบตเตอรี่ชนิดโซเดียมไอออนจากแร่เกลือหินในประเทศไทย 
.
ภายใต้โครงการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตแบตเตอรี่ชนิดโซเดียมไอออนจากแหล่งแร่เกลือหินเพื่อรองรับการพัฒนาอุตสาหกรรมศักยภาพ ซึ่ง มข.ร่วมกับกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ กระทรวงอุตสาหกรรม ได้ทำการวิจัยและทำการผลิตจนนำมาสู่การใช้งานได้จริง โดยมีนักวิชาการและผู้ที่สนใจในกลุ่มธุรกิจพลังงานทดแทน ร่วมเป้นสักขีพยานและชมผลงานวิจัยดังกล่าวกันอย่างคับคั่ง
.
รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า การพัฒนาแบตเตอรี่ชนิดโซเดียมไอออนจากแหล่งแร่เกลือหิน ซึ่งเป็นแบตเตอรี่ชนิดโซเดียมมไอออนต้นแบบซึ่งผลิตได้เป็นที่แรกในประเทศไทย และที่แรกในระดับภูมิภาคอาเซียน โดยทำการที่โรงงานแบตเตอรี่และพลังงานยุคใหม่มหาวิทยาลัยขอนแก่น 
.
ทั้งนี้โครงการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตแบตเตอรี่ชนิดโซเดียมไอออนจากแหล่งแร่เกลือหินเพื่อรองรับการพัฒนาอุตสาหกรรมศักยภาพ ถือเป็นกลไกลสำคัญที่จะช่วยส่งเสริมด้านการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตวัตถุดิบให้สามารถผลิตวัตถุดิบคุณภาพสูง รองรับอุตสาหกรรมแบตเตอรี่แห่งอนาคต โดย มีสถานประกอบการในโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมการผลิตแบตเตอรี่ แห่งอนาคนแบบครบวงจรเข้าร่วมงานด้วย ไม่ว่าจะเป็นสถานประกอบการในระดับต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ ประกอบด้วยโครงการเหมืองแร่โพแทช บริษัท ไทยคาลิ จำกัด และ บริษัท อาเซียนโปแตชชัยภูมิ จำกัด (มหาชน)
.
ผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน รวมทั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้าสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าบริษัท วี.ซี.เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด ผู้ผลิตและจำน่ายจักรยายนยนต์ไฟฟ้า บริษัท เอ็นเซิร์ฟ โฮลดิ้ง จำกัด บริษัท อินโนวาแพค จำกัด บริษัท ทีแอนด์ที ไมโครโมบิล จำกัดเข้าร่วมชมผลงานด้วย
.
"ทีมนักวิจัย มข. ประสบความสำเร็จในการพัฒนาศึกษาวิจัยและทดลองแบตเตอรี่ชนิดโซเดียมไอออนจากแหล่งแร่เกลือหินในประเทศไทย เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตแบตเตอรี่ทางเลือกโดยการใช้วัตถุดิบที่มีภายในประเทศทดแทนแบตเตอรี่ชนิดลิเทียมไอออน ทั้งนี้ได้ดำเนินการพัฒนาต่อยอดเทคโนโลยีการผลิตแบตเตอรี่ทางเลือกในระดับเซลล์จากโรงงานแบตเตอรี่และพลังงานยุคใหม่ จนออกมาเป็นผลิตต้นแบบ (Prototype) 
.
และนำไปทดลองใช้งานจริงในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ใหม่ และระบบกักเก็บพลังงาน (Energy Storage System: ESS) ที่จะเป็นแบตเตอรี่สำหรับจักรยานไฟฟ้า แบตเตอรี่สำรองสำหรับระบบโซลล่าเซลล์ และ ไฟส่องสว่าง อย่างไรก็ตามจากความสำเร็จเหล่านี้ ส่งผลอุตสาหกรรมไทยมีขีดความสามารถในการแข่งขันและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ซึ่งหนึ่งในกลุ่มเป้าหมายหลักคือ อุตสาหกรรมการผลิตแบตเตอรี่แห่งอนาคตจากวัตถุดิบที่มีในประเทศ"
.
ขณะที่ ดร. ธีรวุธ ตันนุกิจ ผู้แทนอธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ กล่าวว่า ภาคอีสานเป็นแหล่งแร่สำรองที่มีปริมาณมหาศาลมาก ที่ทำให้ทุนสนับสนุนมหาวิทยาลัยขอนแก่นเพราะเล็งเห็นว่าโซเดียมไอออนแบตเตอรี่มีศักยภาพที่จะมาเป็นแบตเตอรี่ทางเลือกเพื่อจะทดแทนลิเทียมไอออนแบตเตอรี่
.
เพราะต้องพึ่งพาการนำเข้าจากต่างประเทศ 100% ปีงบประมาณหน้าทาง มข. จากทำแบตเตอรี่โซเดียมไอออนให้มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิมเพื่อที่จะมาเทียบกับแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนและตอนนี้ได้นำไปใช้กับ อีไบรท์หรือจักรยานยนต์ต้นแบบที่ใช้พลังงานจากโซเดียมไอออนซึ่งเป็นความสำเร็จจากโครงการครั้งนี้และเป้าหมายต้องการจะสร้างอุตสาหกรรมแบตเตอรี่ครบวงจร ในส่วนตัวเกลือหินหรือเกลือสินเธาว์กิโลกรัมละไม่กี่บาทแต่พอมาทำเป็นตัววัตถุดิบตั้งต้นแบตเตอรี่โซเดียมไอออนตัวนี้จะยกระดับมูลค่าทางเศรษฐกิจแร่ตัวนี้อย่างมากในอนาคต และจะทำการต่อยอดให้เป็นอุตสาหกรรมต่อไป
.
ที่มา: https://www.thaipost.net/district-news/263441/
 

“บริจาคอวัยวะ สร้างกุศลผู้ให้ สร้างชีวิตใหม่ผู้รับ 1 ผู้ให้ ช่วยได้ 8 ชีวิต

14 พฤศจิกายน 2565 เพจมูลนิธิโรงพยาบาลราชบุรี โพสต์ข้อความ “บริจาคอวัยวะ สร้างกุศลผู้ให้ สร้างชีวิตใหม่ผู้รับ 1 ผู้ให้ ช่วยได้ 8 ชีวิต”เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2565 ณ โรงพยาบาลราชบุรี 
.
นายแพทย์อนุกูล ไทยถานันดร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชบุรี ได้มอบหมายให้ คณะกรรมการ Service plan สาขาการรับบริจาคและปลูกถ่ายอวัยวะโรงพยาบาลราชบุรี เป็นตัวแทนมอบเกียรติบัตร ให้แด่ญาตินายอชิระ กัญญา ผู้บริจาคดวงตาให้ศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย
.
โดยสภากาชาดไทยได้นำไปช่วยเหลือผู้ป่วยตามเจตนารมณ์แล้ว ส่วนกระดูกให้ศูนย์เนื้อเยื่อชีวภาพกรุงเทพฯ ในพระอุปถัมภ์ฯ ขอกุศลกรรมที่ได้บำเพ็ญเพื่อประโยชน์แก่ผู้ป่วย จงเป็นอานิสงส์ดลบันดาลให้ผู้อุทิศประสบความเกษมสุขในสัมปรายภพชั่วนิรันดร์ "พร้อมกันนี้ ได้มอบพวงหรีดเคารพศพผู้วายชนม์ จากศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย และศูนย์ดวงตาสภากาชาดไทย
.
โดยสภากาชาดไทยได้นำไปช่วยเหลือผู้ป่วยตามเจตนารมณ์แล้ว ส่วนกระดูกให้ศูนย์เนื้อเยื่อชีวภาพกรุงเทพฯ ในพระอุปถัมภ์ฯ ขอกุศลกรรมที่ได้บำเพ็ญเพื่อประโยชน์แก่ผู้ป่วย จงเป็นอานิสงส์ดลบันดาลให้ผู้อุทิศประสบความเกษมสุขในสัมปรายภพชั่วนิรันดร์ "พร้อมกันนี้ ได้มอบพวงหรีดเคารพศพผู้วายชนม์ จากศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย และศูนย์ดวงตาสภากาชาดไทย
.
ทั้งนี้ บิดามารดาและยายผู้เลี้ยงดูผู้ป่วยมาตลอดรับทราบอาการและเข้าใจถึงความรุนแรงที่ผู้ป่วยได้รับ โดย พว.ชุลีพร ทองแพรว พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ ประจำหอผู้ป่วยศัลยกรรมระบบประสาท 1 โรงพยาบาลราชบุรี จึงได้เจรจาเพื่อขอรับบริจาคอวัยวะ ดวงตามอบสู่สภากาชาดไทยเพื่อนำไปให้ผู้ที่รอคอยการปลูกถ่ายอวัยวะ 
.
โดยญาติตัดสินใจบริจาคเพื่อเป็นการสร้างบุญใหญ่ให้กับผู้ป่วยโดยในการนี้ได้จัดเก็บดวงตามอบสู่สภากาชาดไทย และกระดูกมอบสู่ศูนย์เนื้อเยื่อชีวภาพกรุงเทพฯ ในพระอุปถัมภ์ฯ
.
ขอเชิดชูเกียรติ แด่นายอชิระ กัญญา และครอบครัวที่ได้ร่วมสร้างบุญใหญ่ มอบอวัยวะเพื่อส่งต่อไปยังผู้รอคอยอวัยวะอย่างทุกข์ทรมาน ซึ่งในการนี้ยังได้เป็นอาจารย์ใหญ่ในการเรียนการสอนของนักศึกษาแพทย์ ความดีที่ไม่สิ้นสุด คือการบริจาคร่างกายและอวัยวะเมื่อยามสิ้นสูญ
.
ล่าสุดวันนี้ ทางโรงพยาบาลราชบุรี ได้จัดแถลงข่าวและยกย่องครอบครัวของ นายอชิระ กัญญา ผู้วายชนม์ โดยมีนายรณภพ เหลืองไพรโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี และนายกเหล่ากาชาดราชบุรี พร้อมด้วยนายแพทย์อนุกูล ไทยถานันดร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชบุรี แพทย์หญิงปาจรีย์ อารีย์รบ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดราชบุรี และคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งกระดูก พร้อมด้วย นางสมพร แสงสี อายุ 60 ปี และ นายเฉลิม กัญญา อายุ 65 ปี ชาวบ้าน ต.นางตะเคียน อ.เมือง สมุทรสงคราม พ่อและแม่ของนายอชิระ กัญญา ผู้วายชนม์ ร่วมกันแถลงข่าว ที่ห้องประชุมโรงพยาบาลราชบุรี โดยมีสื่อมวลชนจากหลายสำนักร่วมทำข่าว
.
นายแพทย์อนุกูล ไทยถานันดร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชบุรี ได้กล่าวแสดงความเสียใจกับครอบครัวของนายอชิระ กัญญา ผู้วายชนม์ อายุ 24 ปี อาชีพรับจ้างตัดมะพร้าวอ่อนในพื้นที่ วัดหลักห้า ต.ประสาทสิทธิ์ อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี มีภูมิลำเนาอยู่ ม.6 ต.นางตะเคียน อ.เมือง สมุทรสงคราม ได้รับอุบัติเหตุทางจราจร ญาติได้นำตัวส่งมาทำการรักษาที่ รพ.ดำเนินสะดวก
.
โดยผู้ป่วยอยู่ในอาการบาดเจ็บอย่างรุนแรงถูกนำส่งตัวจากโรงพยาบาลดำเนินสะดวก ส่งมายังโรงพยาบาลราชบุรีเพื่อเข้ารับการรักษา เมื่อมาถึงโรงพยาบาลราชบุรีพบว่าผู้ป่วยมีอาการบาดเจ็บรุนแรงหลายระบบ แพทย์ได้ทำการรักษาอย่างสุดความสามารถ แต่ด้วยอาการบาดเจ็บที่รุนแรง ร่างกายของนายอชิระ ไม่ตอบสนองต่อการรักษาใดๆ ทีมแพทย์ได้ลงความเห็นว่านายอชิระ เสียชีวิตแล้วด้วยภาวะสมองตาย สร้างความเศร้าเสียใจให้กับครอบครัวเป็นอย่างมาก
.
ก่อนหน้านี้นายอชิระ เคยแจ้งไว้กับคุณพ่อและคุณแม่ ว่าตนได้แสดงความจำนงบริจาคอวัยวะให้กับทางโรงพยาบาล หากตนเสียชีวิตก็ขอบริจาคอวัยวะที่ยังใช้งานได้ให้กับผู้อื่นนำไปใช้ต่อ 
.
เพื่อเป็นการทำคุณประโยชน์และสร้างบุญกุศลครั้งสุดท้ายในชีวิต หลังแพทย์ทางโรงพยาบาลราชบุรี ได้แจ้งให้กับทางญาติได้ทราบ คุณพ่อคุณแม่จึงตัดสินใจแจ้งต่อแพทย์ ขอบริจาคอวัยวะของนายอชิระทั้งหมด เพื่อทำตามเจตนารมณ์ของลูกชาย
.
โรงพยาบาลราชบุรีได้ร่วมประสานงานกับสภากาชาดไทย และศูนย์เนื้อเยื่อชีวภาพกรุงเทพฯ ในพระอุปถัมภ์ฯ ทำการผ่าตัดส่งมอบอวัยวะ ที่ยังใช้งานได้ คือดวงตาทั้ง 2 ข้าง เนื้อเยื่อ ผิวหนัง และกระดูกอีกจำนวน 12 ชิ้น เพื่อนำไปปลูกถ่ายให้ผู้ป่วย โดยเฉพาะผู้ป่วยมะเร็งกระดูก ได้จำนวน 15 ราย
.
ผู้บริหารโรงพยาบาลราชบุรี ศูนย์ประสานงานรับบริจาคอวัยวะโรงพยาบาลราชบุรี และเจ้าหน้าที่ทุกคนขอแสดงความเสียใจกับครอบครัว และขออนุโมทนาบุญกุศลอันยิ่งใหญ่ของนายอชิระ กัญญา ที่ท่านมีจิตเมตตาเสียสละบริจาคอวัยวะเป็นทานในครั้งนี้
.
พร้อมกันนี้ นายรณภพ เหลืองไพรโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี และนายกเหล่ากาชาดราชบุรี ได้มอบเงินสดส่วนตัวจำนวน 4 พันบาท ให้กับพ่อและแม่ของนายอชิระ กัญญา ผู้วายชนม์ เพื่อเป็นค่าเช่าที่บ้านที่ทางครอบครัวต้องจ่ายให้กับทางเจ้าของที่ที่ให้เช่าที่สำหรับปลูกบ้าน พร้อมมอบประกาศเกียรติคุณยกย่อง นายอชิระ กัญญา ในการบริจาคอวัยวะเพื่อช่วยเหลือเพื่อมนุษย์ในครั้งนี้
.
ส่วนทางด้าน นายเฉลิม กัญญา และนางสมพร แสงสี พ่อและแม่ของ นายอชิระ กล่าวว่า ครอบครัวรู้สึกดีใจที่ การบริจาคร่างกายของลูกชาย เพื่อนำอวัยวะที่สามารถใช้ได้นำไปช่วยเหลือผู้อื่นได้อีก 15 คน เป็นไปตามความประสงค์ของลูกชายที่ได้พูดไว้เมื่อครั้งยังชีวิต แต่ก็ยังรู้สึกเศร้าโศกเสียใจที่สูญเสียลูกชายซึ่งเป็นที่รักของครอบครัว ลูกชายของตนเป็นคนดี คนขยันทำมาหากิน และชอบช่วยเหลือผู้อื่น 
.
ตั้งแต่เล็กลูกชายจะอยู่กับพ่อและแม่ตลอด จนเขาทำงานก็ยังขี่รถจักรยานยนต์ไปที่ทำงานในอำเภอดำเนินสะดวก ราชบุรี กลับมาที่บ้านพักในจังหวัดสมุทรสงครามทุกวัน
.
ก่อนหน้าที่ลูกจะตาย ทางแม่ได้มีรางสังหรณ์นอนฝันถึงลูกชายว่ามีเลือดเต็มใบหน้าและนอนคว่าลงกับพื้นมีเลือดไหลนอง แต่ก็ไม่กล้าที่จะมาเล่าให้ลูกฟังเพราะลูกบอกว่าแม่ชอบคิดมาก แต่ก็ไม่คิดว่าจะกลายมาเป็นเรื่องจริง และยังบอกอีกว่า “ร่างกายไม่ใช่ของเรา ให้โรงพยาบาลเขาไป เอาไปช่วยเหลือคืนอื่นได้”
.
วันนี้ได้นำร่างมอบให้ทางโรงพยาบาลราชบุรีได้ดำเนินการแล้ว โดยทางโรงพยาบาลได้ส่งร่างลูกชายกลับมาประกอบพิธีทางศาสนา โดยร่างกายของลูกชายก็มีสภาพปกติ ซึ่งดูไม่ออกเลยว่ามีการผ่าตัดภายในออกไป ต้องขอบคุณทางแพทย์และโรงพยาบาลที่ช่วยดำเนินการให้เป็นอย่างดี.012
.
ที่มา: https://www.naewna.com/likesara/691995
 

รางวัลชนะเลิศจากการสร้างผลงานด้าน REthink with Microsoft Thailand จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

The Study Times ขอแสดงความยินดีกับนิสิตคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทีม Effect Hill ได้แก่ น.ส.ฐานิดา ประเสริฐชัย และ น.ส.ฐิตตา เบญจมานนท์ ภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า

.

ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศจากการสร้างผลงานด้าน REthink with Microsoft Thailand ในการแข่งขัน #CHOICEISYOURS ซึ่งเป็นโครงการที่เกิดจากความร่วมมือระหว่างบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย มูลนิธิชัยพัฒนา ไมโครซอฟต์ และเอสซี เปิดโอกาสให้นิสิตนักศึกษาแสดงศักยภาพ ความคิดสร้างสรรค์อย่างยั่งยืน จากผลงานของนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ร่วมการแข่งขันในแต่ละด้านทั้ง REthink REuse REduce และ Recycle

.

โดยทีม Effect Hill ได้สร้างสรรค์โครงการ Meta platform เพื่อช่วยลดปัญหาการเกิด climate change โดยแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ Metalearn เป็นสื่อการเรียนรู้ด้วย 3d model simulation และ Metaplan เป็น platform ที่ช่วยบริหารจัดการแนวทางในการแก้ไขปัญหาสาหรับแต่ละองค์กร

.

โดยจะมุ่งเน้นไปที่การวางแผนงบประมาณและจัดสรรทรัพยากรเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

 

สิ่งที่ลูกต้องมี ชวนพ่อแม่รู้จัก “ภาวะความคิดสร้างสรรค์” ทักษะชีวิตสำคัญสำหรับลูกวัยเรียน

เมื่อเราพูดกันถึง ความคิดสร้างสรรค์ (creativity) คุณพ่อคุณแม่หลายๆ คนคงนึกถึงนิยาม ความหมาย หรือแนวคิดที่ว่าความคิดสร้างสรรค์คือทักษะในการประดิษฐ์ คิดค้น หรือสรรค์สร้างสิ่งใหม่ๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อนเท่านั้น ความคิดสร้างสรรค์คือทักษะหรือความสามารถของคนๆ หนึ่งในการสร้างสิ่งใหม่ๆ ที่จะมีคุณค่าหรือผลลัพธ์ในทางบวกต่อธุรกิจของตนเอง สังคมหรือโลก คำว่า ‘ความคิดสร้างสรรค์’ ที่เรารู้จักและคุ้นเคยกันมาตลอดมากที่สุด ในแง่นี้ จึงอาจกล่าวได้ว่าเป็นเหมือนทักษะทางสังคม ทักษะในการทำงาน หรือทักษะที่มีคุณค่าและสถานะคล้ายคลึงกับบรรดาทักษะทางสังคมอื่นๆ ต่างๆ อย่างเช่น พรสวรรค์ (talents), ความสามารถ (capabilities), หรือผลิตภาพ (productivity) ฯลฯ

แต่ความคิดสร้างสรรค์ในบริบทของทักษะชีวิตละ? เป็นไปได้ไหมที่จริงๆ แล้วภาวะความคิดสร้างสรรค์นั้นก็มีตัวตน ความหมายและคุณค่าอยู่ในการดำเนินชีวิตในแต่ละวันของเราเหมือนกัน? แล้วหากอยู่ในบริบทนั้น มันคือภาวะ พลังงาน หรือทักษะในลักษณะใดกันแน่?

เกริ่นกันมาถึงขนาดนี้ คุณพ่อคุณแม่และผู้อ่านๆ หลายคนอาจเริ่มขมวดคิ้วกันพอสมควรแล้ว แต่อย่าเพิ่งถอดใจหรือคิดว่าจะซับซ้อนเกินไป ในบทความนี้ Starfish Labz จะขอพาคุณพ่อคุณแม่และผู้อ่านทุกคนมาสำรวจถึงอีกหนึ่งความหมาย และแนวคิดของสิ่งที่เรียกว่า’ภาวะความคิดสร้างสรรค์’ ในบริบทของการเป็นทักษะชีวิตที่สำคัญให้กับลูกๆ ของเรากัน

ในแง่นี้ ภาวะความคิดสร้างสรรค์ที่ Starfish Labz ว่าจะคืออะไร? จะมีคุณค่าต่อหัวใจ การเติบโต ความฝัน ตลอดจนการกลายเป็นขุมพลังอันสำคัญของสังคมและโลกในฐานะพลเมืองและบุคคลในวัยทำงานอย่างไร มาหาคำตอบร่วมกันไปในบทความนี้กันเลย

ความคิดสร้างสรรค์ (Creativity) ในขอบเขตของความหมายที่เราคุ้นเคยกัน

แม้อาจดูเหมือนเป็นคำและคอนเซ็ปต์ที่เราคุ้นเคยและมีมานาน แต่คุณพ่อคุณแม่เชื่อไหมคะว่าจริงๆ แล้วแนวคิดเรื่อง Creativity นั้นเพิ่งมาถือกำเนิดขึ้นเพียงแค่ในช่วงต้นของศตวรรษที่ 20 เท่านั้นเอง การถือกำเนิดของแนวคิด Creativity กล่าวโดยคร่าวและอย่างเรียบง่ายที่สุดนั้นก็มาจากความพยายามของคนรุ่นหลัง ที่อยากทำความเข้าใจทักษะหรือกระบวนการที่คนรุ่นก่อนๆ สามารถสรรค์สร้าง ผลิตคิดค้น หรือนำเสนอสิ่งหรือแนวคิดใหม่ๆ ที่ไม่เคยมีก่อนและยังมีอิทธิพลในการเปลี่ยนโลก Karl Benz บุคคลแรกที่ศึกษา คิดค้นและสร้างรถยนต์ทำสิ่งดังกล่าวได้อย่างไร? หรือปัจจัยใด ทักษะใด กระบวนการใดที่ช่วยให้ Albert Einstein สามารถคิดค้นทฤษฎีสัมพัทธภาพ (Theory of Relativity)?

ความปรารถนา และความพยายามในการทำความเข้าใจความสามารถของบุคคลเหล่านี้ทำให้ในภายหลัง ในท้ายที่สุด เราได้พบและให้กำเนิดแนวคิดที่เราเรียกกันว่า ‘ทักษะหรือภาวะความคิดสร้างสรรค์ (creativity)’ อันหมายถึง

ความสามารถในการสรรค์สร้างสิ่งใหม่ๆ มิว่าจะเป็นทางออกใหม่ให้กับปัญหา, กลวิธีการใหม่, อุปกรณ์ใหม่, หรือวัตถุ-รูปแบบใหม่ๆ ในทางศิลปะ 

หากกล่าวอย่างให้เห็นภาพที่สุด ทักษะความคิดสร้างสรรค์ในแง่นี้ก็จึงคือผลผลิต อาทิ การผลิตรถยนต์คันแรก, การผลิตเครื่องบินลำแรก, การพัฒนารถยนต์หรือเครื่องบินรุ่นใหม่ๆ ให้มีประสิทธิภาพยิ่งกว่าเดิม, กวีนิพนธ์, นวนิยาย, ภาพวาด และไปจนถึงแนวทางใหม่ที่ผู้นำในสังคมคิดออกมาเป็นนโยบายเพื่อแก้ปัญหาหนึ่งๆ ในสังคม ภาวะความคิดสร้างสรรค์ในแง่นี้ จึงอาจกล่าวได้ว่ามีความผูกโยงอยู่กับบรรยากาศแวดล้อมทางสังคม หรือเป็นทักษะความสามารถทางสังคมชนิดหนึ่ง คล้ายคลึงกับทักษะในลักษณะเดียวกันอื่นๆ อาทิ พรสวรรค์ (talents), ผลิตภาพ (productivity), กรอบความคิดแบบเติบโตได้ (growth mindset), การมีความวิริยะ (grit) ฯลฯ

แต่นอกเหนือจากความหมายในขอบเขตนี้แล้ว Creativity ยังมีพื้นที่ในส่วนอื่นๆ ในโลกของเราอีกไหม? นอกเหนือจากในบริบทของการเป็นสะพานสู่การประดิษฐ์คิดค้นหรือนำเสนอผลงานศิลปะที่มีคุณค่าใหม่ๆ เป็นไปได้ไหมที่ Creativity ทักษะอันทรงพลังที่ก่อให้เกิดสรรพสิ่งมากมายที่เปลี่ยนโลกของเรา จะมีพื้นที่ในการดำรงอยู่ที่อาจดูแสนธรรมดาและตลอดจนกระทั่งในการทำความเข้าใจว่าเราคือใครเช่นกัน คำตอบของคำถามนี้จะพาเราไปสู่อีกแง่มุมหนึ่งอันลึกซึ้งหนึ่งของ Creativity ที่เรียกว่า Everyday Creativity หรือ ภาวะความคิดสร้างสรรค์ในทุกๆ วัน

Everyday Creativity: ความคิดสร้างสรรค์ (Creativity) ในฐานะการเป็นพื้นฐานอันเป็นธรรมชาติของมนุษย์และการเป็นทักษะชีวิต

ศึกษาและนำเสนอโดย Ruth Richards จิตแพทย์และนักจิตวิทยาชาวอเมริกันในปี 1988 ในหนังสือ Everyday Creativity: Coping and Thriving in the 21st Century แนวคิดของ Everyday Creativity ใหม่นี้มีความลึกซึ้งและสัมผัสลึกลงไปที่แนวทางทางมนุษยนิยมและจิตวิทยาของ Creativity มากขึ้นนั่นก็คือการมองว่า Creativity ไม่ได้เป็นเพียงแค่ทักษะ (skill) ในการประดิษฐ์คิดค้นสิ่งใหม่ต่างๆ แต่โดยพื้นฐานแล้ว ยังมีลักษณะของการเป็นความสามารถอันเป็นธรรมชาติอย่างหนึ่งของมนุษย์ (human nature)

ภาวะความคิดสร้างสรรค์มีอยู่ในตัวของทุกคนและ “We are a creative creature.” (“เราเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความสร้างสรรค์”) และคุณลักษณะอันสร้างสรรค์ดังกล่าวนี้ของเราก็ไม่ใช่สิ่งที่ต้องรอใช้งานกับโปรเจกต์ที่จะมีคุณค่าและอิทธิพลต่อสังคมเพียงอย่างเดียว หากแต่สามารถนำมาใช้ในการเสริมสร้างประสบการณ์ในการดำรงอยู่และในการประกอบสร้างตัวตนของเราเช่นกัน

ภาวะความคิดสร้างสรรค์ในอีกด้านนี้ซึ่งมีความเชื่อมโยงอยู่กับตัวตน ความเป็นปักเจก และชีวิตของบุคคลมากกว่าจึงมักถูกเรียกและใช้งานโดยอีกคำมากกว่า นั่นคือ  “Creative Expression” หรือ “การแสดงออกด้วยคุณลักษณะอันสร้างสรรค์” อันหมายถึงจากเดิมที่เราคิดว่า Creativity เป็นทักษะหรือกระทั่งพรสวรรค์ที่มีอยู่เพียงแค่ในบางคน และเราสามารถใช้ Creativity กับผลงานเพื่อธุรกิจหรือสาธารณชนเท่านั้น จริงๆ แล้ว เรามีเมล็ดพันธุ์ของ Creativity อันโดดเด่นอยู่ในตัวของพวกเราทุกคน เรามีธรรมชาติอันมีลักษณะสร้างสรรค์ และคุณลักษณะดังกล่าวนั้นสามารถนำออกมาใช้ได้ไม่เพียงแค่กับการทำงานหรือโปรเจกต์ทางสังคม แต่ยังรวมถึงเพื่อชีวิตและจิตใจของเรา

ตัวอย่างหนึ่งของ Everyday Creativity อย่างง่ายที่สุดในแง่นี้ก็คือความสามารถของเราในการจัดการกับปัญหาต่างๆ ในแง่ใหม่ ๆ ที่แท้จริงแล้วก็กำเนิดจากธรรมชาติ ภาวะ และความสามารถแห่งการสร้างสรรค์ของเราที่มีอยู่ในตัวและไปจนถึงกิจกรรมสร้างสรรค์เพื่อการบำบัดทางจิตใจต่างๆ เช่น การวาดภาพเพื่อการบำบัด, ดนตรีบำบัด, การเขียนเพื่อการบำบัดทางจิตใจ ไปจนถึงการท่องเที่ยว กิจกรรม การละเล่นที่ช่วยขับให้เราฝึกใช้ Creative Expression ของเราในแง่มุมเล็กๆ ไปจนถึงใหญ่ๆ ต่างๆ ตามแต่ความสนใจและความชอบของแต่ละคน

Creative Expression และการช่วยเสริมสร้างตัวตน (Self) ที่แตกต่างและโดดเด่นของเด็กๆ แต่ละคน

มาถึงตรงนี้ คุณพ่อคุณแม่และผู้อ่านหลายๆ คนคงอาจเริ่มพอเห็นภาพและพอเข้าใจในบทบาทของภาวะความคิดสร้างสรรค์ในการเป็นทักษะชีวิตกันบ้างแล้ว และแน่นอนว่าสิ่งสำคัญที่ผู้ใหญ่อย่างๆ เราสามารถมอบให้กับเด็กเล็กๆ ไม่ว่าจะเป็นลูก หลาน หรือน้องของเรานั่นก็คือการช่วยบ่มเพาะเมล็ดพันธุ์ Creativity ในตัวของเด็กๆ แต่ละคนให้สามารถกลายเป็น Creative Expression ที่งดงาม มีคุณค่า มีความหมาย และมีประโยชน์ต่อตัวเขาเองในหลากหลายด้านตั้งแต่การทำความเข้าใจตัวเอง (self-discovery) ไปจนถึงการความสามารถในการสร้างสิ่งใหม่ ๆ เพื่อสังคมอย่างขอบเขตของ Creativity ในความหมายแรก

แต่สิ่งสำคัญสำหรับเด็กๆ นั้น แน่นอนว่าควรเริ่มที่ตัวของเขาเองก่อน เขาชอบอะไร? เขาเป็นคนอย่างไร? ความโดดเด่นของเขาอยู่ที่ตรงไหน? กิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ เช่น การวาดภาพ, การฝึกเขียนบันทึก, การเข้าร่วมกิจกรรมที่ท้าทาย ฝึกให้เขาต้องคิดหารูปแบบแนวทางใหม่อื่นๆ นั้นล้วนเป็นกิจกรรมที่เชื่อมโยงกับภาวะความคิดสร้างสรรค์ในตัวของพวกเขา

ในแง่นี้ เราจึงอาจกล่าวได้ว่า ในระดับของการเป็นธรรมชาติพื้นฐานของมนุษย์ ภาวะความคิดสร้างสรรค์คือเมล็ดพันธุ์อันมหัศจรรย์ในตัวของเด็กๆ และผู้ใหญ่ทุกคนที่สามารถช่วยเชื่อมร่างกายและความคิดจิตใจ (mind-body connection) ของเราให้สัมพันธ์กัน เรามองเห็นบางสิ่งในระดับจิตใต้สำนึกของเราอย่างที่เราไม่เคยเห็นมาก่อนเมื่อเราลองลงมือวาดภาพ เด็กๆ สามารถค่อยๆ เรียนรู้สิ่งที่เขาชอบ ตัวตนที่เขาเป็น สิ่งที่เขาอยากทำด้วยกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์มากมายต่างๆ อาทิ การเต้น, ดนตรี, ศิลปะ, งานประดิษฐ์, การละเล่น ฯลฯ

สรุป (Key Takeaway)

หัวใจสำคัญของภาวะความคิดสร้างสรรค์ในฐานะการเป็นทักษะชีวิตในศตวรรษที่ 21 สำหรับเด็กๆ ในที่นี้ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาต้องเติบโตไปเป็นจิตรกร, กวี, หรือผู้ผลิตศิลปะหรือกระทั่งนวัตกรรมยิ่งใหญ่ พวกเขาสามารถเติบโตไปเป็นใครก็ได้ด้วยการเรียนรู้และเข้าใจตนเองผ่านเครื่องมือที่มีคุณประโยชน์ และหนึ่งในเครื่องมือที่ทรงพลังนั่นก็คือ Creativity หรือความสามารถในการมี Creative Expression ในตัวของพวกเขาเอง

แม้จะดูเหมือนเป็นแนวคิดคนรุ่นใหม่ แต่ Creative Expression และ Every Creativity อันที่จริงแล้วเป็นคุณลักษณะธรรมชาติพื้นฐานที่ไม่ได้ซับซ้อนและไกลตัว แต่เพราะเราคุ้นเคยกับนิยามโดยทั่วไปเพียงอย่างเดียว จึงอาจต้องใช้เวลาในการค่อยๆ สังเกตและปรับเลนส์ในการมองเห็นภาวะความคิดสร้างสรรค์ในตัวของเด็กๆ และของเราเอง คุณพ่อคุณแม่สามารถเริ่มต้นง่ายๆ ได้ด้วยการทำความเข้าใจแนวคิดผ่านแหล่งเรียนรู้ต่างๆ เช่น บทความเกี่ยวกับภาวะความคิดสร้างสรรค์, หนังสือสู่สเต็ปในการบ่มเพาะจริง, งานวิจัยจากจิตแพทย์หรือนักวิจัยผู้เชี่ยวชาญ พูดคุยกับลูก ค่อยๆ สอนเขาให้เข้าใจแนวคิด Creative Expression และเริ่มลองให้เขาลงมือทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อบ่มเพาะ Everyday Creative Expression ให้กับเขาอย่างเป็นรูปธรรม

ที่มา: starfishlabz

ส่องจัดอันดับ TOP 10 มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในเอเชีย โดย QS Asia University Rankings 2023

1.Peking University 
ประเทศจีน 
คะแนนทั้งหมด 100 คะแนน


2.National University of Singapore (NUS) 
ประเทศสิงคโปร์
คะแนนทั้งหมด 97.4 คะแนน


3.Tsinghua University 
ประเทศจีน
คะแนนทั้งหมด 97.3 คะแนน


4.The University of Hong Kong 
ฮ่องกง
คะแนนทั้งหมด 96.8 คะแนน


5.Nanyang Technological University, Singapore (NTU) 
ประเทศสิงคโปร์
คะแนนทั้งหมด 96.7 คะแนน


6.Fudan University 
ประเทศจีน
คะแนนทั้งหมด 96.3 คะแนน


7.Zhejiang University 
ประเทศจีน
คะแนนทั้งหมด 96.3 คะแนน


8.KAIST - Korea Advanced Institute of Science & Technology 
ประเทศเกาหลี
คะแนนทั้งหมด 93.4 คะแนน


9.Universiti Malaya (UM) 
ประเทศมาเลเซีย
คะแนนทั้งหมด 92.6 คะแนน


10.Shanghai Jiao Tong University 
ประเทศจีน
คะแนนทั้งหมด 92.2 คะแนน

ที่มา: topuniversities

มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร(มศว.)

มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร(มศว.)

.

จัดงาน Open house เปิดบ้านต้อนรับน้อง ๆ มัธยม

.

เข้ามาชมและศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับคณะต่าง ๆ ของ มศว.

.

งานนี้คับคั่งไปด้วยน้อง ๆ มัธยมที่สนใจเข้าร่วมงาน

.

และพี่ๆ ทั้งศิษย์ปัจจุบันและศิษย์เก่าที่เข้ามาคอยดูแล

.

ให้ข้อมูลข่าวสารและความบันเทิงกับน้องๆ อย่างเต็มที่

.

ได้ใจน้องกันไปเต็ม ๆ

.

ที่มา : เพจ SWU Open house

หนุ่มน้อย ดีดพิณเปิดหมวกหาเงินค่าเทอม

ผู้ใช้งาน TikTok บัญชี wee_.21 ได้แชร์คลิปหนุ่มน้อย ดีดพิณเปิดหมวกหาเงินค่าเทอม

.

ในขณะที่ไปเที่ยวที่ เชียงคาน โดยบรรยายคลิปว่า "เด็กน้อยเชียงคาน เพราะมาก"

.

โดยในคลิปนั้นก็จะเห็นว่า หนุ่มน้อยคนดังกล่าวได้โชว์ลีลาการดีดพิณที่ฝีมือไม่ธรรมดา

.

อีกทั้งยังมีหน้าตาหมดจด มีแววหล่อเหลาออร่ามาอย่างแน่นอน

.

คลิปนี้มีผู้ชมกว่า 1 แสนครั้งและมีคอมเมนต์มากมาย ถึงฝีมือการดีดพิณที่ไพเราะ

.

ความขยันหารายได้มาเป็นค่าเทอม และหน้าตาที่หล่อเหลาของน้อง

.

มีคอมเมนต์หนึ่งบอกว่า "น้องหน้าแอบคล้าย แบงค์ ธิติ จริงๆ นะ"

.

ไปชมฝีมือน้องได้ที่ลิงค์

.

https://www.tiktok.com/@wee_.21/video/7162397794106477851?is_copy_url=1&is_from_webapp=v1&refer=embed

.

ผู้ใช้งาน TikTok บัญชี wee_.21 ได้แชร์คลิปหนุ่มน้อย ดีดพิณเปิดหมวกหาเงินค่าเทอม

.

ในขณะที่ไปเที่ยวที่ เชียงคาน โดยบรรยายคลิปว่า "เด็กน้อยเชียงคาน เพราะมาก"

.

โดยในคลิปนั้นก็จะเห็นว่า หนุ่มน้อยคนดังกล่าวได้โชว์ลีลาการดีดพิณที่ฝีมือไม่ธรรมดา

.

อีกทั้งยังมีหน้าตาหมดจด มีแววหล่อเหลาออร่ามาอย่างแน่นอน

.

คลิปนี้มีผู้ชมกว่า 1 แสนครั้งและมีคอมเมนต์มากมาย ถึงฝีมือการดีดพิณที่ไพเราะ

.

ความขยันหารายได้มาเป็นค่าเทอม และหน้าตาที่หล่อเหลาของน้อง

.

มีคอมเมนต์หนึ่งบอกว่า "น้องหน้าแอบคล้าย แบงค์ ธิติ จริงๆ นะ"

.

ไปชมฝีมือน้องได้ที่ลิงค์

.

https://www.tiktok.com/@wee_.21/video/7162397794106477851?is_copy_url=1&is_from_webapp=v1&refer=embed

 

กรุงเทพคริสเตียนเจ๋ง โครงการหนอนติดล้อ คว้ารางวัลชนะเลิศ

นักเรียนโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัยได้เข้าร่วมค่าย AFTERKLASS Business Kamp 2022 “Start up for Better Society Hackathon” ค่าย Bootcamp ระหว่างวันที่ 26 - 28 ตุลาคม 2565

.

จัดโดยธนาคารกสิกรไทย เพื่อหาไอเดียธุรกิจสร้างสรรค์พร้อมโจทย์นำเสนอแผนธุรกิจที่จะช่วยพัฒนาสังคม และนำไปสู่ความยั่งยืน 

.

โดยทีมนักเรียน ได้แก่

.

1. นายวิรชัช ทองอุทัยศรี ห้อง 52 แทรควิศวกรรมคอมพิวเตอร์

2. นายปัณปพล เธียรวณิชพันธุ์ ห้อง 54 แทรควิศวกรรมคอมพิวเตอร์

3. นายพชรพล มานะธรรมไพบูลย์ ห้อง 54 แทรคแพทยศาสตร์และสาธารณสุขศาสตร์

4. นายธัชพล ศรีมานนท์ ห้อง 58 แทรคบริหารธุรกิจ พาณิชยศาสตร์

5. นายปรัณ ธรรมเดชศักดิ์ (BCC171) ปัจจุบันศึกษาอยู่ที่โรงเรียนมัธยมปัญญารัตน์

.

ได้นำเสนอไอเดียธุรกิจ “โครงการหนอนติดล้อ” เป็นโครงการที่มีแนวคิดในการสกัดเวย์โปรตีนออกจากหนอนด้วง และได้รับรางวัลชนะเลิศจากการแข่งขัน รับทุนการศึกษาจำนวน 50,000 บาท

.

ขอพระเจ้าอวยพระพร

.

แหล่งที่มา : https://mobile.facebook.com/story.php?story_fbid=pfbid02Y5zn6v35Drm14Sa8hDvzoLf8a3M8qLmCHHBRA7UYFHkboqp8W2LqoKEssTWHsWZDl&id=204369076412&mibextid=gngRpg&_rdc=1&_rdr


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STUDY TIMES
Take Me Top